สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 608 สาวใช้ตัวแสบ 512

ตอนที่ 608 สาวใช้ตัวแสบ 512
“คุณส้งต้องขอโทษด้วย กระผมไม่อาจอยู่รอคุณได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณเย่กำลังเจ็บหนัก กระผมต้องรีบไปดูแลเขา” คุณพ่อบ้านพูดจบก็ไม่ได้สนใจว่าส้งหลิงหลิงจะร้อนใจแค่ไหน เขาก็ได้ลงไปชั้นล่างก่อนเสียแล้ว
ส้งหลิงหลิงรีบออกมาจากห้อง รู้สึกว่าขาอ่อนแรงขึ้นมาเล็กน้อย
ทว่าเธอกลับนิ่งลงอย่างรวดเร็ว คิดในใจว่านี่คงเป็นคราวเคราะห์ที่หลีกไม่พ้นของเขาเอง ถ้าเย่เชินหลินบาดเจ็บหนักจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายสำหรับเธอเลย เธอชอบเขานั่นก็ไม่ผิด แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เธอชอบเงินมากกว่า แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับตอนที่เขาบาดเจ็บเมื่อตอนนั้น ตอนนี้เธอมีลูกของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่ระวังขึ้นมา….ลูกของเธอก็จะเป็นผู้รับมรดกมากมายของเขามา ถึงตอนนั้นแล้วเธอก็จะเป็นแม่ที่ได้ดีเพราะลูก ชั่วชีวิตนี้เกรงว่าจะเสพสุขกับลาภยศอย่างไร้ขีดจำกัด
เมื่อเธอคิดดูอีกครั้ง เขากลับมาอย่างนี้ก็คงไม่ได้หนักหนาอะไร บาดแผลเล็กๆก็ยิ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตื่นตูม ไม่อย่างนั้นอาจจะร้อนรนจนเป็นอันตรายกับลูกในท้องได้ อย่างนั้นแล้วมันจะได้ไม่คุ้มเสียเอาได้
ส้งหลิงหลิงเดินกุมราวบันไดแล้วค่อยๆลงไปช้าๆ พอถึงชั้นล่างแล้วถึงจะเร่งฝีเท้าก้าวไปยังห้องนอนของเย่เชินหลิน
“เชินหลิน! คุณเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ?”ส้งหลิงหลิงนั้นแม้ว่าตัวยังไม่ไปถึง แต่เสียงกระวนกระวายของเธอก็ดังเข้ามาก่อนแล้ว
พอเธอปรากฏตัว นักข่าวทั้งสองก็เริ่มถ่ายภาพเธอทันที นี่เป็นคำสั่งของรองประธานส้งที่สั่งเอาไว้ก่อนแล้วว่าถ้ามีโอกาสจะต้องนำภาพส้งหลิงหลิงที่ท้องโตตีพิมพ์ออกมาให้ได้
เห็นว่ามีนักข่าวถ่ายรูปอยู่ ส้งหลิงหลิงก็ได้หยุดฝีเท้าลงทันที ยื่นท้องออกไปเพื่อให้พวกเขาถ่ายได้อย่างชัดๆ
หลังจากที่พวกเขาถ่ายได้หลายภาพแล้ว สีหน้าของเธอก็ได้กลับมาร้อนใจขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ผลักประตูห้องนอนของเย่เชินหลินเข้าไป เห็นว่าเย่เชินหลินได้นอนอยู่บนเตียงและเหล่าคุณหมอพยาบาลประจำวิลล่าแห่งนี้ก็ได้มาถึงแล้วเช่นเดียวกัน และกำลังช่วยกันเขาตรึงขาให้กับเขาอยู่
“เชินหลิน เกิดอะไรขึ้นคะ! คุณทำฉันกลัวแทบแย่!”ส้งหลิงหลิงพูดไปพลางน้ำตาที่เอ่ออยู่นั้นก็ได้ไหลลงมา น้ำเสียงก็สั่นเทาไปหมด
“ผมไม่เป็นไรมาก ไม่ต้องกลัว เพียงแค่บาดเจ็บที่ขานิดหน่อยตรงส่วนอื่นยังปกติดีอยู่” เย่เชินหลินเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน เหล่านักข่าวก็ได้ถ่ายฉากที่ส้งหลิงหลิงเห็นเย่เชินหลินบาดเจ็บจนร้องไห้ออกมาฉากนั้นเอาไว้ เย่เชินหลินเองก็ไม่ได้เอ่ยห้ามอะไรออกไป
“อั้ยหยา คุณพูดอะไรกัน ถึงจะแค่บาดเจ็บที่ขามันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะคะ กระดูกไม่หักใช่มั้ยคะ? นี่ทำไมบนขากางเกงถึงยังมีเลือดอยู่อีกล่ะคะ น่าใจหาย ทำเอาฉันใจหายจริงๆ”ส้งหลิงหลิงทั้งพูดทั้งร้องไห้ออกมา สีหน้าราวกับว่ากำลังเจ็บปวดไม่ปาน เย่เชินหลินมองไปยังเธอ ในใจก็ได้ล่องลอยไปถึงร่างของเซี่ยชีหรั่นเสียแล้ว
เขายังจำท่าทางของเซี่ยชีหรั่นเมื่อตอนที่เขาเกิดอุบัติเหตุครั้งที่แล้วได้อย่างดี เธอดูน่าสงสารจริงๆ ไม่ได้ทำการแสดงร้องไห้ฟูมฟายตีอกชกหัวอย่างนี้ออกมา แต่สายตาของเธอสามารถบรรยายความรู้สึกทั้งหมดของเธอได้อย่างดี
เด็กน้อยคนนั้นถ้ารู้ว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ จะเสียใจขนาดไหนกันนะ? ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เพราะเธอรักเขามากกว่าตอนนั้น
ไม่อาจปล่อยให้เธอรู้เรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องมุ่งหน้ามาที่นี่อย่างแน่นอน
ความจริงก่อนที่เขาจะทำเรื่องนี้ สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เป็นเซี่ยชีหรั่นของเขานั่นเอง และแน่นอนว่ากังวลพ่อกับแม่ของเขาเช่นเดียวกัน กลัวว่าพวกเขาจะเป็นกังวลใจแทนเขา ฝั่งพ่อกับแม่ของเขาฝั่งนั้นยังดีที่เขาแค่ส่งข่าวบอกไปพวกเขาก็จะรู้ว่าเขามีแผนในการทำเรื่องนี้
เซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นคนดื้อรั้น ถ้าเธอไม่เห็นกับตาตัวเองว่าเขาไม่เป็นอะไรจริงๆ เธอไม่มียอมวางใจง่ายๆอย่างเด็ดขาด
ต้องพึ่งความสามารถของไห่ลี่หมินแล้ว จะต้องให้เขารีบพาเธอออกไปจากตงเจียงไปยังหลินเจียง ถ้าเกิดเป็นไปได้ ทางที่ดีที่สุดก็ไม่ต้องไปหลินเจียง แต่ให้เขาพาเธอไปเที่ยวที่อื่นสักที่ก่อน รอจนกลับมาแล้วคาดว่าเรื่องนี้ก็คงไม่มีใครยกขึ้นมาพูดกันอีก
“ไม่ต้องกลัว จัดการอารมณ์หน่อยเดี๋ยวจะกระทบลูกเอานะ”เย่เชินหลินเอ่ยเตือนเธอออกมา แล้วยังยื่นมือมาลูบลงบนผมของส้งหลิงหลิงอย่างอ่อนโยน ภาพความอบอุ่นเหล่านั้นแน่นอนว่าได้ถูกนักข่าวถ่ายเก็บเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“ขออนุญาตถามคุณเย่หน่อยได้มั้ยคะว่าคุณได้วางแผนเอาไว้ว่าจะทำการสู่ขอคุณส้งอย่างเป็นทางการเพื่อสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้กับลูกของพวกคุณเมื่อไหร่กันคะ?”นักข่าวสบโอกาสถามออกไป คำถามนี้ก็เป็นคำถามที่เมื่อคืนรองประธานส้งได้กำชับมาเป็นพิเศษอีกคำถามนึง
ส้งหลิงหลิงมองเย่เชินหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังอีกครั้งนึง ในครั้งนี้สิ่งที่เขาได้พูดออกมาจะแพร่ออกไป ดังนั้นแล้วจึงมีผลกว่าการรับปากกับคนในครอบครัวเพียงฝ่ายเดียว
เย่เชินหลินมองส้งหลิงหลิงนิ่ง กับเธอที่ตอนนี้กำลังเบนความสนใจไปยังเรื่องงานแต่งงานอย่างรวดเร็ว ในใจของเขาก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา กำลังแสดงอยู่แท้ๆแต่ก็ยังหลุดสันดานเดิมออกมาจนได้ เพียงแค่ยกเรื่องการแต่งงานขึ้นมาพูด เธอก็ลืมเรื่องที่เธอกำลัง“กังวล”เรื่องอาการบาดเจ็บของเขาไปอย่างรวดเร็ว
“คำถามนี้ของพวกคุณ ทำเอาผมตอบยากอยู่เหมือนกันนะครับ ต้องรู้ก่อนว่าผู้หญิงต่างก็ชอบงานแต่งคาดไม่ถึงกัน หลิงหลิงเป็นแม่ของลูกผม ผมจะต้องดูแลเธอให้ดีๆ ส่วนเรื่องงานแต่ง พูดออกไปคงไม่ดี หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจผมหน่อยนะครับ”
เมื่อนักข่าวทั้งสองถามขึ้นมาอีกเย่เชินหลินก็ยังคงตอบอ้อมๆออกมาได้อย่างลื่นไหล สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาจนปัญญาที่จะทำภารกิจที่รองประธานส้งมอบให้สำเร็จลงได้
ส้งหลิงหลิงเห็นว่าเย่เชินหลินไม่ยอมรับปากเรื่องงานแต่งงานออกมาเลย เธอรู้ว่าดีว่าถึงแม้ว่านักข่าวจะถามออกมาอีกเขาก็ไม่มีทางพูดออกมา
เธอคิดแล้วคิดอีก ในเมื่อเขาต้องการเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้ เธอก็คงต้องเอาวิธีอื่นมาใช้เสียแล้ว
“เชินหลิน เฮ้อ แค่คุณได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้ แต่ฉันก็ต้องพูดออกมา ฉันกลัวจริงๆกลัวจนใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม คุณไม่รู้ว่าวันนี้หล่อนได้ส่งคนบุกเข้ามาหาฉันกับลูก ฉันร้องวอนขอพวกเขาอยู่นาน ถึงจะสามารถรักษาลูกของเราเอาไว้ได้ เชินหลิน ต่อไปถ้าคุณไปทำงานก็พาฉันไปด้วยเถอะนะได้หรือเปล่า? ฉันกลัวแล้ว ฉันไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียวแล้วจริงๆ”พูดออกมาอย่างนั้นแล้ว ส้งหลิงหลิงก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
เย่เชินหลินขมวดคิ้วแน่น เอ่ยถามเสียงเย็นออกมา “เกิดเรื่องอย่างจริงๆงั้นหรอ? นี่มันเกินไปแล้ว! วางใจเสียเถอะ ต่อไปผมจะปกป้องคุณให้ดีกว่านี้ และจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายลูกของเราอีก”
“จริงหรอคะ? เชินหลิน คุณพูดมาอย่างนี้แล้วฉันก็วางใจ น่าใจหาย คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ฉันเห็นหล่อนอ่อนโยนเสียอย่างนั้น ฉันก็หลงคิดไปว่า…เฮ้อ! ช่างมันเถอะค่ะ ถึงยังไงพวกคุณก็เคยรักกันมาก่อน ไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องนี้จะดีกว่า”
ส้งหลิงหลิงมีจุดประสงค์ที่ต้องการให้ทุกคนรู้เรื่องนี้อย่างชัดเจน รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นจัดการกับเธอยังไง ทำให้เซี่ยชีหรั่นไม่อาจเสนอหน้าอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป เธออยู่ในสถานะที่มั่นคงมากแค่ไหน มีหรือเย่เชินหลินจะไม่รู้
เขามองส้งหลิงหลิงด้วยความชื่นชมอยู่หลายส่วน เอ่ยออกไปอย่างเอาใจ “ไม่บ่อยนักที่คุณจะได้รับความไม่เป็นธรรมมากขนาดนี้ เอาอย่างนี้ ผมไม่อาจปล่อยให้คุณได้รับความไม่เป็นธรรมไปเปล่าๆได้ เรื่องนี้รบกวนคุณนักข่าวทั้งสองท่านช่วยเขียนข่าวให้ด้วยนะครับ เขียนแค่เรื่องนี้ไม่ต้องระบุชื่อนะครับ”
“เชินหลิน คุณดีกับฉันเหลือเกิน!”ส้งหลิงหลิงพูดแล้วยิ้มออกมาในขณะที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด พูดจบก็พุ่งเข้าไปสู่อ้อมกอดของเย่เชินหลิน
ภายในใจของเย่เชินหลินไม่อยากเข้าใกล้เธอเลยแม้แต่น้อย ในตอนที่เธอพุ่งเข้ามาเขาก็คว้าไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วเอ่ยออกมา “ผมบาดเจ็บอย่างนี้แล้ว อยากจะกอดคุณก็ยังกอดไม่ได้เลย”
ส้งหลิงหลิงมีสีหน้ากระดากอายออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็กลับมามองเย่เชินหลินอย่างเป็นกังวลอีกครั้ง แล้วเอื้อมมือเข้าไปตรวจดูแผลของเขา
“เชินหลิน ตอนนี้ยังเจ็บมั้ย?”
เย่เชินหลินส่ายหน้าออกมา
“คุณกลับห้องไปพักเถอะ วันนี้มารับรู้เรื่องน่าตกใจอย่างนี้แล้วจะต้องผักผ่อนให้มากๆจะได้ดีต่อลูกในท้อง ผมเองก็จะพักผ่อนสักพักนึงเหมือนกัน”เย่เชินหลินพูดจบ ก็ได้เอ่ยถามนักข่าวอีกครั้งว่า “ยังมีอะไรต้องให้สัมภาษณ์อีกหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีแล้วค่ะคุณเย่ พวกเราก็ขอไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ก็ควรจะบอกลาอยู่แล้ว ภาพท้องโตๆก็ถ่ายไปแล้ว ภารกิจก็สำเร็จลงแล้ว ก็ต้องกลับไปเป็นธรรมดา เย่เชินหลินคิดในใจอย่างเยือกเย็น แต่ภายนอกก็ยังคงแสดงความสุภาพอย่างมากออกมา ลั่นเสียงเรียกพ่อบ้านมาส่งแขก
“เชินหลิน งั้นฉันกลับห้องก่อนนะคะ คุณเรียกฉันอีกทีได้เลยนะคะถ้าหิว แล้วถ้าไม่อยากกินอาหารที่แม่ครัวทำให้จะให้ฉันมาทำให้คุณก็ได้นะคะ ถึงแม้ว่าฉันจะท้องอยู่ แต่ฉันก็เชื่อว่าลูกน้อยของเราจะต้องเข้าใจแน่ๆว่าคุณแม่กำลังทำอาหารให้คุณพ่อของเขาทาน แล้วก็คงดีใจเหมือนกันค่ะ”ส้งหลิงหลิงเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน เย่เชินหลินยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าให้เธอ
“ถ้าผมหิวผมจะเรียกคุณอย่างไม่เกรงใจเลยครับ”
เย่เชินหลินพูดจบก็มองส้งหลิงหลิงอย่างอ่อนโยน มองตามหลังจนเธอเดินออกจากห้องไป
ส้งหลิงหลิงเดินออกมาจากห้องเย่เชินหลินแล้วนั้นรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าก็ได้เก็บกลับไปทันที กางเกงของเย่เชินหลินมาคราบเลือดใหญ่ซะขนาดนั้น ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
เธอคิดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องจริงไปเสียยิ่งกว่าครึ่ง ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมาอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรนักข่าวพวกนั้นก็เป็นพ่อของเธอเป็นคนหามา จะต้องเป็นคนของคุณพ่อของเธอ เขาไม่มีทางสร้างเรื่องโกหกอยู่ใต้จมูกพวกเธอได้หรอก
งั้นถ้ามันเป็นเรื่องจริง เป็นไปได้ที่จะเป็นคุณพ่อของเธอที่เป็นคนทำ? ไม่อย่างนั้นทำไมมันถึงได้เหมาะเจาะกันอย่างนี้ได้ ในตอนที่นักข่าวจะมาสัมภาษณ์ แล้วเขาก็เกิดอุบัติเหตุ?
คุณพ่อของเธอถึงแม้ว่าจะขี้ขลาดและระมัดระวังอย่างมาก ทว่าถ้าถูกกระตุ้นจนสุดขีดจำกัดจริงๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ที่คุณพ่อของเธอจะทำเรื่องนี้ เธอรู้จักคุณพ่อของเธอดี ครั้งนี้ที่เย่เชินหลินได้จับคู่ให้กับเซียวเสี่ยวลี่และส้งซูหาว อย่างนั้นแล้วเกรงว่าคงจะไปสะกิดโดนเส้นความอดทนของเขาเข้า
คุณพ่อนะคุณพ่อ คุณพ่อทำอย่างนี้มันก็ดี จะต้องสั่งสอนให้เขาได้ลิ้มลองฝีมือของพวกเธอเสียบ้าง ให้เขารู้ว่าตระกูลส้งของพวกเราไม่ใช่ว่าจะมาลองดีกันได้ง่ายๆ
ส้งหลิงหลิงคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเดินกลับห้องไป หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ไห่ลี่หมินก็เดินทางมาถึง คุณพ่อบ้านก็ได้เข้ามารายงานกับเย่เชินหลิน
“จะเชิญคุณไห่ลี่หมินเข้ามาหรือเปล่าครับ?”
“ให้เขาเข้ามา!”เย่เชินหลินลั่นเสียงเอ่ยออกมา
“ครับ คุณเย่”
ใบหน้าของเย่เชินหลินนิ่งเรียบลง แต่ภายในใจยังมีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่หลายส่วน เขารู้ว่าหลังจากที่โม่เสี่ยวจุนและไห่ฉิงฉิงได้พาเซี่ยชีหรั่นออกไปก็ได้พาไปพบกับไห่ลี่หมิน พวกเขาทั้งสองคนอาจจะกำลังพูดคุยกันอยู่แล้วเขาก็ได้รับรายงานว่าตัวเขาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
หายากที่จะเห็นเขาให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าผู้หญิงอย่างนี้ สามารถปล่อยเซี่ยชีหรั่นไปแล้วรีบเดินทางมาที่นี่ทันทีแบบนี้
ยามที่ไห่ลี่หมินก้าวเข้ามาก็ตั้งใจมองออกไปด้านนอกประตูแวบนึง หลังจากที่คุณพ่อบ้านได้เชิญเขาเข้าไปจึงได้เดินไปทันที ในตอนที่เขาปิดประตูแล้วพูดกับเย่เชินหลินนั้นเขาไม่ได้แสดงความกังวลออกมาเลยแม้แต่น้อย
พอเขาเข้ามาในห้องของเย่เชินหลิน สายตาก็ไม่ได้หลุดออกไปจากขาที่บาดเจ็บของเขาเลย คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างสงสัย
พวกเขาต่างก็เป็นผู้ชายที่โตๆกันแล้ว ขาบาดเจ็บมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตนัก เห็นขาของเขาถูกพันเอาไว้อย่างนั้น ในใจของเขาก็ดูเหมือนว่าจะจับจุดขึ้นมาได้แล้วบ้าง
จากนั้นเขาก็สังเกตไปยังคราบเลือดที่ยังติดอยู่บนกางเกงของเขา ปมระหว่างคิ้วของเขาก็ได้คลายลงทันที
เขาเร่งเดินเข้าไปแล้วนั่งลงข้างเตียงของเย่เชินหลิน ใช้หมัดเคาะลงไปบนบริเวณที่พันแผลเอาไว้ของเย่เชินหลินหนึ่งที
“อ๊า! นายจะฆ่าฉันหรือไงห๊ะ!”เย่เชินหลินร้องออกมาอย่างเกินจริง ไห่ลี่หมินแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย พูดออกไปเสียงต่ำว่า “ก็รู้อยู่หรอกว่าคนอย่างนายกำลังสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา หลอกคนอื่นได้ แล้วคิดว่าจะหลอกฉันได้งั้นหรอ?”
“รู้ได้ยังไง?” เย่เชินหลินเอ่ยถามเสียงนิ่ง เขาก็ไม่ได้คิดจะปกปิดเขาหรอกนะ แต่หมอนี่มันฉลาดเกินไป ยังดีที่เป็นเพื่อนไม่ใช่ศัตรูกัน ไม่อย่างนั้นถ้าสู้กับเขาไม่แน่ว่าอาจจะเหนื่อยเสียยิ่งกว่าการสู้กับจิ้งจอกเฒ่าทั้งสองเสียอีก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset