สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 798 สาวใช้ตัวแสบ 702

ตอนที่ 798 สาวใช้ตัวแสบ 702
เธอคิดว่ามันจะมีเรื่องดีๆแบบนั้นจริงๆงั้นเหรอ เธอขับไล่เซี่ยชีหรั่นออกไป ใต้หล้านี้ก็จะเป็นของเธอว่างั้น ? ฉันจนได้คลอดลูกของเย่เชินหลินแล้ว ฉันจะถวายผู้ชายดีๆแบบนี้ให้เธอฟรีๆงั้นสิ?
ไร้เดียงสาจริงๆ!
เธอต้องขอบคุณเซี่ยชีหรั่นที่มีน้องสาวโง่ขนาดนี้ นี่คือแพลนที่สวรรค์มอบให้เธอกับเย่เจิ้งเหิงสินะ
“โอเค เราก็เอาตามที่พูดนี้แหละ ถ้าเธอต้องการโอกาสละก็ เข้าไปหาลูกที่ห้องของฉันพร้อมพี่สาวเธอบ่อยๆได้เลย
ถ้าสบโอกาสเหมาะๆ ฉันจะคิดหาหนทางให้พวกเขาทะเลาะกัน เพื่อสร้างโอกาสให้เธอ ฉันกลับก่อนนะ! ”
“ค่ะ พี่ส้ง พี่วางใจได้ ถ้าฉันได้ครอบครองคุณเย่เชินหลินแล้ว ฉันจะไม่ปฏิบัติต่อพี่อย่างไม่ยุติธรรม ฉันจะวางแพลนที่ดีให้พี่กับลูกของพี่ จะไม่ให้พี่ได้รับความไม่เป็นธรรม” โม่เสี่ยวหนงรับปาก
“น้องเสี่ยวหนงพี่เชื่อใจเธอ เธอทำให้พี่รู้สึกว่าน่าเชื่อถือมากกว่าเซี่ยชีหรั่นยัยจอมปลอมนั้น” ส้งหลิงหลิงพูดอย่างเป็นจริงเป็นจัง
สิงหลิงหลิงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาพูดเสียงกระซิบว่า“พี่ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ต้องบอกเธอ จำไว้นะว่า… ”
เธอกระซิบพูดอยู่ข้างหูของโม่เสี่ยวหนง โม่เสี่ยวหนงฟังไปพลางพยักหน้าไปพลาง ปากก็พูดได้ๆไปด้วย พี่ส้งฉลาดจริงๆ
หลังจากที่กำชับโม่เสี่ยวหนงเสร็จ ส้งหลิงหลิงก็เดินยิ้มออกไปจากห้องของโม่เสี่ยวหนง เหล่าคนรับใช้เห็นว่าเธอออกมาแล้ว จึงรีบเดินตามเธอไปทันที
เย่เชินหลินยังทำงานอยู่ในห้องหนังสือ เซี่ยชีหรั่นก็กำลังโกรธบึ้งตึงอยู่ในห้องนอน ไม่มีใครรู้ว่าส้งหลิงหลิงไปที่ห้องของโม่เสี่ยวหนง แม้ว่ากล้องวงจรของเย่เชินหลินจะเปิดอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ดูมันตลอดเวลา
แต่พ่อบ้านนั้นจับตาดูความเคลื่อนไหวของส้งหลิงหลิงอยู่ เขาเห็นว่าเธอออกจากประตูมา จึงตามดูอยู่ไกลๆ พบว่าเธอเข้าไปในห้องของโม่เสี่ยวหนง และทั้งสองคนก็พบกันอย่างลับๆอยู่นานสองนาน เขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างแปลกไป
โดยเฉพาะในตอนที่ส้งหลิงหลิงออกมา เขายังเห็นรอยยิ้มที่หายไปนานของเธอจากที่ไกลๆด้วย พ่อบ้านรู้มานานแล้วว่าโม่เสี่ยวหนงไม่ใช่คนดีอะไร เขาคิดอยู่ว่าผู้หญิงเลวๆสองคนนี้คงไม่ได้คิดจะร่วมมือกันจัดการกับเซี่ยชีหรั่นหรอกนะ?
เซี่ยชีหรั่นเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจลูกน้องมากกว่าใครๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเคยทำผิดต่อเธอ แต่เธอก็เคยมีบุญคุณต่อเขา ตอนนี้เขาแค่ต้องการปกป้องเซี่ยชีหรั่น ถือเป็นการตอบแทนเย่เชินหลิน
พ่อบ้านต้องใส่ใจความเคลื่อนไหวทุกอย่างในคฤหาสน์ตลอดเวลา เรื่องที่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินงอนกัน คนหนึ่งอยู่ห้องหนังสือ คนหนึ่งอยู่ห้องนอนนั้นเขาก็รู้แล้ว
เมื่อส้งหลิงหลิงขึ้นไปพักผ่อนในห้องแล้ว พ่อบ้านก็ตามขึ้นไป จากนั้นก็เรียกสาวรับใช้สองคนที่ติดตามส้งหลิงหลิงเมื่อครู่ให้หลบมาอีกมุมหนึ่ง พลางถามเสียงเบาว่า “เมื่อกี้คุณส้งไปที่ไหนมา?”
“ไปห้องของคุณโม่เสี่ยวหนงค่ะ”
“ไปทำอะไร?”พ่อบ้านถามอีกครั้ง
“เธอบอกว่าวันนี้โม่เสี่ยวหนงไปดูตัวสำเร็จแล้ว เธอต้องการไปแสดงความยินดีและพูดคุยกับเธอค่ะ ให้พวกเรารออยู่ข้างนอก”สาวรับใช้ทั้งสองคนตอบตามความเป็นจริง
“เรื่องที่พวกเขาคุยกันตอนอยู่ข้างในเกี่ยวกับเรื่องการดูตัวไหม? พวกคุณได้ยินอะไรบ้าง?”
“ตอนแรกก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องการดูตัวค่ะ จากนั้นคุยอะไรกันพวกเราก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว”
“โอเค ผมรู้แล้ว จากนี้พวกคุณก็จับตาไว้ด้วย หูก็ต้องตั้งใจฟังขึ้นหน่อย มันไม่ได้เสียหายอะไร” ความหมายในคำพูดของพ่อบ้าน สาวรับใช้ต่างพยักหน้าเข้าใจพลางตอบว่า“ค่ะ พ่อบ้าน ต่อไปนี้พวกเราจะจับตาไว้”
พ่อบ้านโบกมือให้พวกเธอแยกย้ายไปทำงาน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ลงตึกไป ออกจากคฤหาสน์ไปที่ห้องครัว เพื่อให้คนทำน้ำแกงคลายเครียดให้เซี่ยชีหรั่น เขายกมันด้วยตัวเอง และกลับเข้าไปในคฤหาสน์อีกครั้ง
เขาเคาะประตู เซี่ยชีหรั่นก็ตอบกลับอย่างอึนๆว่า “เชิญค่ะ”
“คุณนายเย่ ผมเห็นว่าเมื่อตอนเย็นคุณทานได้ไม่เยอะ เดี๋ยวดึกๆจะต้องหิว ผมยกน้ำแกงคลายเครียดมาให้คุณ คุณทานตอนที่มันยังร้อนๆเถอะนะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ ฉัน…” เดิมทีเซี่ยชีหรั่นอยากจะตอบกลับไปว่าเธอไม่อยากกิน แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวจะเสียความตั้งใจของพ่อบ้านเอาเปล่าๆ คำพูดติดอยู่ที่ปากแล้ว แต่เธอก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแทน
“ฉันจะทานให้หมดตอนนี้แหละค่ะ ขอบคุณมาก” เธอพูดพลางยื่นมือไปรับถ้วยมา แต่พ่อบ้านกลับนำถาดไปวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงให้ กลัวว่าจะลวกมือเธอ
“คุณนายเย่ เรื่องคุณส้งเมื่อตอนเย็น คุณยังโกรธอยู่เหรอครับ? ผมรู้ว่าคุณไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมอยากจะช่วยคุณพูด เพียงแต่ว่า…”
“ฉันเข้าใจค่ะ ขอบคุณคุณมาก” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความจริงใจ
“คุณนายเย่ ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณ แต่ไม่รู้ว่าเหมาะสมที่จะพูดไหม ผมเกรงว่าคุณจะคิดว่าผมปากมาก”
“เซี่ยชีหรั่นหยิบช้อนขึ้นมาและวางมันลงไปอีกครั้ง มองไปยังพ่อบ้านอย่างเคร่งเครียดพลางพูดเสียงเบาว่า”คุณว่ามาเถอะ ฉันจะไม่คิดเป็นอย่างอื่น”
“งั้นผมเล่าเลยนะ คือว่าเมื่อกี้คุณส้งไปที่ห้องของคุณโม่ทั้งสองคนปิดประตูคุยกันอยู่นานสองนาน ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันคุณโม่เป็นน้องสาวของคุณ คุณอาจจะเชื่อใจเธอมาก แต่ผมมักจะรู้สึกว่าบางคำพูดของเธอไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ทั้งแววตาของเธออีก โดยเฉพาะตอนมองคุณเย่เชินหลินแตกต่างเป็นอย่างมาก ผมกังวลว่าคุณจะไร้เดียงสาเกินไป คุณส้งเป็นคนยังไงคุณก็รู้ดี ไม่ว่าใครหน้าไหนเธอก็ใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น ทำเรื่องอะไรก็ไม่สนวิธีการทั้งสิ้น ผมทราบว่าที่ผมว่าคุณโม่ คุณอาจจะไม่พอใจ แต่ผมก็ยังอยากจะเตือนคุณไว้ว่าการระแวดระวังผู้อื่นนั้นไม่ควรขาด คุณจะต้องระวังตัวเองให้มากๆและมากๆเลยนะ”
เซี่ยชีหรั่นจับช้อนขนน้ำแกงไปมา ความในใจที่โม่เสี่ยวหนงมีต่อเย่เชินหลิน ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ เธอมักจะพูดกับตัวเองเสมอว่าโม่เสี่ยวหนงไม่ได้เลวร้ายขนานนั้น ต่อให้เธอจะชอบขึ้นมาจริงๆก็ไม่มีทางแย่งพี่เขยของตัวเองหรอก
วันนี้แม้แต่พ่อบ้านยังดูออกว่าโม่เสี่ยวหนงมีความรู้สึกแบบนั้น หลังจากที่พวกเธอทั้งสองคนขัดแย้งกันเมื่อกี้ ส้งหลิงหลิงก็ไปหาโม่เสี่ยวหนง โม่เสี่ยวหนงมีใจคิดไม่ดีรึเปล่า เธอไม่อาจจะยืนยันได้ แต่ส้งหลิงหลิงมีใจคิดไม่ดีนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
เซี่ยชีหรั่นเงียบไปพักหนึ่ง จึงพูดอย่างช้าๆว่า” ขอบคุณที่คุณเตือนฉัน มีบางตอนที่มองเสี่ยวหนงแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไปจริงๆ แต่ว่าจิตใจของเธอไม่ได้เลวร้าย ถ้ามีคนว่าร้ายเธอ ฉันยังคงหวังว่าคุณจะช่วยฉันยับยั้งไว้ด้วย ฉันมีน้องสาวคนเดียวเท่านี้ ตระกูลโม่มีบุญคุณกับฉัน ฉันจะสอนเธอดีเองค่ะ”
ความหมายในคำพูดนั้นพอบ้านเข้าใจในทันที เธอยังคงเลือกที่จะเชื่อใจโม่เสี่ยวหนง
“สำหรับส้งหลิงหลิง ฉันคิดว่าเธอคงจะมีวิธีการอื่นอยู่ ฉันจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเรื่องนี้คุณเย่ค่ะ ขอบคุณคุณมากจริงๆที่บอกเรื่องนี้กับฉัน”
“คุณนายเย่ อย่าได้เกรงใจเลยครับพวกเราทุกคนล้วนเคารพคุณ ล้วนหวังว่าคุณจะเป็นคุณนายเย่ตลอดไป คุณดูแลตัวเองด้วยนะครับ”พ่อบ้านพูดออกมาอย่างจริงใจ
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง
“ผมยังอยากจะบอกไว้อีกประโยค เพราะเรื่องของส้งหลิงหลิง คุณมีปัญหากันกับคุณเย่ นี่คือความรู้สึกของคนตามหลักเหตุผลเท่านั้น แต่คุณต้องแยกแยะความสำคัญให้ออกนะครับ คุณอย่าได้เหมือนผู้หญิงทั่วไปเหล่านั้นที่พอบอกจะไปก็ไป คุณไปแล้ว เธออยู่ที่นี่จะยิ่งเหมือนปลาได้น้ำนะครับ”
“อืม ฉันรู้ค่ะ”
เพราะเซี่ยชีหรั่นคิดถึงจุดนั้น ถึงได้ไม่ตัดสินใจจะไป
เธอมักจะคิดอยู่เสมอว่าที่เย่เชินหลินปกป้องส้งหลิงหลิงนั้น เป็นเพราะว่าเพื่อให้ลูกได้กินนมแม่
ขอแค่ส้งหลิงหลิงไม่ทำเรื่องที่เกินจะทน เชื่อว่าเขาไม่มีทางตัดสินใจให้เธอจากไป และก็ยังคงจะปกป้องส้งหลิงหลิงไว้
เธอโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เธอไม่สามารถยืนหยัดว่าจะให้เย่เชินหลินไล่ส้งหลิงหลิงออกไปได้ ไม่งั้นเมื่อเย่เจิ้งเหิงโตแล้วมาได้ยินเรื่องแบบนี้ทีหลัง เขาจะคิดว่าแม่เลี้ยงคนนี้โหดร้ายมาก
“คุณทานเถอะ ผมจะรออยู่ข้างนอก ถ้าคุณทานหมดแล้ว ผมค่อยมาเอาถาดจากคุณกลับไปที่ห้องครัว”พ่อบ้านพูดจบ ก็หันตัวเดินออกไปจากห้องนอนของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นค่อยๆทานน้ำแกงจนหมด และยกถาดขึ้นมาพลางไปเปิดประตู พ่อบ้านยื่นมือออกมารับ แต่เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าพลางพูดว่า“ไม่ต้องค่ะ ฉันเพิ่งจะทานเสร็จพอดีจะต้องเดินไปเดินมาหน่อย ฉันไปที่ห้องครัวเองก็ได้ค่ะ”
“งั้นผมเดินไปเป็นเพื่อนนะ ดึกแล้วคุณเดินคนเดียวไม่ปลอดภัย”
“ค่ะ”เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ปฏิเสธ เธอยกถาดมาด้วยตัวเอง และเดินขนาบข้างกับพ่อบ้านก้าวออกจากคฤหาสน์อย่างช้าๆไปที่ห้องครัว
เซี่ยชีหรั่นวางถาดลงในอ่างล้างจาน พ่อบ้านรีบพูดว่าเดี๋ยวเขาจัดการเอง
“ไม่ต้องค่ะ ฉันอยู่บ้านก็ล้างจานเอง ฉันล้างเองค่ะไม่เป็นไร”เซี่ยชีหรั่นล้างจานอย่างคล่องแคล่วพลางวางไว้อย่างดีและเช็ดมือให้แห้ง จากนั้นเดินออกจากห้องครัว
เมื่อทั้งสองคนเดินออกมา ก็ได้ยินเสียงของเด็กร้องไห้มาจากเขตคนงาน ตอนนั้นก้าวเดินของพ่อบ้านก็หยุดลง
“เสียงลูกคุณใช่ไหมคะ? คุณรีบไปดูเถอะค่ะ ฉันกลับคนเดียวได้ไม่เป็นไร”เซี่ยชีหรั่นบอก
“ผู้หญิงคนนี้ๆจริงๆเลย นับวันยิ่งไม่ได้ความ ดูแลลูกได้ไม่ดีเอาซะเลย ผมไปดูก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับไปดูแลคฤหาสน์ต่อ”
“ดึกขนานนี้แล้ว ไม่ต้องกลับมาแล้วค่ะ คุณอยู่กับคนรักและลูกของคุณเถอะ ถ้าเย่เชินหลินถาม ก็บอกว่าฉันเป็นคนให้คุณกลับไปเอง”
“ขอบคุณ ขอบคุณครับคุณนายเย่ ผมกลับก่อนนะครับ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า มองพ่อบ้านรีบกลับไป ในใจของเธอรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง ใครว่าคนเป็นพ่อไม่ห่วงลูก พ่อบ้านได้ยินเสียงลูกร้องก็ร้อนใจขนานนี้
บางทีเย่เชินหลินได้ยินเสียงลูกร้องก็คงร้อนใจเช่นนี้เหมือนกัน มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์สินะ
“อาลัยอาวรณ์พ่อบ้านขนานนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เธอกำลังจะเดินไปก็ได้ยินเสียงเย็นชาถามขึ้น เงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่าเป็นเย่เชินหลินมือล้วงกระเป๋ามองมาที่เธอเงียบๆ
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้สนใจคำพูดของเขา ขยับเท้าก้าวเดินเงียบๆ ยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว เธอก็ลอยเหวอขึ้นอีกครั้ง
สายตาของเย่เชินหลินจ้องมาที่หน้าน้อยๆของเธอ สีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“ทำไม คิดจะไม่สนใจผู้ชายของคุณตลอดไปแล้วหรือไง?”
คนเฮงซวย เห็นๆอยู่ว่ากำลังอ่อยเธอ เซี่ยชีหรั่นทนสายตาที่มองเธอขนานนี้ของเขาได้ซะที่ไหนกัน
เธอจึงหลบตาเขา หลีกเลี่ยงสายตาของเขา เธอพูดเสียงนิ่งๆว่า“ฉันเหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ไม่อยากพูด ไม่ได้ไม่สนใจคุณซะหน่อย”
“ยังปากแข็งอีก ต้องถูกจัดการใช่ไหม!”
จัดการไปก็ไม่มีประโยชน์ ปัญหานี้ฉันไม่มีทางก้มหัวให้แน่ คำพูดนี้เซี่ยชีหรั่นพูดอยู่ในใจ
“ปล่อยฉันลงนะ ฉันมีขามีเท้า คุณจะอุ้มฉันทำเพื่อ?”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างฮึดฮัด
“ชอบ”
เย่เชินหลินพูดออกมาหนึ่งคำแค่นั้น จากนั้นก็รีบเดินให้ไวขึ้น
เขาอยากจะเย็นชาใส่เธออีกสักพักหนึ่ง อยากให้เธอเข้าใจ ไม่ต้องไปเป็นปรปักษ์กับส้งหลิงหลิงอีก ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงหรือทำยังไง เขาในตอนนี้ไม่มีทางให้ส้งหลิงหลิงออกไปแน่
เพียงแค่เขาคิดถึงหน้าเย็นชาน้อยๆของเธอ เขาก็ทนให้เธอโกรธได้ไม่นาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset