สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 552 สาวใช้ตัวแสบ 456

ตอนที่ 552 สาวใช้ตัวแสบ 456
เซี่ยชีหรั่นน้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ เธอสังเกตเห็นใบหน้าของฝู้เฟิ่งหยีเหมือนจะแก่ลงมาก
ขอบตาของเธอมีรอยคล้ำ ดูก็รู้ว่าเธอเศร้าใจเพราะเรื่องนี้
ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกผิดต่อเธอ เธอดูออกว่าเกิดจากความจริงใจ
ถึงเธอจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆว่าอยากให้เธอกับเย่เชินหลินอยู่ด้วยกันต่อไป นั่นเป็นเพราะเธออายที่จะขอร้องเธอเช่นนั้น แต่เธอดูออก เธอมีความปรารถนานี้
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่อยากเห็นคนแก่มาเศร้าเสียใจเพราะเรื่องของพวกเธอ
เธอก็อยากจะทำตามความต้องการของเธอ แต่เธอเข้าใจ ถ้าใจอ่อนตอนนี้ ในอนาคตตระกูลเย่ก็จะไม่มีวันสงบสุข ก็จะนำพาความไม่สงบอีกมากมายมาให้คนแก่
เธอใจแข็ง ยืนยันที่จะพูดสิ่งที่เธอต้องการออกมา
“แม่ ขอโทษ ฉันกับเย่เชินหลินตกลงกันแล้วว่าจะแยกทางกัน ฉันไม่เพียงแต่ยอมรับลูกอีกคนของเขาไม่ได้ ฉันยังกังวลเรื่องส้งหลิงหลิง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ฉันอาจจะเห็นแก่ตัวมาก ขอโทษค่ะ”
ฝู้เฟิ่งหยีถอนหายใจยาว ตบมือของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ
“ไม่ต้องขอโทษ คนที่ควรจะพูดขอโทษคือตระกูลเย่ พวกคุณทั้งสองตกลงกันแล้ว แม่ก็จะไม่ขัดขวาง แม่ก็ยังพูดเหมือนเดิมว่า หวังว่าคุณจะมีความสุขในอนาคต แม่ชอบคุณมากจริงๆ อย่าติดการติดต่อนะ”
“อืมๆ” เซี่ยชีหรั่นตอบรับและพยักหน้าไปด้วย ไม่กล้าสบสายตาฝู้เฟิ่งหยี หันไปอีกทางแล้วเช็ดน้ำตา แล้วพูดว่า “แม่ ท่านก็อย่างเสียใจเลยนะ เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากขนาดนั้น จะต้องมีวาสนาเจอคนดีๆอีก ฉันรักเขาไม่มากพอ จะต้องมีคนที่รักเขามากกว่าฉัน เต็มใจที่จะจับมือเขาแล้วเดินไปด้วยกันตลอดไป”
นิสัยของลูกชายเธอ คนเป็นแม่ย่อมรู้ดี เกรงว่าเขาจะไม่สามารถยอมรับใครเข้ามาในชีวิตได้อีกแล้ว
นอกจากนี้เขายังมีลูกติดอีกด้วย ต่อจากนี้เขาน่าจะอยู่และใช้ชีวิตกับลูกเขา
ผู้ชายที่ไม่มีคนเคียงข้างเป็นเรื่องน่าสงสารมาก แต่มันเป็นสิ่งที่เขาต้องชดใช้เพราะมันเกิดจากความผิดพลาดของเขาเอง ทุกๆคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง สิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบต่อเด็กคนนั้นก็คือเก็บเขาไว้ เลี้ยงดูเขาอย่างดี
ในขณะที่เขารับผิดชอบต่อลูกเขาก็ถูกลิขิตไม่สามารถรับผิดชอบต่อเซี่ยชีหรั่น ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ฝู้เฟิ่งหยีก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ฝู้เฟิ่งหยีมา ก็เพื่อตั้งใจจะมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น คุณดูสิว่าสะดวกตอนไหนบ้าง ช่วยนัดพ่อแม่ของคุณมา ฉันกับนายท่านเย่จะขอโทษพวกท่าน”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า พูดว่า “แม่ ไม่เป็นไร คนที่ผิดไม่ใช่ท่าน ไม่ต้องการให้ท่านโยนไปโยนมาอีก ฉันหวังว่าท่านมีความสุขในบั้นปลายชีวิต จากใจจริงๆ ฉันก็ขอบคุณที่ท่านดูแลฉัน ฉันก็ชอบท่านเช่นกัน”
เซี่ยชีหรั่นพูดจบ เดินไปด้านหน้าของฝู้เฟิ่งหยี แล้วกอดเธอ
ฝู้เฟิ่งหยีกอดเธอไว้แน่น ไม่อยากจะปล่อยเธอไป แต่ตระกูลเย่ไม่สามารถรั้งเธอไว้

ตอนที่เซี่ยชีหรั่นปล่อยฝู้เฟิ่งหยี เห็นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอรีบหยิบกระดาษมาช่วยเช็ดให้เธอ

“ฉันจะกลับแล้ว” ฝู้เฟิ่งหยียืนขึ้นแล้วกล่าว

“แม่ ท่านช่วยฉันสวัสดีพ่อด้วย ฉันได้ยินมาว่าเขาออกความคิดให้ส้งหลิงหลิงเอาเด็กออก ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายเด็กที่เป็นรูปเป็นร่างแล้วก็ตาม แต่ฉันเข้าใจความตั้งใจของเขา ฉันขอบพระคุณมากๆ”

“ได้ ฉันจะบอกเขาให้”

“อีกอย่าง ถ้าตอนนี้ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ ท่านก็อย่ารีบร้อนบอกเรื่องของฉันกับเชินหลินให้ท่านทราบ”

เซี่ยชีหรั่นยังรู้สึกไม่ค่อยวางใจ บางทีการรักใครสักคนก็ต้องรักครอบครัวของเขาด้วย ดังนั้นเธอจึงมีความกังวลในใจมากขึ้น แม้ว่าจะจากไป เธอก็ยังต้องการเห็นทุกคนรอบตัวเขาจะสบายดี

ทั้งสองคนออกจากห้องนอนของฝู้เฟิ่งหยี ไม่เห็นเย่เชินหลินอยู่ในห้องหนังสือ เขายืนอยู่ตรงทางเดิน ใบหน้าดูเศร้า

“แม่ จะกลับแล้วหรือ วันนี้ฉันไม่ได้ส่งแม่นะ ฉันจะส่งชีหรั่นกลับบ้าน” เย่เชินหลินเดินเข้าไป ประคองแขนของแม่แล้วพูด

“คุณส่งเธอกลับบ้านเถอะ ช่วยหาเวลานัดพ่อแม่เธอให้ด้วย ฉันกับพ่อคุณจะไปขอโทษพวกเขา”

เย่เชินหลินกำกำปั้นกระชับแน่น หลายวันที่ผ่านมาเขาตำหนิตัวเองว่าทำให้เกิดผลเสียต่อพ่อแม่ของเขามากเกินไป ตอนนี้พวกท่านยังต้องมารับผิดชอบต่อการกระทำของเขาอีก เขารู้สึกไม่สบายใจมาก

“แม่ ไม่เป็นไรจริงๆ ” เซี่ยชีหรั่นเรียกจนคุ้นเคย จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังเรียกเช่นนี้

“ฟังฉันนะเด็กน้อย นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรจะทำ ถ้าไม่ได้ทำพวกเราก็จะไม่สบายใจ”

“หลังจากกลับไปอย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย แม่ ฉันจะจัดการให้ท่านกับพ่อของฉันและเสี่ยวห้านออกไปพักผ่อนนอกบ้าน” เย่เชินหลินพูด

“พวกเราก็ไม่ได้ไปไหน ไว้ค่อยคุยกันนะ”

หลังจากฝู้เฟิ่งหยีกลับไป เย่เชินหลินก็สั่งให้พ่อบ้านเตรียมรถให้

“จิ่วจิ่วบอกว่าเธอจะไปกับคุณ พวกคุณเป็นเพื่อนรักกัน หาได้ยากที่เขาจะมีใจเช่นนี้ คุณก็ยอมให้เธอตามคุณไปนะ” เย่เชินหลินพูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นจิ่วจิ่วหิ้วกระเป๋าใบใหญ่เดินมา

“ชีหรั่น ฉันเก็บของเรียบร้อยแล้ว คุณไม่ให้ไป ฉันก็จะไปกับคูณ”

“ตกลง คุณไม่กลัวลำบาก ก็ไปกับฉัน” เซี่ยชีหรั่นริมฝีปากโค้งและยิ้ม เดินเข้าไปช่วยจิ่วจิ่วถือกระเป๋าใบนั้น

ที่แท้ผู้หญิงของเขาก็ได้เตรียมรับมือกับความลำบากเรียบร้อยแล้ว ดูแล้วของที่เขาจะให้เธอ เธออาจจะไม่ยอมรับมันก็เป็นได้

โดยธรรมชาติแล้ว เธอก็ต้องรับ

ในใจจิ่วจิ่วก็ยังหวังว่าทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อรถจอด เธอรีบไปนั่งข้างคนขับรถ

การไปครั้งนี้ของเซี่ยชีหรั่น รู้ว่าจะไม่มีวันกลับมาอีก เธอทักทายเย่เชินหลิน แล้วไปบอกลาหลิวเสี่ยวเจียว แล้วแสดงความขอบคุณต่อพ่อบ้าน

เธอยังบอกกับพ่อบ้านว่า ประชุมครั้งหน้า ฝากเขาไปขอบคุณทุกคนที่ดูแลเธอ หลังจากที่เธอหมั้นหมายแล้ว

เย่เชินหลินเปิดประตูรถให้เซี่ยชีหรั่น เธอฝืนยิ้มให้เขา แล้วนั่งเข้าไปในรถ

ในรถกว้างมาก ระยะห่างของสองคนจึงไม่ใกล้กันมาก เย่เชินหลินอยากใกล้เธอหน่อย เขาอยากจะกอดเธออีกครั้ง

ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าไม่ว่าเขาจะกอดเธอมากแค่ไหน จูบเธอมากแค่ไหน เขาก็ไม่เบื่อ ถ้าเธอยินดีที่จะอยู่กับเขาตลอดไป เขาก็จะรักเธอและดูแลเธอตลอดไป

ในรถเงียบเหมือนปกติ รถขับออกจากวิลล่าไปสักพัก เย่เชินหลินถึงพูดเบาๆ

“ฉันหวังว่าคุณจะทำงานที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปต่อไป คุณมีความสามารถในการออกแบบ งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว คุณอย่าเอาสองอย่างนี้มาปนกัน” เขารู้จักเซี่ยชีหรั่นดี รู้ว่าเธอจะต้องตัดสินใจออกจากงาน

“คุณสบายใจได้ ฉันจะรีบส่งผู้จัดการทั่วไปของสาขาบริษัทเพชรพลอยไปให้ ต่อไปฉันจะไม่ไปทำงานที่สาขาบริษัทของพวกคุณอีก ดังนั้นขอแค่คุณไม่ต้องการ พวกเราก็จะไม่มีโอกาสได้เจอกัน” เย่เชินหลินพูดถึงความกังวลของเธอ

อยู่ที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ทุกมุมของที่นั่นก็จะมีความทรงจำของเขาอยู่ เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะมารบกวนเธอ แต่เธอกลัวว่าเธอจะลืมเขาไม่ได้

ดังนั้นเซี่ยชีหรั่นยืนยันที่จะส่ายหน้า

“ขอบคุณ ไม่เป็นไร ฉันต้องการเริ่มต้นใหม่ ฉันจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมา” เซี่ยชีหรั่นพยายามทำหน้านิ่ง ตอนที่พูดก็ทุกข์ใจไม่น้อย

นี่คือทางเลือกของเธอ ดังนั้นเธอจะไม่เผยความทุกข์ออกมาให้เห็น

ไม่บังคับคุณ เย่เชินหลินพูดในใจเงียบๆ

เมื่อถึงบ้านเสนาธิการหลี่ จ้าวเหวินอิงกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ เธอมีนิสัยชอบทำอะไรด้วยตัวเอง โดยเฉพาะหลี่เหอไท้ไปทำงานที่สาขาใหม่ ก็มีแค่เธอกับแม่บ้านอยู่บ้าน เธอจึงได้หันไปใส่ใจกับเรื่องงานบ้านและการทำกับข้าวให้เซี่ยชีหรั่นเป็นส่วนใหญ่

“เชินหลิน ชีหรั่น พวกคุณกลับมาแล้ว เด็กผู้หญิงคนนี้คือจิ่วจิ่วใช่ไหม” จ้าวเหวินอิงมาต้อนรับ ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของเธอ ทักทายทั้งสามคน

“ใช่ แม่ เธอคือจิ่วจิ่ว ตั้งแต่วันนี้เธอจะอยู่ที่นี่กับฉันสักพัก ได้ไหม” เซี่ยชีหรั่นถามเบาๆ

“เด็กโง่ ฉันเป็นแม่ของเธอนะ เธอว่าได้ไหมหล่ะ รีบเข้ามา”

จ้าวเหวินอิงเชิญทุกคนเข้ามา นั่งรอที่โซฟา เธอมองใบหน้าลูกสาวอย่างใกล้ชิด

เธอกำลังยิ้มอยู่ แต่บนหน้าเธอมีคราบน้ำตา และดูออกว่ารอยยิ้มของเธอเกิดจากการฝืน

หรือว่าพวกเขาทะเลาะกัน

จากที่เธอดู เย่เชินหลินดีกับเซี่ยชีหรั่นขนาดนั้น เซี่ยชีหรั่นก็เป็นคนมีเหตุมีผล ทั้งสองคงไม่ได้ทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็กน้อยมั่ง

นั่นเพราะ ลูกสาวของเธอรู้เรื่องของส้งหลิงหลิง

มองไปที่เย่เชินหลิน ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม ดูท่าสิ่งที่เธอเดาน่าจะถูกต้อง

กระดาษหอไฟไม่ได้จริงๆ ลูกสาวของเธอ ตอนนี้น่าจะทุกข์ใจมาก ไม่น่าหล่ะถึงได้กลับมากะทันหัน ยังบอกอีกว่าจะพักที่บ้าน

“ลูกรัก คุณ พวกคุณ…….” จ้าวเหวินอิงไม่กล้าถามตรงๆ เธอเกรงว่าลูกสาวยังไม่รู้เรื่อง แต่ถูกเธอพูดออกมาแล้วเธอจะรับไม่ได้

“แม่ ขอโทษ ชีหรั่นรู้เรื่องแล้ว เธอรับไม่ได้ ดังนั้นพวกเราถึงได้แยกทางกัน ก่อนที่ฉันจะหมั้นกับเธอ ฉันเคยพูดว่าจะดูแลเธอตลอดชีวิต จะให้เธอมีความสุขตลอดไป ฉันทำไม่ได้อย่างที่พูด ต้องขอโทษจริง เย่เชินหลินพูดเสียงเบา”

เซี่ยชีหรั่นหลบหน้าไป น้ำตาไหลลงอีกครั้ง

หลายวันที่ผ่านมาเธอร้องไห้หลายรอบมาก ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่า อย่าร้องไห้อีก เธอต้องเข้มแข็ง แต่เธอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เป็นการตอกย้ำความเจ็บปวด

จ้าวเหวินอิงไม่ได้พูดอะไรไปสักพัก เธอไม่รู้ว่านี่คือความโชคร้ายหรือไม่ เกิดเรื่องเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกสาว

แต่เธอก็เข้าใจความลำบากใจของเย่เชินหลิน ถ้าเขาไม่ได้ชอบเซี่ยชีหรั่นจริงๆ เขาก็คงจะไม่ยอมทำอะไรมากมายให้เธอ

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษส้งหลิงหลิง เธอร้ายเกิดไป

“อย่าพูดอีกเลย ถ้าเซี่ยชีหรั่นไม่โทษคุณ ฉันก็ไม่โทษคุณเช่นกัน ไม่เป็นไร นี่น่าจะเป็นโชคชะตา” จ้าวเหวินอิงถอนหายใจเบาๆ

เธอสงสารลูกสาวมาก ที่ผ่านมาเธอลำบากแค่ไหน คนเป็นแม่ไม่ต้องถามก็รู้

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เด็กคนนี้ ทำไมโชคชะตาถึงได้เลวร้ายขนาดนี้

เธอค่อยๆกอดเซี่ยชีหรั่นเบาๆ ตบเบาๆด้วยความรัก พูดกับเธออย่างอ่อนโยน “อย่าร้องเลยนะ ลูกรัก ทุกอย่างจะผ่านไปเอง”

เซี่ยชีหรั่นกลั้นไว้ไม่ร้องไห้อีก แต่อ้อมกอดของแม่นั้นอบอุ่นจริงๆ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset