สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 930 สาวใช้ตัวแสบ 834

ตอนที่ 930 สาวใช้ตัวแสบ 834
โม่เสี่ยวจุนเปลี่ยนเสื้อโค้ต หกโมงเป็นเวลาทานอาหาร
“ฉิงฉิง ฉันอยากเลี้ยงข้าวเธอ ขอบคุณที่เธอเข้าใจ”
ประโยคเดียว ขอบตาไห่ฉิงฉิงชื้นเล็กน้อย
ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารเสฉวน โม่เสี่ยวจุนไม่ได้ทานอาหารเลยทั้งวัน หยิบเมนูอาหารมาสั่งอาหารที่ตัวเองและไห่ฉิงฉิงชอบ มองไห่ฉิงฉิงอย่างอ่อนโยน ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ไห่ฉิงฉิงถอดถุงมือออก หันหลังให้หน้าต่างแล้วนั่งลง
ร้านอาหารเสฉวนคนเยอะมาก เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะทุกรูปแบบ
หมอกควันไม่กี่วันก็หายไปไม่น้อย โม่เสี่ยวจุนหันศีรษะไปทางทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอกหน้าต่าง
เงาที่คุ้นเคย จงหวีฉวน โม่เสี่ยวจุนไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นยืนทันที วิ่งออกไปนอกร้านอาหารเสฉวน ไห่ฉิงฉิงอยู่ฝั่งตรงข้ามโม่เสี่ยวจุน ไม่เห็นจงหวีฉวน แค่คิดว่าโม่เสี่ยวจุนเห็นคนคุ้นหน้าเลยรีบร้อนขนาดนั้น
โม่เสี่ยวจุนวิ่งออกไปถนนใหญ่ตามจงหวีฉวนไป จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนรู้สึกว่ามีใครติดตามตน ระยะทางไม่มากนัก ยืมแสงไฟถนนสลัวๆ คนหลั่งไหลมาไม่ขาดสายเหวี่ยงโม่เสี่ยวจุนออกไป
จุดบอดที่โม่เสี่ยวจุนมองไม่เห็น จงหวีฉวนยิ้มร้ายมองไปที่ไกลๆ เย่เชินหลิน ถ้าฉันถูกแกติดตามง่ายขนาดนั้น ฉันคงไม่ใช่จงหวีฉวนหรอกนะ แกอาจจะคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าจะนำหลักฐานมาไว้ที่ตัวได้อย่างไร?
โม่เสี่ยวจุนมองไปรอบๆ ไม่พบคนต้องสงสัย เดินกลับไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย แค่ตามคนคนเดียวง่ายๆ กลับทำไม่ได้ เขาแอบเกลียดที่ตัวเองไร้ประโยชน์
ไห่ฉิงฉิงมองโม่เสี่ยวจุนที่หดหู่ ยิ้มทักให้เขานั่งลง
“เสี่ยวจุน มานี่มา กินข้าวกันก่อน” ไห่ฉิงฉิงตักอาหารที่ปกติโม่เสี่ยวจุนชอบทานหลายอย่างไว้ในชามเขา
โม่เสี่ยวจุนยกตะเกียบขึ้นมา ตอนแรกท้องร้องครวญคราง ตอนนี้ไม่อยากกินสักคำ
“เป็นอะไร นี่” ไห่ฉิงฉิงถามอย่างระมัดระวัง มองโม่เสี่ยวจุนด้วยดวงตาโตให้กำลังใจ บ่งบอกว่าโม่เสี่ยวจุนพูดกับตัวเองได้นะ ไห่ฉิงฉิงอยากช่วยโม่เสี่ยวจุนจริงๆ
ดวงตาจริงใจของไห่ฉิงฉิงทำให้โม่เสี่ยวจุนประทับใจ เขามองอาหารตรงหน้า ไม่อยากอาหารเลยสักนิด แค่วางตะเกียบลง
“ฉันเห็นจงหวีฉวน อยากตามเขาไป ไม่คิดว่าเดินออกไปเขาก็หายไปแล้ว ฉันไร้ประโยชน์มากเลยใช่ไหม” น้ำเสียงบ่นของโม่เสี่ยวจุนดังก้อง ห้อยศีรษะลง ไม่มองไห่ฉิงฉิง กลัวเห็นแววตาผิดหวังของไห่ฉิงฉิง
ไหล่เกิดความอบอุ่น โม่เสี่ยวจุนมองไปข้างๆ มือขาวของไห่ฉิงฉิงวางไว้บนไหล่เขา
“เสี่ยวจุน นายทำได้ดีมากแล้ว เชื่อว่าชีหรั่นเข้าใจนาย ประธานจงเป็นคนยังไง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ถ้าเขาให้เราตามได้ง่ายๆ ฉันเชื่อว่านั่นไม่ใช่ประธานจง”
ไห่ฉิงฉิงยืนข้างๆ โม่เสี่ยวจุน ภาพกลมกลืนของทั้งสองฉายอยู่บนกระจก
โม่เสี่ยวจุนพยักหน้า บ่งบอกให้ไห่ฉิงฉิงทานอาหาร
หลังอาหารมื้อหนึ่ง โม่เสี่ยวจุนไม่ได้ทานมากเท่าไร แต่ดื่มเหล้าไม่น้อย
“เสี่ยวจุน เราไปเดินเล่นกัน” ไห่ฉิงฉิงให้คุณค่าเวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง โม่เสี่ยวจุนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของไห่ฉิงฉิง ถือว่าชดเชยข้อบกพร่องของตัวเองได้
ทั้งสองเดินเคียงข้างกันผ่านร้านตุ๊กตาร้านหนึ่ง ไห่ฉิงฉิงเห็นตุ๊กตาผ้าเต็มกระจกเลยต้องการซื้อสักตัว
โม่เสี่ยวจุนนึกถึงที่ตัวเองติดหนี้ไห่ฉิงฉิง สิบนิ้วสอดประสาน ทั้งคู่ยิ้มเล็กน้อยเดินเข้าไป
พนักงานสาวอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่พอเห็นว่ามีคนมาอุดหนุน รอยยิ้มมาตรฐานก็ปีนขึ้นไปบนใบหน้าบอบบางทันที เดินเข้ามาทักทายโม่เสี่ยวจุนและไห่ฉิงฉิง
“เธอไปเลือกสิ ฉันรอเธอตรงนี้” โม่เสี่ยวจุนมองไห่ฉิงฉิงอย่างเอาอกเอาใจ ตัวเองเดินไปโซฟาข้างๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่ออ่านข้อมูลนิดหน่อย
พนักงานดึงไห่ฉิงฉิงไปดูตุ๊กตาที่เข้ามาใหม่อย่างดีใจ เห็นเสื้อผ้าบนตัวไห่ฉิงฉิงก็รู้ว่าเจอลูกค้าที่ร่ำรวย
“คุณผู้หญิงคะ ตุ๊กตาหมีตัวนี้มีขนาดพอๆ กับคนเลย ด้านในเป็นผ้าฝ้ายสมุนไพรจีน ตอนกลางคืนเวลาพักผ่อนสามารถเอาเป็นแฟนหนุ่มทำให้ร่างกายอุ่นได้ ตอนดูทีวีสามารถใช้เป็นหมอน” พนักงานมองไปที่โม่เสี่ยวจุน พูดขึ้นอย่างคลุมเครือ
ไห่ฉิงฉิงพอได้ยินคำนี้ ใบหน้าเล็กก็แดงก่ำทันที อุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาและไปชำระเงินท่ามกลางสายตาร้อนแรงของพนักงาน โม่เสี่ยวจุนมองโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ไม่ได้สังเกตว่าไห่ฉิงฉิงเลือกของเสร็จแล้ว ไห่ฉิงฉิงจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เดินไปด้านหลังโม่เสี่ยวจุนเบาๆ อยากทำให้โม่เสี่ยวจุนตกใจสักหน่อย
คนอื่นเห็นท่าทางไห่ฉิงฉิงแบบนี้ก็ยิ้ม ไม่มีใครพูดอะไร
ไห่ฉิงฉิงสงสัยมาก โม่เสี่ยวจุนกำลังดูอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ดื่มด่ำขนาดนี้ รีบมองไปที่โทรศัพท์โม่เสี่ยวจุน ด้านบนเป็นข้อมูลเกี่ยวกับคดีเซี่ยชีหรั่นทั้งหมด
ไห่ฉิงฉิงหมดแรงทันที หัวใจเหมือนคริสทัล หล่นลงพื้นดังเพล้งและแตก ยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น สายตาว่างเปล่ามองผ่านโม่เสี่ยวจุนไปยังฝั่งตรงข้ามที่ไม่มีถนน มองไปสู่อนาคตที่ไม่แน่นอนของพวกเขา
โม่เสี่ยวจุนมองเงาในโทรศัพท์ เงยศีรษะมองไห่ฉิงฉิง สีหน้าไห่ฉิงฉิงค่อนข้างแปลกๆ จะว่าอย่างไรดี เหมือนดอกไม้ที่บานสะพรั่งและแห้งเหี่ยวไปพร้อมๆ กัน เมื่อครู่นี้ยังยิ้มกว้าง ตอนนี้ความเศร้ากระจายไปทั่วใบหน้า
“เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ? ” ไม่เสี่ยวจุนที่ไม่รู้ตัวเอ่ยถามเบาๆ
ไม่ได้ตอบโม่เสี่ยวจุน ไห่ฉิงฉิงพยายามเก็บหัวใจที่อยู่บนพื้น หวังว่าจะประกอบมันเข้าด้วยกัน ตอนเด็กๆ เธอเล่นจิ๊กซอว์เก่งมากที่สุด หยิบอย่างไรก็หยิบไม่สำเร็จ ไห่ฉิงฉิงมองเศษสีแดงเหล่านั้นอย่างใจจดใจจ่อ
โม่เสี่ยวจุนล็อกโทรศัพท์ นึกขึ้นได้ว่าตอนเด็กๆ เซี่ยชีหรั่นไม่มีตุ๊กตาเล่น เด็กคนอื่นล้วนมีตุ๊กตากันหมด ตัวเองแอบสัญญาในใจว่าโตขึ้นจะซื้อตุ๊กตาผ้าให้เซี่ยชีหรั่นเยอะๆ กองพะเนินในห้อง ตอนนั้นเซี่ยชีหรั่นยิ้มตาโตเป็นเส้น นั่นคือความทรงจำที่งดงามที่สุดของโม่เสี่ยวจุน
โม่เสี่ยวจุนเดินไปที่ตุ๊กตาผ้ากองพะเนินเหมือนภูเขาเหล่านั้น ในหัวเต็มไปด้วยใบหน้ายิ้มของเซี่ยชีหรั่นตอนเด็กๆ
“ตัวนี้ ตัวนี้ แล้วก็ตัวนี้ห่อให้ผมด้วยครับ” โม่เสี่ยวจุนชี้ไปที่ตุ๊กตาคนที่สวยๆ สองสามตัวในนั้น เลือกเยอะขนาดนั้น นอกจากให้ไห่ฉิงฉิงแล้ว เขาก็เตรียมตุ๊กตาคนให้เซี่ยชีหรั่นด้วย
พอพนักงานได้ยิน ใบหน้าก็ยิ้มกว้างเหมือนดอกเก๊กฮวย วันนี้ธุรกิจขายได้ไม่เลว ครู่เดียวก็ขายได้เยอะขนาดนี้แล้ว แพ็คตุ๊กตาอย่างระมัดระวังด้วยความจริงใจ และเริ่มพูดแนะนำตุ๊กตาตัวอื่นไม่หยุด
“คุณผู้ชาย ตุ๊กตาตัวนี้เป็นที่นิยมมาก เล็กน่ารัก เหมาะกับการให้แฟนมากที่สุด เดี๋ยวจะถึง 14 กุมภาพันธ์ แล้ว เตรียมไว้ล่วงหน้าไม่พลาดแน่” หลังจากพนักงานพูดฉลาดจบแล้วก็มองไห่ฉิงฉิงที่ยืนอยู่ ท่าทางที่ทุกคนรู้ดี
โม่เสี่ยวจุนยิ้มและอุ้มตุ๊กตาเดินไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์
“คุณผู้หญิง จ่ายด้วยกัน” โม่เสี่ยวจุนชี้ไปที่ไห่ฉิงฉิง
“คุณผู้ชายคะ คุณผู้หญิงท่านนั้นจ่ายไปแล้วค่ะ”
“อ่า” โม่เสี่ยวจุนหลุดขำอย่างอดไม่ได้ ทำไมตัวเองสติหลุดขนาดนั้น
ถือตุ๊กตาที่จ่ายเงินเสร็จแล้วเดินไปหาไห่ฉิงฉิง “ได้สติแล้ว เราไปกันเถอะ ตัวนี้ฉันให้เธอ” โม่เสี่ยวจุนเอาตุ๊กตาตัวใหญ่ในมือไห่ฉิงฉิงมา อีกมือหนึ่งจูงไห่ฉิงฉิงเดินออกไปจากร้านตุ๊กตา
ไห่ฉิงฉิงไม่ว่าอย่างไรก็หยิบหัวใจที่แตกสลายได้หมด ถูกโม่เสี่ยวจุนดึงไป เดินออกไปเหมือนตุ๊กตาคน
ไห่ฉิงฉิงมองโม่เสี่ยวจุนจากด้านข้าง ใบหน้าโม่เสี่ยวจุนมีรอยยิ้ม ถึงจะไม่ลึกซึ้งมาก
“ฉันอยากกลับบ้าน” ไห่ฉิงฉิงพูดเสียงเบา เธอไม่ได้มองโม่เสี่ยวจุน กลัวตัวเองจะร้องไห้อย่างน่าผิดหวัง
ไห่ฉิงฉิงจ้องพื้นไม่มองโม่เสี่ยวจุน
“ทำไมจู่ๆ อยากกลับบ้าน” โม่เสี่ยวจุนไม่รู้ทำไมไห่ฉิงฉิงไม่ไปที่บ้านตน กลับบ้านเธอก็ดี จะได้ไม่ต้องกระอักกระอ่วนมากเกินไป “รอเดี๋ยว ฉันจะกลับไปกับเธอ เด็กผู้หญิงเดินถนนมืดๆ คนเดียวไม่ดี” โม่เสี่ยวจุนที่ดื่มเยอะไปหน่อยไม่อยากกลับบ้านโดยทันที
“ไม่ต้อง” ไห่ฉิงฉิงพูดค่อนข้างเสียงแหลม พูดจบแล้วไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าเสียงตัวเองแหลมแบบนี้จริงๆ
“เสี่ยวจุน ขอโทษ ฉันอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว” ไห่ฉิงฉิงหันหลังให้โม่เสี่ยวจุนก้าวเท้ายาวออกไป เธอไม่กล้าหันศีรษะไปมองโม่เสี่ยวจุน เธอเห็นท่าทางโม่เสี่ยวจุนที่พยายามช่วยเหลือเซี่ยชีหรั่น ถ้าบอกว่าโม่เสี่ยวจุนไม่ชอบเซี่ยชีหรั่น ไห่ฉิงฉิงไม่เชื่อหรอก
เห็นแผ่นหลังที่ค่อนข้างเหงา โม่เสี่ยวจุนตามไปแล้วพูดขึ้น “เธอไปคนเดียวฉันเป็นห่วง”
“ฉันเรียกรถ” ไห่ฉิงฉิงไม่หันศีรษะมามองโม่เสี่ยวจุน แม้ว่าเสียงผู้คนจะดังวุ่นวาย เธอก็ได้ยินคำพูดของโม่เสี่ยวจุนอย่างชัดเจน หรือนี่คือความรู้สึกลึกซึ้งแต่โชคชะตาตื้นเขิน
วันนี้ทั้งคู่ออกมาเดินเล่น ไม่ได้ขับรถมา
โม่เสี่ยวจุนอ้าปากอยากพูดอะไรบางอย่าง ไห่ฉิงฉิงดูเหมือนจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ส่ายศีรษะตลอดเวลา มีแท็กซี่ว่างคันสองคันอยู่ไม่ไกลพอดี ไห่ฉิงฉิงกวักมือเรียกอย่าแรง นั่งรถออกไปท่ามกลางสายตาของโม่เสี่ยวจุน
โม่เสี่ยวจุนยืนคนเดียวท่ามกลางผู้คน ไม่รู้ว่าคิดอะไร ผ่านไปนานมาก นานจนโม่เสี่ยวจุนคิดว่าผ่านไปหนึ่งศตวรรษแล้ว มองรถผ่านไปผ่านมาเหล่านั้น โม่เสี่ยวจุนกอดอก ฤดูหนาวดูเหมือนยังไม่ผ่านไป
เห็นใบหน้าที่ไม่รู้จัก โม่เสี่ยวจุนเดินเร่ร่อนอย่างไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับวิญญาณเร่ร่อน ไห่ฉิงฉิงโทรมาก็ไม่ได้รับสาย ครั้งแรกโม่เสี่ยวจุนไม่ได้ยิน ตัวเองเดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ครั้งที่สองเขามองร้านขายเสื้อผ้าสตรีร้านหนึ่งอย่างเหม่อลอย เสื้อผ้าในนั้นเป็นรุ่นลิมิเต็ดทั้งหมด ชุดนั้นของเซี่ยชีหรั่นก็ซื้อที่นี่
โม่เสี่ยวจุนกำลังเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสตรี คราวก่อนได้ยินไห่ฉิงฉิงบอกว่าเย่เชินหลินซื้อเสื้อผ้าให้ชีหรั่นที่นี่ เมื่อพนักงานขายที่สวมชุดเครื่องแบบมืออาชีพเห็นว่ามีลูกค้าเดินมา รอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบและไร้ที่ติก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“คุณผู้ชาย คุณต้องการซื้อเสื้อผ้าแบบไหนคะ”
“ผมต้องการชุดแบบนี้ เหมือนเป๊ะๆ เลย” โม่เสี่ยวจุนหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดรูปที่เซี่ยชีหรั่นสวมชุดนั้นด้วยท่าทางหัวเราะเอาจริงเอาจัง ใบหน้ามีแต่ความอบอุ่น
พนักงานขายเห็นชุดนั้นแล้วก็กล่าวขอโทษ “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย ชุดนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ด ปีนี้มีเพียงสองตัวเท่านั้น ตัวหนึ่งคุณเย่เชินหลินซื้อไป อีกตัวหนึ่งคุณผู้ชายที่ชื่ออาซานซื้อไปแล้วค่ะ”
“คุณแน่ใจใช่ไหมว่ามีแค่สองตัว? ” โม่เสี่ยวจุนถามยืนยัน เพราะเขาตื่นเต้น น้ำเสียงจึงแปร่งๆ
พนักงานขายไม่รู้ว่าทำไมโม่เสี่ยวจุนถึงตื่นเต้นแบบนี้ นึกว่าโม่เสี่ยวจุนคิดว่าตัวเองไม่ซื่อสัตย์ พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “คุณผู้ชาย แบรนด์เราพูดคำไหนคำนั้น อาซานคนนั้นมาซื้อเสื้อผ้าเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ชุดนี้ยังไม่ได้ผลิตเป็นจำนวนมาก และคิดว่าจะไม่มีการผลิตเป็นจำนวนมากค่ะ”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้สงสัยคุณ อาซานคนนั้นรูดบัตรหรือเปล่า? บอกได้ไหมว่าเขามาจากไหน? ผมอยากซื้อชุดนี้จากเขา” โม่เสี่ยวจุนเริ่มโกหก มีแค่สองตัว เขาไม่เคยเชื่อว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นฆาตกรอยู่แล้ว นึกถึงข้อมูลที่เย่เชินหลินให้มาพูดถึงชุดนี้ โม่เสี่ยวจุนมั่นใจว่าเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุไม่ใช่ของเซี่ยชีหรั่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset