สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 846 สาวใช้ตัวแสบ 750

ตอนที่ 846 สาวใช้ตัวแสบ 750
จนถึงตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเซี่ยชีหรั่นนั้นยังคงเมื่อยล้าและไร้เรี่ยวแรง เธอเคยสัมผัสกับความรู้สึกนี้มาก่อน มันราวกับว่าเขากลืนกินเธอทั้งคืน แต่เธอกลับคิดว่านั้นมันเป็นแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริง
“คุณ …คุณไม่ได้มีอะไรกับเสี่ยวหนงจริงเหรอ?งั้นเธอมีอะไรกับใคร?คุณดื่มเหล้าไปด้วย แล้วคุณบรรเทามันยังไง?”
“ซื่อบื้อจริงๆ ”เย่เชินหลินทอดถอนใจ พลางยื่นมือออกไปลูบหัวของเธอและพูดเสียงเบาว่า“ เมื่อวานตอนที่โม่เสี่ยวหนงรบเร้าจะชนแก้วกับผม ผมก็รู้แล้วว่าในใจเธอคิดไม่ซื่อแน่ ถ้าผมบอกคุณ คุณคงจะไม่เชื่อแน่ๆ ผมอยากจะให้คุณได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นน้องสาวแบบไหนกันแน่ ผมถึงใช้แผนซ้อนแผน และดื่มเหล้าที่เธอวางยาลงไป ส่วนเมื่อคืน แน่นอนว่ามีคนขึ้นเตียงกับเธออยู่แล้ว แต่คนนั้นไม่ใช่ผม ส่วนว่าเป็นใครนั้นคุณไม่ต้องรู้หรอก ยังไงซะน้องสาวคนนั้นของคุณไม่ว่าจะได้กับใคร ก็ได้หมดอยู่แล้ว ผมดื่มยาลงไปแน่นอนว่าก็ผมก็ต้องมียาแก้ และคุณก็คือยาแก้ของผม” เย่เชินหลินมองไปที่ใบหน้าน้อยๆอันเหนื่อยล้าของเซี่ยชีหรั่น คิดถึงเมื่อคืนที่เขาตักตวงจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อให้เธอจะหลับอยู่ แต่ก็คุ้นเคยกับร่างกายของเขาเป็นอย่างดี แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาเลย แต่ร่างกายยังคงตอบสนองเขาอย่างร้อนแรง
เขารู้อยู่แล้วว่าในแก้วเหล้าที่โม่เสี่ยวหนงให้เซี่ยชีหรั่นมียานอนหลับอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เลยว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
“พูดแบบนี้ หมายความว่าคุณไม่ได้มีอะไรกับเสี่ยวหนงจริงๆ…”ทันใดนั้นในใจของเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกดีใจแวบขึ้นมา เธอคิดว่าทางของเธอกับเย่เชินหลินได้ขาดออกจากกันแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลย
เซี่ยชีหรั่นขบกัดริมฝีปากตัวเอง เย่เชินหลินโน้มตัวมาปิดริมฝีปากของเธอไว้ พลางใช้ลิ้นแงะฟันของเธอออก เขาไม่อนุญาตให้เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง
เธอมีความรู้สึกดีใจ แน่ใจว่าเขาเองก็ดีใจเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพบเข้าก่อน ครั้งนี้คงจะติดกับของโม่เสี่ยวหนงเข้าจริงๆ รวมทั้งนิสัยแข็งกร้าวของเซี่ยชีหรั่น เกรงว่าพวกเขาคงจะเข้าตาจนแล้วจริงๆ
เขาจูบเธออย่างหวงแหนและอ่อนโยน เซี่ยชีหรั่นสัมผัสได้ถึงความหวงแหนของเขา
เธอหลับตาลงพลางน้ำตาก็ไหลเอ่อล้นออกมาทีละหยดๆ
เธอทั้งรู้สึกเจ็บปวดและทรมาน แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความรู้สึกหวานชื่นอย่างบอกไม่ถูก
โชคดีจริงๆ พวกเขายังเดินหน้าต่อไปด้วยกันได้ แต่ว่าโม่เสี่ยวหนง…
เซี่ยชีหรั่นผลักเย่เชินหลินออกพลางขมวดคิ้วมองไปที่เขา ครั้งนี้เขาคาดไม่ถึงจริงๆ เขาบอกเธออย่างชัดเจนไปหมดแล้ว ทำไมเธอถึงยังมองเขาแบบนี้อีก มันหมายความว่ายังไงกัน?
“มีอะไรเหรอ?”เขาถาม
“คุณบอกว่าคุณรู้แต่แรกแล้วว่าเสี่ยวหนงจะทำแบบนี้ ทำไมคุณไม่เตือนเธอ? คุณรู้อยู่แล้วว่าเธอวางยาเพื่อที่จะ…กับคุณ ทำไมคุณไม่ห้ามเธอตั้งแต่ตอนนั้น ต่อให้เธอวางยาแล้ว คุณก็บอกเธอได้ เธอไม่ได้กระทำการชั่วร้าย คุณสามารถบอกกับเธอได้ว่าคุณต้องการที่จะอยู่กับฉัน ทำไมคุณต้องหาคนมาย่ำยีเธอด้วย?”
ถึงแม้ว่าโม่เสี่ยวหนงจะทำไม่ถูก แต่ความจริงแล้วโม่เสี่ยวหนงก็ไม่ได้ทำให้เธอกับเย่เชินหลินแยกจากกัน นึกถึงตอนที่โม่เสี่ยวหนงจากไปอย่างกระเซอะกระเซิง เซี่ยชีหรั่นก็วางใจไม่ได้สักที
นึกถึงเมื่อคืนที่ไม่รู้ว่าใครที่ไหนทำเรื่องแบบนั้นกับโม่เสี่ยวหนง เธอยิ่งเสียใจกว่าเดิม ไม่ว่าจะยังไงเธอก็เป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ต่อให้ปกติเธอจะไม่รักนวลสงวนตัวอยู่แล้วก็เถอะ
“ไม่มีใครย่ำยีเธอ เป็นเธอเองที่ย่ำยีตัวเอง เซี่ยชีหรั่น เธอทำเรื่องแบบนี้กับคุณ ถ้าคุณยังเห็นใจเธออีก นั้นไม่ได้แปลว่าคุณมีเมตตาหรอก นั้นเรียกว่าโง่!”ท่าทางของเย่เชินหลินเข้มงวดขึ้นมา
เขาไม่ชอบโม่เสี่ยวหนงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพื่อเซี่ยชีหรั่น เขาถึงได้อดทนครั้งแล้วครั้งเล่าต่อเรื่องที่เธอทำ และทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อเรื่องที่เธอแสดงออกมา
เขามีความปรารถนาดีที่แนะนำแฟนให้กับเธอ แต่เธอออกไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่องเอง จนเละเทะไปหมด นี่ยังไม่นับว่าร้ายแรงอะไร ถ้าเธอยอมเก็บดาบและรู้จักขอบคุณบุญคุณตั้งแต่ตอนนั้น เย่เชินหลินก็ไม่มีทางทอดทิ้งคนคนนี้ และไม่มีทางให้เซี่ยชีหรั่นได้เห็นฉากที่บาดตาบาดใจแบบในวันนี้
หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น เขาไม่มีทางให้เซี่ยชีหรั่นไปยุ่งเรื่องของโม่เสี่ยวหนงอีกแล้ว
เซี่ยชีหรั่นทอดถอนใจ เธอคิดไม่ถึงว่าการที่ให้ท้ายโม่เสี่ยวหนงจะเป็นการทำร้ายตัวโม่เสี่ยวหนงเอง
ตอนนี้โม่เสี่ยวหนงยังเด็กอยู่ ถ้าเธอเข้าใจหลักการความเป็นคนตั้งแต่ตอนนี้ ก็ยังไม่สายเกินไป เธอไม่ควรเข้าไปยุ่งกับโม่เสี่ยวหนงอีกแล้ว เธอควรที่จะให้โม่เสี่ยวหนงเรียนรู้ด้วยตัวเองและหาความหมายของการมีชีวิตด้วยตัวเอง
เย่เชินหลินเห็นว่าคิ้วของเธอขมวดไม่คลายลงเลย เขาจึงยื่นมือไปคลึงที่คิ้วของเธอ พลางพูดอย่างอ่อนโยนว่า“เอาล่ะ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว คุณไม่ต้องไปมาหาสู่กับเธออีกต่อไปก็พอ ถ้าคุณยังค้างคาใจกับตระกูลโม่อยู่ ผมจะชดใช้ให้ตระกูลโม่อีกสักครั้ง แต่ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปคุณจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอีก”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า “ไม่ต้อง ต่อให้จะต้องชดใช้จริงๆ ก็ไม่ต้องการให้คุณมาชดใช้แทน อีกอย่างเรื่องมันก็เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป คุณให้เวลาฉันคิดหน่อย ฉันไม่อยากจะรีบตัดสินใจอะไรในตอนนี้”
“คุณอย่าได้ใจอ่อน เพราะว่าเธอทำเรื่องร้ายแรงกับคุณไม่สำเร็จนะ ถ้าหากไม่เจอเข้าก่อน พวกเราคงได้เลิกกันจริงๆแน่”เย่เชินหลินเตือนอย่างจริงจัง เซี่ยชีหรั่นตอบเสียงแผ่วเบาว่า“ฉันรู้ค่ะ”
เซี่ยชีหรั่นเงียบลง ในเวลานี้เธอเพิ่งจะสงบสติอารมณ์ลงได้และคิดไตร่ตรองเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เรื่องที่โม่เสี่ยวหนงทำ เมื่อคิดดูแล้วถือว่าร้ายแรงอยู่เหมือนกัน เธอเข้าใจโม่เสี่ยวหนงดี ต่อให้โม่เสี่ยวหนงมีใจคิดแบบนั้น แต่อาศัยแค่กำลังของเธอคนเดียวไม่มีทางทำได้ขนานนี้แน่
ผู้ที่บงการอยู่ข้างหลังจะต้องเป็นส้งหลิงหลิงแน่ นึกถึงเมื่อเช้าที่ส้งหลิงหลิงอยู่ที่ห้องโถง เมื่อคิดย้อนกลับไปก็เข้าใจว่าเธอน่ะ
รู้แต่แรกอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอตั้งใจรออยู่ที่นั่นเพื่อจะดูละครฉากนี้
“หลิน เรื่องเมื่อคืนนี้ที่คุณไปค้างที่ห้องของเสี่ยวหนงนอกจากคุณรู้แล้วยังมีใครรู้อีกไหม?”
“คุณอยากจะถามว่า โม่เสี่ยวหนงทำไม่สำเร็จยังมีใครรู้อีกบ้างเหรอ?”
“อืม”
“ไม่มีใครรู้ คนที่ผมเตรียมไว้รู้แค่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนอนกับเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร”
“อืม หลินฉันจะไปพักที่ห้องของเสี่ยวหนงสักหน่อยนะคะ” เซี่ยชีหรั่นพูด เย่เชินหลินรู้ จู่ๆเธอก็โดนหักหลัง ในใจต้องอึดอัดเอามากๆแน่ และจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับจูนสักหน่อย
“ไปเถอะ ถ้าต้องการหาคนคุยด้วย มาหาผมได้ตลอดเวลานะ เดี๋ยวหลินต้าฮุยจะเอาเอกสารส่งมาให้ วันนี้ผมจะทำงานอยู่ที่บ้าน”
“โอเค”
เซี่ยชีหรั่นหันหลังเดินออกไปจากห้องนอนของเย่เชินหลินอย่างช้าๆ เธอก้าวเดินอย่างหนักแน่นไปยังห้องนอนที่โม่เสี่ยวหนงเคยอาศัยอยู่มาตลอด ทุกครั้งที่เธอกลับมาโม่เสี่ยวหนงมักจะเอ่ยเรียกเธอว่าพี่เสมอ บางครั้งก็เรียกอย่างร่าเริง บางครั้งก็ทำเหมือนว่าไม่เต็มใจที่จะเรียก
เซี่ยชีหรั่นผลักประตูเปิดออก ราวกับว่าในห้องยังมีเงาของโม่เสี่ยวหนงอยู่ทุกหนทุกแห่ง เธอออกไปอย่างกะทันหัน เสื้อผ้าพวกนั้นที่หยิบมาจากตู้เสื้อผ้าของเซี่ยชีหรั่น เธอล้วนไม่ได้เอาไปด้วย
บนพื้นยังมีรองเท้าอยู่สองสามคู่ เซี่ยชีหรั่นย่อตัวลงไปอย่างเงียบ ๆ พลางหยิบรองเท้าสองสามคู่ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมา และนำไปใส่ไว้กล่องรองเท้าแล้ววางกลับไปในตู้เสื้อผ้าในห้อง
บางทีชีวิตนี้ เธอคงไม่มีโอกาสได้จัดของให้โม่เสี่ยวหนงอีกแล้ว
ความเคยชินเป็นเรื่องที่น่ากลัว หลายปีมานี้ เธอเคยชินกับการดูแลโม่เสี่ยวหนง ตั้งแต่เธออายุได้ไม่กี่ขวบก็เริ่มป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อมและอาบน้ำให้โม่เสี่ยวหนงแล้ว
อย่าว่าแค่คนคนหนึ่งเลย ต่อให้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เมื่อจากไปแล้วจิตใจของคนก็ย่อมอ่อนแอลงได้
เซี่ยชีหรั่นนั่งลงที่เตียงอย่างเลื่อนลอย เธอบอกว่าต้องการความเงียบ แต่พอตอนที่เงียบขึ้นมาจริงๆ ความเงียบในห้องกลับทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
โทรศัพท์ของเธอยังอยู่บนหัวเตียง เธอยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มา จากนั้นเห็นว่ามีข้อความความหนึ่งที่ยังไม่ได้อ่านโม่เสี่ยวหนงเป็นคนที่ส่งมา
เธอมองอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็เปิดอ่านโม่เสี่ยวหนงบอกว่า: “พี่ ฉันทำไม่ดี ฉันทำผิดต่อพี่ แต่ว่าฉันแค่ไม่พอใจในตัวพี่นิดหน่อยเท่านั้นเอง ฉันสนใจในตัวเขาอยู่บ้าง แต่พูดกันตามตรงไม่มีใครไม่สนใจผู้ชายแบบเขาหรอกนะ ส้งหลิงหลิงพูดไม่ดีถึงพี่ต่อหน้าฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันแค่โดนหลอกใช้ พี่ไล่ฉันไป พี่ต้องเสียใจที่หลังแน่”
เซี่ยชีหรั่นหลับตาลง พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล
การโดนหักหลังทำให้หัวใจของเธอแตกสลาย แต่พอเห็นข้อความของโม่เสี่ยวหนงเธอยังคงอยากจะรู้ว่าโม่เสี่ยวหนงไปที่ไหนกันแน่ เธอจะคิดสั้นรึเปล่า?
เธอไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่ โม่เสี่ยวหนงไม่ใช่คนที่จะคิดไม่ตกง่ายๆ เธอเคยโดนปล่อยภาพหลุดยังไม่คิดสั้นเลย เธอจะโดนทุกคนรุมด่าเสียๆหายๆรึเปล่านะ?
ไม่! เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ไม่มีทาง! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลับโม่เสี่ยวหนงทั้งนั้น! เซี่ยชีหรั่นถ้าเธอยังเป็นห่วงเป็นใยโม่เสี่ยวหนงและไปหาโม่เสี่ยวหนงอีกครั้ง ยังไงโม่เสี่ยวหนงก็ยังจะแย่งของของเธอไปและทำร้ายเธออีกอยู่ดี
เซี่ยชีหรั่นต่อสู้กับความคิดอยู่นานสองนาน สุดท้ายเธอก็โทรออกไปหาพ่อบุญธรรม
“พ่อคะ พ่ออยู่ไหน?”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถาม
“พ่ออยู่ที่บ้านนอก มาบ้านนอกกับแม่ อยู่ที่บ้านปู่ของลูก…”เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าตำแหน่งของอีกฝ่ายที่แสดงบนโทรศัพท์ของเธอเป็นเมืองตงเจียง บางทีเธอก็ไม่ควรจะมีโทรศัพท์ที่สามารถระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ได้เลยจริงๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่มีทางรู้ว่าพ่อบุญธรรมร่วมมือกับโม่เสี่ยวหนงหลอกเธอ และเธอคงไม่เสียใจมากอย่างในตอนนี้
“เสี่ยวหนงไปจากที่นี่แล้ว ถ้าพ่อห่วงเธอ ก็ติดต่อเธอไปเถอะ”เซี่ยชีหรั่นเงียบลง หลังจากที่ตัดบทสนทนาของพ่อบุญธรรม
นับตั้งแต่ที่เข้าไปตระกูลโม่และรู้จักกับพ่อบุญธรรมและแม่บุญธรรม นี้เป็นครั้งแรกที่เธอใช้ท่าทีการพูดจาแบบนี้กับพ่อบุญธรรม
เมื่อพูดจบ เธอก็ไม่ลังเลพลางใช้แรงกดปุ่มปิดเครื่องทันที
เมื่อคิดถึงความจริงใจของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลับแลกมาด้วยการปฏิบัติกับเธออย่างในวันนี้ เซี่ยชีหรั่นทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอฟุบลงบนเตียงนอนพลางร้องห่มร้องไห้อย่างเจ็บปวด
เธอไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอเสียใจ ไม่อยากได้ยินใครพูดว่าสมน้ำหน้า เธอมันโง่ เธอควรจะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของตระกูลโม่ตั้งนานแล้ว
เสียงร้องไห้ของเธอไม่ได้ดัง พยายามกดเสียงไว้ตลอดเวลา แต่ในใจกลับเจ็บจนทนแทบไม่ไหว
ไม่รู้ว่าเธอร้องไห้ไปนานแค่ไหน ถึงได้ลุกขึ้นมาเช็ดน้ำตา และอ่านข้อความของโม่เสี่ยวหนงอีกครั้ง
ไม่ผิดแน่ เธอเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเรื่องในวันนี้ส้งหลิงหลิงเป็นผู้สร้างให้ทั้งหมด ช่วงนี้ที่ผ่านมาเธอดูเหมือนว่าจะละทิ้งแผนการทุกอย่างแล้ว แต่ทั้งหมดนี้เป็นการเล่นละครตบตาของเธอทั้งนั้น
โม่เสี่ยวหนงคนคนนี้เป็นคนมีจิตใจอิจฉาริษยามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธออิจฉาเซี่ยชีหรั่นที่เป็นพี่สาวมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะว่าเธอสวยกว่า ถ้ามีคนไปพูดเรื่องไม่ดีของเซี่ยชีหรั่นกรอกหูเธอบ่อยๆ จิตใจด้านดีของเธอก็จะถูกซ่อนลงไป และจะทำเรื่องที่คาดไม่ถึงออกมา
ดังนั้นเรื่องนี้ยังไงคนที่ผิดก็คือส้งหลิงหลิง แต่ไม่ใช่โม่เสี่ยวหนง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset