สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 557 สาวใช้ตัวแสบ 461

ตอนที่ 557 สาวใช้ตัวแสบ 461
เซี่ยชีหรั่น ทำไมถึงเลิกกับเขากันแน่ คุณแค่กลัวส้งหลิงหลิงจะมาทำสงครามกับคุณไม่หยุดเหรอ?
ถ้าคุณรักเขาจริงๆ คุณก็ไม่สามารถยอมรับทุกอย่างของเขาได้? คุณจะพูดรักอะไร คุณรักไม่พอต่างหาก คุณก็รู้ว่าเขานั้นรักคุณ เขาแยกจากคุณทุกข์ทรมานขนาดนั้น คุณยังโหดร้ายพูดไม่สนใจก็ไม่สนใจเขาแล้วเหรอ
คุณเห็นเคราเขาไหม? เห็นสีหน้าเขาแล้วหรือยัง? คุณใจแข็งขนาดไหน ถึงพูดว่าไปก็จะไป
เซี่ยชีหรั่นตาละห้อย พูดกับหลินหลิงเบาๆว่า : “คุณพูดถูก ฉันเห็นแก่ตัวมาก รักเขาไม่พอ ”
เธอยอมรับแบบนี้ หลินหลิงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแล้ว เธอคิด หรือว่าเธอชอบเย่เชินหลินมากเกินไป เลยคิดว่าเป็นคนที่รักเขาที่สุดบนโลกใบนี้แล้ว สามารถยอมรับเขาได้ทุกอย่าง
แต่ว่าผู้หญิงที่ไหนไม่มีนิสัยรักความสะอาดบ้างล่ะ?
เธอไม่ได้รับความรักจากเขา ก็เลยคิดแบบนี้มั้ง ถ้าได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ความต้องการก็ไม่เหมือนกันแล้ว?
ที่จริงเขาไม่ได้อยากที่จะตำหนิเซี่ยชีหรั่นเลย ไม่ว่ายังไง ความรู้สึกเป็นเรื่องของคนสองคน เธอไม่มีสิทธิ์ถาม
ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงนี้เห็นเย่เชินหลินแห้งเหี่ยว เธอเป็นคนมีเหตุผลมาตลอดก็คงไม่พูดคำพูดที่แรงแบบนี้ เธอคิดไปคิดมา ก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับเซี่ยชีหรั่น : “ขอโทษ ฉันไม่ควรพูดแบบนั้น ”
“ไม่ต้อง ที่คุณพูดนั้นถูกทั้งหมด ”
เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบาจบ ก็ถามขึ้นอีก : “ผู้ช่วยหลินมาพูดเรื่องนี้กับฉันโดยเฉพาะเลยใช่ไหม? ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อน ”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ” หลินหลิงพูดเสร็จ ก็หยิบซองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะยื่นให้เซี่ยชีหรั่น
“นี่คือสิ่งที่คุณเย่ให้ฉันเอามาให้คุณ ”
เซี่ยชีหรั่นรับซองเอกสารมาแล้วเปิดออก ด้านในมีกระดาษอยู่หลายแผ่น เนื้อหาด้านบนคือเย่เชินหลินจะโอนย้ายทรัพย์สินให้เป็นชื่อของเธอ
หุ้น เงินทุน และยังมีทรัพย์สินบ้านเรือน รถ……ยอดรวมทรัพย์สินทำให้เซี่ยชีหรั่นตกใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ความมั่นคงและทรัพย์สินของเย่เชินหลินจะเหมือนกับที่เล่าต่อกันมา ไม่มีใครรู้ว่าเขามีเงินเท่าไรกันแน่ แต่ว่าถึงยังไงซะเงินของเขาก็มีจำนวนตัวเลขแน่นอน
ที่ให้เธอพวกนี้ ก็มากเกินกว่าที่คิดไว้ ดูจากสิ่งนี้เกรงว่าเขาเกือบจะเอาบ้านทั้งหมดให้เธออยู่แล้ว
แต่ไหนแต่ไรเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินมากนัก เธอรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ความสำคัญที่สุดในชีวิตก็คือความสุข เป็นความพึงพอใจในจิตวิญญาณ ได้อยู่กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียบง่าย สวมใส่ของตลาดนัด ขอแค่ทั้งสองรักและเป็นห่วงกัน ก็คือความสุขแล้ว
เธอไม่ชื่นชมประโยคหนึ่งที่พูดว่ายอมนั่งในรถบีเอ็มดับบิวแล้วร้องไห้ ดีกว่านั่งหัวเราะหลังจักรยาน แต่เธอก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย ทุกคนล้วนมีมุมมองการมองโลกที่ไม่เหมือนกัน เธอเข้าใจได้ เธอก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่ลำบากมามาก เพราะฉะนั้นเลยอยากที่จะสัมผัสพลังของเงิน

เงินไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง แต่ก็มีบางครั้งที่แสดงให้เห็นสิ่งที่มีคุณค่า

ในชีวิตจริงจะเห็นคู่สามีภรรยาที่หย่าร้างแล้วขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อแย่งทรัพย์สินกัน ถึงกระทั่งมีการปกปิดแอบซ่อนทรัพย์สิน เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายได้น้อย ให้ตัวเองได้เยอะมากขึ้น

เธอตัวเปล่าเข้าไปในบ้านตระกูลเย่ ยังไม่ได้แต่งงาน ตอนที่เธอจะจากไปเย่เชินหลินยอมที่จะให้เธอมากมายขนาดนี้ เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วพริบตาเดียว

นี้เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงสักกี่คน?

เธอจำได้ว่ามีข่าวข่าวหนึ่ง ดาราผู้หญิงคนหนึ่งคลอดลูกให้บ้านมหาเศรษฐี อีกฝ่ายให้ค่าที่ผู้หญิงลำบากตั้งท้องกว่าพันล้าน

เธอยังไม่เคยคลอดลูกให้กับเย่เชินหลินเลย แค่มีชื่อเป็นคู่หมั้นของเขาไม่กี่วัน เขาปฏิบัติต่อเธอขนาดนี้แล้ว เธอจะไม่มีความรู้สึกภายในใจอะไรเลยได้ยังไง

ถึงแม้เธอจะไม่เอา มองดูจำนวนเงินพวกนี้ เธอก็เหมือนได้มองเห็นความจริงใจของเย่เชินหลินที่มีต่อเธอ ความรักและเป็นห่วงในตัวเธอ

เธอเรียงเอกสารเหล่านั้นให้เรียบร้อย แล้วเอาใส่ไปในซองเอกสารเหมือนเดิม พูดอย่างจริงจังกับหลินหลิงว่า : “ขอบคุณที่คุณช่วยเอามาให้ฉัน แต่ว่าก็ขอรบกวนให้คุณ ช่วยเอากลับไปคืนให้คุณเย่ด้วย นี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรได้รับ ไม่ต้องพูดว่าพวกเรายังไม่แต่งงานกัน ถึงแม้จะแต่งงานกันแล้ว ทรัพย์สินก่อนแต่งงานก็ไม่ควรจะแบ่งให้ฉัน ฉันอยู่กับเขา ไม่ใช่เพื่อเงิน ฉันจากไปฉันก็ไม่คิดที่จะเอาเงินของเขาสักบาทเดียว คุณช่วยฉันบอกเขา ถ้าฉันรับเงินของเขา ฉันจะรู้สึกดูถูกตัวเอง ”

เย่เชินหลินมอบหมายงานให้หลินหลิงไปตั้งนานแล้ว ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องพูดแบบนี้ เขาสั่งคำสั่งอย่างเด็ดขาดให้เธอ ว่าต้องเอาสิ่งของพวกนี้ให้เธอให้ได้ ห้ามเอากลับมาเด็ดขาด

“ขอโทษ หน้าที่ของฉันคือนำมาส่งให้คุณ คุณเย่สั่งให้ฉัน ส่งแล้วห้ามนำกลับคืนมา ฉันรับฟังคำสั่งของคุณเย่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่จะช่วยคุณได้แล้ว ” พูดจบ หลินหลิงก็ลุกขึ้นยืน เตรียมที่จะออกไป

ที่จริงเธออยากที่จะช่วยยื้อเวลาให้เย่เชินหลินสักหน่อย แต่ก็หาเรื่องถามที่เหมาะสมไม่ได้เลยจริงๆ ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจากไป คือสไตล์ของเธออย่างแท้จริง

“เออใช่แล้ว ยังมีสิ่งของอีกบางสิ่ง ที่คุณเย่ขอร้องให้ฉันจำเป็นต้องเอามาให้คุณ ” หลินหลิงหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสาร ตอนที่เซี่ยชีหรั่นจากไปนั้นเอาวางไว้ในลิ้นชักนั้นเอง

“อันนี้ฉัน……” ตอนที่เซี่ยชีหรั่นกำลังจะพูดว่าไม่เอา หลินหลิงก็พูดตัดเธอขึ้นมา : “นี้เป็นสิ่งที่คุณเย่มอบหมายงานมาให้ฉันว่าต้องให้คุณให้ได้ ”

อารมณ์และท่าทางของหลินหลิงกลับไปเป็นเย็นชาและมีความสามารถเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

“โทรศัพท์เครื่องนี้ไม่เหมือนกับที่ขายในท้องตลาดทั่วไป ด้านในมีระบบบอกตำแหน่งที่แม่นยำที่สุดในโลก คุณเย่พูดว่า คุณจำเป็นต้องเก็บไว้ ความปลอดภัยของคุณถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อพ่อแม่ของคุณ คนที่เป็นห่วงคุณ และคนที่รักคุณ ”

หลินหลิงพูดคำพูดที่เย่เชินหลินพูด เอาโทรศัพท์วางลงบนโต๊ะ ไม่สนใจว่าเซี่ยชีหรั่นจะเอาหรือว่าไม่เอา ก็หมุนตัวเดินออกไปเลย

เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าถ้าหลินหลิง เธอพูดว่าไม่ช่วยเอากลับคืนไปให้เธอ ก็ไม่เอาไปแน่นอน

ดูเหมือนว่า เธอต้องไปหาเย่เชินหลินอีกรอบแล้วล่ะ

หลังจากที่หลินหลิงเดินออกไป เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้รีบออกไปตอนนั้นเลย เธอมองดูซองเอกสารและโทรศัพท์ นั่งเหม่อลอยไปตั้งนาน

สำหรับเธอแล้ว เย่เชินหลินให้เธอมากเกินไป ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกัน หรือว่าแยกจากกัน ก็เป็นเขาที่ยอมทำเพื่อเธอ ตอนที่ความสัมพันธ์ของพวกเธอยังไม่แน่นอนนั้น เขาเคยทำเรื่องที่ทำร้ายเธอมาก่อน แต่เรื่องเหล่านั้นมันผ่านมาตั้งนานแล้ว

ตอนนี้เธอจำได้แค่สิ่งดีๆที่เขาทำเพื่อเธอ เธอเคยคิดมานับไม่ถ้วน เขาปฏิบัติต่อเธออย่างนั้น เธอควรที่จะให้อภัยเขาทั้งหมด

เซี่ยชีหรั่น หรือว่าความคิดตอนนั้นคุณกำลังหลอกตัวเองอยู่เหรอ?

มีอุปสรรคขึ้นมาแล้วจริงๆ คุณไม่ยอมอภัยเลยสักนิด พูดว่าไปก็ไปเลย

คุณมีคุณค่าที่เขาต้องทำดีกับคุณมากขนาดนี้เลยเหรอ?

เซี่ยชีหรั่นถอดลมหายใจยาวๆออกมา ถามตัวเอง ถ้าคุณลืมเขาไม่ได้จริงๆ งั้นสามารถลองยอมรับเขาอีกครั้งจะได้ไหม? ส้งหลิงหลิงก็จะไม่ยอมหยุดนิ่งแน่นอน? เย่เชินหลินก็จะอยู่ไม่เป็นสุข? คุณก็จะสู้ส้งหลิงหลิงไม่ได้เลยใช่ไหม?

ความคิดทั้งหมดล้วนเป็นความคิดของเธอเองทั้งนั้น ความเป็นจริงอาจจะไม่เหมือนกับสิ่งที่คิดก็ได้

คุณเอาความคิดที่จอมปลอมนี่มาตัดสินความพยายามทั้งหมดของเขา สำหรับเขาแล้ว มันไม่ยุติธรรมเลยใช่ไหม?

ภาพที่ผิดหวังของเย่เชินหลินแทรกซึมเข้ามาในหัวสมองของเธออีกครั้ง และเธอก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจอีกครั้ง

ถ้าพูดว่าไม่รัก ทำไมเธอถึงต้องเจ็บปวดแทนเขาด้วยล่ะ? ทำไมแม้แต่นอนก็นอนไม่หลับ? แม้จะหายใจก็ใช้แรงมากมาย

ถ้าพูดว่ารัก ก็ยอมรับเรื่องจริงที่เขามีลูกกับคนอื่นไม่ได้?

เซี่ยชีหรั่น ทำไมคุณถึงขัดแย้งไม่เข้าใจตัวเองขนาดนี้?

เธอมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างโศกเศร้า มองเหม่อลอยออกไป เย่เชินหลินเดินออกไปอีกทางหนึ่ง เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด

เวลาผ่านไปนาน เธอก็ลุกขึ้น หยิบซองเอกสารและโทรศัพท์ เดินออกไปนอกร้านกาแฟ

บอดี้การ์ดเห็นเธอเดินออกมา ยังคงติดตามปกป้องเธอในระยะห่างๆ

เซี่ยชีหรั่นเดินตรงไปที่อาคารบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป แล้วขึ้นลิฟต์ผู้บริหารไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยเคาะประตูให้แล้วเธอเดินเข้าไป

ครั้งนี้เย่เชินหลินไม่ได้ยืนอยู่ที่หน้าต่าง เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดูเหมือนกำลังตั้งใจทำงาน แต่แท้ที่จริงเขาเพิ่งกลับมาไม่กี่นาทีเอง

เซี่ยชีหรั่นเดินไปที่หน้าเขา เอาซองเอกสารวางลงโต๊ะทำงานเบาๆ มองเขานิ่งๆ พูดเสียงเบาว่า : “เอาโทรศัพท์ไว้ก็แล้วกัน ”

โทรศัพท์เครื่องนี้มีความทรงจำเธอกับเขามากมาย ในนั้นมีรูปภาพหวานๆที่พวกเขาถ่ายกันไว้มากมาย ที่จริงเธอก็ตัดใจไม่ลงเหมือนกัน

แค่โทรศัพท์เครื่องเดียวเท่านั้น เธอรู้ว่าสำหรับเขาแล้วไม่อะไรขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาซื้อให้เธอโดยเฉพาะ เพื่อที่จะมาปกป้องความปลอดภัยให้เธอ นี้คือน้ำใจของเขา เธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

“พวกนี้ ฉันไม่ต้องการ ขอบคุณนะนี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรได้รับ ” เซี่ยชีหรั่นเลื่อนซองเอกสารไปที่หน้าของเย่เชินหลิน และยิ้มให้เขาไปนิดหนึ่ง แล้วหมุนตัวกลับ

“มานี้! ” เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที พูดอย่างเย็นชาออกมาสองคำ

สองคำนี้เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ก่อนเขามักจะสั่งเธอ แล้วเธอก็ต้องเดินอ้อมโต๊ะทำงานที่ใหญ่ไปที่ข้างกายเขา

เขาก็มักจะดึงเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมกอด แล้วก็จูบเธอ จูบของเขามักจะทำให้หลงใหล ยิ่งทำให้ใจของเธอนั้นเจ็บแล้วเจ็บเข้าไปอีก

ในตอนนี้ เขาหมายความว่ายังไง? เขายังทำอย่างนั้นอีกไหม?

เซี่ยชีหรั่นหมุนตัวกลับ มองไปทางเขา เธอพบว่า แค่มองจ้องตาเขายังนั้น เธอก็เหมือนกับถูกเขาวางยาพิษแล้ว อยากที่จะเดินเข้าไปกอดเขามากมากมาก……

เธอไม่ใช่สาวรับใช้ของเขาอีกต่อไปแล้ว และก็ไม่ได้เซ็นข้อตกลงที่จำเป็นต้องอุทิศร่างกายของเธอให้เขาอีกต่อไป

พวกเขาเลิกกันแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว

เธอจ้องตาเขา ในที่สุดอารมณ์ก็กลับนิ่งและเย็นชาอีกเหมือนเดิม ไม่ว่าจะแกล้งทำเป็นเย็นชา แต่เธอก็รู้สึกว่าเธอยังยอมรับไม่ได้ที่เขามีลูกอีกคนหนึ่ง เธอไม่สามารถทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ไม่สามารถไปต่อกับเขาได้ เธอก็ควรจะเย็นชา

“มีพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ฉันไม่เดินไปหลอก ”

เธอกลัวที่จะเข้าใกล้เขา?

ดวงตาของเย่เชินหลินจ้องมองไปที่เธอ ไม่ขยับเขยื้อน ไม่พูดอะไรสักคำ

ในความเงียบ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หัวใจเต้นแรงไม่หยุด เธอรู้สึกขึ้นมาว่า เหมือนกับเย่เชินหลินได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเธอยังไงอย่างนั้น

เธอคงกลัวเขาจริงๆแหละ

เขาเหมือนกับฝิ่น เธอติดเขาแล้วก็อย่าหวังว่าชีวิตนี้จะหนีห่างจากเขาไปได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset