สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 893 สาวใช้ตัวแสบ 797

ตอนที่ 893 สาวใช้ตัวแสบ 797
“เธออุ้มให้ดีก็แล้วกัน ถ้าทำให้ลูกฉันต้องล้มหรือเจ็บฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่” ส้งหลิงหลิงพูดด้วยความโกรธแล้วมองหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่พอใจ แต่เธอทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องส่งลูกให้เธอโดยดี
หลังจากส้งหลิงหลิงเดินจากไป เย่เชินหลินก็มองเธอจากด้านหลังแล้วหยุดคิดสักพัก จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเซี่ยชีหรั่นยิ้มพูดขึ้นมา “หลิน ดูสิ เหมือนเจ้าตัวน้อยยังจำฉันได้นะ”
เขาเก็บสายตาคู่นั้นที่มองส้งหลิงหลิงแล้วหันกลับมาพูด “ต้องจำได้แน่นอนสิ ลูกเคยบอกผมแล้วว่าคุณคือสาวสวยคนแรกที่เขาเคยเห็น คุณทำให้เขาต้องน้ำลายสอเลยนะ”
เย่เชินหลินเห็นน้ำลายของเด็กทารกจึงแกล้งพูดตลกกับเธอ
เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองเขาแล้วบ่น “พูดไปเรื่อย เจ้าตัวเล็กไม่มีความคิดที่ไม่บริสุทธิ์เหมือนคุณหรอก”
“เขาเป็นลูกชายผมนะ ต้องเหมือนผมสิ” เย่เชินหลินยื่นมือมาจับมือเล็กๆ ของเด็กเบาๆ
ตัวน้อยยังจำพ่อได้ดี ทุกครั้งที่เย่เชินหลินแกล้งเขา เขาก็จะหัวเราะอย่างมีความสุข
“ตอนนี้เจ้าตัวน้อยยิ้มเก่งจัง น่ารักจริงๆ เลย ดูแก้มของเขาสิ มันเขี้ยวมากเลย แต่คนโบราณบอกว่าไม่ควรสัมผัสใบหน้าของเด็กมากเกินไป ไม่งั้นจะทำให้มีน้ำลายเยอะขึ้น”
เมื่อเย่เชินหลินเห็นสีหน้าที่หลงใหลในเด็กของเซี่ยชีหรั่นแล้วเขารู้สึกมีความสุข แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกใจไม่ดี
เพราะเซี่ยชีหรั่นชอบเด็กคนนี้มาก แม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเธอก็ตาม ถ้าเขาแต่งงานแล้วมีลูกของตัวเอง เธอคงจะสนใจแต่ลูกและไม่มองเขาด้วยซ้ำ
ลองคิดดูแล้วอย่าเพิ่งมีลูกเลยดีกว่า ใช้ชีวิตคู่ให้คุ้มไปก่อน
แม้จะเป็นลูกในสายเลือดก็ถือว่าเป็นมือที่สามอยู่ดี เขาไม่อยากให้ใครต้องมาแย่งความรักจากเธอไป
“ทำไมไม่เห็นคุณดีกับผมแบบนี้เลย?” เย่เชินหลินถามอย่างน้อยใจ เซี่ยชีหรั่นจึงยิ้มพูด “หน้าของคุณแก่ขนาดนี้ ยังมีหนวดเต็มหน้าด้วย”
“ผมแก่เหรอ?” คุณเย่สีหน้าเศร้าลงกะทันหัน แล้วถามเธออย่างจริงจัง
รู้ไว้ด้วย ปีนี้เขาอายุแค่ 32 ปีและเธออายุ 25 ปี อายุเขาห่างกับเธอเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น เขาจะดูแก่ได้อย่างไร?
“แน่นอนสิ คุณแก่กว่าฉันตั้งหลายปี ถ้าเทียบกับเจ้าตัวเล็กล่ะก็คุณคงแก่จน……”
“กล้าหาว่าผมแก่งั้นเหรอ? ผมว่าคุณคงอยากเจอดีแล้วสินะ” เย่เชินหลินเหลือบมองไปที่หน้าอกของเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่อยากเข้าไปกดเธอนอนลงแล้วสั่งสอนให้เธอรู้ว่าเขาแก่จริงหรือไม่
นัยน์ตาเขาบ่งบอกอย่างชัดเจน และเซี่ยชีหรั่นแลบลิ้นแล้วพูดเบาๆ กับเขา “ลืมไปๆ คุณไม่แก่หรอก”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ!” เย่เชินหลินแสดงความเป็นเจ้าของและพูดอย่างจริงจัง เซี่ยชีหรั่นได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าเร็วๆ
“โอเค ไม่พูดแล้ว”
“ถือว่าคุณอยู่เป็น ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน” เย่เชินหลินแกล้งพูดแล้วเปลี่ยนความสนใจไปเล่นกับตัวเล็กเย่เจิ้งเหิง
ทั้งสองเล่นกับเด็กอยู่สักพักและไม่นานหลังจากนั้นหลินต้าฮุยก็ได้เข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ และแฟ้มนั้นมีชื่อโรงเรียนของเซี่ยชีหรั่นเขียนอยู่ด้านหน้า
“เสร็จแล้วเหรอ?” เย่เชินหลินถามเขา
“เรียบร้อยแล้วครับคุณเย่”
“นี่มันอะไรกัน เกี่ยวข้องกับโรงเรียนของฉัน” เซี่ยชีหรั่นถามหลินต้าฮุยด้วยความสงสัย
ในที่สุดหลินต้าฮุยก็ได้เห็นเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นกลับมาอยู่ด้วยกันและเขาได้เป็นคนส่งเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเข้าคุกด้วย ดังนั้นช่วงนี้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก
เขายิ้มพูดกับเซี่ยชีหรั่นด้วยความเคารพ “คุณนายหญิงเย่ครับ คุณเย่ให้ผมไปรับใบรับรองการสำเร็จการศึกษาของคุณครับ ได้ยินมาว่าผลการเรียนของคุณนายดีเยี่ยมมากแต่ไม่ได้รับใบปริญญาบัตร คุณเย่จึงไม่อยากให้……”
เย่เชินหลินกระแอมในลำคอและพูดอย่างเย็นชา “นายเริ่มพูดมากแล้วนะ เอาเอกสารให้เธอก็พอ”
หัวใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกซาบซึ้งอีกครั้ง เธอเคยเสียดายมากที่ไม่ได้รับประกาศนียบัตร
เพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเธอก็จะประสบความสำเร็จ ซึ่งที่ผ่านมาผลการเรียนของเธอก็เป็นเกียรตินิยมมาตลอด เป็นเพราะต้องการให้ความยุติธรรมกับโม่เสี่ยวจุน พ่อของหวีซานซานจึงบีบบังคับและทางโรงเรียนก็จำเป็นต้องสั่งให้เธอต้องลาออกกลางคัน
เมื่อนึกถึงช่วงก่อนเธอพยายามขอความช่วยเหลือจากครูใหญ่และผู้อำนวยการของโรงเรียนอื่นๆ เพื่อรับรองการสำเร็จการศึกษาให้กับเธอแต่กลับไม่มีประโยชน์
ในเวลานั้น ท้องฟ้าของเธอเหมือนจะมืดมิดไปหมดทุกด้าน ไม่มีใครรับฟังความคับข้องใจของเธอและไม่มีใครเต็มใจช่วยเหลือเธอเลย
“คุณนายเย่ครับ!” หลินต้าฮุยยื่นแฟ้มเอกสารใบรับรองปริญญาให้กับเซี่ยชีหรั่นและเขาเห็นมือของเธอกำลังสั่นอยู่
เมื่อสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นเซี่ยชีหรั่นกำลังจะรับแฟ้มเอกสารนั้นก็รีบช่วยเธออุ้มเด็กไว้
“ขอบใจนะ!” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความตื่นเต้นและในขณะที่รับเอกสารนั้นมามือของเธอก็ยังสั่นอยู่
เธอเปิดแฟ้มนั้นแล้วหยิบใบรับรองการสำเร็จการศึกษาสีแดงขนาดใหญ่ออกมา นอกจากนี้ยังมีใบปริญญาสีเขียวเข้มอีกชุดหนึ่ง
“หลิน ขอบคุณนะ นี่ฉันเรียนจบอย่างเป็นทางการแล้วเหรอ?” เธอถามพร้อมกับกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
ช่วงวัยเรียนของเธอ เธอใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้รับประกาศนียบัตร จากนั้นเธอก็สามารถเข้าสู่สังคมอย่างเป็นทางการและเริ่มเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคม เธอสามารถเริ่มต้นชีวิตอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่บุญธรรมและเธอจะได้ตอบแทนบุญคุณพวกเขาสักที
“ยัยต๊อง คุณเรียนจบตั้งนานแล้ว โรงเรียนแค่ไม่ได้มอบใบปริญญาบัตรให้คุณเฉยๆ” เย่เชินหลินพูดปลอบใจเธอ
หลังจากตรวจสอบแล้วพวกเขาได้พบว่าครูใหญ่ในสมัยนั้นสูญเสียศีลธรรมของความเป็นครู จึงได้ไล่เซี่ยชีหรั่นออกจากโรงเรียน
เย่เชินหลินจึงสั่งหลินต้าฮุยให้ไปตรวจสอบการทุจริตและการติดสินบนของครูใหญ่ในระหว่างการก่อสร้างวิทยาเขตใหม่ของโรงเรียนที่เซี่ยชีหรั่นเคยเรียน ในที่สุดก็ได้รวบรวมหลักฐานในการเอาผิดจนสามารถทำให้ครูใหญ่ต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนและอาจจะต้องเผชิญกับโทษจำคุกด้วย
เย่เชินหลินกลัวเซี่ยชีหรั่นจะรับไม่ได้ เขาจึงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง
เขารู้จักผู้หญิงของเขาดี ขอเพียงเธอได้รับในสิ่งที่ควรเธอก็จะพึงพอใจแล้ว
“เอาใบจบของคุณเข้าไปดูอย่างละเอียดในบ้านสิ ผมขอคุยกับหลินต้าฮุยหน่อย” เย่เชินหลินพูดกับเซี่ยชีหรั่น
“โอเค พวกคุณคุยกันก่อนนะ ฉันขอตัวเข้าบ้านก่อน คุณอย่านั่งที่นี่นานเกินไปนะ เดี๋ยวจะเหนื่อย ถ้างั้นเดี๋ยวสักพักฉันจะให้พ่อบ้านออกมารับคุณเข้าไปนะ” เซี่ยชีหรั่นพยายามเตือนเขา เย่เชินหลินก็พยักหน้าตอบเพื่อเห็นด้วยกับเธอ
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับใบปริญญาอย่างมีความสุข เธอคิดว่าอยากบอกข่าวดีนี้ให้กับโม่เสี่ยวจุนฟัง
หลังจากเธอเดินจากไปเย่เชินหลินก็ถามหลินต้าฮุย “ที่ให้นายส่งคนไปถามเรื่องความลับที่ถูกเปิดเผยกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเป็นยังไงบ้าง ได้คำตอบแล้วหรือยัง?”
“ได้คำตอบแล้วครับคุณเย่ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยบอกว่าคนที่นอนกับเธอเป็นคนเล่าให้เธอฟังเองครับ”
“แล้วนายคิดว่าเธอพูดความจริงไหม?” เย่เชินหลินถาม หลินต้าฮุยส่ายหัวตอบ “ผมคิดว่าไม่ใช่ความจริงครับ เพราะเขาสองคนสื่อสารกันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ผมคิดว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเจ้าเล่ห์มากกว่า บางทีเธออาจจะจงใจปกป้องผู้แจ้งข่าวคนนั้นก็ได้นะครับ”
ที่หลินต้าฮุยพูดเช่นนี้ ก็เพราะเขาสงสัยว่าส้งหลิงหลิงจะเป็นคนเปิดเผยข้อมูลนั้น
แม้หลินต้าฮุยจะรู้ว่าเย่เชินหลินไม่อยากให้ส้งหลิงหลิงต้องไปจากที่นี่ก็เพราะเย่เจิ้งเหิงตัวน้อยมีโรคหัวใจ แต่เขาไม่อยากทนดูส้งหลิงหลิงต้องเป็นอุปสรรคระหว่างเขากับเซี่ยชีหรั่นไปตลอดชีวิต
เขาเชื่อว่าเด็กจะมีสุขภาพที่ดีหรือไม่มันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวของส้งหลิงหลิงเลย
“ถ้างั้น นายคิดว่าเป็นใครที่เป็นคนบอก?” เย่เชินหลินมองหน้าหลินต้าฮุยแล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ไม่มีหลักฐานผมไม่อยากพูดหรอกครับ”
“บอกมา!”
“ผมคิดว่าเป็นส้งหลิงหลิงครับ มีเพียงเธอคนเดียวที่สามารถทำแบบนี้ได้ คุณเย่ครับ ผมขอพูดความจริงสักเรื่องนะครับ ลูกชายผมอายุมากกว่าคุณนายน้อยเพียงไม่กี่เดือน แต่ตอนนี้เขาสามารถจำคนได้แล้ว เขารู้ว่าใครคือพ่อใครคือแม่ของเขา”
เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเขาเข้าใจความหมายของหลินต้าฮุยดี เขาตั้งใจอยากพูดว่าให้เย่เชินหลินใช้โอกาสในขณะที่ลูกยังเป็นเด็กแล้วไล่ส้งหลิงหลิงออกไปก่อนที่ลูกจะโตกว่านี้
ตอนนี้เด็กโตพอที่จะหย่านมแม่และใช้ซีเรียลแทนได้แล้ว
นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดถ้าต้องการให้ส้งหลิงหลิงได้ไปจากที่นี่
ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของส้งหลิงหลิงแล้ว เย่เชินหลินจะแยกเธอออกจากลูกสักช่วงเพื่อพิสูจน์เธอ
เพราะมันเกี่ยวข้องการชีวิตความเป็นความตายของลูก เขาจึงต้องเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
แล้วถ้าหากเรื่องนี้เป็นฝีมือของส้งหลิงหลิงจริงๆ ล่ะ……เย่เชินหลินสีหน้าเคร่งเครียด
“นายไปเรียกพ่อบ้านมา” เขาพูดกับหลินต้าฮุย
“ครับ คุณเย่”
หลังจากพ่อบ้านมาแล้วเย่เชินหลินจึงบอกว่าเขาต้องการจะกลับเข้าไปในบ้าน และให้พ่อบ้านช่วยจัดเรียงวิดีโอทั้งหมดของกล้องวงจรปิดทุกตัวในบ้านของช่วงที่ผ่านมา
“หลินต้าฮุย เรื่องนี้ต้องฝากนายจัดการหน่อยนะ”
เนื่องจากเนื้อหาวิดีโอมีมากเกินไป เกรงว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงสี่ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นถึงจะจัดเรียงเสร็จ
“ครับ คุณเย่”
“นายนั่งทำงานที่นี่เลยนะ มื้อเที่ยงมื้อเย็นก็กินที่นี่เลย”
“ครับผม”
เย่เชินหลินไม่สามารถนั่งนานได้ โดยส่วนใหญ่แล้วเขาต้องใช้เวลากับการนอนพักอยู่บนเตียงมากกว่า
เดิมทีเซี่ยชีหรั่นว่าจะโทรหาโม่เสี่ยวจุนเพื่อจะบอกข่าวดีกับเขาว่าเธอได้รับประกาศนียบัตรแล้ว หลังจากโทรออกและโม่เสี่ยวจุนก็ได้รับสายเธอ เซี่ยชีหรั่นถึงนึกได้ว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอยังไม่ได้รับประกาศนียบัตร
ถ้าหากให้โม่เสี่ยวจุนรู้ว่าเธอถูกรังแกเช่นนี้ เขาต้องโกรธและไม่ยอมแน่นอน ดังนั้นเซี่ยชีหรั่นจึงเลือกที่จะไม่บอกเขา
“ชีหรั่น” ในสายนั้นโม่เสี่ยวจุนเรียกชื่อเธอเบาๆ
เนื่องจากข่าวดังของเย่เชินหลินกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถูกรายงานผ่านสื่อและหนังสือพิมพ์ในตอนนั้น โม่เสี่ยวจุนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์เย่เชินหลินอย่างรุนแรงต่อหน้าเซี่ยชีหรั่น
แม้เซี่ยชีหรั่นเคยบอกเขาแล้วว่าเย่เชินหลินกำลังทำเพื่อเธออยู่ แต่โม่เสี่ยวจุนก็ยังคงสงสัยอยู่ดี
เขาคิดอยู่เสมอว่า แม้จะเป็นอย่างที่เซี่ยชีหรั่นพูด แต่ในฐานะความเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งไม่ควรจัดการเรื่องนี้ด้วยวิธีนี้เลย
เขาไม่ชอบใช้การสมคบคิดและกลอุบายต่างๆ เขาเป็นคนแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาเสมอ
ต่อมาเขาได้ข่าวว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมีลูกกับเย่เชินหลิน เขาจึงไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นอยู่กับเย่เชินหลินอีก
ไม่ว่าจะยังไง เขารู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ค่อยมีความสุข ดังนั้นนานทีเขาจะเป็นคนโทรหาเซี่ยชีหรั่นเองและทุกครั้งที่โทรหาเธอเขาก็จะพูดด้วยความเป็นห่วง
“เสี่ยวจุน คุณทำอะไรอยู่?” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างรวดเร็ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset