สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่595 สาวใช้ตัวแสบ 499

ตอนที่595 สาวใช้ตัวแสบ 499
เธอเฝ้าดูไห่ลี่หมิน ที่ขับรถจากไป ในใจของเธอไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก
มีคนสุจริตใจที่จะรอเธออยู่อย่างนี้ ไม่ว่าเธอจะผ่านประสบการณ์แบบไหนมาไม่ว่าในใจเธอยังคงรักผู้ชายคนอื่นอย่างลึกซึ้ง เขายังคงยืนยันที่จะปกป้องเธอ เธอจะไม่ซาบซึ้งได้หรอ?
เสียดายความซาบซึ้งและความรัก สองเรื่องนี้ เธอทำได้แค่มองตามหลังไป​อย่างนี้ แต่ไม่มีวิธีทำให้เขาสมหวังตามที่ปรารถนาไว้
ไห่ลี่หมิน จริงๆแล้วฉันไม่มีอะไรดีเลย มันไม่คุ้มค่ากับความคิดถึงที่ไม่อาจลืมเลือนของคุณ ฉันรู้ว่าการที่ฉันยืนหยัดอยู่อย่างนี้ดูเหมือนคนโง่ไร้สาระ ยังทำให้คนรู้สึกต่ำตมมาก แต่ฉันก็ปล่อยมันไปไม่ได้
หันศีรษะกลับมา ส้งหลิงหลิงได้เช็ดคราบเลือดของเย่เชินหลินแล้ว “เชินหลินฉันคิดว่าไห่ลี่หมินบ้าไปแล้ว เขาชอบใครก็เป็นเรื่องของเขา คุณก็ไม่ได้ขวางเขาไปสักหน่อย ทำไมถึงต้องตีคุณด้วย!” ส้งหลิงหลิงดูเหมือนพูดอย่างเจ็บใจ แต่เย่เชินหลินกลับยิ้มมุมปากที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้เจ็บไร”
” ยังจะไม่เจ็บ ดูสิ มันทั้งช้ำทั้งม่วง เขายังเป็นเพื่อนของคุณ ทำไมถึงลงมือได้หล่ะ?”
คำพูดของส้งหลิงหลิงนั้นเป็นสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นอยากจะพูด เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไรในเวลานี้ เย่เชินหลินจะไม่ตอบเธอดีๆแน่ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบ
เธอหันกลับมาเดินลงบันไดบ้านหลังใหญ่ด้วยความอาลัยอาวรณ์​และกังวล รถของไห่ลี่หมินวนกลับมาแล้ว และหยุดอยู่ข้างๆเธอพอดี
เขาเลื่อนกระจกลง จ้องมองที่เซี่ยชีหรั่น และพูดอย่างจริงจัง “เซี่ยชีหรั่นผมปล่อยวางเรื่องคุณไม่ได้ ขอเพียงคุณอยากจะทิ้ง อยากจะจากไป ผมจะไปรับคุณทุกเมื่อ!”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายใจสำหรับทุกสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นคำพูดของไห่ลี่หมินทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจมากขึ้นน้ำตาไหลมารวมกัน แต่กลั้นไว้ไม่ให้ไหลลงมา
คุณไม่มีอะไรจะต้องร้องไห้ เซี่ยชีหรั่น คุณอยู่ต่อก็จะรู้ว่าพวกเขาทำไมรักกันมากแบบนี้ นี่เป็นสิ่งที่คุณเลือกเอง เลือกแล้วก็ไม่ควรเจ็บแค้น ไม่มีใครบังคับให้คุณอยู่ถูกไหม?
เธอก็อยากเตือนให้ไห่ลี่หมินคิดได้ แต่คำพูดพวกนั้นเธอพูดหลายรอบแล้ว ถ้ามันมีประโยชน์ก็คงจะมีนานแล้ว
คำที่ไร้ประโยชน์ พูดอีกก็เป็นเศษเหลือ
เธอแค่ยิ้มเล็กๆและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ขอบคุณ!” จากนั้นเธอก็เดินหน้าต่อไป ไม่มองไห่ลี่หมิน และก็ไม่มองเย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิงด้วย
บนโลกมีถนนนับพัน เธอเลือกเส้นทางที่ยากที่สุด ไม่มีใครรู้ยังต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่จะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ เธอได้ค้นพบว่าต้องใช้ความกล้าที่จะคงอยู่ต่อในหนึ่งวัน

สายตาเย่เชินหลินมองไปที่เธอจากไปอย่างเงียบเหงาเดียวดาย เธอตัวเล็กมาก บอบบางจนจะตายได้เขายังทำให้เธอได้รับความทุกข์​จากเขาไปเท่าไหร่?

คุณหมอมาเยี่ยมจะมาทายาให้เย่เชินหลิน ถูกเขาไล่ออกจากบ้านด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เขาส่งรอยยิ้มให้ส้งหลิงหลิงอย่างไม่เต็มใจ​ และกลับไปห้องหนังสือของเขา

ไห่ลี่หมินยังมีความปรารถนาของตัวเขาเองในการเดินทางครั้งนี้ และความกดดันของประธานจง ช่วงนี้ประธานจงได้ให้เขาไปเรียนที่สถาบันพรรคคอมมิวนิสต์ไม่ให้เขากลับไปที่เมืองหลินเจียง เขารู้ว่าเขาต้องการให้เขายอมจำนน มิฉะนั้นต่อไปเขาอย่าคิดที่จะมาเป็นกรรมการบริหารหลินเจียงเป็นทางการอย่างราบรื่นได้

ถึงแม้เขาจะชอบเซี่ยชีหรั่น ในฐานะที่เป็นผู้ลูกผู้ชายกลับเกลียดความรู้สึกที่ถูกคนช่วยเหลือ

ตำแหน่งตระกูลไห่ถึงยังไงก็สู้เมื่อก่อนไม่ได้ คุณปู่และคุณพ่อของเขาก็ลาออกแล้ว ในเวลาที่คับขันก็อาศัยความผูกพันนี้ได้ แต่เขาไม่อยากใช้ แต่ไหนแต่ไรเขาก็คิดแต่อยากใช้ความขยันของตัวเอง  ใช้ความสามารถเพื่อบรรลุเป้าหมาย เช่นเดียวกับเย่เห้าหรันที่เขานับถือมาก

ระยะนี้ตั้งแต่เขารู้ว่าตัวเองมีผลประโยชน์ต่อคนอื่นมากขึ้น ถึงรู้สึกได้ถึงการไม่เป็นตัวของตัวเอง

เขาเห็นได้ชัดว่าเขายังอ่อนอยู่บ้าง ก็คือกับเย่เชินหลินพวกเขาสองคนร่วมมือกัน ต้องการสู้กับจงหวีฉวน นั่นก็ไม่ใช่ว่าวันสองวันจะเสร็จสมบูรณ์ได้ เขาขับรถไปตลอดทางด้วยสีหน้าที่สงบ และกลับไปที่บ้านของประธานจง เพื่อไปอธิบายสถานการณ์ในห้องหนังสือของเขา

ถ้าหากเขาพาเซี่ยชีหรั่นออกมา เขาก็จะตรงกลับบ้านเลย ทำไมยังต้องมาหาเขาที่นี่? ดังนั้นพอเขาเข้าประตู จงหวีฉวนก็รู้ว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว

ไม่ได้เรื่อง! แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวยังจัดการไม่ได้ ดูแล้วชีวิตนี้นายคงไล่ตามเย่เชินหลินไม่ทัน เขาสามารถใช้แรงในช่วงที่สำคัญได้ แต่นายก็ไม่ได้! จงหวีฉวนพึมพำอย่างไม่พอใจ

“ท่านประธาน ชีหรั่นยังคงชอบเชินหลิน ผมคิดว่าไม่มีใครทำให้เธอหวั่นไหวได้” ไห่ลี่หมินพูดกับจงหวีฉวน ความหมายชัดเจนแล้วว่า เขาต้องการกลับไปที่เมืองหลินเจียง เขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว

จงหวีฉวนทำสีหน้าไม่พอใจ ตบโต๊ะ และพูดอย่าโมโหว่า “เด็กโง่คนนี้ ทำไม่ศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจของตัวเองสักนิดก็ไม่มี? นายไม่ต้องรีบ ฉันบอกแล้วจะช่วยให้พวกนายสมหวังได้ก็คือช่วยให้พวกนายสมหวัง ธุระที่หลินเจียงฝั่งนั้นฉันเตรียมคนที่ช่วยนายแล้ว นายอยู่ทำงานที่นี่ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบกลับไปหรอก ฉันจะคิดหาวิธีอีกครั้ง นายรอก่อน

ไห่ลี่หมินนอกจากจะต้องตอบตกลง ดูแล้วก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก

หลังจากไห่ลี่หมินจากไป จงหวีฉวนก็เอนกายลงบนเก้าอี้และคิดอยู่นาน เขาต้องการที่จะรับ เซี่ยชีหรั่นกลับมาด้วยตัวเอง ในฐานะที่เป็นพ่อคนนึง เมื่อพิจารณาถึงตอนที่โทรและส่งข้อความไปครั้งนั้น เซี่ยชีหรั่นตอบกลับมาด้วยความเย็นชา เขารู้สึกว่าไม่มั่นใจการเดินทางครั้งนี้ของเขา เรื่องที่ไม่มั่นใจ เขาจงหวีฉวนจะไม่ทำมัน ไม่งั้นขายขี้หน้าแย่

ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เขายังต้องตามหาจ้าวเหวินอิง เธอเป็นแม่ของเซี่ยชีหรั่น และสิ่งที่เธอพูดจะต้องมีประโยชน์มากกว่าพ่อของเขา

จ้าวเหวินอิงยังโทรคุยกับเซี่ยชีหรั่นในช่วงสองวันที่ผ่านมา เซี่ยชีหรั่นบอกเพียงว่าในบ้านพักตากอากาศนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ

เธอโล่งใจ แต่ไม่ได้โล่งใจอย่างเต็มที่ แต่จะมีวิธีอะไรได้อีกหล่ะ ลูกสาวของเธอโตแล้ว มีบางเรื่องที่แม่ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้

เซี่ยชีหรั่นรีบร้อนออกไป อีกอย่างรถก็ไม่พอนั่ง จิ่วจิ่วไม่ได้ตามมา แต่เธอก็ตั้งใจอยากให้จิ่วจิ่วอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ที่บ้าน กลัวว่าที่เธอออกไปกะทันหันแบบนี้ คุณแม่จะอ้างว้างเสียใจ

เมื่อจงหวีฉวนโทรมา จิ่วจิ่วกำลังนั่งคุยกับจ้าวเหวินอิงบนโซฟาในห้องรับแขกพอดี ทั้งสองคนก็แค่คุยเรื่องของเซี่ยชีหรั่นเท่านั้น

จ้าวเหวินอิงรับสายเบอร์ที่ไม่รู้จักขึ้นมา ได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดมา ก็ฟังออกว่าเป็นเสียงของจงหวีฉวน เธอเลยจะรีบตัดสายทันที จงหวีฉวนรีบพูดขึ้นว่า “อย่าวางสาย ฉันจะพูดถึงเรื่องชีหรั่นลูกสาวของคุณ คุณไม่สนเลยหรอ?”

จ้าวเหวินอิงจ้องมองไปที่จิ่วจิ่ว เธอลุกขึ้นอย่างเข้าใจ และชี้ไปที่ห้องครัวหมายความว่าเธอจะไปที่ห้องครัวเพื่อช่วยพี่เลี้ยงทำอาหาร จะจากออกไป

จิ่วจิ่วเข้าไปในห้องครัว จ้าวเหวินอิงยืนขึ้นอย่างเงียบขรึม เดินกลับไปที่ห้องนอนของเธอ ถึงค่อยถามอย่างเย็นชาว่า “มีอะไรกับลูกสาวของฉัน คุณสรุปมาสั้นๆ เพราะฉันไม่ต้องการคุยกับคุณ”

“คุณพูดว่ามีอะไรกับลูกสาวของคุณ? ครอบครัวเย่เชินหลินพาส้งหลิงหลิงเข้ามาในบ้านพักตากอากาศแล้ว ชัดเจนเลยว่าทั้งสองคนกลับไปคืนดีกัน ลูกสาวของคุณนอนอยู่ที่นั่น เย่เชินหลินไล่เธอยังไง เธอก็ไม่ไป ทำไมถึงได้ไม่ให้เกียรติตัวเอง หน้าด้านหน้าไม่อายขนาดนี้? เธออยู่กับคุณมานานแล้ว คุณไม่รู้หรอว่าต้องสอนดีๆ? ผมไม่รู้จริงๆว่าคุณคิดยังไง ลูกของคุณไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ไม่สนใจ หาเจอแล้วก็ไม่อบรมเธอ ตอนนี้แม้แต่มารยาทรู้สึกละอายก็ไม่รู้จักแล้ว!

เรื่องไร้สาระของจงหวีฉวน ทำให้จ้าวเหวินอิงโกรธจนตัวสั่น ครึ่งค่อนวันไม่สามารถตอบเขาได้

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงก็คือความยุติธรรม คุณลองบอกมาว่าเธอเป็นแบบนี้มันถูกต้องยังไง?” จงหวีฉวนพูดอีกครั้ง จ้าวเหวินอิงหายใจเข้าลึกๆสองครั้งก่อนที่จะตอบกลับอย่างเย็นชา “เธอจะเป็นยังไง? ไม่เกี่ยวข้องกับคุณเลยสักนิด คุณกังวลอะไร กลัวคนจะหัวเราะเยาะคุณ? วางใจได้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของคุณ ลูกสาวของฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเลยสักนิด ฉันสอนหรือไม่สอน สอนอย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ”

“คุณว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว นั่นเป็นลูกสาวแท้ๆของฉันนะ ฉันไม่ยุ่งได้เหรอ? จ้าวเหวินอิง คุณรู้จักไห่ลี่หมินรึเปล่า เป็นประธานไห่ที่หลินเจียง เขาก็ชอบเซี่ยชีหรั่นจากใจจริง คุณคุยกับเธอดีๆสิ เป็นเมียหลวงไม่เป็น ดันจะไปเป็นคนรับใช้ และเป็นเมียน้อยเขา

เพียงแค่นั้น จ้าวเหวินอิงก็รู้ว่าทำไมเขาถึงแสดงความเมตตาต่อเซี่ยชีหรั่น ที่แท้เขาได้กำหนดที่พักพิงใหม่ให้เธอแล้ว

เขาโกรธมากแต่กลับยิ้มออกมา “จงหวีฉวน คุณยังเหมือนเดิม คุณไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ใคร ๆ ก็เป็นเครื่องมือให้คุณหลอกใช้ ต่อไปคุณยังจะโทรหาฉันอีก ระวังฉันจะบอกกับท่านหลี่ว่า ดูคุณไม่มีเรื่องก็มาราวีฉัน!” พูดจบ เธอก็ตัดสายโทรศัพท์อย่างแรง

จงหวีฉวนมองไปที่โทรศัพท์แล้วยิ้ม จ้าวเหวินอิง เขายังเข้าใจที่เธอคนนั้นเคารพตัวเองอย่าง มาก แม้ว่าเธอจะพูดกับเขาอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปล่อยพฤติกรรมของ เซี่ยชีหรั่นไปเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

จ้าวเหวินอิงนั่งอยู่บนเตียงเงียบ ๆ เป็นเวลานาน เธออยากโทรหาเซี่ยชีหรั่นเป็นสิ่งแรก สั่งให้เธอกลับมา คำพูดของจงหวีฉวนทำให้เธอทนไม่ได้จริงๆ แม้กระทั่งใบหน้าที่เหมือนเป็นไข้

ในฐานะคน ไม่ต้องการอะไรเลยก็ได้ แต่ไม่มีศักดิ์ศรีไม่ได้ แม้แต่เพื่อความรักก็ไม่ได้

มือเธอวางไว้บนหน้าจอโทรออกของโทรศัพท์ แต่สุดท้ายก็อดทนไว้ จงหวีฉวนไม่มีสิทธิ์ตำหนิเซี่ยชีหรั่น และเธอก็ไม่มีสิทธิ์เช่นกัน เธอสูญเสียความรักของมารดาไปกว่า 20 ปี เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะโทษเธอ? สิ่งที่เธอให้ได้ควรเป็นความรักและสิ่งอื่น ๆ นอกจากคำแนะนำเธอแล้ว ก็ทำได้เพียงแค่แนะนำ หลังจากคิดสักพักและปรับอารมณ์ได้ เธอจึงโทรหาเซี่ยชีหรั่น

เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ไปที่ห้องเสื้อผ้าของเย่เชินหลิน เธอกลับไปที่ห้องของคนรับใช้ และนั่งลงบนเตียงด้วยความงุนงง

“แม่?” รับสายโทรศัพท์ เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างอ่อนโยน

“แม่อยากไปเยี่ยมเธอ ได้ไหม? แม่คิดถึงเธอแล้ว” จ้าวเหวินอิงถามด้วยความรักและเมตตา

“ฉัน……”

เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดว่าแม่ของเธอจะพูดขนาดนี้ แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่จะพูด

เธอคิดถึงแม่ของเธอเช่นกัน คิดถึงมาก และอยากร้องไห้ออกมาด้วยความคับแค้นใจในอ้อมอกของเธอ แม้ว่าความคับแค้นใจจะเกิดจากเธอเอง แต่เธอก็อยากจะระบายออกมา

“ลูกรัก มันลำบากมากที่แม่ไม่สะดวกไปหรอ? หรือว่าเธออยู่ที่นั่นได้รับความลำบาก กลัวว่าแม่จะรู้?” จ้าวเหวินอิงถามอีกครั้ง คิ้วของเซี่ยชีหรั่นขมวดเล็กน้อย นั่นเป็นสัญญาณของความกังวล เธอไม่สามารถตอบคำพูดของแม่ และไม่สามารถให้แม่มาได้ ถ้าเห็นเธอทำงานเป็นสาวใช้ที่นี่แม่จะเสียใจแค่ไหน

มีเพียงความเงียบชั่วขณะ และเธอพูดด้วยเสียงต่ำ “แม่ ก็ไม่ใช่ไม่สะดวก ถ้าคุณอยากมาได้แน่นอน แต่เชินหลินกำลังจะเดินทางไปทำธุระในสองวันนี้ เขาบอกว่าอยากให้ฉันไปกับเขาด้วย ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปเมื่อไหร่ กลัวว่าเธอมาหาแล้วเปล่าประโยชน์ แม่ คุณคิดว่าอย่างนี้โอเคไหม? ฉันจะหาเวลากลับมาเยี่ยมคุณ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset