สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 718 สาวใช้ตัวแสบ 622

ตอนที่ 718 สาวใช้ตัวแสบ 622
“หลิน? คุณกำลังฝันอยู่นะ! ตื่นได้แล้ว!” เซี่ยชีหรั่นเขย่าเย่เชินหลินอีกครั้ง เขาจึงตั้งสติได้ แล้วจ้องหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างมึนงง จากนั้นสักพักเขาก็รู้ตัวว่ามันเป็นแค่ความฝัน
เซี่ยชีหรั่นยังคงมองหน้าเขาอย่างจริงจัง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแสดงออกถึงความกังวลและความประหลาดใจ ความเอาใจใส่ต่อลูกที่เขาแสดงออกในความฝันนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่ทันตั้งตัว
“ผมทำให้คุณตกใจไหม? ผม……เพิ่งฝันร้าย” เขากอดเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วค่อย ๆ อธิบาย
เขาฝันร้ายเหรอ? แค่ลูกร้องไห้ก็ถือว่าเป็นฝันร้ายแล้วเหรอ? ลูกของใครไม่ร้องไห้บ้าง? เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจ ตามเหตุผลนั้นเย่เชินหลินเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ต่อให้ผู้ดูแลบ้านทำผิดหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ยังให้ผู้ดูแลบ้านอยู่ต่อในบ้านตระกูลเย่ และหมอห่าวที่มาช่วยส้งหลิงหลิงช่วงที่เธอตั้งครรภ์ก็เช่นกัน หลังคลอดเขาก็ไม่ให้หมอไปไหนเพราะเคยมาช่วยงานที่นี่ แต่นี่แค่ฝันว่าลูกร้องไห้กลับต้องโมโหคนอื่นขนาดนี้?
เซี่ยชีหรั่นคิดว่าคงจะอ่อนไหวต่อความคิดของตนมากไป และไม่รู้ว่าตัวเองคิดได้อย่างไร ว่าหากวันหนึ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างเธอกับลูกของเขา เย่เชินหลินคงเลือกอยู่ข้างลูกมากกว่าใช่ไหม?
“ติ๊งต๊อง ทำไมขี้กลัวขนาดนี้ คุณตกใจจริง ๆ เหรอ?” เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดอะไร เย่เชินหลินก็กอดเธอให้แน่นขึ้น
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ แล้วคิดถึงเรื่องนี้เป็นพัน ๆ ครั้ง สุดท้ายก็พูดออกมาจนได้ เพราะเธอควรซื่อสัตย์ต่อกัน เธอคิดเช่นนี้
“หลิน คุณฝันว่ามีคนทำให้ลูกร้องไห้ใช่ไหม? แล้วใครเป็นคนทำให้เด็กร้องไห้เหรอ?”
“สาวใช้” เย่เชินหลินไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เพราะในความฝันของเขานั้นไม่ใช่แค่ลูกร้องไห้เท่านั้น ยังมีเรื่องที่หมอคนนั้นได้พูดกับเขาด้วย หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วแต่คำพูดในความฝันนั้นยังคงชัดเจนในสมองของเขา หมอที่บอกกับเขาว่าเด็กคนนี้ทำได้เพียงรอความตายทำให้เขาต้องเหงื่อแตกไปทั่วร่างกาย ซึ่งหมอตอนเช้านี้ไม่กล้าพูดกับเขาแบบนี้ แต่เขาก็พอฟังออกเหมือนกันว่าหมอพยายามหมายถึงอะไร เพียงแต่ไม่กล้าพูดเท่านั้น เขาถึงฝังใจในเรื่องนี้แล้วเก็บมาฝันจนได้
“หลิน ฉันอยากถามคุณเรื่องหนึ่ง ถ้าวันหนึ่งฉันไม่ตั้งใจทำให้ลูกร้องไห้ คุณจะโทษฉันแบบนี้ไหม?” เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่แน่ใจ
เย่เชินหลินยังคงคิดอยู่ในใจว่าเขาต้องรักษาลูกหายให้ได้ เพราะเขามาถึงโลกนี้ทั้งทีแล้ว เขามีหน้าที่ต้องทำให้ลูกมีชีวิตอยู่รอดและร่างกายแข็งแรงไปตลอด
เขาเป็นพ่อของลูก เขาอุ้มลูกขึ้นมา เขากล่อมลูกแล้วลูกหยุดร้องไห้ นั่นก็หมายถึงลูกต้องการพ่อมาก
“หืม? คุณว่าไงนะ?” เย่เชินหลินถาม เซี่ยชีหรั่นเพิ่งสังเกตเห็นถึงความว่างเปล่านัยน์ตาของเขา ถึงแม้เขาจะตื่นแล้วแต่ความคิดยังคงจมอยู่กับความฝันเมื่อครู่นี้
เซี่ยชีหรั่นยังคงอดอัดใจและคิดว่าความรู้สึกแบบนี้มันคือความหึงหวงหรือเปล่า? เธอต้องแพ้ให้กับเด็กทารกคนหนึ่งที่เพิ่งคลอดแล้วเบี่ยงเบนความสนใจของเย่เชินหลินจากเธอไป? นั่นมันไม่สมควรเลย ความคิดแบบนี้มันช่างไร้ซึ่งความรักเหลือเกิน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกผิดและคิดว่าคำถามของเธอนั่นเห็นแก่ตัวเกินไป
เด็กเป็นลูกแท้ ๆ ของเย่เชินหลินยังต้องถามอีกเหรอ? เด็กตัวเล็กแค่นี้ บอบบางขนาดนี้ ก็สมควรได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่เป็นเรื่องปกติ ถ้าวันหนึ่งเธอมีปัญหากับเด็กคนนี้ก็ต้องเป็นความผิดของเธอคนเดียว เด็กทารกคงไม่มีปัญญามาหาเรื่องเธอหรอก ไหน ๆ เธอยอมรับเด็กคนนี้แล้ว ก็ควรเปิดใจให้เขาและรักเขาให้มากที่สุด
เซี่ยชีหรั่น เธอลองคิดดูดี ๆ ถ้าลูกเป็นของเธอ เธอยังมีความสงสัยแบบนี้อีกไหม? แน่นอนว่าไม่มีความสงสัยและความกังวลแบบนี้หรอก ถ้าเช่นนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเธอเองที่ยังไม่ดีพอ
เซี่ยชีหรั่นเม้มปากแล้วยิ้มพูดเบา ๆ “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก เรานอนต่อดีกว่า พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก คุณก็ต้องไปโรงพยาบาลด้วย”
“อื้ม หลับเถอะ คุณหลับก่อนเลย” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นแล้วนอนลงอีกครั้ง
เขาไม่ได้ถามเรื่องที่เธอสงสัยอีก เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ ต่อให้เธอมีอารมณ์เชิงลบเพียงเล็กน้อยเขาก็จะถามให้ชัดเจนว่าเธอคิดอะไรอยู่
เธอรู้สึกได้ว่าความคิดของเขายังอยู่ที่เด็กคนนั้น สีหน้ายังคงขมขื่นอยู่ แต่เธอก็ไตร่ตรองใหม่กับความคิดตัวเองเหมือนกัน
เซี่ยชีหรั่น อันที่จริงเธอไม่ได้เห็นแก่ตัวหรอก เธอแค่ไม่ชินกับชีวิตที่เป็นพ่อคนของเขาเท่านั้น เมื่อหลังจากที่เธอได้พบเจอกับเด็กคนนั้น ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นเอง
เธอนอนไม่หลับ เย่เชินหลินก็นอนไม่หลับเช่นกัน
หลังจากรุ่งสาง เย่เชินหลินยังคงเข้าฟิตเนสเหมือนเดิม เขาค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงเพื่อจะไม่ให้รบกวนเซี่ยชีหรั่นที่กำลังหลับอยู่
เซี่ยชีหรั่นตั้งนาฬิกาปลุกเจ็ดโมงครึ่งเพื่อตื่นมาเตรียมตัว
เขาสองคนทานอาหารเช้าด้วยกัน หลังจากอาหารเช้าแล้วเย่เชินหลินก็ส่งเซี่ยชีหรั่นไปทำงาน
“หลิน คุณไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้นะ ฉันไปเองได้ อีกอย่างฉันไม่ได้ไปเองหรอก คุณให้เซี่ยอี้ชิงมาดูแลฉันไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่เป็นไร ก็เป็นทางผ่านอยู่”
“ทางผ่านที่ไหนล่ะ คุณส่งฉันไปที่ออฟฟิศแล้วต้องวนรถกลับไปที่โรงพยาบาลอีกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงนะ”
เซี่ยชีหรั่นเข้าใจเจตนาของเย่เชินหลินเหมือนกัน เพราะเขากำลังทำให้เธอได้เห็นว่าการกระทำทุกอย่างของเขาที่มีต่อเธอนั้นยังคงปกติไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีลูกแล้วก็ตาม
ถ้าเขาคิดแบบนี้เธอก็มีความสุขแล้ว แม้จะไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเหมือนก่อน แต่เธอก็จะค่อย ๆ ปรับตัวให้ชินไปเอง
“เอาเหอะ มันเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ผมก็ต้องไปทำงานด้วย” เย่เชินหลินลูบผมเธอเบา ๆ และไม่ให้เธอปฏิเสธเขา
หลังจากส่งเซี่ยชีหรั่นเสร็จ เย่เชินหลินขมวดคิ้วแล้วตระหนักใจอยู่สักพัก สุดท้ายก็ให้คนขับพาเขาไปที่โรงพยาบาลก่อน
เดิมทีบอกไว้ว่าวันนี้เขาจะไม่เข้าไปแล้ว แต่ถ้าไม่ได้เห็นกับตาก็จะรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน
หลังจากที่เย่เชินหลินไปถึงโรงพยาบาล ส้งหลิงหลิงก็ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยและกำลังให้นมลูกอยู่ เขาเหลือบมองอยู่หน้าประตูสักพัก แต่ไม่เห็นส้งหลิงหลิงบ่นว่าเจ็บอีก เธอกำลังให้นมลูกอย่างตั้งใจและสีหน้าท่าทางของเธอยังคงมีความเป็นแม่อยู่
ไม่ว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็เป็นลูกแท้ ๆ ของเธอ จะไม่ให้รัก ไม่ให้ชอบ ก็คงเป็นไปไม่ได้
เด็กไม่ได้ร้องไห้ เขาก็คิดว่าจะไม่เข้าไปแล้ว
“คุณเย่คะ!” แม่บ้านที่ไปตักน้ำอุ่นเข้ามาเรียกเขาด้วยความเคารพ เมื่อส้งหลิงหลิงได้ยินว่าเย่เชินหลินมาก็ดีใจไม่น้อย
“เหิงเหิง ดูสิ คุณพ่อมาหาแล้วนะ ลูกได้ยินไหม? ลูกดูคุณพ่อสิ พ่อเป็นห่วงลูกมากแค่ไหน พ่อทำงานยุ่ง ๆ แบบนี้ก็ยังหาเวลามาดูลูกตั้งแต่เช้าเลยนะ”
ถึงยังไงแล้วส้งหลิงหลิงก็ยังอยู่ในช่วงของการอยู่เดือน เย่เชินหลินจึงไม่อยากให้เธอต้องคิดมาก ไหน ๆ เธอก็เห็นเขามาแล้ว ก็เดินเข้าไปให้เธอซะเลยดีกว่า
แม่บ้านรีบเดินนำหน้าไปเปิดประตูให้เขา ผู้ดูแลบ้านก็รีบออกมาต้อนรับ คนใช้ทั้งหมดก็พูดอย่างพร้อมเพรียงกัน “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่!”
เย่เชินหลินกวักมือส่งสัญญาณให้พวกเขาแล้วพูด “ที่นี่คือโรงพยาบาล วันหลังไม่ต้องทำแบบนี้แล้วนะ เดี๋ยวจะเสียงดังรบกวนคนไข้ห้องอื่น”
คนในนี้ก็เยอะพอสมควรแล้ว ถ้าไม่ใช่กรณีพิเศษเขาคงไม่ให้คนมากมายมากองอยู่ในห้องพยาบาลนี้หรอก
“เชินหลิน คุณมาแล้วเหรอ? เมื่อคืนได้พักผ่อนดี ๆ ไหม?” ส้งหลิงหลิงถามอย่างอ่อนโยน หลังจากที่ได้นอนพักผ่อนมาทั้งคืน ตอนนี้สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นมากแล้ว
“ก็โอเค เป็นไงบ้าง เมื่อคืนลูกร้องไห้ไหม?”
เมื่อเห็นเขายังคงเป็นห่วงลูก ส้งหลิงหลิงรู้สึกดีใจมาก แล้วพูดอย่างภูมิใจว่า “ไม่ร้องหรอก ลูกของเราเป็นเด็กดีที่สุดแล้ว อีกอย่างมีคนมาช่วยมากมายแบบนี้ ฉันก็คงปล่อยให้ลูกร้องไห้ไม่ได้หรอก”
“ไม่ร้องก็ดีแล้ว ทุกคนทำงานเหนื่อยหน่อยนะ” สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองไปในห้องแล้วสังเกตเห็นว่าแม่บ้านหายไปหนึ่งคน เพราะส้งหลิงหลิงยืนยันจะไม่ใช้แม่บ้านคนนั้นเธอจึงต้องกลับไป แต่หลินหลิงบอกว่าวันนี้จะหาคนมาแทนแล้ว
แม่บ้านทุกคนรู้สึกโล่งใจและต่างก็ภาวนาอยู่ในใจตลอด ขอร้องคุณชายน้อยอย่าร้องไห้เชียวนะ ขอแค่คุณชายน้อยไม่ร้องไห้ พวกเราทำงานที่นี่หนึ่งเดือนก็เหมือนทำที่อื่นเป็นปีแล้ว
“ผมไปทำงานก่อน” เย่เชินหลินพูด
“คุณเพิ่งมาก็จะไปแล้วเหรอ? จะอุ้มลูกก่อนมั้ย?” ส้งหลิงหลิงมองเย่เชินหลินด้วยความคาดหวัง นัยน์ตาของเธอที่อยากให้เย่เชินหลินเข้าใกล้ลูกแค่มองก็ดูออกแล้ว
“ลูกกำลังกินนมอยู่ ผมไม่อุ้มละ เดี๋ยวลูกจะร้องไห้”
“โอเค!” ส้งหลิงหลิงถอนหายใจแล้วพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “คุณไปทำงานเถอะ ตอนเที่ยง……ช่างเถอะ คุณทำงานก่อนดีกว่า ไม่ต้องมาแล้ว ฉันรู้ว่าคุณงานยุ่งมาก”
คำพูดติด ๆ ขัด ๆ ของเธอ เขาจะไม่เข้าใจความหมายได้อย่างไร
“ถ้าผมมีเวลาจะแวะมาหา” ถือว่าเป็นการตอบที่อ่อนโยนสำหรับเย่เชินหลิน จากนั้นมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกที่กำลังกินนมอยู่ รู้สึกว่าที่จริงลูกก็น่ารักดีนะ
ก่อนที่เย่เชินหลินจะก้าวออกจากประตู ส้งหลิงหลิงก็เรียกเขาอีกครั้ง “หลิน คุณช่วยมาดูหน้าลูกหน่อยสิว่าเป็นสีเหลืองจริงไหม แม่ฉันบอกว่าสีหน้าของลูกดูเหลืองตั้งแต่หลังคลอดแล้ว ฉันมองไม่ออก คุณช่วยมาดูหน่อยสิ”
เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร หันกลับไปแล้วมองใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกอย่างตั้งใจ
“น่าจะไม่มีนะ แต่ก็ควรระวังไว้หน่อย เดี๋ยวหมอจะมาตรวจ คุณช่วยถามคุณหมอก็แล้วกัน ผมไปก่อนละ”
ก็ยังคงรั้งเขาไว้ไม่ได้อยู่ดี ส้งหลิงหลิงรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่ก็คิดว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นห่วงเด็กมาก ตราบใดที่เขายังห่วงเด็กคนนี้ เธอก็ยังคงมีโอกาสอยู่เสมอ
“เชินหลิน แม่ของฉันเหนื่อยเกินไป เมื่อคืนฉันก็เลยให้แกกลับไปพักผ่อนที่บ้าน แกอยู่คนเดียวที่บ้านคงเหงาแย่เลย เมื่อก่อนบ้านของฉันไม่เคยเงียบเหงาแบบนี้มาก่อน ฉันอยากขอความคิดเห็นจากคุณหน่อย หลังฉันออกจากโรงพยาบาลฉันอยากพาแม่มาอยู่ที่วิลล่าของคุณด้วย คุณจะได้หรือเปล่า” ส้งหลิงหลิงพูด
“ขึ้นอยู่กับแม่ของคุณแล้วล่ะ ถ้าแกอยากตามไปดูแลคุณด้วยก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ผมเห็นด้วย แต่ถ้าแกไม่อยากไปอยู่ด้วยผมก็ไม่บังคับหรอกนะ”
“ขอบคุณนะเชินหลิน ขอเพียงคุณรับปากแม่ของฉันต้องไปแน่นอน เพราะแกค่อนข้างกังวลฉัน” ส้งหลิงหลิงมองไปที่เย่เชินหลินด้วยความเสน่หาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยอกน้อยใจ
ในสายตาเขา ไม่สามารถมีผู้หญิงคนอื่นได้อีกแล้ว ดังนั้นที่เธอพยายามหาเรื่องคุยกับเขาและพยายามรั้งเขาไว้นั้นมีแต่จะทำให้เขารังเกียจมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังอยู่เดือน เขาจึงพยายามไม่ชักสีหน้าใส่เธอ แต่ตอนนี้เธอมีลูกอยู่ข้าง ๆ แล้วยังพูดจาได้ใจแบบนี้ เขาก็คงตามใจเธอเสมอไปไม่ได้หรอก
“คุณเพิ่งคลอดลูก ไม่จำเป็นก็อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่นให้มากนัก ถ้าว่างจริง ๆ ก็ให้คิดถึงลูกของคุณว่าจะทำอย่างไรให้ลูกได้เติบโตอย่างมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะดีกว่า คุณเป็นแม่ของลูกนะ ผมคิดว่าคุณควรรู้ดีว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร”
สีหน้าเย่เชินหลินค่อนข้างเย็นชา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรที่รุนแรงมาก แต่เมื่อพูดต่อหน้าผู้คน ส้งหลิงหลิงก็รู้สึกอายจนหน้าแดงเหมือนกัน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset