สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 830 สาวใช้ตัวแสบ 734

ตอนที่ 830 สาวใช้ตัวแสบ 734
โดยเฉพาะในโรงแรมแบบนี้ที่สามารถปลดปล่อยได้อย่างไม่สิ้นสุด โม่เสี่ยวหนงยิ่งปล่อยตัวง่ายขึ้นอีก
เสียงครวญครางของเธอหนักขึ้นเรื่อย ชายมีเคราเหมือนได้รับกำลังใจบางอย่าง ยิ่งทำท่าทีเคลื่อนไหวมากขึ้น
“ที่รัก คุณชื่ออะไร? ฉันชอบคุณมากๆ เลย เหมือนอยากจะมาร่วมรักกับคุณทุกวัน”
โม่เสี่ยวหนงก็อยากมีคนรักที่ยืนยาว แต่คิดๆ ดูแล้ว แบบนี้อันตรายเกินไป เธอจึงขมวดคิ้วยิ้มๆ และพูดว่า : “ถ้ามีพรหมลิขิตคงได้เจอกันอีก ฉันมีผู้ชายของตัวเองอยู่แล้ว ไม่สามารถมามีความสัมพันธ์แบบลับๆกับเธอได้ตลอดหรอก”
“ที่รัก ชอบการร่วมรักกับฉันไหม?”
“ชอบ!” โม่เสี่ยวหนงตอบอย่างไม่ลังเล
“ชอบไหม! ฉันได้ยินไม่ชัดเลย!”
“ชอบ!” โม่เสี่ยวหนงส่งเสียงดังเพิ่มขึ้นอีก
รู้ว่าถ้าจบคืนนี้ไปแล้ว เธอคงไม่โอกาสได้เจอผู้ชายที่ให้ความสุขแบบนี้อีก โม่เสี่ยวหนงอาลัยอาวรณ์
มือของเธอคล้องคอชายมีเคราไว้ และหัวเราะชอบใจว่า : “คุณอยากจะทำอีกครั้งไหม?”
“เอา! คืนนี้ฉันจะเอาให้เธอตาย!”
ไม่รู้ว่าร่วมรักกันไปกี่ครั้ง สุดท้ายชายมีเครากอดเธอไว้และปล่อยให้เธอหลับไป
เช้าวันต่อมา ไม่เห็นเงาของชายมีเคราแล้ว
แต่สำหรับโม่เสี่ยวหนงแล้ว ความสัมพันธ์ชั่วคราวครั้งนี้ถือว่าไม่เลว เธอไม่ชอบผู้ชายที่กวนใจ
เธอส่องกระจก ดีหน่อยที่ชายมีเคราพอจะเข้าใจ ถึงจะดุดันเหมือนหมาป่าหรือเสือ แต่ก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนตัวเธอ
หลังจากอาบน้ำเสร็จโม่เสี่ยวหนงก็กลับไปที่บ้านของแม่ ทักทายพ่อแม่ตามปกติ บอกให้พวกเขาบอกเลี่ยวเหวยตงว่าเมื่อคืนเธอนอนที่นี่
คุณพ่อโม่ไม่ชอบใจพฤติกรรมการค้างคืนนอกบ้านของโม่เสี่ยวหนง แต่ไป๋จงเจี๋ยกลับคิดว่าไม่ผิดอะไรมากมาย ดังนั้นจึงไม่ทำโทษลูกสาว กลับกันยังบอกให้เธอไม่ต้องกังวล พ่อแม่จะปิดบังให้เอง
เรื่องที่ทำให้โม่เสี่ยวหนงมีความสุขที่สุดคือผลไม้ไม่มีรอยเน่า เลี่ยวเหวยตงเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไร ยังคงติดเธอเหมือนกาวเหมือนเดิม
บางครั้งที่ขึ้นเตียง เธอจะแอบคิดถึงชายมีเครา เมื่อมีอะไรกับชายมีเคราแล้ว สำหรับเลี่ยวเหวยตง เธอรู้สึกว่าเลี่ยวเหวยตงแทบจะไม่มีแรงไม่มีเทคนิคเลย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ในใจเธอรู้ดี ต่อให้ชายมีเคราจะร้ายกาจแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถถือเป็นอาหารหลักได้ ยิ่งในใจเธอยังมีเย่เชินหลินเป็นจุดหมายหลักด้วย เธอเชื่อว่าถ้าได้ขึ้นเตียงกับเย่เชินหลิน ต้องฟินกว่าชายมีเคราเป็นร้อยเท่า
และเพื่อทำให้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นไม่ระมัดระวังกับเธอ ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเลี่ยวเหวยตงอย่างเป็นทางการ เธอจะไม่เจอกับเซี่ยชีหรั่นและไม่ไปที่คฤหาสน์ของเย่เชินหลิน
ตระกูลเย่ก็สงบเงียบปกติ ดูเหมือนว่าส้งหลิงหลิงก็เก็บความใจร้ายต่างๆ ไปหมดแล้ว และตั้งใจดูแลลูกอย่างดี
ยากมากที่เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินจะมีเวลาที่สงบเงียบแบบนี้ ออกไปทำงานทุกวัน กลับบ้านก็ไปเล่นกับเด็กด้วยกัน
ตั้งแต่จงหยุนซางกับหลี่เหอไท้เลิกกัน เซี่ยชีหรั่นเคยบอกว่าไม่อยากไปทำงานที่บริษัทของตระกูลหลี่แล้ว หลี่เหอไท้เข้าใจความหมายของเธอ แต่เขาก็ยืนยันต้องการให้เซี่ยชีหรั่นอยู่ต่อ
“ชีหรั่น คุณจะทำงานที่นี่หรือไม่ จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิดว่าฉันกับหยุนซางจะยังคบกันไหม คุณเองก็น่าจะเข้าใจนิสัยเธอ ถ้าเธอรู้ว่าคุณลาออกจากบริษัทเพราะพวกเรา เธอต้องไม่มีความสุขมากแน่ๆ”
เซี่ยชีหรั่นเอาชนะหลี่เหอไท้ไม่ได้ และก็ยังไม่อยากไปทำงานที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปของเย่เชินหลิน ดังนั้นจึงยังทำงานต่อบริษัทของหลี่เหอไท้
หลินหลิงที่ลาไปพักร้อนก็กลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าหลังจากกลับมาหลินหลิงจะเย็นชามากกว่าเมื่อก่อนอีก ไม่เคยพูดถึงเรื่องความรักเลย
ลี่หมินก็เหมือนจะจบเรื่องลงด้วยเช่นกัน ไม่มีใครพูดถึงอีก เดิมทีเย่เชินหลินอยากจะจับคู่ต่อ แต่ทุกครั้งที่นัดลี่หมินมาตงเจียง เขามักจะหาข้ออ้างมาเลื่อนนัดตลอด เหมือนกับว่าตงเจียงเป็นสถานที่ที่เขาไม่อยากจะกลับมาอีก
เดิมทีเซี่ยชีหรั่นก็อยากจะจับคู่ให้พวกเขาเร็วๆ แต่ว่าเวลาส่วนใหญ่ของเธอตอนนี้หมดไปกับการจัดการเรื่องงานแต่งงานของโม่เสี่ยวหนง
เพื่อจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบให้โม่เสี่ยวหนง เย่เชินหลินได้จัดทีมงานที่มีความสามารถเฉพาะด้านไปร่วมงานกับตระกูลเลี่ยว
กระนั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวกับโม่เสี่ยวหนง เซี่ยชีหรั่นก็ลงมือทำเองทั้งหมด
ทุกครั้งที่เห็นเธอจัดการทุกอย่างไปทั่ว เย่เชินหลินมักมีสีหน้าอึมครึม ตำหนิที่เธอไม่ดูแลตัวเอง
เซี่ยชีหรั่นไม่เคยโกรธเย่เชินหลินที่ตำหนิเพราะห่วงใยเธอแบบนี้ กลับรู้สึกหัวใจอบอุ่นจนหาที่เปรียบไม่ได้
“ห้ามวิ่งอีกแล้ว เพื่อผ้าม่านผืนเดียว เธอวิ่งไปมาเป็นสิบรอบอย่างกับคนใช้” เย่เชินหลินพูดกับเธอสีหน้าอึมครึม เซี่ยชีหรั่นกลับยิ้มและพูดว่า : “คุณไม่รู้ ฉันยิ่งวิ่งแบบนี้ ยิ่งรู้สึกว่างานแต่งงานของโม่เสี่ยวหนงใกล้ความจริงมากขึ้น กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆแล้ว เรื่องที่ฉันกับเสี่ยวจุนเป็นห่วงที่สุดคือเธอ… โอ๊ย ทำไมพอพูดถึงเสี่ยวจุนสีหน้าคุณไม่น่าดูขนาดนี้ บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าเขาเป็นแค่พี่ชาย? ตาขี้งก!”
“พี่ก็ไม่ได้ ไม่ใช่พี่แท้ๆ สักหน่อย!”
“โอเค โอเค ไม่พูดถึงก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งพูดได้ไม่นานว่าจะไม่พูดถึงอีก ก็ยังโทรไปหาโม่เสี่ยวจุนอีกครั้ง ให้เขาช่วยดูรายละเอียดงานแต่งงานของโม่เสี่ยวจุนหน่อย ในเมื่อนอกจากเธอก็มีโม่เสี่ยวจุนนี้แหละที่จะเข้าโม่เสี่ยวหนงมากที่สุด
เพื่อแสดงความไม่พอใจและความเป็นเจ้าของของตัวเอง เวลาที่เธอโทรคุยกับโม่เสี่ยวจุน เขามักจะกอดเธอไว้บนตักเสมอและยิ่งกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ยังไงก็ตามเซี่ยชีหรั่นกับโม่เสี่ยวจุนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่บอกคนอื่นไม่ได้ เขาชอบกอดเธอแบบนี้เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ขัด
“พรุ่งนี้ฉันอยากไปช่วยเสี่ยวหนงเลือกไฟ คุณมีเวลาไปกับฉันไหม?” เซี่ยชีหรั่นถามโม่เสี่ยวจุน
ความจริงแล้วโม่เสี่ยวจุนไม่อยากเป็นน้ำขุ่นของโม่เสี่ยวหนง แต่ก็ไม่อยากทำให้เซี่ยชีหรั่นผิดหวัง เขาเลยตอบไปแค่คำเดียวว่า ได้
“ดีมากเลย เสี่ยวจุนงั้นพรุ่งนี้ออกมาเร็วหน่อยน่ะ 08.30 น.พวกเราเจอกันที่หน้าประตูบริษัทโคมไฟตงเจียง”
หลังจากวางสายโทรศัพท์เซี่ยชีหรั่นก็เห็นเย่เชินหลินทำหน้าบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าหึงหวงอีกแล้ว
“พรุ่งนี้ที่บริษัทฉันไม่มีธุระอะไร ฉันไปกับเธอด้วย” เขาพูดเสียงเข้ม เซี่ยชีหรั่นขยับเข้าใกล้อ้อมกอดเขาอีกนิด และพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อว่า : “คุณจะไปจริงๆ หรือ? คุณไปก็ดี จะได้เจอกับเสี่ยวจุน พวกคุณไม่ต้องทำเหมือนเป็นศัตรูกัน แค่คุณไม่เย็นชากับเขามากเกินไปก็พอ ฉันมั่นใจว่าเขาก็ยังเกรงใจคุณอยู่ดี”
เย่เชินหลินตะคอกและพูดอย่างเย็นชาว่า : “ใครบอกจะไปด้วยกันกับเขา? ฉันจะไปกับคุณ พวกเราสองคน แค่เลือกไฟจำเป็นต้องใช้คนเยอะอะไรไหม?”
“โอ๊ย คุณไม่รู้ เมื่อก่อนเสี่ยวจุนเรียนศิลปะ ว่าไปแล้วรสนิยมของเขาดีมาก…”
เซี่ยชีหรั่นพูดไม่ทันจบก็เห็นสีหน้าเย่เชินหลินอึมครึมขึ้นมาอีก แถมยังขมวดคิ้วตัดบทเธออีกด้วย
“คุณคิดว่ารสนิยมของเขา ยังดีกว่ารสนิยมของผู้ชายของตัวเองอีกรึไง? ฉันไม่เห็นจะดูออกเลยว่าเขาจะมีเซลล์ด้านศิลปะ? ฉันเห็นเขาใส่เสื้อผ้า…” เย่เชินหลินคิดย้อนกลับไปสักครู่ ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการแต่งตัวของเขาน่ะ
ถือได้ว่าเย่เชินหลินเป็นบุตรแห่งสวรรค์ ไม่ว่าจะสวมใส่อะไรเขาจะพิถีพิถัน ในเมื่อเขาเป็นคนพิถีพิถันแบบนี้ สำหรับการแต่งตัวของโม่เสี่ยวจุนเขาจึงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าดูจากการพัฒนาของโม่เสี่ยวจุน เขาทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่เลวมากๆ แล้ว
แน่นอน สิ่งเหล่านี้มาจากมุมมองที่เป็นข้อเท็จจริง แต่สำหรับผู้ชายที่กำลังหึง ไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรแล้ว เย่เชินหลินหยุดพูด และพูดต่ออย่างอารมณ์ไม่ดีว่า : “เธอดูเสื้อผ้าที่เขาใส่นั้นเหมาะสมไหม? ไม่รู้เพราะฉิงฉิงไม่สนใจเขาหรือตัวเขาเองกันแน่ที่บ้านๆ …”
“คุณพูดถึงเขาแบบนี้ ตำหนิคนลับหลังแบบนี้ไม่ถูกน่ะ” เซี่ยชีหรั่นปิดปากเย่เชินหลิน ไม่อนุญาตให้เขาพูด
“นี้คุณจะปกป้องเขาใช่ไหม?” เย่เชินหลินดึงมือเซี่ยชีหรั่นออก ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มไม่พอใจจริงแล้ว เซี่ยชีหรั่นจึงยิ้มและพูดว่า : “ฉันปกป้องเขาที่ไหน คุณต่างหากใจแคบ โอเค ตกลงแบบนี้น่ะ พรุ่งนี้พวกเราออกไปด้วยกัน พวกเรากับโม่เสี่ยวจุนสามคนไปเลือกไฟให้โม่เสี่ยวหนง เขาไม่มีรสนิยมดีเหมือนคุณ แต่เขาเข้าใจโม่เสี่ยวหนงมากกว่าคุณ ถูกต้องไหม?”
เย่เชินหลินคำรามเบา แสดงออกว่าเขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
“หลิน วันนี้ฉันได้ยินคนใช้ผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่าเธอเคารพคุณมาก คิดว่าคุณหล่อจนหาที่เปรียบไม่ได้เลย ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของเธอน่ะ ฉันว่าคุณตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น น่าดึงดูดขึ้นอีกน่ะ แค่ดูก็รู้ว่าสง่างาม และเป็นผู้ชายที่คิดถึงคนอื่นๆ คุณว่าฉันโชคดีไหมที่เจอคุณ ฉันฝันและยิ้มจนตื่นตั้งหลายครั้ง”
ปากเซี่ยชีหรั่นหวานเหมือนน้ำผึ้ง สีหน้าเย่เชินหลินค่อยๆ อบอุ่นขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้เธอเห็นว่าเขากำลังอ่อนละลายลง ก็เลยแกล้งทำเป็นขรึมไว้
เขาโอบกอดเธอไว้และพูดว่า : “ผู้ชายดีๆ แบบนี้เธอต้องรักษาโอกาสไว้ดีๆ …” และกดเธอลงบนเตียง
เช้าวันที่สอง เหมือนว่าเย่เชินหลินจะตื่นเช้ากว่าปกติ เซี่ยชีหรั่นตื่นมาเห็นชุดสองชุดวางอยู่บนโซฟา เสื้อคู่รัก
“ผู้ชายคนนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังโชว์ให้เสี่ยวจุนดู ใจแคบ” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความสุข
เสี่ยวจุนหวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดี แน่นอนเธอรู้
เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินกินข้าวเช้าด้วยกัน และขึ้นไปดูเย่เจิ้งเหิงน้อยก่อนจะออกไปบริษัทโคมไฟตงเจียง ก่อนออกเดินทางเซี่ยชีหรั่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทโคมไฟตงเจียงเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป จนกระทั่งถึงประตูทางเข้าบริษัทโคมไฟตงเจียง พวกเขาลงจากรถก็มีคนมาปูพรมแดง พนักงานต่อแถวต้อนรับ เซี่ยชีหรั่นถึงจะรู้ที่แท้ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทย่อยของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป
“สวัสดีคุณชายเย่ คุณนายเย่!” ทุกคนทักทายพร้อมกัน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเป็นเกียรติอีกครั้งที่เป็นผู้หญิงของเย่เชินหลิน
เธอจับแขนเขาไว้ ถ้าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย เธอคงจะค่อยๆ ชิน อย่างเดียวที่รู้สึกผิดในใจคือพนักงานเหล่าต้องเตรียมการเป็นพิเศษ
สองคนค่อยๆเดินไปด้านหน้า ขณะเดียวกับโม่เสี่ยวจุนมาถึงพอดี คิดว่าเขาจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานทั้งหลายเช่นกัน แต่โม่เสี่ยวจุนกลับถูกรปภ.คนหนึ่งขวางไว้
“ขออภัย คุณผู้ชาย วันนี้ท่านประธานและภรรยามาตรวจเยี่ยมที่นี่ ดังนั้นพวกจึงปิดบริการชั่วคราว”
“ผู้ชายคนนี้ ตั้งใจสิน่ะ!” หลังจากเซี่ยชีหรั่นกระซิบข้างหูเย่เชินหลิน จึงรีบบอกกับผู้จัดการบริษัทโคมไฟอย่างยิ้มๆ ว่า : “ผู้ชายคนนั้น เป็นเพื่อนของฉัน วันนี้พวกเรามาช่วยเลือกไฟที่จะใช้ในงานแต่งงานของน้องสาวฉัน”  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset