สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 635 สาวใช้ตัวแสบ 539

ตอนที่ 635 สาวใช้ตัวแสบ 539
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้หยุดฝีเท้า เธอพยักหน้า และยังคงรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ
หลังจากที่รอเธอเดินออกมา ไห่ลี่หมินได้จัดการอารมณ์ของตนเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า:“คุณก็คิดเสียว่าผมแซ่เย่ก็แล้วกัน คุณวางใจเถอะ ผมไม่คิดกับคุณเกินเลยอย่างแน่นอน”
“ฉันรู้ ขอบคุณมากนะคะ เฮ้อ คุณเป็นยังไงบ้าง เมื่อคืนวานนี้……”เซี่ยชีหรั่นก็ปลงตกแล้ว ไหนๆพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน สนิทสนมกันหน่อยจะเป็นอะไรไป ก็คิดเสียว่าเขาเป็นเพื่อนรักของตนก็แล้วกัน
เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่ถามตรงๆเช่นนั้นออกไป ถามออกไปได้เพียงครึ่งประโยค สีหน้าของไห่ลี่หมินก็ดูไม่เป็นธรรมชาติเสียแล้ว
“ผมไม่เป็นไร ผมสบายดี ผมคงคิดมากเกินไป ”ไห่ลี่หมินตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ในตอนนี้นี่เองเซี่ยชีหรั่นถึงได้สังเกตเห็นรอยแผลบนมือของเธอ เธอเหลือบมองเขาสองสามครั้งด้วยความเป็นห่วง ภายในใจคิดว่ารอยแผลนี้ได้มาเพราะเขาควบคุมฤทธิ์ของยาใช่ไหม
“ไม่เป็นไรมากหรอก ไปเถอะ พวกเราออกไปทานข้าวข้างนอกกันเถอะ เมื่อคืนคุณนั้นเหนื่อยมาก เดี๋ยวจะหิว”ไห่ลี่หมินพูดขึ้นหนึ่งประโยค สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นก็แดงขึ้นทันที และนี่คือสิ่งที่เขาต้องการ สีหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ และนี่ก็คือสิ่งที่ยืนยันว่าพวกเขาทั้งสองคนเคยมีอะไรกันจริงๆ
“ค่ะ พวกเราไปทานข้าวกันเถอะ”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ และเขยิบเข้ามาโอบไหล่ของไห่ลี่หมิน
หากต้องแสดงละครนี้ต่อไป เธอจะเขินอายไม่ได้ มิฉะนั้นแล้วไห่ลี่หมินจะทำตัวลำบาก
ไห่ลี่หมินเปิดประตู ส่วนมือของเขานั้นโอบเอวของเธอ และเป็นไปดั่งที่เขาคิดไว้ มีคนจำนวนมากมาห้อมล้อมพวกเขาและถ่ายรูปพวกเขา
หากเย่เชินหลินไม่ได้กำชับไว้ล่ะก็บอดี้การ์ดก็คงออกมาขัดขวางคนเหล่านั้นไว้ แต่เนื่องจากเย่เชินหลินได้สั่งไว้พวกเขาก็เลยสามารถถ่ายรูปได้อย่างราบรื่น “ประธานไห่เมื่อวานพวกเราได้รับข่าวมาว่า คุณกับอดีตภรรยาของเย่เชินหลินพลอดรักกันอย่างดูดดื่ม ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริง คุณสามารถพูดถึงความรู้สึกของคุณตอนนี้หน่อยไหม?”
สีหน้าของไห่ลี่หมินนั้นจริงจัง เขาโอบเซี่ยชีหรั่นเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ไม่ให้คนเหล่านั้นถ่ายใบหน้าของเธอ
“ขอโทษนะครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น ขอตัวนะครับ!” ไห่ลี่หมินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ และโอบเซี่ยชีหรั่นเดินไปข้างหน้า
“ได้ยินมาว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทกับคุณเย่แห่งบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ทำไมคุณถึงได้พัฒนาความสัมพันธ์กับเธอได้รวดเร็วนัก ทั้งๆที่พวกเขาเพิ่งจะเลิกรากันไม่ใช่เหรอ?นี่ไม่ใช่เป็นการยืนยันเหรอว่าคุณแย่งเธอมาเหรอ?”นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงสูงและแหลม
เซี่ยชีหรั่นไม่คุ้นชินกับการถูกโอบล้อมเช่นนี้ หากจะบอกว่าตอนเริ่มแรกนั้นเขายังรู้สึกเหมือนถูกไห่ลี่หมินบังคับให้เข้าใกล้เขานั้นก็ใช่ แต่ตอนนี้การที่เธอเป็นฝ่ายเข้าใกล้เขาก่อนนั้น มันคือสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของเธอ
เธอจับเสื้อเชิ้ตของไห่ลี่หมินไว้แน่น ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่น
“พวกคุณถอยออกไป !ถอยออกไป ผมจะไม่เกรงใจแล้วนะ!ผมชอบเธอแล้วยังไง ?ไม่เคยได้ยินเหรอว่าผู้หญิงที่สวยและดี ก็คู่ควรกับสุภาพบุรุษไม่ใช่เหรอ ?ตอนนี้เธอเป็นโสดแล้ว ผมก็เป็นโสดเหมือนกัน ผมมีสิทธิ์ที่จะตามจีบผู้หญิงที่ผมรัก มีอะไรน่าสนใจให้พวกคุณถ่ายรูป?”ไห่ลี่หมินถามขึ้นด้วยความโมโห
“ประธานไห่ ท่านเป็นคนของสังคม พวกเราสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวของคุณก็เพราะคุณเป็นที่สนใจของประชาชน ประชาชนรักและเป็นห่วงคุณ คุณต้องรับผิดชอบต่อประชาชน พวกเราก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนเช่นกัน ดังนั้นก็หวังว่าประธานไห่จะเห็นใจว่าพวกเราก็ลำบากใจเช่นกัน อย่าข่มขู่พวกเราด้วยคำพูดเช่นนั้นเลย พวกเราควรที่จะสนับสนุนเสรีภาพในการพูด!”นักข่าวสาวคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเข้มแข็งและอ่อนโยน
ไห่ลี่หมินรู้ดีว่าคำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่พวกนักข่าวได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อีกทั้งเบื้องหลังของพวกเขายังเป็นประธานจง และรองประธานส้ง พวกเขาไม่เกรงกลัวตำแหน่งเล็กๆอย่างเขาหรอก
“อะไรคือเสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการพูดคือการก้าวล้ำพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่นงั้นหรือ?ถ่ายรูปผมน่ะได้ แต่ใครก็ห้ามถ่ายใบหน้าของเธออย่างเด็ดขาด!”ไห่ลี่หมินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
เขาไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนั้นออกไป นักข่าวเหล่านั้นก็เริ่มรู้สึกเกรงกลัว
“ที่รัก ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเราไม่ต้องกลัว” เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนและลูบศีรษะของเธอเบาๆ เซี่ยชีหรั่นก็ให้ความร่วมมือกับเขา เพียงแต่ศีรษะของเขานั้นมันใกล้กับหน้าอกของเธอเหลือเกิน
ขณะที่ไห่ลี่หมินพูดคำพูดเหล่านี้ออกไป ก็ทำให้สิ่งที่พวกนักข่าวเหล่านี้อยากนำไปเขียนข่าวปรากฏขึ้น เขาไม่ได้ยอมรับว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาทั้งสอง เขาก็แค่ยอมรับว่าเขานั้นรักเซี่ยชีหรั่นก็เท่านั้น
“ตกลง ประธานไห่พวกเราจะไม่ถ่ายใบหน้าของเธอ แต่ว่าพวกเรานั้นเป็นห่วงเรื่องส่วนตัวของท่าน ดังนั้นขอให้ท่านตอบคำถามพวกเราสักสองสามคำถาม ได้ไหม?”ท่าทางของนักข่าวคนนี้ไม่ได้วางท่าสั่งการเขาเหมือนนักข่าวคนก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังใช้คำพูดที่ให้เกียรติให้การถาม
“ถามมาเถอะ หากตอบได้ผมจะตอบ”
“ประธานไห่ คุณจริงจังกับเธอใช่ไหม?”นักข่าวสาวถามขึ้น
“ครับ ผมจริงจัง ชาตินี้ทั้งชาติผมรักผู้หญิงคนนี้เพียงแค่คนเดียว” ไห่ลี่หมินพูดขึ้นต่อหน้าสาธารณะ เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา
ก็แค่การแสดงจื้อเซวียน ไม่ต้องจริงจังขนาดที่พูดว่าตลอดชาติก็ได้ หากหนังสือพิมพ์ยังคงถูกเก็บไว้ ภรรยาของคุณในอนาคตจะคิดอย่างไรกัน
จากสายตาของเธอเขาก็สามารถเดาได้ว่าเธอนั้นต้องการที่จะพูดอะไร เขามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนและลูบศีรษะของเธอเบาๆ และพูดความในใจลึกๆออกมาว่า:“ผมรักคุณ และชาตินี้ผมก็จะรักคุณเพียงคนเดียว ประโยคนี้ผมได้พูดออกไปแล้ว ผมจะไม่มีทางสายใจภายหลังอย่างเด็ดขาด”
สำหรับเขาแล้ว ความรักในครั้งนี้เขาต้องการที่จะให้คำมั่นสัญญาไว้เช่นนี้ เขานั้นรู้สึกสบายใจ
ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการให้เธอเข้าใจด้วย หากวันหนึ่งเธอไม่สามารถที่จะไปต่อกับเย่เชินหลินได้แล้ว เขาจะรอเธออยู่ตรงนี้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset