สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 565 สาวใช้ตัวแสบ 469

ตอนที่ 565 สาวใช้ตัวแสบ 469
“เด็กโง่ หากลูกแต่งงานกับเย่เชินหลิน พ่อจะปล่อยให้เด็กนั้นมีชีวิตอยู่ได้อีกเหรอ?”จงหวีฉวนพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
เย่เชินหลินกลัวว่าส้งหลิงหลิงจะฆ่าตัวตาย แต่สำหรับพ่อแล้วการกำจัดลูกในท้องของหล่อนนั้นมันง่ายนิดเดียว
หลายปีที่ผ่านมา เขายอมรองประธานส้งมาหลายต่อหลายเรื่อง
เพราะเขาคิดว่าเขายังสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้อยู่
เขาจะทำให้ส้งหลิงหลิงต้องทำแท้ง โดยที่ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว
การที่จะต่อกรกับส้งหลิงหลิงนั้น เขาไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย แต่ปัญหาเดียวที่มีก็คือเขาไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกับเย่เชินหลินได้
เยว่มู่หลานยังคงรบเร้าเขาอยู่ทุกวันว่า เรื่องงานแต่งของหล่อน เขาจัดการไปถึงไหนแล้ว
“พ่อคะ พ่ออย่าทำเรื่องไม่ดีเพื่อลูกเลยนะคะ เด็กคนนั้นมีพ่อมีแม่ แม้ว่าจะไม่ต้องการจริงๆ ก็ควรที่จะให้พ่อแม่เขาเป็นคนตัดสินใจจะดีกว่านะคะ”
“ลูกก็นะ!ทำไมลูกถึงได้ใจอ่อนเช่นนี้!”จงหวีฉวนถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาคิดถึงเรื่องของหลี่เหอไท้ ที่คราวที่แล้ว จงหวีฉวนกับหลี่เหอไท้ไปเจอกันที่คฤหาสน์ตระกูลเย่
เมื่อกลับมาก็พบว่าเธอนั้นไม่มีการตอบสนองกลับใดใด เขาถึงได้ตัดสินใจที่จะให้เธอกับเย่เชินหลินได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
“หากลูกไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเย่เชินหลิน แต่ลูกก็ยังจะต้องแต่งงานไม่ใช่เหรอ?และก็เป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตนี้จะอยู่เป็นโสดเพียงลำพัง!พ่อคิดว่าหลี่เหอไท้ก็ไม่เลวนะ หน้าตาดี ฐานะดี คุณสมบัติไม่ได้ด้อยไปกว่าเย่เชินหลินเลย เขาเป็นคนมีความสามารถ พ่อคิดว่าเขานั้นเหมาะสมกับลูกมาก ลูกลองพิจารณาดูหน่อยสิ”
จงหยุนซางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ในใจเธอนั้นรู้เป็นอย่างดีว่าหลี่เหอไท้นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน
แต่เป็นเพียงเพราะว่าเธอนั้นหลงรักเย่เชินหลินมาหลายปีแล้ว จนกลายเป็นความเคยชิน อยากคิดที่จะลืม ก็คงจะลืมในวันสองวันไม่ได้
และเธอก็รู้เป็นอย่างดีว่า หากเธอยังไม่ออกเรือน พ่อของเธอก็คงจะไม่สามารถคลายความกังวลได้ และพ่อเธอก็คงจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้เธอได้แต่งงานกับเขา
ความรักที่เธอมีให้ต่อเย่เชินหลินนั้น เป็นรักข้างเดียว หากความรักของเธอนั้นสร้างปัญหาให้กับเขา เธอคงไม่สามารถสู้หน้าเย่เชินหลินได้อีกต่อไป
เมื่อคิดไปคิดมา จงหยุนซางก็พยักหน้า และพูดว่า:“พ่อคะ ลูกหวังว่าพ่อคงจะไม่ใช้วิธีสกปรกทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนะคะ เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นน้องของลูก”
“อืม ไม่ใช่แม่เดียวกันเสียหน่อย เรื่องของหล่อนลูกไม่ต้องยุ่งหรอ หากแม่ลูกรู้ว่า ลูกช่วยหล่อนพูดล่ะก็ เธอต้องโกรธลูกแน่ๆ”

เขาไม่ได้รู้สึกรักและเอ็นดูภรรยาของเขามากมายขนาดนั้น เขาเพียงแต่กลัวว่าหากเยว่มู่หลานรู้เรื่องนี้เธอจะบ่นไม่หยุดปาก หาว่าเขาสนับสนุนให้พี่น้องสองคนคืนดีกัน

“ผมคิดว่าหากคราวหน้าเสนาธิการหลี่มาตงเจียง พวกเรานัดเขาไปทานข้าวสักมื้อ คุณคิดว่าดีไหม?”จงหวีฉวนพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

ผมคิดว่าเราควรใช้โอกาสที่ลูกของส้งหลิงหลิงยังอยู่ในท้อง จัดการเรื่องของจงหยุนซางให้เรียบร้อย

หากเธอได้แต่งงานกับหลี่เหอไท้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้นก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องยินดี และเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำลายลูกของส้งหลิงหลิง จนทำให้ต้องบาดหมางกับรองประธานส้ง

แต่ถ้าหากว่าทั้งสองคนนั้นไม่สามารถชอบพอกันได้ และเธอไม่สามารถที่จะลืมเย่เชินหลินได้ เขาก็จำเป็นที่จะต้องจัดการกับเย่เชินหลินและบังคับให้เขาต้องแต่งงานกับจงหยุนซาง

การทำเช่นนี้ก็จะทำให้รองประธานส้งต้องแก้ปัญหาเรื่องเด็กคนนั้น

เขาครุ่นคิดอยู่นาน นั่งสูบบุหรี่ รอจนกระทั่งไห่ลี่หมินมาถึง

รอไม่นานเท่าไหร่ ไม่ถึงสี่สิบนาทีด้วยซ้ำ ไห่ลี่หมินก็มาถึงแล้ว คนรับใช้ไปเปิดประตูให้เขาเข้ามา

เมื่อไห่ลี่หมินมาถึงก็ทักทายกับจงหยุนซาง จากนั้นจงหยุนซางก็ขอตัวกลับห้องของตนเอง

“เข้ามา!”เมื่อประธานจงได้ยินเสียงเคาะประตู ก็พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ เมื่อไห่ลี่หมินเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าประธานจงได้ดับบุหรี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในฐานะที่เขาเป็นเลขาของประธานจง เขารู้จักประธานจงเป็นอย่างดี และเมื่อเห็นว่าประธานจงสูบบุหรี่ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าท่านมีเรื่องสำคัญที่ต้องคิดอย่างแน่นอน

ประธานจงนั้นให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นอย่างมาก นานๆเขาถึงจะดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่

“ขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้ท่านต้องรอนาน” ไห่ลี่หมินพยักหน้าด้วยความเคารพ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง ประธานจงบอกเป็นนัยให้เขานั่งลง

เขาคิดว่าการที่ประธานจงเรียกเขาให้มาพบในคืนนี้ คงไม่ได้เป็นเพราะอยากที่จะเล่นหมากรุกเพียงอย่างเดียว

ประธานจงนั้นชื่นชอบในการเล่นหมากรุกเป็นอย่างมาก ก่อนที่ไห่ลี่หมินจะมาถึง เขาก็ได้เตรียมกระดานหมากรุกไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อไห่ลี่หมินนั่งลง เขาก็เอ่ยปากขึ้นว่า:“คุณจะเป็นฝ่ายแดง หรือฝ่ายดำ?”

“ฝ่ายแดง”ไห่ลี่หมินพูดขึ้น

กฎของการเล่นหมากรุกนั้น ไห่ลี่หมินรู้เป็นอย่างดี ฝ่ายแดงเดินก่อน ฝ่ายดำเดินตามทีหลัง ดังนั้นฝ่ายแดงจึงมีโอกาสที่จะชนะมากกว่า ในฐานะที่เขาเป็นฝ่ายเล่นเป็นเพื่อนอีกฝ่ายหนึ่ง หากเขาให้หัวหน้าเป็นฝ่ายแดง แล้วหัวหน้าชนะก็จะไม่สมศักดิ์ศรีเสียสักเท่าไหร่

แต่หากเขาเลือกฝ่ายแดง ในฐานะที่เขานั้นยังหนุ่ม หากหัวหน้าชนะ เขาก็จะชนะอย่างสมศักดิ์ศรี?

แม้ว่าเขาทั้งสองจะไม่ได้สนใจที่จะเล่นหมากรุกมากนัก แต่ก็ยังคงทำเป็นสนใจหมากรุกที่อยู่เบื้องหน้า

หลังจากที่เล่นหมากรุกไปพักหนึ่ง ประธานจงก็เริ่มพูดเข้าเรื่อง

“ไอ๊หยา จื้อเซวียนฉลาดจริงๆ นี่แหละเป็นเหตุผลที่ผมนั้นชอบคุณ อยากจะได้คุณมาเป็นลูกเขย”

ไห่ลี่หมินยิ้มและพูดว่า:“ผมก็ไม่ได้ฉลาดอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ท่านประธานจงก็พูดเกินไป”

“เสียดาย ที่นิสัยของหยุนซางกับคุณไปด้วยกันไม่ได้”

ไห่ลี่หมินรู้ว่า คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร เขาจึงทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างเรียบเฉย

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่มีวาสนาเอง หยุนซางนั้นเป็นผู้หญิงที่ดี จะต้องได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆเป็นแน่ครับ”

เมื่อไห่ลี่หมินพูดจบและกลัวว่าประธานจงจะยังไม่ล้มเลิกความคิดเดิม เขาจึงได้พูดเสริมขึ้นว่า:“หยุนซางกับเซี่ยชีหรั่นนั้นมีบุคลิกลักษณะที่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าหยุนซางนั้นจะโชคดีกว่า ดูเซี่ยชีหรั่นสิครับ ตอนนี้ถูกเย่เชินหลินทำลายจนหมดสิ้น และต้องเลิกรากันไป เย่เชินหลินมีลูกกับส้งหลิงหลิงแล้ว คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกคนอื่นหรอก ใช่ไหมครับท่านประธาน?”

คำพูดที่เขาพูดออกไปนั้นมีสองวัตถุประสงค์ ประการแรกคือเขาเห็นด้วยที่จงหยุนซางจะสานสัมพันธ์ต่อกับเย่เชินหลิน แต่เขาไม่ต้องการที่จะช่วยเหลือในเรื่องนี้

ประการที่สองคืออุปสรรคของความสัมพันธ์ระหว่างจงหยุนซางกับเย่เชินหลินนั้นไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องอึดอัดใจ แต่ควรที่จะไปจัดการกับลูกของส้งหลิงหลิงเสียมากกว่า

ไห่ลี่หมินคิดไปคิดมาก็พบว่าทางแก้ที่ดีที่สุดของปัญหาระหว่างเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนั้นก็คือการกำจัดลูกของส้งหลิงหลิง ซึ่งผู้ที่เหมาะสมที่จะจัดการกับเรื่องนี้ก็คือท่านประธานจง

ประธานจงยิ้ม และพูดขึ้นว่า:“การที่ผมนัดคุณมาพบในวันนี้ ก็เพราะมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับเซี่ยชีหรั่น คราวที่แล้วผมเคยบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรอ?ผมหวังว่าคุณจะตามจีบเธอ บางทีคุณอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้ว่าทำไมผมถึงได้เป็นห่วงเซี่ยชีหรั่นมากมายขนาดนี้ใช่ไหม?ผมรู้ว่าคุณเป็นคนฉลาดและรอบคอบ คุณคงจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเป็นแน่ ผมขอพูดกับคุณตรงๆนะว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นลูกสาวของผม เป็นลูกที่เกิดจากจ้าวเหวินอิงภรรยาของเสนาธิการหลี่”

ไห่ลี่หมินตะลึงงันครู่หนึ่ง คิ้วนั้นขมวดติดกัน

การตอบสนองของเขานั้นทำให้จงหวีฉวนพึงพอใจเป็นอย่างมาก

“จื้อเซวียน คุณไม่สามารถแต่งงานกับหยุนซางได้ ผมนั้นเสียดายจริงๆ แต่คุณสามารถที่จะแต่งงานกับเซี่ยชีหรั่นได้ ครอบครัวของพวกเรานั้นมีวาสนาต่อกันจริงๆ คุณก็รู้ว่าตอนนี้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนั้นแยกทางกันแล้ว ผมรู้ดีว่าลูกสาวของผมยังคงตัดใจจากเย่เชินหลินไม่ได้ ผมไม่อยากให้เธอต้องไปเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกของเย่เชินหลินจริงๆ ในเมื่อคุณก็ชอบเซี่ยชีหรั่น ในฐานะที่ผมเป็นพ่อของเธอ ผมจะสนับสนุนคุณเต็มที่ คุณเป็นเพื่อนกับเย่เชินหลิน ไม่อยากที่จะไปแย่งคนรักของเพื่อน เหตุผลนี้ผมเข้าใจดี แต่ตอนนี้พวกเขานั้นได้แยกทางกันแล้ว คุณสามารถที่จะจีบเธอได้อย่างเปิดเผยแล้ว”

หลังจากที่จงหวีฉวนครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็ค้นพบว่าวิธีนี้คงจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

นอกจากจะทำให้ไห่ลี่หมินนอบน้อมกับเขาอย่างสุดจิตสุดใจแล้ว ยังทำให้เย่เชินหลินตัดขาดจากเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่มีเยื่อใยต่อกันอีก ทำให้เขามีเวลามาสนใจจงหยุนซางบ้าง

ตอนนี้จงหยุนซางนั้นมีอยู่สองตัวเลือก ไม่ว่าเธอเลือกใคร ก็ล้วนที่จะเป็นประโยชน์ต่อจงหวีฉวนทั้งสิ้น

“จื้อเซวียน คุณหมายความว่ายังไง?”ประธานจงถามขึ้น

……

หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินกลับถึงคฤหาสน์แล้ว เขาก็หลับเป็นตาย

เมื่อพ่อบ้านเห็นเซี่ยชีหรั่นกลับมาแล้ว เขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก เขาสั่งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนหกคนเข้าไปดูแลเย่เชินหลิน และนำตัวของเย่เชินหลินไปไว้บนเตียง

เซี่ยชีหรั่นสั่งให้พ่อบ้านไปเรียกหมอมาตรวจดูอาการของเย่เชินหลิน หากไม่มีหมอมาดูอาการก่อน เธอนั้นวางใจไม่ลงจริงๆ

หมอทั้งสองที่เข้ามาตรวจอาการ มีทั้งหมอแผนปัจจุบันและหมอแผนจีน ได้ตรวจชีพจร ตรวจวัดความดัน และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สุขภาพของเย่เชินหลินนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าเขานั้นอ่อนล้าเกินไปก็เท่านั้น

“เดี๋ยวผมจะไปต้มซุปแก้สร่างเมามาให้ หากว่าคุณเย่ตื่นแล้ว ก็รบกวนคุณให้เขาทานซุปนั้นด้วยนะครับ อาการก็จะดีขึ้น”เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า และส่งหมอทั้งสองท่านออกจากห้อง

เย่เชินหลินยังคงหลับลึกอยู่บนเตียงอย่าง เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ข้างเตียง

เมื่อซุปต้มเสร็จแล้ว หมอห่าวก็ได้ยกมาให้ เซี่ยชีหรั่นกลัวว่าซุปจะไม่ร้อน จึงเรียกเย่เชินหลินให้ลุกขึ้นมาดื่มก่อน ค่อยนอนต่อ

เขานอนหลับไปสองชั่วโมงกว่าแล้ว และผ่านช่วงเวลาของการหลับลึกมาแล้ว เมื่อเซี่ยชีหรั่นเรียกเขาเบาๆเขาจึงตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองไปรอบๆ ด้าน เขาก็พบว่าเขานั้นนอนอยู่ในห้องนอนของเขา และเซี่ยชีหรั่นก็กำลังมองดูเขาอย่างเป็นห่วง

“เธอเป็นอะไรของเธอ?ผมบอกไม่ต้องมาไง?กลับไปซะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ลุกขึ้น เขารู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

“คุณอย่าทำแบบนี้เลยได้ไหม?ดื่มเยอะเกิน แล้วยังจะมาโวยวายอีก !รีบดื่มซุปแก้สร่างเมาเถอะ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset