สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 884 สาวใช้ตัวแสบ 788

ตอนที่ 884 สาวใช้ตัวแสบ 788
เขายังไม่รู้ว่าตอนนี้รีสอร์ทปี่ลี่สือกลายเป็นของหลี่เหอไท้แล้ว แต่ไม่ว่ายังไง การที่เขารู้ตำแหน่ง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
“อืม ฉันจำได้ว่าทางเข้าของที่นั้นมีเพียงทางเดียว การป้องกันก็จะค่อนข้างง่าย นายส่งคนของเราออกไปทั้งหมด พยายามอย่าให้เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอร้องล่ะ”
“ได้”หลี่เหอไท้รับปากเสียงทุ้ม รีบโทรศัพท์ไปสั่งตามที่เย่เชินหลินบอก
สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นกว่าปกติ หลังจากโทรศัพท์เสร็จ เขาก็ลุกขึ้นอย่างเงียบๆ เปิดตู้เซฟ และหยิบปืนสั้นออกมากระบอกหนึ่ง ซ่อนไว้ใต้เสื้อผ้า ก่อนจะเปิดประตูออกไปหาเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอมีความสุขอยู่กับการนึกถึงภาพชีวิตที่สวยงาม เฝ้าคิดถึงคำว่าชีหรั่นที่รักที่เย่เชินหลินเรียกเธอ ความหวานฉ่ำยังคงแผ่ซ่านไปทั่วใจเธอ
หลี่เหอไท้เคาะประตู เธอร้องพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“เชิญค่ะ”
เมื่อเข้ามาในห้อง บนใบหน้าของหลี่เหอไท้ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายเช่นกัน
“ชีหรั่น”เขาเรียก
“พี่เหอไท้คะ เย่เชินหลินโทรมาพี่หรือยังคะ พี่บอกที่อยู่ของที่นี่ให้เขาหรือยัง เขาบอกว่าเขาจะมาหาฉัน เขาบอกว่าเขาจัดการเรื่องของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเรียบร้อยแล้ว”เซี่ยชีหรั่นเหมือนเด็กสาวที่ดีใจสุดๆ พูดรวดเดียวทั้งหมด
เธอปกปิดความดีใจในใจของเธอไม่อยู่ เธอกำลังจะได้คืนดีกันกับเย่เชินหลินแล้ว ต่อไปครอบครัวและเพื่อนๆของเธอก็ไม่ต้องคอยเป็นห่วงเธอแล้ว
แม้ว่าเส้นทางนั้นแสนยากลำบาก แต่เธอก็ได้รอจนพบตอนจบที่สวยงามแล้ว จะไม่ให้เธอตื่นเต้นดีใจได้อย่างไร
หลี่เหอไท้เองก็รู้สึกชื่นชมในใจ นึกถึงการปกป้องของเย่เชินหลินที่มีต่อเธอ ในสถานการณ์คับขันอย่างนี้ เขาไม่เพียงไม่ทำให้เซี่ยชีหรั่นกังวลต่อภัยอันตรายที่กำลังจะมาถึงตนเองแม้แต่นิดเดียว แต่ยังทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้ สุดยอดจริงๆ
“เขาโทรมาหาพี่แล้ว และพี่ก็บอกที่อยู่ให้เขาไปแล้ว ว่าไง กลัวเขามาไม่ได้หรือไง”หลี่เหอไท้หยอกล้ออย่างผ่อนคลาย ดวงหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงระเรื่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“พี่เหอไท้ แล้วเขาบอกไหมคะว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ อ้อ ใช่สิ ฉันบอกเขาไปว่าอย่ารีบร้อน ไม่เป็นไร ฉันค่อยๆรอได้”ปากก็บอกว่าค่อยๆรอได้ แต่เท้าของเธอกลับเดินไปบนมาไม่หยุด
“วันนี้ฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะมา พี่ดูการแต่งตัวฉันสิ ไม่ค่อยสวยหรือเปล่า”เซี่ยชีหรั่นเดินไปตรงหน้ากระจก มองดูการแต่งตัวที่สบายๆ รู้สึกว่าเมื่อเทียบกับคราวที่แล้วที่เธอพบเย่เชินหลิน วันนี้ถือว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่เลยล่ะ
ตอนที่เธอมาก็นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอเย่เชินหลินเร็วขนาดนี้ ไม่มีอารมณ์แต่งตัวอะไรด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเสียใจแล้วที่ไม่ได้เอาเสื้อผ้าสวยๆมาเยอะหน่อย
“ยัยเด็กโง่ ในสายตาเขาไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็สวยทั้งนั้นแหละ เธอมานั่งนี่มา เดี๋ยวพอเขามาถึงก็จะรับเธอไป ต่อไปพี่เหอไท้อยากจะพบเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เธอมาคุยเป็นเพื่อนพี่หน่อย เธอมักจะพูดถึงจงหยุนซางให้พี่ฟังบ่อยๆไม่ใช่หรือ งั้นพูดเรื่องของเธอให้พี่ฟังหน่อยละกัน”
หลี่เหอไท้หาเรื่องคุยไปเรื่อย พูดเสร็จ ก็ลุกเดินไปนั่งยังตำแหน่งที่อยู่ห่างหน้าต่างที่สุด
เขาไม่ต้องการให้เซี่ยชีหรั่นมองออกไปข้างนอก อีกเดี๋ยวอาจจะเกิดสถานการณ์อันน่าสยดสยองขึ้นได้ ต่อให้เธอไม่เป็นอะไร แต่การให้เธอเห็นภาพเลือดสดสาดกระจายพวกนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเธอได้
“อื้มๆ”เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เธอเองก็อยากหาคนคุยด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นช่วงเวลาที่รอเย่เชินหลินมาก็จะผ่านไปช้า เธอทนไม่ไหว
ขณะนี้ เย่เชินหลินยังคงอยู่บนเครื่องบิน พยายามจะใช้โทรศัพท์มือถือของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยตามหาลูกน้องของเธอ บังคับให้เธอสั่งให้พวกเขาหยุดทุกการกระทำ
แต่ทว่า ความพยายามของเขาก็สูญเปล่า
เพราะเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่ได้ใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ในการติดต่อกับบอดี้การ์ดของเธอ แต่ใช้ระบบการสื่อสารพิเศษของพวกเขาเอง เพราะฉะนั้นหากไม่ใช่คนในที่ได้รับความยินยอมจากเธอ ก็ไม่มีทางที่จะหาวิธีติดต่อกับลูกน้องของเธอได้
ความสบายใจจากการที่เย่เชินหลินได้รับรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นปลอดภัยดีนั้นอยู่ได้เพียงไม่นาน จิตใจของเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์กังวลอีกครั้ง
อย่างไรเสียเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็เป็นคนในเชื้อพระวงศ์ของประเทศฝานหลาย ที่ออสเตรเลีย เขาก็เคยปะทะกับคนของพวกเขามาก่อน
หากไม่ใช่เพราะเขาจู่โจมอย่างไม่ให้ตั้งตัว การจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
ครั้งนี้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่แม้แต่จะคิดถึงชีวิตของตนเองด้วยซ้ำ ดูสิว่าเธอเกลียดเซี่ยชีหรั่นเพียงใด ยิ่งเธอเกลียดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งออกคำสั่งตายให้แก่ลูกน้อง
ขณะนี้การบีบคอเธอต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเท่าไหร่แล้ว และไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นคนท้อง
หลังจากที่ได้รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นยังปลอดภัยดี เย่เชินหลินก็ได้คลายมือออกจากคอของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
ทันทีที่ได้รับอากาศหายใจ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็หายใจเข้าออกอย่างแรงหลายที
เธอสามารถไม่คิดชีวิตได้จริงๆ เมื่อเธอโกรธถึงขีดสุดเธอคิดแบบนั้นจริงๆ
แต่ตอนนี้เธอก็ค่อยๆมีสติขึ้นมาแล้ว หากเธอเอาชีวิตตนเองเข้าแลกเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเซี่ยชีหรั่น มันไม่คุ้มค่าอยู่แล้ว
เธอได้เปลี่ยนความคิดแล้ว แต่จะไม่บอกเย่เชินหลิน ท่าทางเธอดูใจเย็นมาก อีกทั้งยังเอ่ยขึ้นอย่างเยาะเย้ยเล็กน้อย
“เย่เชินหลิน นายไม่ขอร้องอ้อนวอนฉันหรือ ไม่แน่นะ ถ้านายขอร้องฉัน ฉันสามารถบอกให้คนของฉันปล่อยเธอไปได้”เธอเอ่ยอย่างวางตัว
“เธอไม่มีทางปล่อยหรอก”เย่เชินหลินพูดอย่างมั่นใจ
“หึๆ ดูท่าทางนายก็รู้จักฉันบ้างแล้ว รู้ว่าฉันทำอะไรก็ต้องทำให้สุด เป็นไง พอได้ยินว่าเซี่ยชีหรั่นปลอดภัยดี นายก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้วงั้นหรือ การที่ตอนนี้เธอปลอดภัยดี ก็ไม่ได้หมายความว่าวินาทีต่อไปเธอจะยังปลอดภัย ฉันบอกคนของฉันไปแล้ว หากพวกมันฆ่าเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ ฉันจะให้พวกมันตายทั้งหมด”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว จ้องเธออย่างดุดัน แววตาของเขาเยือกเย็นมาก เยือกเย็นราวกับจะตรึงเธอไว้ให้แข็งทื่อ
“เซี่ยชีหรั่นตายก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังมีร่างครบองค์ประกอบ แต่ถ้าเธอกล้าทำให้เขาตาย ฉันจะผลักเธอลงจากเครื่องบิน ตกลงไปจากที่สูงขนาดนี้ เธอจะตายอย่างไม่เหลือซากเลยล่ะ”เย่เชินหลิน
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยกลับหัวเราะอย่างไม่แยแส พร้อมเอ่ยขึ้น“มีแต่พวกนายเท่านั้นแหละที่สนใจว่าตายแล้วจะเป็นสภาพอย่างไร ยังไงก็ตายเหมือนกัน วินาทีที่ตายไปก็ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว ฉันไม่สนใจหรอก”
ภายในเครื่องบินเงียบสงบลง เครื่องบินกำลังบินกลับไปด้วยความเร็วสูง เย่เชินหลินกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือตลอดเวลา
เขาไม่อยากได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่อยากได้ยินหลี่เหอไท้โทรมาบอกเขาว่าเซี่ยชีหรั่นเกิดเรื่องแล้ว
ขณะนี้เขาหวังเหลือเกินว่าเขาจะเคยเรียนการบิน ถ้าเช่นนี้เขาก็จะรู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาจึงจะถึงที่หมาย เขาสามารถบังคับความเร็วในการบินเองได้
“เย่เชินหลิน นายไม่เคยมีความรู้สึกดีๆกับฉันเลยหรือ”แม้ว่าทุกที่บนอากาศจะไม่แตกต่างกันมากนัก อยู่เหนือก้อนเมฆไม่สามารถรู้ได้ว่าเครื่องบินบินถึงไหนแล้ว แต่ทว่าเย่เชินหลินยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างไม่หยุด เขาทำเป็นหูทวนลมไม่ฟังคำพูดใดๆของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
“ขอแค่นายบอกมาคำเดียวว่ารักฉัน ฉันสามารถปล่อยนายไปได้”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอ่ยอย่างจริงจัง
หากเธอยอกปล่อยเซี่ยชีหรั่น ฉันอาจจะยอมพูดว่ารักเธอ
แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางปล่อยเซี่ยชีหรั่นไปแน่ เพราะถ้าเธอเป็นคนรักษาคำพูดก็จะไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนี้
เย่เชินหลินยังคงเย็นชา เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยฝืนยิ้มอย่างกล้ำกลืน ถามเขา“นายไม่กลัวตายจริงๆหรือ หากนายอยู่กับมัน ต่อให้วันนี้ฉันทำไม่สำเร็จ แต่สักวันฉันก็ต้องเอาชีวิตพวกนายไป”
เย่เชินหลินเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ทว่าไม่ได้เอ่ยพูดอะไร
ความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอมันถึงขีดสุดแล้ว ตอนนี้จะให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ ก็ต้องดูจากสถานการณ์ของเซี่ยชีหรั่นแล้วล่ะ
กัปตันเริ่มติดต่อไปยังสนามบิน บอกว่าเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้องกำลังเดินทางกลับ ขอลงจอดฉุกเฉิน
หลังจากที่ศูนย์บัญชาการสนามบินตงเจียงได้รับทราบคำขอของเขาแล้ว ก็ได้ตัดสินใจอนุญาตให้เขาลงจอด
ในที่สุดเครื่องบินก็บินลงไปแล้ว
เย่เชินหลินมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างตื่นเต้นสุดๆ เครื่องบินทะลุผ่านก้อนเมฆชั้นแล้วชั้นเล่า จนในที่สุดเขาก็มองเห็นตงเจียงแล้ว
นอกจากโทรศัพท์หาเซี่ยชีหรั่นและหลี่เหอไท้แล้ว เขาก็ได้โทรศัพท์หาหลินต้าฮุยและหัวหน้ากลุ่มคนชุดดำด้วย
เขาสั่งให้คนชุดดำสี่คนและหลินต้าฮุยไปรับเขาที่สนามบิน ให้คนชุดดำที่เหลือทั้งหมดออกปฏิบัติการ ไปปกป้องเซี่ยชีหรั่นที่รีสอร์ทปี่ลี่สือ
คนชุดดำต่างพกปืนไว้ คราวนี้เย่เชินหลินไม่กลัวที่จะเปิดเผยกำลังของตนเองอีกแล้ว
ต่อให้มีจุดจบที่เลวร้าย เขาก็ไม่สนใจ เขาเพียงต้องการช่วยผู้หญิงของเขาอย่างสุดกำลัง
ก่อนลงจากเครื่องบิน เขาบีบคอเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไว้อีกครั้ง ลากเธอลงจากเครื่องบินด้วย
กัปตันก็ได้ใช้วิธีลับแจ้งไปยังคนของประเทศฝานหลาย ทันทีที่เครื่องลงจอด ก็มีคนถืออาวุธครบมือเข้ามาในเครื่องบินหวังจะช่วยเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยออกไป
แต่ทว่าสุดท้าย พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากพวกบอดี้การ์ดบนเครื่อง ต่างไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอยู่ในมือของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นยังคงรอเย่เชินหลินอย่างร้อนใจอยู่ที่รีสอร์ทปี่ลี่สือของหลี่เหอไท้ เธอเดินไปดูนอกหน้าต่างเป็นระยะๆ แต่ก็ถูกหลี่เหอไท้ดึงกลับมาอย่างแนบเนียน
ภายในห้องเงียบสงัด ทว่านอกห้องกลับเงียบยิ่งกว่า
ในเวลาแบบนี้ ในใจของเซี่ยชีหรั่นมีเพียงการเฝ้าคอยอย่างร้อนรน ทว่าหลี่เหอไท้กลับกังวลและตื่นเต้นมาก สีหน้าที่อ่อนโยนของเขาในขณะนี้แตกต่างกับอารมณ์ในใจของเขาอย่างสิ้นเชิง
เวลาค่อยๆเดินผ่านไป ยิ่งสงบมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนแล้ว
ไม่แน่ อีกสักครู่อาจจะเกิดเสียงปืนดังลั่นขึ้น เวลานี้เขาอยากให้เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ยินอะไรไปเลย มิเช่นนั้น หากได้ยินเสียงปืน เธอต้องลนลานแน่ๆ
เขาได้แต่ภาวนาให้อาวุธของฝานหลายมีประสิทธิภาพหน่อย ขอให้ปืนที่พวกเขาใช้เป็นปืนเก็บเสียง
หลี่เหอไท้ได้ยินเหมือนข้างนอกมีเสียงฝีเท้าหนึ่ง เขามีการได้ยินที่ดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
หันมามองเซี่ยชีหรั่นเล็กน้อย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับเธอว่า“กาแฟของฉันเย็นหมดแล้ว เธอช่วยอุ่นให้ฉันหน่อยนะ ในห้องครัวมีไมโครเวฟ”
“ค่ะ”เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น ขณะที่เดินไปหยิบถ้วยกาแฟของเขานั้น หลี่เหอไท้กระตุกมือโดยทำเป็นไม่ได้ตั้งใจ กาแฟจึงหกใส่เซี่ยชีหรั่น
กาแฟตั้งค่อนแก้วหกใส่บนตัวเธอ ต่อให้เป็นฤดูหนาว แต่เนื่องจากอยู่ในห้อง เซี่ยชีหรั่นจึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเยอะมากนัก
เสื้อไหมพรมสีขาวเปียกชุ่มไปด้วยกาแฟอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นรู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูก หลี่เหอไท้เอ่ยขอโทษเสียงทุ้ม“ขอโทษชีหรั่น ฉันมันแย่จริงๆ ไม่ระวังเอาสักเลย เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำก่อนเถอะ”
หลี่เหอไท้เอ่ยพลางวางถ้วยกาแฟลง และรีบโค้งตัวหยิบเสื้อไหมพรมอีกตัวออกมาจากกระเป๋าที่เซี่ยชีหรั่นเอามา และโยนให้เธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset