สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 931 สาวใช้ตัวแสบ 835

ตอนที่ 931 สาวใช้ตัวแสบ 835
“ขออภัยคุณผู้ชาย คนที่ชื่ออาซานซื้อด้วยเงินสด อีกทั้งข้อมูลการใช้บริการของเขายังวางเปล่า แต่ใบหน้าด้านซ้ายของเขามีไฝหนึ่งเม็ด” หญิงสาวผู้แนะนำสินค้านึกถึงอาซานที่มีท่าทางแปลกๆ เพียงแค่เข้ามาในร้าน ไฝบนใบหน้าปรากฏอย่างชัดเจน โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร เขาตรงเข้ามาหาเธอ ดึงโทรศัพท์ออกมาให้ดูรูปว่าต้องการชุดที่เหมือนในรูป ท่าทีดูเหมือนผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
สำหรับลูกค้าที่มาซื้อของที่นี่ มักจะทิ้งชิ่งทางติดต่อไว้ให้ ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมา ทางร้านมีบริการฟรี แต่ที่อาซานคนนั้นส่งมาเป็นข้อมูลกระดาษเปล่า
เสื้อผ้าที่เป็นรุ่นพิเศษมีจำนวนจำกัดแบบนี้ไม่ใช่ไม่กี่พันจะหาซื้อได้ คนอื่นต้องรูดบัตรกันทั้งนั้น แต่เขากลับจ่ายด้วยเงินสด เป็นคนที่แปลกจริงๆ แค่นึกหญิงสาวผู้แนะนำสินค้าก็ตลกแล้ว
“ขอบคุณ วันหลังจะมาอุดหนุน” โม่เสี่ยวจุนที่เดินออกมาจากร้านนึกถึงคำพูดของหญิงสาวผู้แนะนำสินค้า ใช้เงินสดซื้อเสื้อผ้าที่มีจำนวนจำกัด ในเมื่อใช้เงินสดซื้อ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน
เพื่อให้ชีหรั่นปรากฏตัวโดยเร็ว ปัญหานี้ต้องให้เย่เชินหลินช่วยหาข้อมูล ด้านการค้าเขามีความสามารถมากกว่าตนเอง โม่เสี่ยวจุนตัดสินใจไปหาเย่เชินหลิน
โม่เสี่ยวจุนไปถึงที่เย่เชินหลินตอนดึกๆ ประมาณห้าทุ่ม เขาไม่อยากรอช้าอยู่
“คุณมาหาฉัน?” เย่เชินหลินยืนตรงหน้าประตูโรงพยาบาลมองโม่เสี่ยวจุนที่รีบร้อนร้อนรน “จงหวีฉวนมีปัญหา?”
คิดว่าฉันอยากมาหาคุณรึไง โม่เสี่ยวจุนมองเย่เชินหลินแวบหนึ่ง โรงพยาบาลคนเยอะแยะไปหมด เขาคิดอยู่สักครู่จึงพูดออกไปว่า : “ที่นี่ไม่ใช่แค่คนเยอะ หูตาก็เยอะ ไปหาที่ที่คนน้อยน่าจะดีกว่า”
เย่เชินหลินมองเหงื่อที่ไหลเป็นเม็ดเล็กๆ บนหน้าผากของโม่เสี่ยวจุนที่สะท้อนกับแสงไฟ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ง่าย จึงพยักหน้าและนำหน้าโม่เสี่ยวจุนขึ้นรถไป
“ต้าฮุย คุณอยู่ดูแลเย่เจิ้งเหิงที่โรงพยาบาล” หลังจากสั่งหลินต้าฮุยที่ยืนอยู่นอกรถเสร็จ เย่เชินหลินจึงขับรถออกไป
เย่เชินหลินพาโม่เสี่ยวจุนมาที่บ้านพักของตัวเอง และปิดประตู
“พูดได้รึยัง” เย่เชินหลินเชิญให้โม่เสี่ยวจุนนั่งลง
“วันนี้ตอนหกโมงเย็น ฉันออกไปข้างนอกกับฉิงฉิง” โม่เสี่ยวจุนพูดถึงตรงนี้เย่เชินหลินยิ้มมุมปากขึ้นมาก คุณต้องให้เวลาอยู่ด้วยกันกับไห่ฉิงฉิงมากหน่อย เย่เชินหลินคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา
“พูดต่อ” เย่เชินหลินพยักหน้า แสดงให้โม่เสี่ยวจุนพูดต่อ
โม่เสี่ยวจุนพูดอย่างเคร่งขรึม บรรยากาศเปลี่ยนเป็นจริงจังหนักอึ้ง
“เห็นร้านเสื้อผ้าผู้หญิงร้านหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะเข้าไป แต่เคยได้ยินเซี่ยชีหรั่นบอกว่าเธอชอบชุดนั้นมาก ฉันจึงถามร้านค้านั่นไปว่ามีแบบเดียวกันอีกไหม เขาบอกฉันว่าชุดนี้มีแค่ 2 ตัว ชุดหนึ่งคุณซื้อไป อีกชุดหนึ่งมีลูกค้าชื่ออาซานมาซื้อไป”
ขณะนั้นสีหน้าเย่เชินหลินอึมครึมขึ้นมา เสื้อผ้าของเซี่ยชีหรั่นฉันซื้อให้เองได้ ไม่ต้องให้คุณซื้อ อีกอย่างอีกชุดที่มีคนอื่นซื้อไปก็เป็นเรื่องปกติ
เห็นเย่เชินหลินสีหน้าเย็นชา โม่เสี่ยวจุนรู้ได้ทันทีว่าเย่เชินหลินกำลังหึงอีกแล้ว
“มีคนอื่นมาซื้อชุดนี้ไปไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นตกใจอะไรเลย แต่ที่แปลกอยู่ตรงนี้ ตอนที่คนชื่ออาซานมาซื้อชุดเขาเอารูปให้พนักงานดูโดยตรง ฉันจำได้ว่าคำอธิบายร้านนี้ในข้อมูลของคุณ เสื้อผ้าต้องมีการเขียนข้อมูลบริการ พนักงานแนะนำคนนั้นบอกฉันว่าอาซานคนนั้นไม่เขียนข้อมูลอะไรเลย แถมเขายังกล้าใช้เงินสดจ่ายค่าสินค้าด้วย” โม่เสี่ยวจุนมองเย่เชินหลินจริงจัง เขามั่นใจว่าหลังจากเย่เชินหลินได้ฟังแล้วจะมีความคิดเหมือนกันกับเขา
เย่เชินหลินจำได้ตอนที่ตัวเองไปซื้อเสื้อผ้ายังคุยเล่นหยอกล้อกับเซี่ยชีหรั่น ให้เซี่ยชีหรั่นแบกถึงเงินสดถุงใหญ่มาซื้อ สองคนเอาเงินใส่มาในถุงใหญ่
ไม่ใช้วิธีการรูดบัตร ไม่มีข้อมูลของผู้รับบริการ อาซานก็น่าจะเป็นชื่อปลอม ปัญหายุ่งยาก
“ใช่แล้ว พนักงานแนะนำสินค้าคนนั้นบอกว่า ใบหน้าด้านซ้ายของอาซานมีไฝเม็ดใหญ่ นี้ถือเป็นสัญลักษณ์เดียวของเขาก็ว่าได้” ” โม่เสี่ยวจุนคิดถึงคำพูดของพนักงานแนะนำสินค้า คิดว่าการที่จะหาคนชื่ออาซานไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย
“อืม ฉันจะส่งคนไปตามหาคนชื่ออาซานกับชุดนั่น” เย่เชินหลินพยักหน้าแสดงท่าที เขาจำได้เมื่อคืนเซี่ยชีหรั่นบอกเขาว่าเสื้อผ้าชุดนี้ไม่ใช่ของเธอ ถือเป็นหลักฐานในคดี เสื้อผ้าชุดนี้ต้องยังอยู่ที่สถานีตำรวจ อีกชุดหนึ่งน่าจะยังคงซ่อนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่ง หลักฐานถูกเปิดเปิงไปหนึ่งอย่าง ยังมีอีกสองอย่าง อย่างหนึ่งคือต้าเฟิ่ง อีกอย่างคือสมุดบันทึกประจำวัน
“คุณจะพักที่นี่หรือกลับไป?” เย่เชินหลินมองเวลาตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว เขาจึงชวนให้พักที่นี่ก่อน โม่เสี่ยวจุนเป็นศัตรูความรักของเขา แต่โม่เสี่ยวจุนทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยแบบที่แม้แต่เหยนชิงเหยียนยังไม่มี
“กลับ” โม่เสี่ยวจุนเดินก้าวออกไป โดยที่ทิ้งคำพูดไว้เพียงคำเดียว เห็นแผ่นหลังรางๆ เย่เชินหลินรีบก้าวขาตามออกไป
“กุญแจรถ คุณจะได้รีบกลับบ้านเร็วหน่อยไปศึกษาข้อมูลคดีของชีหรั่น” เย่เชินหลินเห็นโม่เสี่ยวจุนไม่ยอมรับจึงบอกเหตุผลไป เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงให้โม่เสี่ยวจุนขับรถไป
หลังจากส่งโม่เสี่ยวจุนแล้ว เย่เชินหลินส่งข้อมูลให้คนทั้งเมืองช่วยกันตามหาผู้ชายที่มีไฝบนใบหน้าด้านซ้าย เย่เชินหลินมองโทรศัพท์และยิ้มออกมาแบบสุนัขจิ้งจอก ไม่รู้ว่าฝั่งประธานไห่จะเป็นอย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกันประธานไห่อยู่ในบ้านตระกูลส้ง เขาพยายามหาอย่างระมัดระวัง หวังว่าจะได้อะไรที่มีประโยชน์กลับไปบ้าง
เด็กๆ ของตระกูลส้งสองคนถูกย้ายออกไปแล้ว
ประธานไห่ถือไฟฉายเดินเข้าไปในห้องนอนของพี่ส้ง
เตียงนอนในห้องนอนยังอยู่ ตู้หนังสือเหมือนจะถูกเก็บไปแล้ว ประธานไห่มองไปที่นิตยสารที่ถูกทิ้งไว้ตรงมุมข้างถังขยะ เขาค่อยๆ หยิบขึ้นมา เช็ดฝุ่นด้านบนออกและเปิดดูอย่างซุ่มๆ เอา เป็นนิตยสารแฟชั่นทั่วไป ไม่มีเบาะแสอะไร
ประธานไห่พยายามหาทุกซอกทุกมุมของนิตยสาร ก็ไม่เจออะไรที่พอจะเป็นเบาะแสได้
เขาโยนหนังสือลงไปบนพื้น และนั่งลงบนเตียงเก่าๆ บริเวณที่หัวเตียงที่วางหมอน ก่อนหน้านี้ที่ตรวจเจอสิ่งของเพราะหมอนถูกเลื่อนออก ครั้งนี้ประธานไห่รู้สึกว่าเตียงไม่เหมือนเดิม
เขาจ้องดูและวางไฟฉายให้ดี เขาค่อยเปิดเตียงออก บนเตียงมีรอยขีดอยู่ เขาค่อยๆ สอดมือเข้าไป ด้านในนั้นมีปากกาบันทึกเสียงอยู่
ไม่ผิด ประธานไห่หยิบปากกาขึ้นมากำลังจะออกไป สังเกตเห็นที่ใต้เท้าของตัวเองมีใบเสร็จซื้อสินค้าสองใบนอนแน่นิ่งอยู่ สำรวจดูวันเดือนปี นี้เป็นใบเสร็จสินค้าก่อนที่พี่ส้งจะเสียชีวิตไม่กี่วัน อีกใบเป็นสิ่งของในบ้านที่ขาดไป
ประธานไห่มองกระดาษทั้งสองใบอย่างตั้งใจ แบบฝึกหัด1รายการ สินค้าต้องซื้อ15รายการ ประธานไห่ค่อยสำรวจกระดาษทั้งสองใบอย่างละเอียดเพื่อดูสิ่งที่ พี่ส้งขาดไป
ปากกาสีดำ ในรายการสินค้าที่ต้องซื้อไม่มี แต่ซื้อปากกาน้ำเงินมา
ประธานไห่ถือปากกาบันทึกเสียง รายการสินค้าที่ต้องซื้อและใบเสร็จซื้อสินค้าออกมาจากบ้านตระกูลส้ง สงสัยต้องให้จงหวีฉวนออกมาหน่อย ตัวเองคนเดียวน่าจะเชิญไม่สำเร็จ
นี้ก็นานมากแล้ว ประธานไห่โทรหาเย่เชินหลินอย่างผู้ชนะ ต้องการจะอยู่ด้วยกันกับชีหรั่น ไม่จ่ายค่าตอบแทนหน่อยคงเป็นไปไม่ได้
“เย่เชินหลิน ฉันเจอเรื่องที่น่าสนใจนิดหน่อย จะเป็นเรื่องอะไรอย่าเพิ่งพูดถึง ใช่แล้ว ที่โทรหาคุณดึกขนาดนี้เพราะหวังว่าพ่อของคุณ ท่านปู่หลี่ จะช่วยเชิญจงหวีฉวนออกไปดื่มสักหน่อย คุณรับผิดชอบหาสิ่งของที่เราต้องการจากที่อยู่ของเขา” ประธานไห่คนเดียวไม่น่าจะพาจงหวีฉวนออกมาได้ มีเย่เฮ่าหรันจงหวีฉวนก็อาจจะไม่ไป บวกกับมีหลี่หมิงจุ้นจงหวีฉวนไม่อยากไปแน่นอนและจะไม่เห็นแก่หน้าทุกคนด้วย หลี่หมิงจุ้นมีอำนาจในมือเขาไม่กล้าทำผิด จงหวีฉวนไม่ควรทำกับชีหรั่น
“ใช่แล้ว นายจะหาอะไรได้แค่ไหน ก็อยู่ที่ความสามารถของนายว่ามีมากน้อยแค่ไหน” น้ำเสียงยั่วยุของไห่ลี่หมินถูกส่งผ่านไปที่เย่เชินหลิน
ได้ยินคำพูดของไห่ลี่หมิน สายตาอันตรายของเย่เชินหลินมองไปที่กลุ่มทนายที่นั่งอยู่รอบตัวเขา และตอบกลับไห่ลี่หมินอย่างเคร่งขรึม
“ผมไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน ไม่ใช่ เซี่ยชีหรั่นไม่มีทางผิดหวังเพราะผม” เย่เชินหลินวางสายอย่างไม่แสดงความนอบน้อม หลังจากยังพูดต่อไม่จบ ไห่ลี่หมินคุณไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฉันจะจับเซี่ยชีหรั่นไว้ให้แน่น
เย่เชินหลินยุ่งๆ เกี่ยวกับเรื่องของคุณหมอและเซี่ยชีหรั่น หลังจากได้รับโทรศัพท์จากไห่ลี่หมินเขาตัดสินใจยังไม่ไปหาเซี่ยชีหรั่นก่อน กลับปรึกษากับทนายเกี่ยวกับคดีจนถึงตีสี่ เห็นแต่ละคนหาวติดติดกัน เย่เชินหลินจึงเลิกประชุม และนั่งอยู่คนเดียวจนเช้า
พอฟ้าสว่าง เย่เชินหลินโทรหาเย่เฮ่าหรันเพื่ออธิบายความตั้งใจ ในโทรศัพท์เย่เฮ่าหรันไม่พูดอะไรมาก และบอกเย่เชินหลินว่าไม่ต้องห่วง เขาไปหาหลี่หมิงจุ้นด้วยกัน มั่นใจว่าหลี่หมิงจุ้นไม่ปฏิเสธแน่นอน
เป็นอย่างที่เย่เฮ่าหรันคาดไว้ หลี่หมิงจุ้นเห็นด้วย คิดว่าหลี่หมิงจุ้นคงจะชอบเด็กเซี่ยชีหรั่นคนนี้จริงๆ
สองคนนั่งอยู่ในรถธรรมดาของหลี่หมิงจุ้นแต่กลับขับเข้าไปในออฟฟิศของจงหวีฉวนอย่างราชา รปภ.มองทะเบียนที่สะดุดตานั่น ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ทำได้เพียงแค่มองทั้งสองคนเดินเข้าตึกไปอย่างยิ่งใหญ่
จงหวีฉวนนั่งอยู่ข้างโต๊ะทำงานอย่างมืดๆ คนอะไรกัน แค่คนคนเดียวก็ดูให้ดีไม่ได้ แกมีประโยชน์อะไร
ได้ยินเสียงเคาะประตู อารมณ์ของจงหวีฉวนยังไม่คลี่คลายลงก็พุ่งขึ้นมาอีก โดยไม่มองว่าใครเคาะประตูและพูดอย่างรุนแรงว่า : “เข้ามา เป็นเรื่องสำคัญจะดีที่สุด ไม่งั้น”
การเคาะประตูด้านนอกหยุดลงสักครู่ ไม่กี่นาทีต่อมาประตูผลักออกและมีคนเข้ามา
จงหวีฉวนยังคงพูดอย่างรุนแรงว่า : “พูดมา เรื่องอะไร”
“ประธานจง เจ้านายเก่าของฉันจะฉลองอายุครบ60ปี ฉันเคยสัญญาจะให้ความตื่นเต้นกับเขาหนึ่งอย่าง ในเมืองตงเฉิงที่ฉันสามารถหาคนไปเยี่ยมเขาคงมีแค่คุณและท่านรองประธานเย่ ดังนั้น…” หลี่หมิงจุ้นพยายามทำให้น้ำเสียงจริงใจอย่างเป็นธรรมชาติ
ในสายตาเย่เฮ่าหรันหลี่หมิงจุ้นเป็นคนซื่อตรง ไม่คิดว่าเขาจะโกหกได้แนบเนียนขนาดนี้
หลี่หมิงจุ้นเคยสัญญากับอาจารย์คนหนึ่งว่าจะทำให้เขาตื่นเต้น ความตื่นเต้นในตอนนั้นที่เขาพูดหมายถึงพาหลี่เหอไท้และเซี่ยชีหรั่นไปเยี่ยมอาจารย์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เกิดขึ้นจึงเปลี่ยนเป็นจงหวีฉวน
ช่างบังเอิญ วันนี้ผู้สูงอายุครบรอบ 60 ปี หลี่หมิงจุ้นไม่เชื่อเรื่องเทพเจ้า แต่ไม่เชื่อไม่ได้ว่าเบื้องบนกำลังช่วยชีหรั่น
“น่าสนใจ ไปเมื่อไหร่?” จงหวีฉวนพูดอย่างสุภาพ เห็นหลี่หมิงจุ้น จงหวีฉวนคิดว่าจ้าวเหวินอิงทำงานสำเร็จแล้ว คิดว่าความฝันที่สวยงามกำลังจะเป็นจริง ไม่เป็นแค่ความฝัน จงหวีฉวนยิ้มจนปากปิดไม่สนิท
“วันนี้” หลี่หมิงจุ้นแกล้งทำเป็นพูดอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ใช่เพื่อเหวินอิงและชีหรั่น ตลอดชีวิตนี้เขาไม่มีทางยอมพบหน้าจงหวีฉวนแน่นอน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset