สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 829 สาวใช้ตัวแสบ 733

ตอนที่ 829 สาวใช้ตัวแสบ 733 
ลูกผู้ชายจะมาตามขอโทษผู้หญิง ขอให้ผู้หญิงให้อภัยมั่วๆ ได้ไง แล้วนิสัยอย่างนั้นของโม่เสี่ยวหนง ครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายน่าจะพอๆ กัน ดังนั้นความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องมาตามขอโทษอะไรผู้ที่กำเริบเสิบสานและอวดดี
เขาแค่คิดอย่างนั้น แต่ไม่ได้พูดออกมา
เซี่ยชีหรั่นกลับคิดว่าเขาคือคนที่ยืดหยุ่นได้ ช่างน่าชื่นชมมาก
“ฉันพาคุณไปเจอเธอ เธอเหมือนจะยังโกรธอยู่มาก จะพูดให้เธอยอมได้รึเปล่า ก็ต้องดูที่ตัวคุณเองแล้วแหละ” เซี่ยชีหรั่นกล่าว เลี่ยวเหวยตงรีบขอบคุณมาหลายคำ
โม่เสี่ยวหนงเห็นเลี่ยวเหวยตง ทีแรกไม่สนใจ จากนั้นก็ตำหนิ สุดท้ายเลี่ยวเหวยตงยังคงกล่อมให้เธอกลับบ้านซ้ำแล้วซ้ำอีก เธอจึงพูดอย่างหยิ่งยโสว่า : “กลับก็ได้ ของขวัญที่บอกว่าจะให้ต้องเอามาให้ถึงก่อน ของขวัญถึงบัญชี คุณค่อยมารับฉัน ฉันจะกลับไปกับคุณ”
“ได้ ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ คุณรอฉันมารับแล้วกัน” เลี่ยวเหวยตงจูบหน้าผากโม่เสี่ยวหนง ทักทายกับเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นก่อนจะเดินออกไป
“เสี่ยวหนง เขาดูจริงใจมากเลยน่ะ ฉันว่าเขายังสนใจเธออยู่น่ะ ทำไมเธอไม่ไปกับเขา?” เซี่ยชีหรั่นถามโม่เสี่ยวหนง
โม่เสี่ยวหนงกลับยิ่งคิดว่าเซี่ยชีหรั่นไม่อยากเจอเธอ จึงหวังจะกำจัดเธอให้ไสหัวออกไปกับเลี่ยวเหวยตง
เพื่อลดความระวังตัวของเธอและเย่เชินหลิน เธอจึงยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า : “ไม่ใช่ไม่ไปกับเขา เขาแค่คิดว่าครั้งนี้เพราะเขาและแม่ของเขาทำไม่ถูก และเพื่อแสดงความจริงใจ เขายืนยันว่าจะเอาของขวัญมาให้ฉันก่อน พี่พูดไม่ผิด เขาดีกับฉันมากจริงๆ รอเขาจัดการเรื่องนี้ ฉันก็กลับไปกับเขานั่นแหละ”
ไม่ว่าจะพูดยังไง อย่างน้อยเซี่ยชีหรั่นก็ได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง
หลังจากทานอาหารเที่ยง เลี่ยวเหวยตงกลับมาอีกรอบและรับโม่เสี่ยวหนงไปแล้ว
ชีวิตที่เหลือจะสงบสุข
เวลาเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นอยู่บ้านจะชอบไปอยู่กับเย่เจิ้งเหิงน้อย ทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นเห็นเด็กร้องเธอจะตื่นเต้นกว่าส้งหลิงหลิงเสียอีก
เธอไม่รู้ว่าตัวเองถามเย่เชินหลินไปแล้วกี่ครั้งเกี่ยวกับปัญหาสุภาพที่อ่อนแอของเด็กว่าจะทำอย่างไร เย่เชินหลินพูดปลอบใจเธอ : “ไม่เป็นไร หมอบอกแล้ว เหตุการณ์แบบนี้ใช้เวลาไม่นาน ปกติแล้วผ่านไป2-3เดือนก็จะดีขึ้น”
ได้ยินเขาพูดแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ส้งหลิงหลิงครบเดือนแล้ว แต่เพราะคำสั่งของเย่เชินหลิน ต่อให้เธอครบเดินแล้วก็ยังไม่อนุญาตให้เธอเดินไปเดินมา
ทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นไปดูเด็ก จะเห็นส้งหลิงหลิงมองดูลูกตัวเองด้วยความรักอย่างเต็มที่ เธอรู้สึกว่าเธอน่าจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ห้องใหญ่แค่ไหน แต่ออกนอกประตูไม่ได้ ก็ยังทำให้คนรันทดใจ
วันนี้เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินอารมณ์ดีไม่เลว จึงพูดเรื่องการคิดที่จะให้อิสระกับส้งหลิงหลิงเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
“หลิน ตอนนี้เสี่ยวหนงก็ไม่ได้อยู่ที่นี้ ฉันคิดว่าเราควรให้อิสระส้งหลิงหลิงได้เดินไปมาในบ้านบ้างน่าจะดี อย่างแรกเมื่อสภาพจิตเธอดี สภาพจิตใจเด็กก็น่าจะดีตาม อย่างที่สอง ผู้ใหญ่เคยบอกไว้ว่าการอยู่เดือนที่ดีที่สุดคือ3เดือน แสดงว่าร่างกายของยังค่อนข้างอ่อนแอ ถ้าได้เดินเล่นสักหน่อย ก็จะกลับมาแข็งเองได้”
เย่เชินหลินเอามือลูบผมเธอและพูดอย่างปลงๆ ว่า : “คุณคิดเพื่อเขา แต่เขาอาจจะไม่รู้สึกขอบคุณน่ะ”
“ฉันไม่ต้องการให้เธอรู้สึกขอบคุณฉัน หลิน ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ชีวิตแทบจะสมบูรณ์แบบ ดังนั้น ฉันก็หวังว่าคนอื่นจะมีชีวิตที่ดีด้วยเช่นกัน” ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพราะฉันเธอถึงเป็นแบบวันนี้ คำพูดนี้เธอกลับเก็บมันไว้ในใจ
“เซี่ยชีหรั่นพูดเรื่องความรู้สึกกับฉัน อยากให้เธอได้อิสระขยับตัวเดินไปมาด้านนอก ฉันเคารพการพูดของเธอ ดังนั้นถ้าเธออยากออกไปก็ออกไปได้ พ่อบ้านจะหาคนดูแลเธอให้” เย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิงพูดต่อหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างเยือกเย็น ส้งหลิงหลิงยิ้มตอบกลับไปให้เซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น ขอบคุณ ฉันอยากจะออกไปเดิน ให้ห้องมันอึดอัดเกินไป”
คำพูดของส้งหลิงหลิงสุภาพ รอยยิ้มเป็นธรรมชาติออกมาจากใจจริง เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นไม่อยากคิดมาก แต่ในใจของพวกเขาก็หวังว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงและดีขึ้น
ยังกังวลเรื่องโม่เสี่ยวหนง เซี่ยชีหรั่นโทรถามสถานการณ์ของเธอที่บ้านสามีเป็นบางครั้งบางคราว
“พี่ พวกเขาดีกับฉันมาก ฉันรู้เพราะเขาเห็นแก่พี่เขย เลยไม่กล้าจะอะไรกับฉัน ตอนนี้แม้แต่พ่อแม่เขาดีกับฉันจนไม่มีอะไรพูด พี่ ช่วยฉันขอบคุณพี่เขยด้วยน่ะ”
“ได้สิ” เซี่ยชีหรั่นพูด
“ได้อะไร?” เย่เชินหลินที่กอดเธออยู่ถามขึ้น
“เสี่ยวหนงบอกให้ฉันขอบคุณคุณ ฉันบอกว่าฉันจะพูดแทนให้ แต่ฉันต้องขอบคุณคุณจริงๆ ดูเหมือนว่าเลี่ยวเหวยตงจะไม่เลวกับเธอ”
เย่เชินหลินแค่ยิ้มอย่างอบอุ่น แต่ไม่ได้พูดอะไร
เลี่ยวเหวยตงคนนี้ไม่เหมือนพ่อของเขาเลยสักนิด เขากล้าหาญและกตัญญู ทำไมเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับโม่เสี่ยวหนง เขายอมกล้ำกลืนกับโม่เสี่ยวหนงขนาดนี้ เขาคงต้องรอสังเกตดู
ค่ำวันนั้น เลี่ยวเหวยตงบอกว่าจะพาเสี่ยวหนงไปเที่ยวที่บาร์ พักผ่อนสักหน่อย
เดิมที่โม่เสี่ยวหนงก็ชอบออกไปด้านนอกอยู่แล้ว บาร์คืออีกหนึ่งสถานที่ที่เธอชอบที่สุด เลี่ยวเหวยตงยอมพาเธอไปแถมยังไม่ถือสา แน่นอนเธอดีใจมาก
พอดีกับที่เธออยากให้เลี่ยวเหวยตงรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดไหน ไม่มีครั้งไหนที่ไปที่บาร์แล้วจะไม่มีกลุ่มผู้ชายมารายล้อมเธอ เธอชอบความรู้สึกที่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง
โม่เสี่ยวหนงตั้งใจเลือกกระโปรงที่ดูเซ็กซี่ แต่ก็โดนเลี่ยวเหวยตงขมวดคิ้วปฏิเสธ
“ไม่ได้! โป๊เกินไป ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองเมียตัวเอง”
“ขี้งก!” โม่เสี่ยวหนงจิ้มหน้าผากเลี่ยวเหวยตงและพูดอย่างฉอเลาะ
ไม่ต้องพูดถึงการผ่านช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสักพัก โม่เสี่ยวหนงยิ่งรู้สึกเห็นเลี่ยวเหวยตงในสายตามากยิ่งขึ้น ยิ่งตอนนี้พวกเขาเข้ากันได้ดีในส่วนของเรื่องบนเตียง
บางครั้งบางคราวเธอก็คิดว่า ถ้าเลี่ยวเหวยตงดีกับเธอแบบนี้ตลอดไป ครอบครัวของเขาโอนอ่อนผ่อนปรนตามเธอแทบทุกอย่าง ในเมื่อครอบเขาก็พอมีฐานะ ถ้าได้สานต่อกันตลอดไปก็ไม่เลว
“เสี่ยวหนง คุณเต้นได้ดีมาก เซ็กซี่มาก อยากจะจับคุณขึ้นตั้งแต่ตรงนี้เลย” เลี่ยวเหวยตงพูดข้างหูโม่เสี่ยวหนง โม่เสี่ยวหนงถูกปลุกเร้า เธอบิดเอวอย่างร้อนแรงและขยับสะโพกอย่างเซ็กซี่ยิ่งขึ้นอีก
เธอสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งดูน่าสนใจกำลังจ้องเธอจากที่ไม่ไกล ใจเธอเต้นและมักจะมองไปที่ชายคนนั้นเสมอ
คางของผู้ชายคนนั้นเหมือนจะมีเครานิดหน่อย สายตาน่าหลงใหล เขาไม่มองคนอื่น มองแค่โม่เสี่ยวหนง
“ผู้ชายคนนั้นมองฉันตลอด พวกเราเปลี่ยนที่เต้นกันเถอะ” เลี่ยวเหวยตงพูดพลางโอบกอดโม่เสี่ยวหนงหมุนไปที่อื่น
โม่เสี่ยวหนงผิดหวังเล็กน้อย แต่เพื่อเห็นแก่หน้าผู้ชายของตัวเอง จึงยอมตามเขาไป
ไม่นาน เลี่ยวเหวยตงได้รับข้อความหนึ่ง
“เสี่ยวหนง ดูนี้ หัวหน้าพวกเราเรียกไปดื่มเป็นเพื่อนเขาหน่อย เขาอกหัก เอาไงดี เธอก็ยังเที่ยวไม่เต็มที่เลย”
โม่เสี่ยวหนงถูกสะกดด้วยดวงตาของชายมีเคราคนนั้นจนจิตใจวุ่นวาย กำลังกังวลว่าไม่มีโอกาสไม่ได้ลองสักหน่อย พอได้ยินเลี่ยวเหวยตงพูดแบบนั้น เธอรีบพูดอย่างเข้าใจที่ข้างหูเขาทันทีว่า : “ฉันอยู่เที่ยวที่นี่คนเดียวได้ ถ้าคุณกลับมาเร็วก็มารับฉัน แต่ถ้าหัวหน้าคุณไม่ยอมปล่อยคุณกลับมา คุณก็ดื่มเป็นเพื่อนเขาก็ได้ ฉันจะเรียกรถกลับบ้านเอง ยังไงที่ก็อยู่ใกล้ตึกส่วยเทียนยีบิ่น”
“ที่รัก คุณอยู่ที่นี่คนเดียวได้ไม่เป็นไรจริงไหม?” เลี่ยวเหวยตงดูไม่ค่อยสบายใจ
“แน่นอนว่าไม่เป็นไร พวกเราเป็นนักแสดงต้องหาประสบการณ์ชีวิต บาร์แบบนี้สถานที่แบบนี้เรามาบ่อย จะมีอะไร คุณรีบไปเถอะ อย่าให้หัวหน้ารอนานเลย”
“ได้ งั้นฉันไปก่อนน่ะ มีอะไรโทรหาฉันน่ะ” เลี่ยวเหวยตงจูบริมฝีปากโม่เสี่ยวหนง และยังกระซิบข้างหูเธอว่า : “เที่ยวได้น่ะ แต่ห้ามดึงดูดพวกผึ้งหรือแมลง ผู้ชายมีเคราคนนั้นออกห่างจากเขาหน่อยน่ะ”
โม่เสี่ยวหนงจิ้มหน้าผากเขาอีกครั้ง แสดงถึงการบอกว่าเขาขี้งก เธอไม่มีทางมั่วแน่นอน
หลังจากเลี่ยวเหวยตงออกไปแล้ว โม่เสี่ยวหนงเต้นพลางแอบสอดส่ายสายตามองหาเงาของผู้ชายมีเคราคนนั้น
ไม่นาน เธอรู้สึกร้อนที่ด้านหลัง มีผู้ชายกำลังเข้าใกล้เธอ และพูดอย่างมีเสน่ห์ข้างหูเธอ : “ที่รัก กำลังหาฉันอยู่รึเปล่า?”
โม่เสี่ยวหนงมอง นั้นใช่ชายมีเคราคนนั้นไหม?
หัวใจของเธอเต้นรัวเพราะชายมีเคราคนนั้นสนใจเธอ คืนนี้ได้พบกับเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้สับสนงงงวยไปหมด
ไม่ว่ายังไงโม่เสี่ยวหนงก็หมั้นแล้ว ไม่กล้าออกตัวมาก เธอสังเกตรอบด้านจนแน่ใจว่าไม่มีคนรู้จัก จึงจะกล้าเต้นอย่างร้อนแรงกับชายมีเคราคนนั้นอย่างเปิดเผย
ชายมีเคราเซ็กซี่ ช่างเซ็กซี่และดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้นเมื่อเต้น เขาเหมือนจะไม่รู้ว่าจับโดนจุดอ่อนไหวที่สุดของโม่เสี่ยวหนง ยั่วให้ฮอร์โมนเธอหลั่งอย่างฉับพลัน
“ที่รัก ฉันอยากจะลองลิ้มรสคุณจัง” เขากระซิบข้างหูเธออีกครั้ง ใจของโม่เสี่ยวหนงเองก็เฝ้ารออยู่เช่นกัน เธอกลัวว่าเลี่ยวเหวยตงจะกลับมาได้จังหวะพอดี ดังนั้นถึงเธอจะมีใจแต่เธอก็ไม่กล้า
ขณะที่เธอกำลังเสียดายที่ไม่สามารถผ่านคืนนี้ไปกับชายคนนี้ได้ แต่ก็ไม่อยากเพิกเฉยอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ส่งแสงสว่างขึ้นมา เธอเปิดดูและได้รับข้อความหนึ่ง
เลี่ยวเหวยตงส่งข้อความมาว่า : ขอโทษน่ะที่รัก ฉันคงกลับไม่ทันแล้ว คืนนี้คุณไปนอนที่บ้านแม่คุณน่ะ
โม่เสี่ยวหนงมีความสุข ผู้ชายคนนั้นเข้าใกล้ใบหน้าเล็กของเธออีกครั้ง และพูดว่า : “ที่รัก ฉันจะทำให้เคลิบเคลิ้มถึงที่สุด…”
บนเตียงใหญ่ของโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากบาร์ ไม่มีความวุ่นวายแบบในบาร์ ไม่มีความคึกคักของกลุ่มคน มีเพียงชายหญิงวัยรุ่นสองกอดรัดกันแน่น จูบและสัมผัส
ชายมีเคราทำตามที่เขารับปากได้แบบนั้น ทำให้โม่เสี่ยวหนงเคลิบเคลิ้มถึงที่สุด
ที่ผ่านมาโม่เสี่ยวหนงก็ถือว่าไม่เป็นรอง วันนี้เจออาจารย์ของอาจารย์ ความสนุกแบบนั้นถึงอกถึงใจมาก
ฮอร์โมนเปี่ยมล้น จนกระทั่งเธอเองก็ไม่รู้สึกว่าชายมีเครากำลังช่วยขยับมุมให้เธอ ตั้งใจให้กล้องบันทึกภาพหน้าของได้อย่างชัดเจน
“ที่รัก คุณเก่งมาก ปล่อยมากกว่านี้อีกได้ไหม?” ชายมีเครากัดติ่งหูเธอและเล้าโลมเธออย่างมีเสน่ห์
คนเราแตกต่างกัน สถานการณ์ก็แตกต่างกัน ถึงแม้โม่เสี่ยวหนงกับเลี่ยวเหวยตงจะถือว่าเหมาะสมกัน ในเมื่อพวกเขาคบกันจริง จะแอบไปมีความสุขแบบลับๆ ได้อย่างไร

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset