สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 951 สาวใช้ตัวแสบ 855

ตอนที่ 951 สาวใช้ตัวแสบ 855
เซี่ยชีหรั่นยังคงยืนยันที่จะส่งจ้าวเหวินอิงออกไป
ทั้งสองเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลเย่แต่ยังไม่เห็นคนขับรถเข้ามา ในขณะที่ทั้งสามยืนรอรถอยู่จ้าวเหวินอิงเงียบไปสักพักแล้วถามเซี่ยชีหรั่น “ลูกกับเชินหลินวางแผนจะมีลูกกันเมื่อไหร่?” เมื่อจ้าวเหวินอิงเห็นท่าทีของเย่เชินหลินที่มีต่อต้าเฟิ่งแล้วเธออยากรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
“คุณแม่คะ หนูก็ไม่รู้ว่าเชินหลินเขาคิดยังไงเหมือนกัน” เซี่ยชีหรั่นตอบด้วยเสียงเบาๆ เธอจำได้ว่าเย่เชินหลินเคยพูดถึงการมีลูกกับเธอมาก่อน ในตอนนั้นตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงยังอยู่ แต่ตอนนี้เด็กได้จากไปแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับเขาอย่างไร
“ชีหรั่น แม่เห็นเชินหลินเขาชอบต้าเฟิ่งขนาดนี้ เขาก็คงอยากมีลูกของตัวเองบ้างเหมือนกัน” จ้าวเหวินอิงคิดอยู่เสมอว่าการมีลูกนั้นไม่เกี่ยวกับการแต่งงานเลย แต่สถานการณ์ของเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นในตอนนี้ไม่เหมือนเธอกับจงหวีฉวนในสมัยก่อน จ้าวเหวินอิงจึงพยายามพูดให้กำลังใจเซี่ยชีหรั่น “ชีหรั่น เชินหลินเขาเป็นเด็กดีนะ”
ก่อนที่จ้าวเหวินอิงจะพูดเข้าเรื่อง คนขับรถก็ได้มาถึงและขัดจังหวะเธอพอดี แต่ซึ่งเซี่ยชีหรั่นจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเย่เชินหลินนั้นเป็นคนดี
เย่เชินหลินถูกฝู้เฟิ่งหยีเรียกเข้าไปคุยในห้อง
“ลูกชอบต้าเฟิ่งขนาดนี้แล้วมีแพลนจะมีลูกของตัวเองไหม?” ฝู้เฟิ่งหยีหวังว่าจะได้อุ้มหลานเร็วๆ เธอจ้องมองไปที่เย่เชินหลินอย่างละเอียดอ่อนโดยที่ไม่ให้โอกาสเขาหนีคำถามเลย
“คุณแม่ครับ เรื่องลูกไม่ใช่คิดจะมีก็มีเลยนะครับ” เย่เชินหลินจำได้ว่าเซี่ยชีหรั่นเคยพูดกับเขาก่อนหน้านี้ว่าเธอยังไม่พร้อมมีลูก เขาจึงไม่อยากบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
“เซี่ยชีหรั่นไม่ยอมเหรอ?” ฝู้เฟิ่งหยีถามลอยๆ เพราะเธอเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคนรักเด็กและตามสัญชาตญาณของผู้หญิงแล้วเธอรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นอยากมีลูกเหมือนกัน แต่ทำไมทั้งคู่ยังไม่มีลูกสักที่ล่ะ หรือว่าเขาสองคนมีปัญหาอะไรกัน?
“แม่ครับ มีคนโทรเข้ามา ผมขอออกไปรับสายก่อนนะครับ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงทำให้เย่เชินหลินมีโอกาสที่จะเลี่ยงคำถามเธอและไม่ว่าใครจะโทรเข้ามาเขาก็รู้สึกขอบคุณมาก
ฝู้เฟิ่งหยีคิดในใจขณะที่มองเย่เชินหลินเดินออกไป เจ้าตัวแสบนายหนีแม่ไปไม่ได้หรอก อย่าลืมว่ายังมีเซี่ยชีหรั่นอีกคนนะ!
เดี๋ยวจะไปคุยกับเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงจัง เพราะการมีลูกนั้นถือว่าเป็นเรื่องดีและสามารถเจือจางความเยือกเย็นของครอบครัวลงไปมาก
เวลาหนึ่งวันผ่านไปเร็วในพริบตา
เซี่ยชีหรั่นแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำและคำพูดของจ้าวเหวินอิงยังคงวนเวียนไปมาอยู่ในหัวของเธอ
แม่บอกว่าเธอกับเย่เชินหลินควรมีลูกกันได้แล้ว ที่แม่พูดแบบนี้ก็คงมีเหตุผลของแม่ ส่วนฝู้เฟิ่งหยีก็ได้คุยกับเธอหลายรอบเหมือนกัน เซี่ยชีหรั่นเองก็ได้เห็นสายตาของเย่เชินหลินที่มองเด็ก แต่เธอไม่แน่ใจว่าตอนนี้ในใจของเย่เชินหลินนั้นคิดอะไรอยู่
น้ำเย็นลงอย่างช้าๆ แต่ความคิดของเซี่ยชีหรั่นยังคงจมอยู่กับเรื่องนี้
ตอนนี้อาการป่วยของเธอยังไม่ได้หายเป็นปกติ หลังจากที่เธอไอออกเสียงอย่างกลั้นไม่อยู่เธอถึงรู้ตัวว่าตัวเองนั้นแช่อยู่ในน้ำนานเกินไปแล้ว ถ้าแช่ต่อไปอาการป่วยคงจะกำเริบอีกครั้งแน่ เธอจึงรีบลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดอย่างรวดเร็วแล้วรีบใส่เสื้อคลุมอาบน้ำไว้ ทำไมเวลานี้แล้วเย่เชินหลินยังไม่มาอาบน้ำ?
เซี่ยชีหรั่นสงสัยว่าเขาอาจจะรอเธออยู่หน้าห้องน้ำแล้ว เธอจึงรีบเปิดประตูออกไปแต่ไม่เห็นใครอยู่ข้างนอก หรือว่าเขากลับไปบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ไม่สิ เย่เชินหลินอาจจะเป็นคนห้าวหาญหน่อย แต่เขาไม่เคยลืมในสิ่งที่รับปากไว้นะ
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำคนเดียวและจู่ๆ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เธอจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อพยายามกลั้นน้ำตาเมื่อเห็นไฟในห้องทารกสว่างจ้าอยู่และเงาร่างบางๆ ของเย่เชินหลินยืนอยู่ในประตูที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นนึกถึงคำพูดในอดีตที่เคยพูดกับเย่เชินหลินตอนที่เขากำลังสร้างห้องเด็กอยู่ เธอบอกกับเขาว่าต้องแบ่งเป็นสองห้อง ห้องหนึ่งสำหรับเด็กผู้ชายส่วนอีกห้องสำหรับเด็กผู้หญิง
เมื่อเห็นเย่เชินหลินเป็นเช่นนี้แล้วเซี่ยชีหรั่นก็แอบตัดสินใจว่าเธอจะมีลูกให้เขาเพื่อชดเชยการจากไปของตัวเล็กเย่เจิ้งเหิง และเธอเชื่อว่าเย่เชินหลินต้องชอบลูกของพวกเขาอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเซี่ยชีหรั่นก็เริ่มลำบากใจ เพราะการมีลูกนั้นไม่ใช่เรื่องของเธอคนเดียว อีกอย่างช่วงนี้เย่เชินหลินกำลังเข้มงวดกับการปรับวินัยการใช้ชีวิตของเขา เซี่ยชีหรั่นหน้าเริ่มแดงแล้วเธอถอยกลับไปในห้องนอน เธอไม่รู้จะเริ่มพูดกับเขายังไง เธอจึงเข้าไปหยิบไวน์แดงออกมาเทให้ตัวเองดื่มเต็มแก้ว
เซี่ยชีหรั่นคิดจะใช้แอลกอฮอล์เพื่อจะทำให้เธอมีความกล้ามากขึ้น แต่เมื่อดื่มไวน์เข้าไปแล้วใบหน้าของเธอกลับแดงระเรื่อมากกว่าเดิมและดวงตาของเธอก็พร่ามัว
เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเย่เชินหลินเดินออกจากห้องนอนเด็กแล้วเข้าไปในห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อเย่เชินหลินอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของเซี่ยชีหรั่น จากนั้นเขารู้สึกมีแรงกระตุ้นบางอย่างโดยสัญชาตญาณ แต่เมื่อนึกถึงเซี่ยชีหรั่นที่กำลังป่วยอยู่เขาก็ได้แต่แสดงสีหน้าอึมครึมออกมา
เธอหันกลับมาและได้เห็นสีหน้าคลุมเครือไม่สงบของเย่เชินหลินแล้วสงสัยว่าคุณชายเย่คนนี้เป็นอะไรของเขาอยู่นะ? เซี่ยชีหรั่นคิดหนักและไม่รู้ว่าจะรุกรานเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อย่างไร
“นอน” เย่เชินหลินได้แต่กลืนน้ำลายและมองไปที่เซี่ยชีหรั่น จากนั้นหันหลังแล้วขึ้นไปบนเตียงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
มองกี่ครั้งมันก็เหมือนเป็นการทรมานตัวเอง คุณชายเย่กลายเป็นคนใจดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อพูดถึงการใจดีต่อเซี่ยชีหรั่นแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับการยกเว้นจากเขา เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ ขึ้นไปบนเตียง แม้เขาจะเป็นแฟนกันแต่เธอก็เขินจนหน้าแดงกว่าเดิมเมื่อเป็นฝ่ายที่ต้องยั่วยวนเย่เชินหลินก่อน
เย่เชินหลินปิดไฟห้องนอนแล้วหันหลังให้กับเซี่ยชีหรั่น เขาตั้งใจไม่มองหน้าเธอเพราะเกรงว่าหมาป่าในร่างจะตื่นและรู้ตัวอีกทีตอนที่มันสายเกินไป
เซี่ยชีหรั่นกัดฟันแล้วเริ่มเคลื่อนไหว เธอวางมือลงบนหน้าอกอันกว้างของเย่เชินหลิน
จังหวะหัวใจของเย่เชินหลินเต้นอย่างร้อนแรงขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วคิดในใจ ที่รัก ผมคงไม่ปล่อยคุณไปแน่ถ้าคุณไม่ได้ป่วยและอ่อนล้าในช่วงนี้ เย่เชินหลินพยายามข่มใจตัวเองไว้ ช่วยไม่ได้จริงๆ เขาทำได้เพียงกอดเซี่ยชีหรั่นไว้แน่นๆ เพียงแค่กอดเธอไว้และไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
ทำไมยังเฉยเมยอยู่นะ? เซี่ยชีหรั่นเริ่มรู้สึกหดหู่เล็กน้อย หรือว่าตัวเองเริ่มขี้เหร่แล้ว? ในความมืดนั้นเธอเอามือสัมผัสใบหน้าตัวเองและรู้สึกว่าผิวหน้าของเธอก็ไม่ได้หยาบหรือยังไงเลย จากนั้นเธอก็แตะที่เอวของเธอและรู้สึกว่าหุ่นก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้? เธอเริ่มคิดไปไกล
เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เฮ่าหรันได้รับสายจากปักกิ่งและต้องการให้เขาไปที่นั่น ฝู้เฟิ่งหยีคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินก็ดีขึ้นแล้วและจิ่วจิ่วกับเหยนชิงเหยียนก็กำลังไปได้ดี เธอจึงคิดว่าอยากไปปักกิ่งกับเย่เฮ่าหรันด้วย เพราะอยู่ที่นี่เธอก็เป็นได้เพียงตัวประกอบเท่านั้น
ก่อนที่จะออกเดินทาง ฝู้เฟิ่งหยีเรียกเซี่ยชีหรั่นออกมาคุยเป็นการส่วนตัว
“ชีหรั่นจ๋า ลูกกับเชินหลินต้องสู้ๆ นะ ครั้งหน้าถ้าเรามาหาหรือว่าพวกเธอไปที่ปักกิ่งแม่หวังว่าจะได้อุ้มหลานแล้วนะ” ฝู้เฟิ่งหยีพูดอย่างจริงจัง เป็นเวลานานแล้วที่ตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงจากไปและเชินหลินก็อายุมากขึ้นทุกวันแล้ว
“คุณแม่คะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ” เซี่ยชีหรั่นตอบเบาๆ และใบหน้าของเธอก็เริ่มแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติอีกครั้ง
“ชีหรั่น เธอต้องขยันกว่านี้นะ” จิ่วจิ่วแอบเดินตามมาและพูดด้วยรอยยิ้มจากด้านหลัง
เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินคำพูดของจิ่วจิ่วแล้วเธอก็หน้าบึ้งทันที
“อยากทราบว่าคุณจิ่วจิ่วกับคุณเย่จื่อห้านจะแต่งงานกันแล้วใช่ไหมคะ!” กล้าแซวฉันเหรอ เซี่ยชีหรั่นมองหน้าแล้วพูดกับจิ่วจิ่ว น้อยนักที่จะเห็นเธอพูดติดตลกแบบนี้
“เขากำลังพูดถึงเธออยู่นะ จะโยนมาให้ฉันทำไม” จิ่วจิ่วตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เธอแอบเหลือบไปมองสีหน้าของฝู้เฟิ่งหยีว่าเป็นยังไง คงไม่ต้องพูดถึงว่าปกติแล้วเธอเป็นคนเฟรนลี่มากแค่ไหน เพราะตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังเลย แม้ที่ผ่านมาฝู้เฟิ่งหยีไม่เคยปฏิเสธเธอเลย นั่นอาจหมายความว่าฝู้เฟิ่งหยียอมรับในตัวเธอแล้ว แต่จิ่วจิ่วก็ยังกลัวฝู้เฟิ่งหยีจะเปลี่ยนใจกะทันหันเหมือนกัน
“จิ่วจิ่ว เดิมทีคิดว่าจะรอให้พวกเธอสองคนหมั้นกันก่อนแล้วเราค่อยไป แต่ดันมีธุระด่วนเข้ามา งานหมั้นของพวกเธอก็คงต้องเลื่อนไปก่อนนะ” ฝู้เฟิ่งหยีเดินเข้าไปจับมือจิ่วจิ่วแล้วพูดอย่างน่าเสียดาย
“คุณนางเย่คะ เรา เรา ไม่รีบหรอกค่ะ” จิ่วจิ่วไม่รู้จะไปต่ออย่างไร โดยปกติแล้วเธอเป็นคนพูดจาฉะฉาน แต่ ณ ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นคนติดอ่างไปแล้ว สายตาเธอตื่นตระหนกและไม่รู้จะมองไปทางไหนดี
“เธอสองคนต้องรักกันดีๆ นะ” ฝู้เฟิ่งหยีจับมือจิ่วจิ่วและเซี่ยชีหรั่นเข้าด้วยกัน ในสายตาเธอ เซี่ยชีหรั่นเป็นคนจิตใจดีและหนักแน่น แต่สำหรับจิ่วจิ่วแล้วเธอค่อนข้างเด็กอยู่ ฝู้เฟิ่งหยีก็หวังให้เธอสองคนจะรักกันในช่วงที่เธอไม่อยู่
“คุณแม่ต้องเป็นห่วงพวกเรานะคะ” เซี่ยชีหรั่นรีบพยักหน้าตอบ เพราะจิ่วจิ่วกับเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้วและตลอดเวลาที่รู้จักกันมาพวกเธอไม่เคยมีความขัดแย้งต่อกันเลย
เมื่อหันมองกลับไปก็เห็นเย่เฮ่าหรันยืนรออยู่ แม้ใบหน้าเขาจะไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใดๆ แต่ฝู้เฟิ่งหยีก็รู้ว่าเวลาไม่รอใครและรู้ตัวว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว เธอจึงจับมือสาวทั้งสองแล้วเดินกลับไปด้านใน
“คุณแม่ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ” เย่เชินหลินส่งฝู้เฟิ่งหยีเข้าไปในรถ
ฝู้เฟิ่งหยีจับมือเย่เชินหลินกับเหยนชิงเหยียนไว้แน่นๆ จนในที่สุดก็ต้องปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ เพราะไม่มีงานเลี้ยงไหนที่ไม่มีการเลิกลา ดังนั้นเธอได้แต่โบกมืออำลาและปิดหน้าต่างรถแล้วค่อยๆ จากไป
เย่เชินหลินยืนมองรถของเย่เฮ่าหรันค่อยๆ หายไปจากสายตาเขาถึงเตรียมตัวไปทำงาน
“ชีหรั่น พวกเราจะไปเที่ยวกันนะ ไปด้วยกันมั้ย?” จิ่วจิ่วพิงที่ไหล่ของเหยนชิงเหยียนแล้วพูดอย่างมีความสุข
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่จิ่วจิ่ว จากนั้นหันมองไปที่เหยนชิงเหยียน แม้เธอจะเบื่อที่อยู่บ้านคนเดียวและอยากออกไปเที่ยวกับจิ่วจิ่ว แต่เธอไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของพวกเขา เซี่ยชีหรั่นจึงได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัว
จิ่วจิ่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและเหยนชิงเหยียนมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างสับสน เดิมทีเขาเห็นความสุขนัยน์ตาของเซี่ยชีหรั่นแล้วและคิดว่าเธอจะตกลงไปด้วย แต่สุดท้ายเธอเลือกที่จะปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนพวกเขา เซี่ยชีหรั่นเป็นคนนิสัยดีจริงๆ
หลังจากที่ส่งจิ่วจิ่วออกไปเซี่ยชีหรั่นก็เดินกลับไปในห้องคนเดียว เธอเลื่อนดูโทรศัพท์ด้วยความน่าเบื่อแต่ได้เห็นข่าวหน้าหนึ่งที่น่าสนใจของวันนี้ เป็นข่าวที่เขียนว่ามีคู่รักคู่หนึ่งไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้เพราะปัญหาทางร่างกาย สุดท้ายต้องหาผู้หญิงคนอื่นมาอุ้มท้องแทน แต่แล้วฝ่ายชายก็กลับมีใจและตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นในที่สุด เธอไม่กลัวเย่เชินหลินจะเปลี่ยนใจ แต่ที่เธอกังวลที่สุดคือความปรารถนาของผู้ใหญ่ เซี่ยชีหรั่นจึงนึกถึงสิ่งที่ฝู้เฟิ่งหยีพูดก่อนออกจากบ้านในวันนี้
เย่เชินหลิน คุณคิดยังไงกันแน่? เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถเดาความคิดของเจ้าชายเย่คนนี้ได้จริงๆ เธอหยิบไวน์ในบ้านออกมาแล้วเติมใส่ในแก้วให้ตัวเองดื่ม จะทำยังไงถึงให้เจ้าชายเย่มาติดกับเธอได้หนอ ยั่วยวนเขาอีกหรือ? เมื่อคืนก็ใช้วิธีนี้ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเลย
เมื่อเซี่ยชีหรั่นดื่มไปแก้วหนึ่งเธอก็ได้ยินเสียงสาวใช้พูดจากด้านนอกประตูว่าคุณหลี่เหอไท้กับคุณจงหยุนซางเข้ามาเยี่ยมในบ้าน
เธอจึงรีบออกไปต้อนรับด้วยตนเอง
“พี่เหอไท้ พี่หยุนซาง” เซี่ยชีหรั่นมองสองคนที่ทั้งหล่อทั้งสวยนั้นและรู้สึกว่าพวกเขาช่างสมน้ำสมเนื้อกันจริงๆ
“คุณแม่บอกว่าคุณไม่สบาย ผมจึงตั้งใจแวะเข้ามาเยี่ยมคุณ พอดีหยุนซางก็ได้ข่าวจากต้าเฟิ่งด้วย เราจึงเข้ามาพร้อมกันเลย” หลี่เหอไท้พูดด้วยความอ่อนโยนและจงหยุนซางก็พยักหน้าอยู่ข้างๆ ถ้าต้าเฟิ่งไม่ได้โทรบอกเธอ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีหรั่นป่วย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset