สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 847 สาวใช้ตัวแสบ 751

ตอนที่ 847 สาวใช้ตัวแสบ 751
เซี่ยชีหรั่นนึกถึงตอนที่ยังอยู่ในห้องนอนของเย่เชินหลิน เธออยากจะสร้างความลำบากให้ส้งหลิงหลิงต่อ แต่เย่เชินหลินกลับให้ส้งหลิงหลิงกลับขึ้นตึกไป
ในตอนนั้นเย่เชินหลินรีบร้อนอยากบอกความจริงกับเธอ หรือว่าอยากจะปกป้องส้งหลิงหลิงอีกกันแน่?
เธอเชื่อว่าส้งหลิงหลิงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เย่เชินหลินฉลาดขนานนั้น ไม่มีทางที่จะไม่รู้ ถ้าเขาไม่รู้ ก็แสดงว่าแกล้งโง่แล้ว
ดูเหมือนว่าขอแค่ส้งหลิงหลิงอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่มีทางที่จะเลิกทำลายพวกเขาแน่ เธอหลอกใช้โม่เสี่ยวหนงทำเรื่องเลวร้ายไม่สำเร็จ ยังไงก็ต้องทำเรื่องอื่นอีกแน่ๆ
ผ่านมรสุมครั้งนี้มาแล้ว เซี่ยชีหรั่นยิ่งได้รู้ว่าเย่เชินหลินสำคัญต่อหัวใจของเธอขนานไหน เธอไม่สามารถสูญเสียเขาไปได้ และไม่อยากจากกันกับเขา
หลินเพื่อที่จะให้เราได้รักกันตลอดไป ฉันไม่สามารถทนให้ส้งหลิงหลิงทำลายเราได้อีกต่อไปแล้ว ฉันอยากให้คุณยืนอยู่เคียงข้างฉัน
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่โทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง คิดเงียบๆอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน เธอโทรออกไปหาหลี่เหอไท้ เพื่อลางานกับเขาหนึ่งวัน เวลาในวันนี้จะใช้เพื่อมาจัดการเรื่องของส้งหลิงหลิง
เธอเคาะประตูห้องของเย่เชินหลินพลางเอ่ยถามเสียงเบาว่า“หลิน ไปกินข้าวเช้าไหมคะ? ”
“ไป”เย่เชินหลินก้าวเดินอย่างสง่างามออกมาจากห้องนอน มองไปที่ใบหน้าน้อยๆของเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาอ่อนโยน
เธอผ่านการร้องไห้มาแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำ ผู้หญิงคนนี้ต่อให้ตระกูลโม่จะทำไม่ดีกับเธออีกสักเท่าไหร่ เธอก็ยังคงเสียใจเหมือนเดิม แค่ไล่โม่เสี่ยวหนงออกไป มันไว้โทษกันเกินไปจริงๆ เย่เชินหลินนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่เซี่ยชีหรั่นทำให้โม่เสี่ยวหนง เขาอดไม่ได้ที่จะอยากตบหน้าโม่เสี่ยวหนงสักหลายๆครั้ง
เซี่ยชีหรั่นก็มองไปที่เขาเช่นกัน ใบหน้าเธอประดับด้วยรอยยิ้ม แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ฝืนยิ้มออกมา
เขาโอบไหล่ของเธอพลางเอ่ยเสียงเบาว่า“ไม่มีความสุขก็ไม่ต้องยิ้ม ยิ้มที่ปั่นแต่งขึ้นมาไม่น่าดูเลยจริงๆ”
เธอไม่มีความสุข ต่อให้เปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าก็คงมีความสุขขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน เขาเป็นคนรักของเธอ เธอไม่ควรที่จะฝืน เธอควรเรียกรู้การปลอดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองต่อหน้าเขาบ้าง
เซี่ยชีหรั่นหุบยิ้มลงไป และดูนิ่งเงียบมาก ภายใต้ความนิ่งเงียบนั้นแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ เย่เชินหลินมองไปที่เธอแวบหนึ่งพลางขมวดคิ้วมุ่น แต่กลับไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร
ทั้งสองคนมาที่ห้องอาหาร แน่นอนว่าเซี่ยชีหรั่นไม่รับรู้ถึงรสชาติอาหารอยู่แล้ว แต่เธอบอกตัวเองว่า ยิ่งเธอไม่มีความสุขมากเท่าไหร่ ส้งหลิงหลิงก็จะมีความสุขมากเท่านั้น เธอจะทำให้หล่อนสมหวังไม่ได้ เธอบังคับตัวเองให้ทานอาหารเช้าตรงหน้าให้หมดถึงได้พูดขึ้นว่า“หลิน วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันก็เลยลางานแล้วเหมือนกัน ฉันจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านหนึ่งวันนะ”
“โอเค ต้องการให้ผมไปเดินเล่นเป็นเพื่อนไหม? คุณอยากไปที่ไหนได้หมดเลย”เย่เชินหลินเอ่ยถามอย่างนิ่งๆ
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันไม่อยากเจอใคร”
“งั้นก็ไม่ไป คุณสบายใจแบบไหนก็เอาแบบนั้น”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลิน ริมฝีปากหยักยิ้มพลางพูดว่า“ หลิน คุณดีกับฉันจริงๆ ขอบคุณนะคะ”
เธอยื่นมือออกไปวางทับบนหลังมือของเขา แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ใช่คนที่จะเข้าหาก่อนแบบนี้ เย่เชินหลินยิ้มบางๆ และรู้สึกว่าเรื่องในวันนี้ไม่ได้เลวร้ายทั้งหมดเสมอไป
หลังจากทานข้าวเสร็จ หลินต้าฮุยก็มาถึงพอดี เซี่ยชีหรั่นบอกให้เย่เชินหลินไปทำงาน เธอจะไปเดินเล่นด้วยตนเอง
ช่วงนี้เย่เชินหลินไม่ได้ว่างเหมือนแต่ก่อนแล้ว จงหวีฉวนไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวเลย และมักจะทำเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ให้เขายุ่งยากอยู่เสมอ
เย่เชินหลินไปที่ห้องหนังสือ เซี่ยชีหรั่นไม่ได้กลับไปที่ห้องนอนของเย่เชินหลิน และไม่ได้ไปห้องนั้นที่โม่เสี่ยวหนงเคยพักอยู่ เธอไม่อยากจะนึกถึงเรื่องที่โม่เสี่ยวหนงหักหลังเธอให้เจ็บปวดขึ้นมาอีก
เธอถือโทรศัพท์เดินเล่นอยู่ในคฤหาสน์ เธอเชื่อว่าเย่เชินหลินไม่ได้ขังบริเวณส้งหลิงหลิง หล่อนจะต้องพาลูกออกมาเล่นแน่ๆ
เธอนั่งลงบนชิงช้าและรออยู่อย่างเงียบๆ เป็นไปตามคาดผ่านไปไม่นาน หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ ส้งหลิงหลิงก็เดินออกมา
หล่อนไม่ได้อุ้มลูกด้วยตัวเอง พี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งช่วยเธออุ้มลูกไว้ ด้านหลังยังติดตามมาด้วยสาวใช้อีกสองคน
เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าเธอมาแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดอัดเสียง จากนั้นถึงได้นำโทรศัพท์วางไว้ในกระเป๋า
เธอลงมาจากชิงช้า พลางมุ่งไปทางส้งหลิงหลิงอย่างช้าๆ ที่ส้งหลิงหลิงเดินออกมาก็เพราะเธออยากจะดูว่าเซี่ยชีหรั่นจากไปรึยัง
ตามที่เธอคาดการณ์ เซี่ยชีหรั่นต้องจากไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดแล้วเซี่ยชีหรั่นไม่ได้จากไป
“อัยหย่า ชีหรั่นอ่า เธอยังไม่ไปอีกเหรอ? ยอมเธอเลยจริงๆ พื้นฐานจิตใจนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆแล้วนิ”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างเย็นชา”ฉันจากไป เธอก็ทำสำเร็จแล้วงั้นสิ?”
“เธอพูดถึงอะไรเหรอ ฉันอวยพรให้เธอกับเย่เชินหลินมาโดยตลอดเลยนะ ฉันรู้ว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรหลงเหลือให้ฉันตั้งนานแล้ว ดังนั้นฉันจึงหวังจะให้พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข อีกทั้งเหิงเหิงก็ชอบเธอด้วย เขามีแม่เลี้ยงแบบเธอ ต่อให้ฉันจากไปแล้ว ก็วางใจได้ไงล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ แค่พูดกับคนที่ติดตามหล่อนมาว่า “ฉันมีเรื่องจะคุยกับส้งหลิงหลิงเป็นการส่วนตัว พวกคุณพาตูตูไปเล่นที่สวนด้านหน้าก่อน อย่าไปไกลนะคะ”
“ค่ะ คุณนายเย่!”คนหลายคนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นก็อุ้มเย่เจิ้งเหิงออกไป
“เหลือแค่พวกเราสองคนแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องพูดคำเสแสร้งพวกนั้นหรอก”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างเย็นชา
“เธอคิดว่าฉันชอบพูดแบบนั้นกับเธอรึไง? ฉันเกลียดเธอเซี่ยชีหรั่น ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่มีทางชอบเธอ โดนน้องสาวสุดที่รักหักหลัง รู้สึกดีใช่ไหม? ฉันดูอย่างสนุกสนานจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเธอจะหน้าหนาหน้าทนขนานนี้ เย่เชินหลินได้กับโม่เสี่ยวหนงแล้ว เธอยังสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ต่อไปถ้าเธอมีอะไรกันกับเขาจะไม่รู้สึกรังเกียจรึไง?”ส้งหลิงหลิงเข้ามาใกล้เซี่ยชีหรั่น และเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้า
เซี่ยชีหรั่นหน้าดำหน้าแดง เธอกัดปากตัวเองพลางพูดอย่างนิ่งเรียบว่า“รังเกียจ แน่นอนว่ารังเกียจอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่เธอหวังว่าจะได้เห็นใช่ไหม?ส้งหลิงหลิง ถ้าไม่เป็นเพราะเธอยุยงเสี่ยวหนงทุกวิถีทางเสี่ยวหนงไม่มีทางทำแบบนี้แน่ ฉันเข้าใจเสี่ยวหนงดี”
“ยุยงแล้วยังไง? ฉันจะบอกเธอให้นะ เซี่ยชีหรั่นถ้าเธอจากไปแต่โดยดี อนาคตเธอจะต้องสดใสมากแน่ ถ้าไม่ไป นี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ฉันส้งหลิงหลิงสิ่งที่ฉันมีคือสมอง เธอทำให้บ้านฉันแตกสาแหรกขาด ถ้าฉันไม่ได้ทำให้เธอลิ้มรสสิ่งที่ฉันได้เจอมาทั้งหมด ฉันตายตาไม่หลับ!”
เป็นเธอจริงๆด้วย เธอรู้แล้วว่าส้งหลิงหลิงมีส่วนเกี่ยวข้อง
เซี่ยชีหรั่นหายใจเข้าลึกๆ พลางยิ้มเย้ยหยัน
“ส้งหลิงหลิง เธอเชื่อมั่นในตัวเองจังเลยนะ เธอคิดว่าเย่เชินหลินจะปกป้องเธอตลอดไปรึไง?”
“แน่นอน “ส้งหลิงหลิงใบหน้าเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นใจ ลูกมีปัญหา เย่เชินหลินไม่มีทางให้เธอจากไปแน่ เธอเชื่อมั่นในจุดนี้เป็นอย่างมาก ถ้าเธอไปได้ ครั้งที่แล้วที่เย่เชินหลินโกรธจัดขนานนั้นพลางขังเธอไว้ และให้ลูกหย่านม เขาทำเพื่อจะให้เธอจากไป ผลลัพธ์คือได้ส่งลูกไปโรงพยาบาล แล้วเย่เชินหลินก็ต้องใช้เธออีกครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
เย่เชินหลินไม่ใช่คนที่อดทนต่อคนอื่นง่ายๆ ที่เขายอมทนเพราะเป็นทางเลือกเดียว ต่อให้เขาจะปฏิเสธอีกสักกี่ครั้ง แต่เรื่องที่ลูกเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดก็เป็นเรื่องจริง
เด็กคนนี้มีปัญหาตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นโอกาสของเธอส้งหลิงหลิงไม่เยอะ เธอต้องใช้โอกาสที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ ทำให้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นแยกทางกัน และหาโอกาสท้องลูกของเย่เชินหลินอีกครั้ง
“สมมุติถ้าเขารู้ว่าเรื่องวันนี้เป็นฝีมือของเธอ เธอคิดว่าเขายังจะเก็บเธอไว้ที่นี่อีกเหรอ?”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถาม
“แน่นอน เขามีความรู้สึกต่อฉัน อีกอย่างลูกของเขาก็มีความสำคัญกว่าเธอ เพื่อลูกของเขาแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องให้ฉันอยู่ต่อแน่ เซี่ยชีหรั่นถ้าไม่เชื่อพวกเราก็มาลองกันดูอีกสักครั้งสิ”
มือของเซี่ยชีหรั่นสั่นแล้วสั่นอีก ส้งหลิงหลิงจะมั่นใจเกินไปแล้ว เธอที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นก็จะอดหวั่นใจไม่ได้ เย่เชินหลินจะทำเพื่อเธอ และให้ส้งหลิงหลิงจากไปจริงๆไหม? ถ้าเขาไม่ทำล่ะ?
ไม่!ครั้งนี้เธอจะไม่กลัวเด็ดขาด เธอยอมตายเพื่อรักษาศักดิ์ศรี!
“ได้ พวกเรามาลองกันซักตั้ง! ส้งหลิงหลิง เรามาดูกันว่าในใจของเย่เชินหลินนั้นฉันสำคัญ หรือว่าเธอสำคัญกันแน่”
เซี่ยชีหรั่นพูดจบก็หันหลังจากไป ส้งหลิงหลิงกลับส่งเสียงพูดขึ้นด้านหลังเธอว่า”รอเดี๋ยว!”
“เซี่ยชีหรั่น ในเมื่อต้องการที่จะพนันกันมันก็ต้องมีเดิมพัน ถ้าฉันแพ้ฉันก็จะจากไป ถ้าคนที่เย่เชินหลินใส่ใจคือฉันกับลูก เธอยังจะหน้าด้านหน้าทนอยู่ที่นี่ต่อไหม?”
ถ้าหากว่าเด็กมีปัญหา เย่เชินหลินถึงจะให้ส้งหลิงหลิงอยู่ต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้เธอเข้าใจได้
แต่เย่เชินหลินบอกกับเธอด้วยตัวเองว่าเด็กไม่ได้เป็นอะไร ในเมื่อเป็นแบบนั้น ถ้าเขายังปกป้องส้งหลิงหลิงอยู่ เธอยังมีเหตุผลอะไรที่จะอยู่เคียงข้างเขาอีก?
หรือว่าเธอจะต้องลืมตามาดูเรื่องร้ายๆที่จะเกิดขึ้น ดูส้งหลิงหลิงทำเรื่องเลวร้ายครั้งแล้วครั้งเล่างั้นเหรอ?
เธอรู้ว่าถ้ารับปากแล้วไม่สามารถกลับคำได้ ดังนั้นเธอต้องรับปาก เพื่อทำให้ตัวเองไม่ใจอ่อนให้กับเย่เชินหลินง่ายๆ
“ใช่ ถ้าฉันแพ้ ฉันจะจากไป ถ้าเธอแพ้ เธอก็ลืมไปซะว่าเธอคลอดเย่เจิ้งเหิงออกมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแม่เพียงคนเดียวของเขาก็คือฉัน!”พูดจบประโยคนี้ เซี่ยชีหรั่นจึงยืดหลังตรงพลางเดินอย่างเด็ดเดี่ยวไปทางคฤหาสน์
ที่ด้านหลังของเธอ ส้งหลิงหลิงยิ้มด้วยใบหน้าแห่งชัยชนะ สายตามองตามหลังของเธอไปจนลับตา
คนอย่างเซี่ยชีหรั่น เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ครั้งนี้เธอเชื่อว่าเพียงแค่เธอพูดยั่วยุ พวกเขาก็จะแยกจากกันแน่ ประหยัดแรงซะจริงๆ
ที่ผ่านมาระหว่างที่เย่เชินหลินทำงาน เซี่ยชีหรั่นจะไม่กวนเขา แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิม เธอไม่อยากรออีกแม้แต่วินาทีเดียว เธออย่างจะรู้ผลมันซะเดี๋ยวนี้
ถือโอกาสในตอนที่เธอทั้งทรมานใจและเสียใจเป็นที่สุดนี้ ถ้าเขายังตัดสินใจทำให้เธอผิดหวัง เธอจะได้เจ็บเจียนตายในครั้งเดียว
เธอเคาะประตูห้องหนังสือของเย่เชินหลินเบาๆ ได้ยินเสียงตอบของเขาในห้องหนังสือว่า“เข้ามา!”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเซี่ยชีหรั่น เขาจึงตั้งใจวางงานในมือลงทั้งหมด ทำแม้กระทั่งลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินออกมาช้าๆ
ผู้หญิงของเขาในเวลานี้ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อน ดังนั้นขอแค่เธอต้องการ เขาก็พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดเวลา
เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูเข้ามา ใช้สายตาแปลกๆมองมาที่เขา
“มีอะไรเหรอ ที่รัก?”เย่เชินหลินถาม
“ฉันอยากจะถามคุณว่าร่างกายของตูตูไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆใช่ไหม?”
“ทำไมถึงถามแบบนั้น แน่นอนว่าไม่มีจริงๆอยู่แล้ว ถ้าเขามีปัญหา ผมจะให้ทุกคนรับรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายเขา ไม่มีเหตุผลอะไรต้องปิดปัง”ท่าทางของเย่เชินหลินนิ่งมาก เซี่ยชีหรั่นดูจากหน้าเขาไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนโกหก
นี้เป็นเรื่องที่เธอต้องการที่จะยืนยันก่อน ในเมื่อเย่เจิ้งเหิงไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเก็บส้งหลิงหลิงไว้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset