สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 726 สาวใช้ตัวแสบ 630

ตอนที่ 726 สาวใช้ตัวแสบ 630
“ค่ะ”เซี่ยชีหรั่นรับคำ
“หลิน คุณออกไปที่ไหนเหรอ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?ฉันคิดว่าเด็กน้อยกลับมาบ้านเป็นวันแรก คุณจะอยู่ที่บ้านเสียอีก”
เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย การเดินทางของพระองค์ในครั้งนี้จะต้องเป็นความลับ สถานะของพระองค์ก็ต้องเป็นความลับเช่นกัน
เย่เชินหลินได้รับคำสั่งลับ แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะแพร่งพรายออกไปได้ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไม่มีทางที่จะพูดเรื่องนี้ออกไป เขาก็ไม่สามารถบอกความจริงกับเธอได้
“ผมออกมาคุยธุรกิจข้างนอก”
“ตอนเย็นจะกลับมาใช่ไหม?”เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นราวกับภรรยาถามสามี พอเธอตื่นมาก็ไม่เห็นเย่เชินหลินอยู่ที่บ้าน ภายในใจนั้นรู้สึกว้าเหว่
“ผมจะพยายาม หากผมไม่กลับมา คุณก็ดูแลตัวเองดีดีหล่ะ หากกลัวก็ให้เสี่ยวหนงไปนอนเป็นเพื่อน”
เนื่องจากเย่เชินหลินนั้นพูดภาษาจีน ทำให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่จากท่าทางและน้ำเสียงของเขาก็สามารถที่จะเดาได้บ้าง
“เขาพูดอะไรหน่ะเหรอ?”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถามล่ามที่อยู่ข้างๆ ล่ามก็ได้แปลให้เธอฟัง
หลังจากรอจนกระทั่งเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นคุยโทรศัพท์กันเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย ยิ้มหยอกเขา:“คุณช่างเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เธอนั้นโชคดีมาก”
สีหน้าของเย่เชินหลินแสดงออกถึงรอยยิ้มที่มีความสุขออกมาและใช้ภาษาฝานหลายพูดขึ้นอย่างคล่องแคล่วว่า:“คนที่โชคดีคือกระผมมากกว่า ภรรยาของกระผมนั้นเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก”
“งั้นหรือ?ถ้าเช่นนั้นเธอคงสวยไม่น้อย?”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถามขึ้นอย่างทรมานใจ ผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งเมื่อมาเปรียบเทียบกัน ก็มักจะเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตาเป็นอันดับแรก แม้ว่าจะเป็นองค์หญิงก็ไม่สามารถที่จะฉีกกฎนี้ได้
เย่เชินหลินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล และพูดขึ้นว่า:“ใช่ครับ องค์หญิง เธอนั้นสวยมาก”
“สวยกว่าฉัน?”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว รู้สึกโกรธที่เย่เชินหลินนั้นชื่นชมเซี่ยชีหรั่นต่อหน้าเธอ
ไม่ว่าจะอย่างไรเธอนั้นก็ถือว่าเป็นองค์หญิง เธอไม่เชื่อว่าเย่เชินหลินนั้นจะดูไม่ออกว่าเธอนั้นรู้สึกชอบเขาและชื่นชมเขา การที่เขาจงใจชมผู้หญิงของเขาว่าสมบูรณ์แบบแค่ไหนต่อหน้าเธอนั้น หากเธอโกรธขึ้นมา ก็เกรงว่าเขานั้นจะไม่อาจทัดทานไหว
เย่เชินหลินรู้ดีว่าเขาจะต้องทำให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ย ล้มเลิกความคิด แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เธอโกรธได้ การพูดคุยระหว่างเขากับเธอนั้นไม่ใช่การพูดคุยแบบความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน แต่เขานั้นยังแบกรับความรับผิดชอบความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศด้วย
แม้ว่าความสมานฉันท์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านนั้นจะยากมากที่จะถูกทำลายลงด้วยเรื่องส่วนตัวเชิงชู้สาว แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำให้เรื่องที่ไม่อาจเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นจริงเนื่องจากความไม่พอใจขององค์หญิงผู้ที่เป็นคนสืบทอด
เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า:“เธอนั้นเป็นเพียงหญิงสามัญธรรมดา จะเทียบกับองค์หญิงท่านได้อย่างไรกัน”
“ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่า ฉันสวยกว่าเธอ สง่างามกว่าเธอ ใช่ไหม?”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยรู้เป็นอย่างดีว่าเย่เชินหลินนั้นไม่กล้า และจะไม่ยอมล่วงเกินเธอเป็นแน่ เธอจึงถามขึ้นเชิงบังคับประโยคหนึ่ง
คำพูดของเธอนั้นแฝงไว้ด้วยนัยยะ ไม่ใช่เพียงต้องการที่จะรู้ว่าใครสวยกว่าใคร เธอนั้นดื้อรั้นขนาดนั้น หากจัดการไม่ดี ไม่แน่ว่าเออาจจะไปกราบทูลพ่อของเธอว่าเย่เชินหลินทำให้เธอไม่พอใจก็เป็นได้
เรื่องๆนี้หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็อาจที่จะเกรงกลัว แต่เย่เชินหลินนั้นกลับยิ้มเบาๆอย่างเป็นธรรมชาติว่า และพูดขึ้นว่า:“องค์หญิงนั้นสวยและสง่างาม อีกทั้งยังได้รับรางวัลสำคัญ ในการประกวดความงามระดับนานาชาติ เรื่องนี้คนทั่วโลกต่างรู้เป็นอย่างดี ดังนั้นความงามขององค์หญิงนั้นได้รับการยอมรับจากคนทั้งโลก ผู้หญิงของผมนั้นเป็นผู้หญิงธรรมดา ได้ยินมาว่าองค์หญิงนั้นเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศกระผมเป็นอย่างดี คิดว่าองค์หญิงน่าจะเคยได้ยินคำพูดโบราณที่ว่า“ในสายตาของคนรักนั้นผู้หญิงของตนนั้นงดงามกว่าซีซือเสมอ” ในสายตาของผม ผู้หญิงที่ผมรักนั้นงดงามเช่นเดียวกับซีซือ ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้”
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่รู้ว่าซีซือนั้นคือใคร แต่ว่าความหมายของคำพูดประโยคนี้นั้นไม่ได้ลึกซึ้งมากนัก เย่เชินหลินจึงพูดขึ้นด้วยภาษาฝานหลาย ทำให้เธอสามารถเข้าใจความหมายได้อย่างไม่ติดขัด
หากยังคงต้องการที่จะทำให้เย่เชินหลินนั้นต้องลำบากใจ ก็จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโกรธ หาผู้ชายไม่ได้แล้ว
เย่เชินหลินก็หยุดการสนทนาไว้เพียงตรงนี้ ไม่ได้ระแคะระคายใจ จากนั้นก็เริ่มพูดเรื่องของการท่องเที่ยว
“องค์หญิงครับ ไม่ง่ายเลยที่องค์หญิงจะได้มาเที่ยวที่ภูเขาหมอก ที่นี่มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาแต่โบราณ กระผมจะเล่าให้องค์หญิงฟังดีไหมครับ?”
“ได้สิ ฉันชอบฟังเรื่องเล่า”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยยิ้มพร้อมรับคำ
เย่เชินหลินใช้เวลายี่สิบนาทีในการพูดคุยกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย ต่อมาเมื่อถึงช่วงที่ไกด์บรรยายให้เธอฟัง เขาถึงได้ส่งข้อความหาพ่อบ้าน ให้พ่อบ้านเตรียมอาหารเช้าให้กับเซี่ยชีหรั่น
……
หลังจากที่ทานข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ไปในห้องอ่านหนังสือของเย่เชินหลิน แล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน
เดิมทีเย่เชินหลินได้เตรียมห้องส่วนตัวไว้สำหรับเธอที่ชั้นบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นับตั้งแต่ที่ชั้นบนส้งหลิงหลิงได้ยึดครองพื้นที่ เซี่ยชีหรั่นก็ไม่อยากที่จะเหยียบชั้นสองเลยแม้แต่ก้าวเดียว เธอนั้นถือในเรื่องๆนี้
นายหญิงส้งพูดว่าส้งหลิงหลิงนั้นกำลังอยู่ไฟ ทางที่ดีอย่าเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ดังนั้นพ่อบ้านจึงมีหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้เธอทานที่ชั้นสอง
ตลอดทั้งวัน เซี่ยชีหรั่นกับส้งหลิงหลิงก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลย
เธอคิดว่าหลังจากที่เด็กกลับมาแล้ว จะได้ยินเสียงร้องของเด็กบ่อยๆ แต่คฤหาสน์ทั้งหลังกลับเงียบสงบอย่างคาดไม่ถึง ไม่ได้ยินเสียงร้องของเด็กแม้แต่นิดเดียว
เมื่อถึงเวลานี้เธอจึงได้นึกถึงความฝันที่เย่เชินหลินได้ฝันในคืนนั้น บอกว่าไม่ให้เด็กนั้นร้องไห้ดูเหมือนว่าการที่เขาเตรียมคนไว้เยอะมาก ก็เพื่อที่จะไม่ให้เด็กร้องไห้ แล้วก็บรรลุเป้าหมายจริงๆ
เย่เชินหลินนั้นเป็นพ่อที่ดีจริงๆ รอให้พวกเขามีลูก เขาก็คงจะดีกับลูกของพวกเราใช่ไหม?
เซี่ยชีหรั่นก็นึกถึงความฝันของตนเอง เด็กผู้ชายในความฝันนั้นจะเป็นลูกของเธอ หรือเป็นลูกของส้งหลิงหลิงกันนะ?
คุณนั้นโง่เง่าจริงๆ ความฝันก็เชื่อ เอาเวลามาคิดแผนกิจกรรมเถอะ อย่าเอาเวลาไปเสียกับเรื่องภายในบ้านเหล่านี้เลย ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ
ขณะที่เธอนั้นเริ่มคิดได้ เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าเย่เชินหลินนั้นกลับมาแล้ว เธอพูดคำว่าเชิญเข้ามาด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข แต่คนที่เข้ามานั้นกลับเป็นพ่อบ้าน
ความสุขบนใบหน้าของเธอนั้นค่อยๆจางหายไป เธอยิ้มและถามพ่อบ้านว่า:“มีธุระอะไร?”
“คุณนายเย่ ที่ผมมาเพราะอยากจะเตือนคุณหนึ่งประโยค อย่าเข้าใกล้ลูกของส้งหลิงหลิงมากนัก”พ่อบ้านพูดขึ้น
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดอะไรออกไป พ่อบ้านเดินกลับไปปิดประตู พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า:“ตอนที่ผมอยู่ที่โรงพยาบาลมักจะเห็นสองแม่ลูกนั้นปิดประตูคุยกัน ผมเดาว่า พวกเขาทั้งสองนั้นน่าจะใช้เด็กคนนั้นในการต่อกรกับคุณ คุณลองคิดดูสิ เด็กนั้นเป็นลูกแท้ๆของเย่เชินหลิน หากเมื่อไหร่ที่คุณทำผิด แม้ว่าจะเป็นความผิดเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะทำลายความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองลงได้ จะดีกว่าไหม หากคุณรอให้เธออยู่ไฟให้เสร็จก่อนแล้วค่อยจากไป คุณเย่ก็คงจะจัดสถานที่ที่อยู่ใหม่เพื่อเลี้ยงเด็กคนนี้ เมื่อถึงเวลานั้นเด็กคนนี้ก็จะไม่มีความสัมพันธ์ใดใดกับคุณ พวกคุณทั้งสองก็จะมีความสุขด้วยกันตลอดไป”
เซี่ยชีหรั่นนั้นดูออกว่าพ่อบ้านนั้นมีความจริงใจและความหวังดีต่อเธอ แม้ว่าเธอนั้นจะได้ผ่านการต่อสู้ทางความคิดมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เธอนั้นมักจะคิดเสมอว่าในเมื่อเธอนั้นรักเย่เชินหลิน เธอก็ควรที่จะรักทุกอย่างที่เป็นเขา รวมทั้งลูกของเขาด้วย
แม้ว่ามันจะยากมาก แต่เธอก็ต้องค่อยๆปรับตัว ค่อยๆยอมรับ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เธอนั้นจะสามารถรักเด็กคนนี้ได้อย่างบริสุทธิ์ใจ
“ขอบคุณมากพ่อบ้าน ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะระวังให้มาก”
“ถ้าเช่นนั้นฉันออกไปก่อนนะ คุณทำงานเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว”พ่อบ้านพูดขึ้นด้วยความเคารพจนจบ จากนั้นก็เปิดประตูและจากไป
อาหารเย็น โม่เสี่ยวหนงและเซี่ยชีหรั่นนั้นรับประทานด้วยกัน ตอนบ่ายเธอนั้นโกรธ แต่เมื่อถึงตอนเย็นความขัดแย้งนี้กลับหายไปจนหมดสิ้น และยังคงทำสีหน้าทะเล้นเช่นเคย เซี่ยชีหรั่นนั้นเคยชินตั้งนานแล้ว ก็เลยไม่ได้ถือสา
เมื่อถึงเวลานี้ แต่เย่เชินหลินนั้นยังไม่กลับมา เซี่ยชีหรั่นเดาว่าเย็นนี้เขาคงไม่กลับมาแล้ว
แม้ว่าจะไม่เคยชิน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเคยชินกับมัน เธอนั้นไม่ชอบอารมณ์ที่ต้องเพิ่งพาเขามากจนเกินไป
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่หนักแน่นที่เขานั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั้นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของผู้ชายที่เธอกำลังคิดถึงอยู่เหรอ?
เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เธอกำลังนั่งพิงอยู่ในห้องหนังสือ และเปิดประตู
เดิมทีเย่เชินหลินนั้นวิ่งไปหาเธอที่ห้องนอน แต่กลับเห็นผู้หญิงของเขานั้นอยู่ที่ห้องหนังสือ ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เซี่ยชีหรั่นนั้นรีบวิ่งไปข้างหน้า อดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“เด็กโง่ ไม่ได้เจอกันแค่วันเดียว คิดถึงผมขนาดนี้เลยเหรอ?”เขาจูบที่ผมของเธอและถามเธอ
“อืม คิดถึงคุณ คิดว่าเย็นนี้คุณจะไม่กลับมาซะอีก”
“จะไม่กลับมาได้อย่างไรกัน หากผมไม่กลับมาคุณจะนอนหลับเหรอ?”
เขานั้นไม่วางใจเธอ และก็ไม่วางใจเด็กน้อย วันนี้เป็นวันแรกที่เด็กน้อยนั้นกลับบ้าน เขาไม่รู้ว่าเด็กน้อยนั้นจะปรับตัวได้หรือไม่ และไม่รู้ด้วยว่าจะร้องไห้หนักขนาดไหน
คนในบ้านไม่รู้ว่าเด็กนั้นป่วยเป็นโรคหัวใจ หากเขาร้องไห้ขึ้นมาแล้วเอาไม่อยู่ อาจจะต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลเพื่อรับความช่วยเหลือ เขานั้นจำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
เซี่ยชีหรั่นก็รู้ว่าเมื่อเย่เชินหลินมาถึงก็รีบมาหาเธอ หลังจากที่กอดกันเรียบร้อยแล้ว เธอก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วถามเขาว่า:“ยังไม่ได้ไปดูลูกใช่ไหม?ฉันจะไปดูกับคุณ ฉันอยากจะอุ้มเด็ก”
“เมื่อต้องทำเพื่อผมแล้วต้องฝืนใจตนเองเช่นนี้ จริงๆนะ”เย่เชินหลินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เขานั้นเข้าใจความคิดของเซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างดี เขานั้นไม่อยากให้เธอต้องมาแบกรับอะไรนอกเหนือจากนี้แล้ว
เขายิ่งพูดเช่นนั้น เธอก็ยิ่งอยากจะใจกว้างยอมรับในทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวเขา
“หลิน คุณยอมให้ฉันได้ใกล้ชิดกับเด็กคนนี้เถอะ ฉันคิดว่าส้งหลิงหลิงอาจจะสอนเด็กคนนี้ได้ไม่ดีนัก ให้ฉันเป็นคนเลี้ยงดูเขาเถอะไปกันเถอะ วันนี้ฉันยังไม่ได้ดูเขาอย่างละเอียดเลย ฉันคิดว่าเขาจะต้องชอบเขาแน่ๆ”
เซี่ยชีหรั่นออกจากอ้อมกอดของเย่เชินหลิน ดึงแขนของเขา แล้วออกจากห้องหนังสือขึ้นไปชั้นบน
ในเวลานี้เด็กนั้นตื่นอยู่ พี่เลี้ยงอุ้มอยู่ ส้งหลิงหลิงกำลังหยอกเล่นอยู่กับเขา
เมื่อเย่เชินหลินกลับมา ส้งหลิงหลิงทำเพียงทักทายกับเขาอย่างสั้นๆว่า :“ฉันกลับมาแล้ว ลูกก็ปรับตัวได้ ไม่ร้องไห้”
“หลิน ฉันอยากจะอุ้มเด็กคนนี้ ได้ไหม?”เซี่ยชีหรั่นถามเย่เชินหลิน เขาพยักหน้าและพูดว่า:“ได้สิ”
ในเมื่อเย่เชินหลินอนุญาตแล้ว แน่นอนว่าพี่เลี้ยงหลี่นั้นจะไม่ขัดขวางอย่างแน่นอน เพียงแต่เตือนเซี่ยชีหรั่นประโยคหนึ่งว่า:“คุณคะ คุณต้องอุ้มระวังหน่อย คุณเย่ได้สั่งไว้ว่าห้ามให้เด็กคนนี้ร้องไห้อย่างเด็ดขาด”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว และตักเตือนเธอว่า:“เธอคือคุณนายเย่ ต่อไปคนที่อยู่ที่นี่ จะต้องเรียกเธอว่าคุณนายเย่”
“ค่ะ คุณเย่”ทุกคนรับปากโดยพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อเซี่ยชีหรั่นรับเด็กมาอุ้ม ยังไม่ทันจะได้อุ้มดี เด็กก็ร้องไห้ขึ้นเสียงดัง
เมื่อเด็กร้องไห้ประสาทสัมผัสของเซี่ยชีหรั่นก็บีบตัวแน่น
“เด็กน้อย ไม่ร้อง ไม่ร้อง……โอ้ โอ้ ไม่ร้อง……”เซี่ยชีหรั่นไม่เคยสัมผัสกับเด็กทารกมาก่อน เธอนั้นไม่กล้าที่โยกแขนไปมาเร็วเกินไป กลัวว่าแขนของทารกจะได้รับอันตราย
สีหน้าท่าทางของเย่เชินหลินเริ่มเครียดขึ้น เขารู้ดีว่าเซี่ยชีหรั่น นั้นไวต่อความรู้สึก หากว่าเป็นคนอื่นที่อุ้มแล้วทำให้ทารกต้องร้องไห้ เขานั้นจำเป็นต้องกล่าวโทษเขา และรีบรับทารกมาอุ้มในทันที แต่เป็นเพราะเขากลัวว่าเซี่ยชีหรั่นจะคิดมากเกินไป เขาทำได้เพียงเบิกตามองใบหน้าและเสียงหายใจของเด็กคนนั้นอย่างใกล้ชิด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset