สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่600 สาวใช้ตัวแสบ 504

ตอนที่600 สาวใช้ตัวแสบ 504
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็มาสัมภาษณ์ ท่านคือพ่อของหลิงหลิง เรื่องแค่นี้ผมก็สมควรช่วยอยู่แล้ว อีกอย่าง นี่ก็เป็นการโปรโมทฟรีๆ ให้กับบริษัทฝู้ซื่อไม่มีอะไรเสียหาย
เขารู้อยู่แล้วว่าครั้งนี้รองประธานส้งต้องการสัมภาษณ์เรื่องอะไร จุดสำคัญมันไม่ใช่จะทำให้บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปมีความก้าวหน้า ต้องเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นจุดศูนย์กลางอยู่แล้ว โดยเฉพาะต้องการเน้นปัญหาของเด็ก
“ฮ่าฮ่า ดูแล้วฉันต้องขอบใจเชินหลินที่ให้โอกาสฉันในครั้งนี้” ท่านรองประธานส้งพูดด้วยรอยยิ้ม
เย่เชินหลินก็แค่ยิ้มให้ด้วยความสุภาพ รองประธานส้งก็รู้สึกเชื่อมั่น “ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มสัมภาษณ์เลย พอดีถ้ามีเนื้อหาอะไร
ฉันกับซูหาวก็สามารถเสริมได้”
สุนัขจิ้งจอกแก่ รีบร้อนมากใช่ไหม?
นักข่าวเอาปากกาบันทึกเสียงออกมาเตรียมพร้อมจะเริ่ม เย่เชินหลินโบกมือไปมา พูดเบาๆ “เรื่องนี้ไม่รีบร้อน เอาไว้พรุ่งนี้
เวลาสัมภาษณ์ต้องอยู่ในที่สงบดำเนินการถึงจะดีกว่า ถ้าหากผมไปสัมภาษณ์ตอนนี้ ไม่มีคนอยู่คุยเป็นเพื่อนกับคุณอาส้งและซูหาวแล้ว เย็นชากับแขกมันไม่ค่อยดี”
เย่เชินหลินพูดด้วยความเกรงใจ และก็ไม่สามารถตำหนิเถียงได้
รองประธานส้งถอนหายใจยาว เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้จัดการยากจริงๆ พรุ่งนี้สัมภาษณ์ เขาอยากให้พูดอะไรก็พูดไม่อยากให้พูดก็ไม่ต้องพูด แต่มันจะแตกต่างจากวันนี้มาก
เหตุผลของเขาคือต้องการให้เย่เชินหลินช่วยเหลือ ต้องการให้คนช่วยก็ไปบังคับเขาไม่ได้ ฉะนั้นสามารถพูดได้เพียงเท่านี้
“ก็ดี สัมภาษณ์พรุ่งนี้ก็เหมือน”รองประธานส้งพูด “แต่วันนี้สามารถสรุปคร่าวๆเรื่องที่จะสัมภาษณ์พรุ่งนี้? ตอนที่เดินทางมา
นักข่าวก็ได้ขอเรื่องที่เราไม่เต็มใจ บอกว่าตอนนี้ต้องเน้นเรื่องความรัก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่พูดแต่เรื่องธุรกิจการเงินต้องเพิ่มสีสันความอบอุ่นบ้าง ฉะนั้นเชินหลิน นายต้องเตรียมความคิดให้พร้อม พรุ่งนี้สัมภาษณ์อาจเชื่อมโยงถึงเรื่องเด็กและหลิงหลิง
ฉันดูแล้วนายก็ให้ความสำคัญกับเด็ก ความสัมพันธ์กับหลิงหลิงก็ดี น่าจะไม่คัดค้านอะไร?”
เย่เชินหลินยิ้มอย่างอบอุ่น รับปาก “ไม่มีปัญหา สิ่งที่ควรพูดผมก็จะพูด ก็อย่างที่ทุกคนพูด ลูกของผม ต้องเกิดมาอย่างถูกต้องทุกอย่าง”
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ปิดบัง หลบซ่อน รั้นไว้ ความคิดของเย่เชินหลินมีความเปลี่ยนแปลงมาก ยิ่งตอนนี้เซี่ยชีหรั่นก็รับรู้
ตัวตนของลูก ส้งหลิงหลิงได้เข้าไปอยู่ในบ้านเขา จะปิดก็ปิดไม่อยู่แล้ว ตระกูลส้งได้ปล่อยข่าวออกไปทั่วตลาดแล้ว เป็นการดีที่จะยอมรับตามตรง กับเด็กมันมีแต่ผลดี

จุดมุ่งหมายของรองประธานส้งถือว่าสำเร็จไปครึ่งทาง อย่างน้อยอารมณ์ก็เริ่มเปลี่ยนบ้าง

พวกเขาสนทนาไปได้สักพัก ส้งหลิงหลิงกับคุณนายส้งหลังจากที่ได้วนลงมา ก็เป็นเวลาช่วงใกล้อาหารเย็นแล้ว

ก่อนที่จะเริ่มทานข้าว เย่เชินหลินได้ขยิบตาใส่พ่อบ้านโดยไม่มีพิรุธ สายตากวาดไปที่เซี่ยชีหรั่น พ่อบ้านสื่อสารเข้าใจแล้วรีบจัดการ

เขาให้เซี่ยชีหรั่นกับคนใช้ผู้หญิงสองคนที่ดูแลคุ้มครองเธอ แล้วยังเลือกอีกหลายคนให้พวกเธอไปช่วยที่โรงครัว ที่เหลือก็ดูแลเรื่องการทานข้าว

เจ้าตัวน้อย ยืนมาเกือบครึ่งวันแล้ว คงจะเหนื่อยมาก เย่เชินหลินคิดในใจเงียบๆ นอกจากนั้น ช่วงที่ทานข้าว ส้งหลิงหลิงชอบทำตัวกะหนุงกะหนิง โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ชอบแสดงท่าทางว่าเขาสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก เขา

ไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นไม่ได้รับความยุติธรรม ก็เลยฉวยโอกาสให้เธอออกไป

“พ่อบ้าน ทำไมถึงให้น้องหรั่นออกไป ฉันจำได้เมื่อก่อนท่านพ่อยังรับน้องหรั่นเป็นลูกสาวบุญธรรม ถึงแม้ตอนนี้สมัครใจเป็นคนรับใช้ พวกเราก็อย่าทำเหมือนเธอเป็นคนรับใช้ น้องหรั่นเป็นถึงคุณหนูคนโตของเสนาธิการหลี่ ตอนนี้มีความทุกข์กับ

เรื่องความรักเหยียบย่ำตัวเอง พวกเราอย่าไปเหยียบย่ำเธอ เชินหลิน นายว่าถูกไหม? ก็ให้น้องหรั่นทานข้าวด้วยกันกับพวกเรา มิเช่นนั้นฉันจะรู้สึกไม่สบายใจ”

เย่เชินหลินมีสีหน้าปกติ แต่ได้อัดอั้นตันใจมาตั้งนาน มองดูเซี่ยชีหรั่นช่างสงบ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงหน้าโต๊ะแล้วยิ้ม ก็ยิ้มของเธอนี่แหละ ทำให้ส้งซูหาวจ้องมอง นึกถึงเรื่องวันนั้นที่ได้ทับตัวเธอไว้ เสียดายที่ตัวเองลงมือช้าไปหน่อย มิเช่นนั้นเธอก็คง

กลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว

“คุณหนูส้ง!” เซี่ยชีหรั่นเรียกอย่างห่างเหิน แล้วพูดขึ้นมา “ขอบคุณในความหวังดี ฉันไม่เคยคิดว่าเป็นคนรับใช้มันเป็นการเหยียบย่ำตัวเอง สูงส่งหรือไม่อยู่ที่จิตวิญญาณ ไม่ใช่ที่ตัวตน ทุกคนเชิญตามสบาย ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ คงไม่เจริญอาหารกัน”

คำพูดของเซี่ยชีหรั่น ทำให้ส้งหลิงหลิงสีหน้าเปลี่ยนสี ความหมายที่พูด ส้งหลิงหลิงทำให้ทุกคนไม่อยากอาหาร

โม่เสี่ยวหนงในใจชื่นชมพี่สาว รู้สึกปกติเธอไม่ชอบพูด แต่ถ้าเวลาเธออยากพูด พูดเก่งกว่าส้งหลิงหลิง ถึงแม้เย่เชินหลินจะนิ่งสงบ แต่ในใจก็ได้ปรบมือให้ผู้หญิงของเขา

ณ.ตอนนี้ เขาหวังอย่างยิ่งว่าเสียงวุ่นวายพวกนี้จะไม่เกิด ในโลกนี้มีเพียงแต่พวกเขา สามารถจ้องมองกันโดยไม่ต้องสนใจใคร สามารถมีกันและกันอย่างลึกซึ้ง

ถือโอกาสที่ทุกคนกำลังมองเซี่ยชีหรั่น เขาก็เหลือบมองเธอทีหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นก็มองกลับมาหาเขาอย่างเงียบๆ แค่พริบตาก็รีบละสายตา แล้วก็หมุนตัวเดินจากไป

ส้งหลิงหลิงใช้แรงบีบผ้าคลุมโต๊ะ สีหน้าดูน่าเกลียด ถ้าหากว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นผู้หญิงไม่มีที่พึ่งเหมือนเด็กกำพร้า เธอคงเรียกเข้ามาตบหน้าเพื่อระบายความเกลียด

“พี่เขย ถึงแม้ชีหรั่นอยู่นี่จะเป็นแค่คนรับใช้ แต่คงไม่เหมือนคนรับใช้ทั่วไปมั้ง? หลิงหลิงท้องโตขนาดนี้ เธออยากพูดโต้เถียง

ยังไงก็ได้ ไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบต่อเด็ก นี่ถ้าเป็นคนใช้คนอื่น พี่จะยอมเหรอ?” ส้งซูหาวเห็นสายตาของพ่อที่ส่งสัญญาณให้ บวกกับเห็นพี่สาวที่โดนเซี่ยชีหรั่นพูดจนทำหน้าไม่ถูก มีสีหน้าเข้มขรึมแล้วถามเย่เชินหลิน

“ซูหาว นายก็รู้ เธอเป็นลูกสาวของเสนาธิการหลี่ พ่อของข้าก็เป็นแค่ประธาน ฉันคงใจไม่กล้าพอจะไปรุกรานตระกูลหลี่” เย่เชินหลินพูดง่ายๆเพื่อฆ่าเวลาของส้งซูหาว แล้วให้พ่อบ้านเสิร์ฟอาหาร

ครอบครัวส้งทานอาหารเสร็จก็ลากลับบ้าน นักข่าวได้นัดเย่เชินหลินสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้าที่ห้องทำงานบริษัท เซี่ยชีหรั่นทานข้าวเย็นเสร็จ เธอก็อยู่กับโม่เสี่ยวหนงที่หอพักคนงาน

โม่เสี่ยวหนงก็เล่นมือถือของเธอเหมือนเดิม เซี่ยชีหรั่นก็ยืนอยู่ตรงหัวเตียงเธอ แล้วเรียกโม่เสี่ยวหนงทีหนึ่ง

“พี่สาวมีอะไรเหรอ เสียงดังรบกวนจัง หนูกำลังคุยกับหนุ่มหล่ออยู่” โม่เสี่ยวหนงรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะพูดอะไร เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องที่น่ารำคาญกับเธออีก

“ทำไมถึงต้องไปดูแลส้งหลิงหลิง เธอคิดยังไง?” เซี่ยชีหรั่นนั่งลง แย่งโทรมือถือโม่เสี่ยวหนง ถามด้วยความจริงจัง

“โอ้ย ไม่เพราะอะไรหรอก ตอนนี้ตรงนี้คือโลกของเธอ ฉันก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน?”โม่เสี่ยวหนงบ่นพึมพำ

“อย่าหลอกฉัน หรือว่าเธอต้องการทำให้เธอแท้ง? ฉันไม่อนุญาตให้เธอทำอย่างนี้!”

“เพราะอะไรถึงไม่อนุญาต? ฉันจะทำให้เธอแท้งลูก!”โม่เสี่ยวหนงได้ยอมรับอย่างง่ายดาย

“เธออยากเป็นแม่เลี้ยงของเธอเหรอ ลูกของคนอื่น จะเลี้ยงให้มีความผูกพันได้เหรอ? ช่างไร้เดียงสาจริงๆ! ไม่ว่าฉันจะเป็นหรือตายก็ไม่ยอมให้เด็กเกิดออกมา มีผลกระทบต่อเธอทั้งชีวิต”

โม่เสี่ยวหนงพูดอย่างนี้ แน่นอนก็มาจากมุมมองของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจทีหนึ่ง พูดเสียงอ่อน “เสี่ยวหนง ลูกเป็นของเย่เชินหลิน เธอทำร้ายเด็ก เขาไม่ปล่อยเธอแน่ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเธอทำเพื่อหวังดีกับฉัน ปล่อยเธอไป แต่ส้งหลิงหลิงก็ไม่

ยอมปล่อยเธอแน่ อย่าทำอย่างนี้ ได้ไหม?”

“พี่! อยู่ในใจพี่ฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันคิดวิธีไม่ได้เหรอ คนที่ดูแลเธอตั้งเยอะแยะ มันง่ายๆ……”

“อย่างนั้นยิ่งไม่ได้ เรื่องที่ตัวเองทำ ทำไมต้องไปป้ายสีให้คนอื่นด้วย?” เซี่ยชีหรั่นพูดขัดจังหวะโม่เสี่ยวหนง

“ใครบอกว่าจะป้ายสีให้คนอื่น ฉันแค่พูดว่า ต้องมีโอกาสแน่นอน ถึงตอนนั้นก็โทษเป็นเพราะเธอไม่ระวังตัวเองก็ได้แล้ว”

โม่เสี่ยวหนงพูดอย่างไม่แยแส ในเมื่อสองวันนี้สมองคิดไตร่ตรองแต่เรื่องนี้ เธอคิด ต้องมีหนทางแน่นอน เพียงแต่ยังคิดไม่ออกเท่านั้นเอง

“เสี่ยวหนง! ยังไงเธอก็จะทำอย่างนี้ ฉันจะไปบอกเย่เชินหลินให้เธอไปจากที่นี่!”เซี่ยชีหรั่นต้องการปกป้องโม่เสี่ยวหนง และก็ไม่อยากให้ชีวิตน้อยๆที่ไร้เดียงสาต้องมาหายสาบสูญไป เป็นตายก็ต้องห้ามไว้

“พี่ ฉันดูเธอช่างโง่เขลา เธอคิดว่ามีแต่เธอเท่านั้นที่เดาเรื่องนี้ได้เหรอ พี่เขยฉันเดาไม่ได้เหรอ? เขารู้อยู่แล้ว แล้วทำไมยังให้

ฉันไปดูแลส้งหลิงหลิง? ฉันดูแล้วเขาก็ไม่ต้องการให้เด็กคนนั้นมาเกิด เขาเกลียดส้งหลิงหลิง และก็เกลียดเด็กคนนั้น!”

คำพูดของโม่เสี่ยวหนงทำให้เซี่ยชีหรั่นนิ่งเงียบไปสักพัก ตรงนี้เธอก็ไม่สามารถเข้าใจได้เหมือนกัน ใครๆก็ดูออกจุดประสงค์ของโม่เสี่ยวหนงคงไม่ง่าย เย่เชินหลินเป็นคนที่ฉลาดขนาดไหน แล้วจะมองไม่ออกได้ไง?

เขาต้องการอะไรกันแน่ ทำไมไม่ห้ามโม่เสี่ยวหนง แต่กลับเหมือนสนับสนุน

สิ่งที่โม่เสี่ยวหนงคาดเดา เธอไม่ยอมรับแน่นอน เธอมองเห็นกับตาที่โรงพยาบาลเย่เชินหลินลูบท้องส้งหลิงหลิง ถ้าเขาไม่ต้องการลูกคนนี้จริง ก็คงไม่ทำท่าทางนั้นออกมา

จริงอยู่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่าเย่เชินหลินเคยบอกให้ส้งหลิงหลิงเอาลูกออกนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการจริง แต่คนเรานี่ความคิดชอบขัดแย้งกัน เธอเข้าใจความรู้สึกของเขาที่ทั้งอยากได้และไม่อยากได้

โม่เสี่ยวหนงคิดว่ากล่อมเซี่ยชีหรั่นสำเร็จ เขาตบไหล่เซี่ยชีหรั่น พูด “พี่ นี่ก็ถูกแล้ว คนเราบางทีก็ต้องเห็นแก่ตัวบ้าง ไม่เห็นแก่ตัวไม่ได้”

“ฉันไม่ตกลง! เสี่ยวหนง ฉันไม่ยอมให้เธอทำร้ายเด็กบริสุทธิ์ ฉันจะจ้องมองเธอ ขัดขวางเธอ ไม่มีวันให้เธอทำอย่างนี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เธอก็จ้องมอง!” โม่เสี่ยวหนงพูดจบ ลุกขึ้นมา เอามือถือเธอกลับไป

ถึงเซี่ยชีหรั่นจะห้ามยังไง พูดจนปากแฉะ เธอก็ไม่โต้ตอบ เซี่ยชีหรั่นหมดปัญญา ก็เลยไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จก็นอนบนเตียงเงียบๆเหม่อลอย

เธอคิด เธอต้องไปหาเย่เชินหลินเพื่อเอาหนังสือมาหลายเล่ม พอดีช่วงนี้ไม่ได้ทำงาน เธอต้องอ่านหนังสือมืออาชีพให้มาก

ทางฝั่งหลี่เหอไท้เธอก็ได้โทรศัพท์ไปแล้ว ได้ลาออกจากงานแล้ว หลี่เหอไท้บอก เธออยากกลับไปเมื่อไหร่ กลับไปได้เลย เพราะตอนนี้ไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ กลับไปทุกเวลาไม่มีผลกระทบอะไร เซี่ยชีหรั่นรู้ คงเป็นเพราะหลี่เหอไท้ดูแลเธอ ห่วงใยเธอ ถึงมีแผนกว่างไว้ให้เธอตลอด เธอบอกเธอไม่กลับไปแล้ว ให้เขาหาคนมาแทน

สำหรับเซี่ยชีหรั่นนั้น เวลากลางคืนนั้นยาวนานมาก ในคืนที่ไม่มีเย่เชินหลิน มันเงียบสงบจนจิตใจว้าวุ่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset