สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 554 สาวใช้ตัวแสบ 458

ตอนที่ 554 สาวใช้ตัวแสบ 458
เซี่ยชีหรั่นคิดย้อนกลับไปตั้งแต่เธอรู้เรื่องของส้งหลิงหลิง เย่เชินหลินเกือบจะไม่ได้นอนหลับดีดีสักคืน ทุกคืนเขายืนอยู่หน้าประตูของห้องนอน เธอก็รู้
เขายืนจนฟ้าสว่าง และเปิดประตูเข้ามาในห้อง ปีนขึ้นมาบนเตียง โอบกอดเธอแล้วนอนแป๊บหนึ่ง
เธอเกลียดเขาจริง ถึงแม้ตอนนั้นจะเกลียดจริงๆ แต่ว่าตอนที่เกลียดเขานั้น ก็ปรารถนาที่จะเห็นหน้าเขา เธอตัดใจทิ้งเขาไม่ลง เธออยากที่จะกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อน สามารถกอดกับเขาได้ ทุกครั้งที่กอดเขาอย่างสนิทสนมนั้น เธอมักจะรู้สึกว่ากอดของทั้งสองคนเหมือนกับวงกลมที่สมบูรณ์แบบ แยกออกจากกันแล้ว ทุกคนก็จะกลายเป็นโอบกอดที่ขาดหายไป
เย่เชินหลิน ฉันจะไปแล้วจริงๆ คุณไม่ต้องคิดที่จะให้ฉันให้อภัยเรื่องของคุณ คืนนี้คุณก็นอนหลับดีดีนะ ถ้าเป็นแบบนี้อีกตอนไป ร่างกายของคุณจะรับไหวไหม?
ไม่รู้ทำไม เธอก็รู้สึกว่า เธอก็นอนไม่หลับ เขายิ่งนอนไม่หลับ
เมื่อวันก่อนเขายืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของเธอ รอให้เธอเรียกเขาเข้าไป คืนนี้เขาจะ……
ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ เขาจะมาที่ประตูหน้าห้องเธออีก?
เธอรีบลุกขึ้นนั่งทันที ไม่ทันที่จะใส่รองเท้า เปลือยเท้าวิ่งไปที่หน้าต่าง เปิดผ้าม่านออก มองไปด้านนอกลานบ้าน
ไม่มีอะไรเลย เธอควรจะดีใจซิ แต่ทำไมเธอถึงมีความผิดหวังและหดหู่นิดหน่อย? หรือว่าเธอหวังว่าหลังจากเธอไปแล้ว ทุกคืนเขาจะไม่นอน มาดูเธอเหรอ? เซี่ยชีหรั่น การรอคอยของคุณไม่ถูกต้อง เขาไม่มา มันก็ดีต่อเธอ และก็ดีต่อเขา
เย่เชินหลินยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาแค่ตั้งใจเลือกที่ที่เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นก็เท่านั้น เขาก็แค่อยากมาดูเธอ เขาไม่อยากนอน ถึงแม้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาจะง่วงแล้วก็ตาม เขาก็ไม่อยากนอน
เขารู้สึกว่ายืนอยู่ตรงนี้ ถึงจะห่างจากเธอใกล้ที่สุด และก็เหมือนจะสามารถบอกความหมายว่ายังเฝ้าปกป้องรักษาเธอไว้ได้
เธอเปิดผ้าม่าน เขามองเห็นแล้ว การกระทำที่ค่อยๆเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆนั้นทำให้หัวใจที่เย็นชาของเขาเกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ผู้หญิงของเขา เธอคงลืมเขาไม่ได้มั้ง
เย่เชินหลิน เธอลืมไม่ได้นั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว​ แต่ว่าก็อาจจะ​เป็นไปได้ว่าเวลานั้นสั้นไป​ เพราะฉะนั้นเธอเลยยังไม่ลืม​ ผ่านไปสักช่วงหนึ่ง​ เธอเริ่มชีวิตใหม่​ คุณก็จะค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำที่อยู่ในหัวสมองของเธอ
อย่าลืม​ ว่าข้างกายของเธอไม่ได้ขาดผู้ชายที่เก่งเลยสักนิด​ ผู้ชายพวกนั้นไม่ได้ด้อยกว่าคุณเลยสักนิด​ และก็ไม่ได้มีประวัติ​ต้องโทษเหมือนกับคุณด้วย
เซี่ยชีหรั่น​ คุณยังใจสั่นกับผู้ชายคนอื่นไหม?
คุณจะยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น​ต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนกับตอนต้อนรับผมกลับบ้านไหม และก็พูดว่า:“คุณกลับมาแล้วเหรอ? ”
ผมเคยบอกคุณหรือเปล่า​ ท่าทางแบบนั้นของคุณน่ารักมากที่สุด​ ไร้เดียงสา​ที่สุด​ เซ็กซี่​ที่สุด​ ทำให้ผู้ชายรู้สึกมีความสุขมากที่สุด?
คุณจะเขินอายเหมือนกับที่ทำกับผมหรือเปล่า​ แต่บางครั้งก็ใจกล้ารุกไปจูบริมฝีปากของผู้ชายคนอื่น?

ถึงแม้จะทำได้เพียงคิดอยู่ในหัวสมอง​ ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง​ เย่เชินหลิน​ก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น​ และคิ้วก็ขมวดเข้าหากันแล้ว

ที่แท้คำพูดที่โหดร้ายมากที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือคำอวยพร​ ทั้งทั้งที่ตัวเองตัดใจไม่ได้​ ก็กลับต้องมองดูคนที่ตัวเองรักไปกับคนอื่น​ พูดว่าอวยพร​ นั้นก็เหมือนใช้มีดกรีดตัดลงมาที่ใจ​ ก็เหมือนกับเขาในตอนนี้

เขาไม่รู้อะไรเลยขอแค่เขาไม่ปล่อยมือ​ เขายังรักเธออยู่อย่างนี้ทุกวัน​ ตามเธออย่างนี้ตลอด​ รักที่เธอมีต่อเขา​ ไม่ว่าช้าหรือเร็วเธอก็ยอมรับเขาอยู่ดี​ เพราะเธอเป็นคนใจอ่อนแบบนี้

เขาแค่ไม่อยากที่จะเห็นเธอทุกข์ทรมาน​อย่างนั้นอีกแล้วจริงๆ

เย่เชินหลิน คุณกลายเป็นคนที่ไม่สง่างามไปตั้งแต่ตอนไหนกัน

พูดให้เธอไปแล้ว​ ก็ให้เธอไป​ ลืมไม่ได้ก็เป็นเพราะว่าคุณทำเรื่องผิดเอง​ หาเรื่องใส่ตัวเอง

หลี่เหอไท้ยังคงอยู่ที่หน้าต่าง มองดูผู้ชายที่อยู่ลานบ้านด้านนอกอย่างเงียบๆ มีคนรายงานเขาตั้งนานแล้วว่ามีผู้ชายขับรถมาจอดไว้ไม่ห่างจากลานบ้านมาก ยืนอยู่ตรงนั้นและมองขึ้นไปที่ตึก ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ขอคำสั่งจากเขาว่าควรทำยังไง

เขาจะทายไม่ถูกได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นจะคือใครซะอีกล่ะ เขาเปิดม่านออกมองดู ก็พบว่าสิ่งที่เขาทายไว้ไม่ผิดเลยสักนิด

ที่ที่เย่เชินหลินยืน เขาสามารถมองเห็นได้ แต่เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็น

หลี่เหอไท้เป็นทุกข์กับสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นพบเจอ ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาก็เห็นใจเย่เชินหลินนิดหนึ่ง แต่ไหนแต่ไรมาส่วนมากผู้ชายก็เจ้าชู้ทั้งนั้น ลุ่มหลงในความรักนั้นน้อยมาก โดยเฉพาะผู้ชายที่มีฐานะอย่างพวกเขา มีสิ่งล่อตาล่อใจมากมายเหลือเกิน

ตั้งแต่ที่เย่เชินหลินอยู่กับเซี่ยชีหรั่นมาเขาก็รักเดียวใจเดียวกับเธอมาตลอด หลังจากที่แยกจากกันก็ยังคงคิดถึงไม่ลืม ไม่พูดไม่ได้ว่าคนแบบนี้หายาก

วันนี้เขากลับมาบ้านเห็นเซี่ยชีหรั่นร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก เขาอยากจะกอดเธอมาก ช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอ

ถ้าเอาเซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาอาจจะคิดยังไงก็ทำอย่างนั้นไปแล้ว แต่เป็นเพราะเธอคือเซี่ยชีหรั่น เธอเป็นลูกสาวของจ้าวเหวินอิงที่เขาเคารพนับถือให้เกียรติมากที่สุด เขาไม่อยากรุกรานล่วงเกินเธอ

เพราะฉะนั้นการกระทำของเขาก็แค่นั่งย่องๆลงเหมือนกับพี่ใหญ่ และยืนกระดาษทิชชูแค่นั้น

เวลายังคงเดินต่อไป เซี่ยชีหรั่นที่อยู่บนเตียงยังคงนอนไม่หลับ เย่เชินหลินที่อยู่ลานนอกบ้านยังคงยืนหยัดท่าทางที่จะมองอยู่อย่างนั้น ยืนจนเกือบจะกลายเป็นรูปปั้นแล้ว

หลี่เหอไท้ก็ยืนมองอยู่ตรงนั้น ยังคงมองอยู่ มองดูว่าผู้ชายคนนั้นจะไปตอนไหน

เมื่อถึงช่วงเวลาที่ราตรีนั้นมืดสนิทมากที่สุด ใจของเย่เชินหลินก็ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น นี้เป็นช่วงเวลาแต่ก่อนที่เขาเข้าห้องไปกอดเซี่ยชีหรั่นแล้ว

เธอจะตื่นก็ดี จะหลับก็ดี ก็มักจะไม่ปฏิเสธอ้อมกอดของเขา

ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเขาอิงแอบมาที่เขา ถึงจะทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตที่เกิดมานี้สมบูรณ์แบบ ไม่รู้ว่าใครพูดประโยคนั้น พูดว่าทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ล้วนหาอีกครึ่งหนึ่งที่สอดคล้องกับตัวเขาเจอ

ตอนนี้ อีกครึ่งหนึ่งของเขาได้จากเขาไปแล้ว ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นไม่สมบูรณ์

แท้ที่จริงเขาและผู้หญิงที่เขาคิดอยู่นั้น พวกเขาทั้งสองก็คิดเหมือนกันในเวลาเดียวกัน

แค่เขาเลือกที่จะมองต่อไป เธอเลือกที่จะหลับตาบังคับให้ตัวเองนอน

……

ยังไงฟ้าก็จะสว่างไม่ว่าราตรีจะมืดเพียงใด ไม่ว่าใครจะยากที่ข้ามผ่านไป หลังจากที่ท้องฟ้าสว่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เต็มไปด้วยความหวังและความแข็งแกร่งอีกครั้ง

เซี่ยชีหรั่นอยู่ด้านหน้ากระจกค่อยๆหยิกแก้มที่ขาวซีดนิดหน่อยของเธอ มองสังเกตดวงตาของเธอดีดีรอบดวงตามีรอยคล้ำนิดหนึ่ง

เซี่ยชีหรั่น วันนี้สำหรับเธอนั้น คือการเริ่มต้นใหม่ คุณต้องไปลาออกจากงาน และก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพี่เหอไท้ อีกไม่นานคุณก็จะปรับตัวเคยชินกับชีวิตแบบนี้

เธอยิ้มเล็กๆให้กับกระจก คนในกระจกก็ยิ้มเล็กๆกลับมาให้เธอ

คนเมื่อไม่มีความสุข ก็จะแสร้งทำเป็นมีความสุข หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมีความสุขจริงๆ ใช่ไหม?

จิ่วจิ่วเคาะประตู พูดว่า : “ชีหรั่น ฉันเข้าไปได้ไหม? ฉันมาส่งอาหารเช้าให้คุณ ”

“มาแล้ว! ” เซี่ยชีหรั่นรีบเดินไปที่ประตู จิ่วจิ่วยิ้ม หันหน้าไปที่ถาดอาหาร และพูดคุยโว้แนะนำอาหารขึ้นมา : “ดูสิ นี้คือโรลชีส ที่เชฟเค้กจิ่วจิ่วลงมือทำด้วยตัวเอง คุณต้องกินเยอะๆนะ ”

“จิ่วจิ่ว คุณมาเป็นแขกบ้านของพวกเรา ไม่ต้องดูแลฉัน ควรจะเป็นฉันที่ดูแลคุณนะ ” เซี่ยชีหรั่นพูดวางมาดขรึม

ในใจของเธอ จิ่วจิ่วไม่เคยเป็นสาวรับใช้เลย ทุกครั้งที่จิ่วจิ่วดูแลเธอ เธอมักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

จิ่วจิ่วแค่ยิ้มนิดหนึ่ง แอบมองดูสีหน้าของเธอ ก็พบว่าดวงตาของเธอมีรอยคล้ำ ไม่เพียงแต่มีรอยคล้ำที่ตา ดวงตาของเธอยังแดงและบวมนิดหน่อย ต้องร้องไห้มาแน่นอน

เธอชอบเย่เชินหลินมากเพียงใด รักเย่เชินหลินมากเพียงใด ไม่อาจมีใครรู้ได้ดีไปกว่าจิ่วจิ่วแล้ว

จิ่วจิ่วเอาถาดอาหารยื่นให้เซี่ยชีหรั่น พูดเสียงเบาว่า : “ฉันจำเป็นต้องดูแลคุณแน่นอน ฉันเป็นสาวรับใช้ของคุณนะ ฉันยังมีเงินเดือนอีกด้วย ถ้าถูกเจ้าชายใหญ่ของพวกเรารู้ขึ้นมา ว่าฉันรับเงินมาแต่ไม่ทำงาน ก็ตีฉันตายสิ ”

หรือว่าเธอจากไปแล้ว เย่เชินหลินยังวางแผนให้คนมาดูแลเธอเหรอ?

“หมายความว่ายังไง? ”

เซี่ยชีหรั่นถามเธอ ถึงแม้ว่าจะฟังเข้าใจแล้ว แต่ก็อยากจะถามเจาะลึกสักหน่อยว่าเหมือนกับที่เธอคิดไหม

“ความหมายก็คือ ถึงแม้ฉันจะออกมาพร้อมกับคุณ แต่ฉันก็ยังรับเงินสาวใช้จากตระกูลเย่อยู่นะ คุณเย่พูดว่า ให้ฉันดูแลคุณดีๆ เขายังพูดอีกว่า……” จิ่วจิ่วพูดถึงตรงนี้ก็จงใจที่จะหยุดพูด เซี่ยชีหรั่นก็รีบถามออกมาโดยธรรมชาติ : “ยังพูดอะไรอีก? ”

เธอไม่ได้รู้สึกว่าตอนที่เธอถามประโยคนี้ออกมานั้น แท้ที่จริงแล้วมีน้ำเสียงรีบร้อนใจอยู่

จิ่วจิ่วยิ้มๆ เผยให้เห็นลักยิ้มใหญ่ทั้งสองข้างนั้น พูดแหย่เธอว่า : “เอ๊ะ ไม่ใช่เลิกกับเขาไปแล้วเหรอ? ทำไมถึงยังสนใจว่าเขาจะพูดอะไรอีกล่ะ ”

คำพูดของเธอทำให้เซี่ยชีหรั่นระวังตัวมากขึ้น เธอยิ้มอย่างเคอะเขิน แล้วพูดเสียงเบาว่า : “ที่จริงก็ไม่อะไร แค่คุณพูดขึ้นมา ดังนั้นฉันก็เลยถามออกไปอย่างนั้นก็แค่นั้น ชั่งเถอะ พวกเรามากินโรลชีส ที่เชฟเค้กจิ่วจิ่วทำดีกว่า มองหน้าตาน่าอร่อยมากเลยนะ ”

เซี่ยชีหรั่นหยิบส้อมยื่นให้จิ่วจิ่ว แล้วตัวเองใช้มีดที่อยู่ข้างๆ จิ้มเข้าไปในโรลชีสแล้วใส่เข้าไปในปากของตัวเอง

จิ่วจิ่วไม่ได้รับส้อม แต่กลับมองเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงจัง และก็พูดคำพูดที่เย่เชินหลินพูดออกมาอย่างจริงจัง

“เขาพูดว่าถ้าคุณสามารถรักไห่ลี่หมินได้ ก็จะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของคุณ ”

รัก ถ้าพูดว่ารักใครแล้วรักได้เลย พูดว่าลืมใครได้ก็ลืมได้เลย บนโลกใบนี้จะมีคนที่ไม่ได้แต่งงานกันมากมายเหรอ?

เซี่ยชีหรั่นฝืนยิ้ม กลืนโรลชีสลงไป และหยิบใส่ไปในปากอีกครั้ง

กินอาหารเช้าเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะออกไปด้านนอกเสร็จแล้วเธอถึงไปหาแม่ เธอรู้ว่าแม่ของเธอตั้งใจอยากจะให้เธอกินอาหารเช้าในห้อง เพื่อที่จะไม่อยากให้กระทบการรักษาของเธอ และแม่ของเธอก็รู้ว่าตอนนี้เธออยากที่จะติดต่อกับคนอื่นให้น้อยที่สุด

“แม่ค่ะ วันนี้หนูจะไปลาออกจากบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ตอนบ่ายจะไปรายงานตัวที่บริษัทของพี่เหอไท้ ”

“โอเค ” จ้าวเหวินอิง วางมือที่กำลังพับเสื้อผ้าลง

“เอาจิ่วจิ่วไปด้วยไหม? ” จ้าวเหวินอิงถาม เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว พูดว่า : “ไม่เอา หนูไปคนเดียว พี่เลี้ยงไม่อยู่บ้าน ก็ให้จิ่วจิ่วอยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่เถอะ ”

“ก็ได้ ไปคนเดียวก็ระวังตัวด้วย ” จ้าวเหวินอิงคิด ส้งหลิงหลิงเลวขนาดนั้น พ่อของเธอเป็นรองหัวหน้ามลฑล ในมือของพวกเขามีทรัพยากรมากมาย เธอกลัวว่าพวกเขาจะลงมือกับเซี่ยชีหรั่น

“ค่ะ หนูจะดูแลตัวเองดีๆ ไม่เป็นไรนะคะแม่ แผนชั่วร้ายของส้งหลิงหลิงสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องพยายามฆ่าหนูอีก เธอคงจะรู้ดีว่าถ้าลงมือกับหนู เย่เชินหลินก็ไม่ไว้ชีวิตเธอแน่ ” เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าแม่เป็นห่วงเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นเลยพูดปลอบออกไปด้วยเสียงเบา จ้าวเหวินอิงพยักหน้า

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset