สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 819 สาวใช้ตัวแสบ 723

ตอนที่ 819 สาวใช้ตัวแสบ 723 
เซี่ยชีหรั่นหน้าแดง จากนั้นสูดหายใจเข้าหนึ่งที
“เรื่องมันเกิดไปแล้ว พี่พูดไปก็เท่านั้น เธอต้องรักษาเอาไว้นะ พ่อแม่มากี่โมง?”
“พวกเขาจะมาถึงตอนบ่ายสี่โมง ฉันกับเหวยตงจะไปซื้อของสักหน่อย อาจจะไม่มีเวลาไปรับ พี่ไปรับได้ไหม?”
โม่เสี่ยวหนงไม่สนใจพอแม่มาตลอด เซี่ยชีหรั่นเคยชินแล้ว
“เย่เชินหลินจะส่งคนไปรับ ฉันก็จะไปด้วย คืนนี้เธอกับเลี่ยวเหวยตงมากินข้าวด้วยกันที่คฤหาสน์ของเย่เชินหลินนะ นอกจากนี้พี่จะนัดเสี่ยวจุนกับฉิงฉิงมาด้วย”
ตั้งแต่รู้ข่าวว่าเสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ พ่อแม่ตระกูลโม่กับเสี่ยวจุนได้พบกันเพียงครั้งเดียวในงานหมั้นของเธอ
โม่เสี่ยวจุนโกรธพวกเขามาตลอด เซี่ยชีหรั่นตั้งใจนัดโม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิง อยากจะแก้ปัญหาความขัดแย้งของทุกคน
“เรื่องพวกนี้พี่จัดการเลย ฉันกับเลี่ยวเหวยตงจะรีบมาหาตอนหกโมงเย็น เอาล่ะ เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ ฝากทุกอย่างด้วยนะ พี่ บ๊ายบาย”
คุยกับโม่เสี่ยวหนงจบ เซี่ยชีหรั่นไปหาเย่เชินหลิน บอกเขาว่าวันนี้พ่อแม่บุญธรรมจะมาถึงกลางคืน เธออยากเชิญโม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิงมาด้วย
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ เย่เชินหลินไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขาก็รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคนให้ความสำคัญกับทุกคน ในใจของเธอมองว่าตระกูลโม่เป็นญาติของเธอเสมอ
เซี่ยชีหรั่นโทรหาโม่เสี่ยวจุน บอกว่าพ่อแม่บุญธรรมจะมา อยากให้เขามาเจอกัน
“เสี่ยวจุน ฉันรู้ว่าในใจของพี่ยังอาจยังโกรธพวกเขาอยู่ ตอนนั้นฉันก็โกรธเหมือนกัน แต่เรื่องมันผ่านไปแล้วนะ ฉันคิดว่าพี่จะยังจำได้ แต่ก่อนพวกเขาดีกับพี่มากกว่าฉันอีก พี่ยังใช้นามสกุลโม่ คงไม่สามารถออกห่างจากพวกเขาไปตลอดทั้งชีวิต เสี่ยวหนงจะแต่งงานแล้ว ทุกอย่างกำลังเริ่มต้นใหม่ ส่วนพวกเราก็ใช้โอกาสนี้ทิ้งเรื่องไม่ดีไป พี่มาได้ไหม?”
“ไม่ไป!”โม่เสี่ยวจุนน้ำเสียงเย็นชา ไม่รู้ทำไมเซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเขาพูดจาเหมือนเย่เชินหลินมากๆ
“เสี่ยวจุน พี่ไม่มา ฉันคงรู้สึกเสียดายแย่”
เซี่ยชีหรั่นได้ยินเพียงความเงียบของโม่เสี่ยวจุนจากปลายสายสักพักหนึ่ง สุดท้ายเขาจึงพูดว่า:“เดี๋ยวฉันไป”
เธอรู้ว่า โม่เสี่ยวจุนก็คือโม่เสี่ยวจุน เขาเหมือนกับพี่ชายคนหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยอยากเห็นเธอลำบากใจ
พี่พาฉิงฉิงมาด้วยกัน แบบนี้พ่อแม่เห็นพวกเราสามคนพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขาต้องดีใจแน่นอน
“พวกเขาเห็นพวกเราได้คนมีคน คงยิ่งดีใจ”โม่เสี่ยวจุนพูดอย่างเผ็ดร้อน
“เสี่ยวจุนคำพูดแบบนี้พี่อย่าเอาไปพูดต่อหน้าพวกเขานะ พวกเขาเลี้ยงดูพวกเราสองคนมาไม่ง่ายเลย”
“พวกเขากินข้าวน้อยกว่าสองอย่าง ให้เด็กทำงานเยอะๆ พี่มองไม่เห็นว่ามันไม่ง่ายตรงไหน เพียงแต่เธอไม่อยากได้ยิน พี่ก็พูดไม่ได้ เอาเถอะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ตามนี้นะ พี่ทำงานก่อน”
โม่เสี่ยวจุนวางสาย เซี่ยชีหรั่นนิ่งไปพักใหญ่ๆ ถึงจะเก็บของเตรียมตัวไปทำงาน
วันนี้เย่เชินหลินไปส่งเธอที่บริษัท แถมยังกำชับต่อเธอว่า:“ เวลาทำงานห้ามออกไปข้างนอก ตอนกินข้าวผมจะมารับคุณ”
เขาจะไม่ให้เจ้าชายหย่าหลุนมีโอกาสเข้าหาเธอตามลำพัง แค่ครั้งเดียวก็ไม่ยอม
“ค่ะ ฉันจะรอคุณ”เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในตึก เห็นพี่ส้งเดินเข้ามาหา ครั้งก่อนเธอให้ข้อมูลลูกของพี่สาวของพี่ส้งแก่เย่เชินหลิน แต่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ช่วงสองวันนี้เธอไม่ได้ใส่ใจจะถาม ดังนั้นเมื่อพบพี่ส้งเธอจึงทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง
“ชีหรั่น ขอบคุณมาก เรื่องโรงเรียนของลูกพี่สาวพี่เรียบร้อยแล้ว ”พี่ส้งเดินมาตรงเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยคำขอบคุณ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก อันที่จริงฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”
“พี่จะขอเลี้ยงข้าวเธอกับคุณเย่สักมื้อได้ไหม?พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีอาหารพิเศษมาก ฉันแค่อยากแสดงน้ำใจสักหน่อย”พี่ส้งพูด เซี่ยชีหรั่นแค่เพียงตอบเธอด้วยรอยยิ้ม:“ ฉันกับคุณเย่รู้ว่าพี่คิดอย่างไร ไม่ต้องเลี้ยงข้าวหรอก พี่ช่วยพี่สาวเลี้ยงลูก ในบ้านมีเด็กเล็ก ชีวิตก็คงไม่ง่ายแน่นอน”
“ไม่เป็นไรนะ ชีวิตพวกเราไม่ง่ายอยู่แล้ว เทียบอะไรไม่ได้กับข้าวมื้อเดียว”
เซี่ยชีหรั่นมองเห็นว่าพี่ส้งตั้งใจอยากเลี้ยงข้าวจริงๆ เธอรู้ว่าเย่เชินหลินไม่ชอบกินข้าวกับใคร เธอก็ไม่อยากให้พวกเขาใช้จ่ายสิ้นเปลือง
“พี่ส้ง ไม่เป็นไรจริงๆ ฉันคิดว่าคุณเย่ไม่ต้องการช่วยใครเพื่อหวังผลตอบแทน ฉันกับเขาเคารพและเลื่อมใสพี่จึงจ่ายให้พี่สาวของพี่ ถ้าอยากเลี้ยงข้าวจริงๆ รอหลังจากลูกเรียนจบทำงานค่อยมาเลี้ยงพวกเรานะ”
“งั้นก็ได้ เธอกับคุณเย่เป็นคนดีจริงๆ พี่ขอให้พวกเธอมีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุข” พี่ส้งพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงเริ่มสะอึกสะอื้น เซี่ยชีหรั่นคิด เธอขอความช่วยเหลือจากผู้คนมากมายใครต่างก็ช่วยแบบนี้ไม่ได้
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หากสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ทำให้เธอมีความสุขจริงๆ ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่มีต่อเย่เชินหลินยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ตอนกลางวันเย่เชินหลินมารับเซี่ยชีหรั่นไปกินข้าวตรงตามเวลา ในขณะที่ทั้งสองคนอยู่ในรถ เซี่ยชีหรั่นมองหน้าเย่เชินหลินอย่างยิ้มแย้ม
“ดีใจอะไรแบบนี้?”เย่เชินหลินถามเธอพร้อมกับใช้นิ้วมือม้วนเส้นผมของเธอ
“ก็เพราะคุณจัดการเรื่องของพี่ส้งเสร็จแล้ว ฉันดีใจมากๆเลย วันนี้เธอบอกว่าอยากเลี้ยงข้าวพวกเรา ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากไป ดังนั้นฉันจึงปฏิเสธไปเรียบร้อย”
“ทำดีมาก” เย่เชินหลินพูด จูบลงบนหน้าผากของเธอ
การกระทำของเขา เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเต็มไปด้วยความสุข เธอยิ้มอย่างซุกซน พูดว่า:“แน่นอนทำได้ดีมาก อยู่กับเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่มานานแล้ว ไม่ว่าจะโง่อีกแค่ไหนก็สามารถเรียนรู้ทักษะชีวิตได้เล็กน้อย”
“คุณยังโง่? คุณคือผู้หญิงที่ฉลาดที่สุดในโลก”
เย่เชินหลินมองผู้หญิงของเขาด้วยความชื่นชม มีแสงที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์อยู่ในดวงตาของเธอเสมอ ถึงแม้คนมากมายต่างคิดว่าเธอโง่ ในความเป็นจริงความโง่เขลาของเธอเป็นเพียงเพราะเธอใจดีกับผู้อื่นและมักจะให้อภัยเสมอ
“คุณมองฉันทำไมคะ?” เซี่ยชีหรั่นเริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก ใบหน้าเล็กเริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง
เย่เชินหลินยื่นแขนโอบกอดเธอไว้ ให้เธอซบลงบนอกของเขา
ภายในดูเหมือนจะกระเพื่อมไปด้วยกลิ่นของความสุข เซี่ยชีหรั่นปิดตา หายใจอย่างแผ่วเบา รับรู้ว่าเขาอยู่เคียงข้างเธอ
วันนี้พ่อแม่บุญธรรมจะเดินทางมาถึง เสี่ยวหนงก็ใกล้จะแต่งงาน วันเสาร์หลี่เหอไท้กับจงหยุนซางอาจจะกำหนดวันมงคล ทุกสิ่งรอบตัวเธอดูเหมือนกำลังพัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์แบบ
ถ้าพูดว่าในชีวิตนี้มีเรื่องอะไรที่ด้านลบ น่าจะมีเพียงส้งหลิงหลิง
ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ท่าทางของส้งหลิงหลิงเปลี่ยนไปมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอกับเย่เชินหลินก็หวังอยู่ในใจว่าเธอจะเปลี่ยนได้จริงๆ
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เย่เชินหลินส่งเซี่ยชีหรั่นกลับบริษัท ส่วนตนเองก็กลับไปยุ่งกับงานที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปต่อ
เซี่ยชีหรั่นจัดแจงเวลาเรียบร้อย ขอลางานกับหลี่เหอไท้ บ่ายสามออกจากบริษัทไปรับพ่อแม่บุญธรรมที่สถานีรถไฟ
ออกจากบริษัท เธอพบว่าเย่เชินหลินยืนอยู่ข้างรถก้มมองนาฬิกา เขากำลังรอเธอ
คิดไม่ถึงว่าเขาจะไปรับด้วยตนเอง เมื่อคืนยังพูดว่าจะส่งคนไปรับ
เธอไม่ลืมว่าแต่ก่อนเย่เชินหลินเป็นคนอย่างไร แม้แต่อาบน้ำก็มีสาวใช้ปรนนิบัติ ผู้หญิงไม่สามารถเข้าตาเขาได้ เมื่อครั้งก่อน ส้งหลิงหลิงลูกสาวของรองประธานส้งผู้สูงส่ง เขาก็ไม่ทำอะไรเพื่อเธอ
เธอจำได้ว่าแม้กระทั่งในงานปาร์ตี้ เขายังไม่แยแสรองประธานส้งและภรรยาของเขา เขาอายุน้อยกว่า แต่กลายเป็นว่าผู้อาวุโสต้องประจบประแจงเขาแทน
ดังนั้นวันนี้เขาจึงสามารถไปรับพ่อแม่บุญธรรมกับเธอได้ หรือว่าเขาไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายแล้ว หัวใจของเธอจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร
“หลิน ถ้าคุณกำลังยุ่ง อันที่จริงคุณไม่ต้องไปกับฉันก็ได้นะ”เซี่ยชีหรั่นเร่งฝีเท้าเดินมาตรงหน้าเขา
“พอดี ไม่ยุ่งมาก” น้ำเสียงของเขานิ่งเฉย รู้ว่าในใจผู้หญิงคนนี้อยากให้เขาไปด้วย
เธอทำเพื่อเขามากมาย ยอมรับสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดายอมรับไม่ได้ เขารู้สึกว่าความจริงแล้วเรื่องที่เขาสามารถทำเพื่อเธอมีไม่มาก ดังนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรเพื่อเธอ แม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่เต็มใจก็ตาม เขาก็ยินยอมทำ
มาถึงสถานีรถไฟ เซี่ยชีหรั่นกลัวพ่อแม่บุญธรรมไม่พบเธอ จึงตั้งใจตั๋วชานชาลาโดยเฉพาะ
“หลิน คุณรอข้างนอกแหละ ไม่ต้องเข้าไปด้านในกับฉัน”
เซี่ยชีหรั่นนึกถึงความสูงส่งของเย่เชินหลิน ไม่ว่าไปไหนจะมีหน่วยการรักษาความปลอดภัยจำนวนมากไปด้วย ดูเหมือนการจะให้เขาไปรับคนและช่วยถือของ เป็นเรื่องกล้ำกลืนฝืนทนสำหรับเขา
เย่เชินหลินไม่พูดอะไร แค่บอกคนขายตั๋วชานชาลาอย่างเย็นชา :“สองใบ”
เซี่ยชีหรั่นจำได้ตอนที่พวกเขาไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เย่เชินหลินช่วยเธอถือของมากมาย เมื่อถูกผู้คนที่ผ่านไปมามอง สีหน้าของเขามีความเก้อเขิน
เธอยิ้มเล็กน้อย รับตั๋วชานชาลาถือไว้ในมือ
รถไฟมาถึงอย่างรวดเร็ว พ่อแม่บุญธรรมลงจากรถมองเห็นเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน
เมื่อไป๋จงเจี๋ยเห็นเย่เชินหลิน เธอยิ้มออกมาทันที
“คุณเย่ ฉันคิดไม่ถึงว่าจะมารับพวกเราด้วยตนเอง ไอ๊หยา ดูสิ คนสูงส่งอย่างคุณมาที่สถานที่แบบนี้ได้ยังไง พวกเรานี่บาปกรรมจริงๆ”
คิ้วของเย่เชินหลินขมวดขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ชอบแม่บุญธรรมของเซี่ยชีหรั่น เพียงแค่นึกเรื่องเธอขายเซี่ยชีหรั่นให้กับเก่อต้าลี่ เขาไม่มีทางที่จะยิ้มให้เธอได้
แน่นอนว่าเซี่ยชีหรั่นรู้สิ่งเหล่านี้ เธอรีบยื่นมือออกไปหยิบกระเป๋าจากมือของแม่บุญธรรม
“แม่ค่ะ เดินทางมาเหนื่อยมากไหม”
ไป๋จงเจี๋ยไม่ให้เซี่ยชีหรั่นถือกระเป๋าของเธอ เธอแสร้งยิ้มและพูดว่า:“แกจะมาช่วยฉันถือของทำไม ตอนนี้ฐานะของแกไม่เหมือนเดิมแล้ว เป็นคุณนายเย่ ปกติคงมีคนเดินตามหลังแย่งถือของมากมาย แกคงช่วยฉันถือไม่ได้แล้วสินะ”
“แม่ หนูช่วยถือค่ะ ไม่ว่าตอนนี้หนูจะเป็นใคร ยังไงหนูก็คือลูกของพ่อกับแม่ สิ่งนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้”
เมื่อเทียบกับไป๋จงเจี๋ยที่พูดจาสำบัดสำนวน พ่อบุญธรรมดูเงียบกว่ามาก เขาไม่ค่อยพูด เพียงแค่มีรอยยิ้มบนใบหน้า
“ไอ๊หยา จริงสิ ฉันเลี้ยงแกกับเสี่ยวจุนโตขึ้นมาไม่ง่าย แก่จนป่านนี้ สามารถเสพสุขบุญวาสนาของพวกแก ก็คงไม่มากไปนะ” ไป๋จงเจี๋ยดูตัวเองต่ำต้อยเกินไป เย่เชินหลินเหมือนจะไม่ชอบ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนน้ำเสียง เพียงแต่เธอพูดแบบนี้ สีหน้าของเย่เชินหลินเหมือนจะยิ่งไม่พอใจมากขึ้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset