หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 604 อาวุธเวทระดับเจ็ดที่แหกทุกกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

บทที่ 604 อาวุธเวทระดับเจ็ดที่แหกทุกกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
หวังเป่าเล่ออดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่นางน้อยพูด กระนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เนื่องจากไม่ใช่เวลาที่จะมาเสาะหารายละเอียด ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงตัดสินใจได้ในทันที

ลองดูสักตั้งแล้วกัน! ประกายความมุ่งมั่นวาบขึ้นในแววตาของหวังเป่าเล่อ เขาตบฝ่ามือขวาลงบนอกอย่างไม่ลังเล ร่างกายของชายหนุ่มสั่นสะท้านเป็นสัญญาณตอบรับ เขายกมือขวาขึ้นออกจากอก เผยให้เห็นฝักกระบี่สว่างเรืองรองที่ดึงออกมาจากภายใน

ฝักกระบี่สั่นไหวทันทีที่ปรากฏสู่โลกภายนอก ก่อนหน้านี้ ฝักกระบี่ของเขาต้านกระบวนเวทกำปั้นสี่อสูรของตู้กูหลินได้อย่างหนักแน่น ผลจากการปะทะนั้นทำให้ฝักกระบี่ได้รับผลกระทบ ราวกับรอยร้าวจะปรากฏขึ้นที่พื้นผิวได้ทุกเมื่อ หากโดยแรงมหาศาลจากลำแสงทำลายล้าง อาจแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในทันที เสียงแตกหักดังก้องกลางอากาศ รอยร้าวเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้นที่ผิว!

ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าแม่นางน้อยทำได้อย่างไร แต่ในตอนนั้นเอง ภาพมายาที่ปิดบังตัวตนของหวังเป่าเล่อที่แม่นางน้อยสร้างจากกฎแห่งเต๋าไพศาล ระเบิดออกด้วยเสียงดังกึกก้อง คลื่นเสียงกระจายไปทั่วทุกทิศทาง พุ่งเข้าปะทะลำแสงมฤตยูนั้นอย่างรุนแรง แม่นางน้อยปรากฏตัวขึ้นพร้อมสร้างผนึกมือมากมาย ที่ทำให้กลุ่มลำแสงหยุดนิ่งในชั่วขณะนั้น

ราวกับทุกสิ่งนิ่งสนิทอยู่กลางอากาศ หวังเป่าเล่อถอยหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังเห็นว่าแม่นางน้อยแทบจะต้านลำแสงเอาไว้ไม่ไหว ชายหนุ่มปรับลมหายใจตนเองให้คงที่ สร้างผนึกมือต่อเนื่องเพื่อเริ่มหลอมฝักกระบี่ในทันที!

เขาคิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะปรับปรุงฝักกระบี่ จากระดับหกให้เป็นระดับเจ็ดได้อย่างไร เนื่องจากลองนึกภาพในหัวซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ด้วยความที่เดินหน้าสะสมวัตถุดิบมาตลอด เขายังมีทรัพยากรเพียงพอต่อการหลอมอีกด้วย!

สิ่งเดียวที่ยังขาดไปคือความมั่นใจว่าจะทำให้สำเร็จลุล่วงได้นั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่เขากังวลคือ หากทำพลาด ฝักกระบี่จะได้รับความเสียหาย วัตถุดิบในการหลอมฝักกระบี่นี้ทั้งหายากและมูลค่าสูง หากเขาทำไม่สำเร็จ ก็จะต้องเริ่มรวบรวมใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ได้ยากจนเป็นไปไม่ได้ แต่ก็คงลากเลือดอยู่พอตัว

ด้วยเหตุนี้หวังเป่าเล่อจึงย้ำคิดย้ำทำอยู่กับการเพิ่มทักษะในการหลอมของตนเองให้มากขึ้นไปอีก ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจะยังไม่ปรับปรุงฝักกระบี่ จนกว่าจะมั่นใจจริงๆ ว่าตนเองจะทำสำเร็จแน่นอน แต่โอกาสที่เข้ามาในตอนนี้นั้นเกิดขึ้นได้ยากเสียจนหากปล่อยทิ้งไปก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะหาได้อีกหรือไม่ และยังมีสิ่งสำคัญที่แม่นางน้อยพูดเมื่อก่อนหน้านั้นอีกด้วย…

ฝักกระบี่ของข้าจะดูดซับเอาเสี้ยวพลังจากดดาวเคราะห์นี้ เพื่อสร้างรากฐานในการพัฒนาไปเป็นวัตถุเวทชั้นยอด! ประกายความมุ่งมั่นโชติช่วงในแววตาหวังเป่าเล่อ ชายหนุ่มโบกมือเพื่อเรียกเอาวัตถุดิบจำนวนมากออกมา ก่อนจะสร้างผนึกมือเป็นชุดๆ เพื่อเริ่มต้นทำงาน ภายในเวลาไม่นาน วัตถุดิบเหล่านั้นก็เริ่มหลอมละลาย เอื้อให้หวังเป่าเล่อสกัดแก่นของมันออกมาได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการหาหม้อหลอมมาเพื่อใช้ดำเนินการอีกด้วย หวังเป่าเล่อมีวิชากระบวนเวทเพลิงปะทุที่ทรงพลังพอในการหลอมวัตถุเวททั่วไป แต่ในกรณีนี้… ชายหนุ่มตาเป็นประกายก่อนเอ่ยขึ้นในฉับพลัน

“แม่นางน้อย เจ้าปล่อยลำแสงมาให้ข้าเส้นหนึ่งได้หรือไม่”

แม่นางน้อยหันขวับไปหาหวังเป่าเล่อ ดวงตาจ้องเขาเขม็ง นางจะเอ่ยบางสิ่ง แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในแววตาของชายตรงหน้า จึงล้มเลิกความพยายามพูดให้เขาเลิกคิด แต่กลับสร้างผนึกมือควบคุมกฎแห่งเต๋าไพศาล เพื่อปล่อยลำแสงออกมาเส้นหนึ่งแทน ลำแสงนั้นพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อด้วยความเร็วที่น้อยลงกว่าปกติมาก เนื่องจากถูกกฎแห่งเต๋าไพศาลชะลอไว้

ความช้านี้คือโอกาสงาม เมื่อลำแสงเข้ามาใกล้ หวังเป่าเล่อก็โยนวัตถุดิบใส่ เพื่อใช้ลำแสงตัดให้ขาดเป็นรูปร่างและขนาดที่ต้องการ!

ช่างเป็นกระบวนการที่ทั้งยากลำบากและอันตราย เขาทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการหลอม โดยไม่กล้าวอกแวกแม้แต่วินาทีเดียว เขาไม่สนใจอันตรายรอบตัว ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตนเองอยู่ที่ใด!

สิ่งเดียวที่เขาสนใจตอนนี้คือการหลอมฝักกระบี่ ราวกับเป็นสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ หวังเป่าเล่อไม่ยอมให้ตนเองพลาดเด็ดขาด ใจจดจ่ออยู่ทุกเสี้ยววินาที แม้แม่นางน้อยจะเคยบอกว่าถึงอย่างไรก็สำเร็จก็ตามที สมาธิที่เที่ยงตรงของหวังเป่าเล่อพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในวินาทีนั้น!

เสียงกึกก้องยังคงดังอย่างไม่ขาดสายในห้องลับ วัตถุดิบจำนวนมากถูกตัดและหลอมละลาย ก่อนที่แม่นางน้อยจะดึงลำแสงกลับไป หวังเป่าเล่อสร้างผนึกมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อหลอมวัตถุดิบเหล่านั้นรวมเข้ากับฝักกระบี่ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไร้อุปสรรค ครึ่งชั่วโมงต่อมาชายหนุ่มก็รวมวัตถุดิบเหล่านั้นเข้ากับฝักกระบี่ได้สำเร็จ เขาเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยประกายแรงกล้าในแววตา

เขารู้แล้วว่าขั้นตอนการหลอมที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!

หวังเป่าเล่อหายใจเข้าลึก หยิบเอาทรายอาวุธมาจากในกำไลคลังเวท และโยนเข้าไปในฝักกระบี่โดยไม่ลังเล ชายหนุ่มสร้างผนึกพร้อมโบกมือเพื่อปล่อยกระบวนเวทเพลิงปะทุ เพลิงร้อนเข้าโอบล้อมฝักกระบี่ ส่งให้มันปล่อยไอพลังรุนแรงสุดขีดออกมาในทันที!

ฝักกระบี่กำลังค่อยๆ คืบคลานจากวัตถุเวทระดับหกไประดับเจ็ด พลังที่ผล่อยออกมานั้นทวีความรุนแรงขึ้นทุกๆ ทีจนเริ่มน่ากลัว กระนั้น… ก็ยังห่างจากการเป็นวัตถุเวทระดับเจ็ดอยู่หนึ่งก้าว

หวังเป่าเล่อไม่รู้ว่าเขาพลาดอะไรไป จึงเริ่มกระวนกระวายทันที จากการคำนวณของเขา กระบวนการปรับปรุงฝักกระบี่ให้เป็นวัตถุเวทระดับเจ็ดควรจบสิ้นตรงนี้ สิ่งที่เหลืออยู่เป็นแค่การรวมจิตวิญญาณของเทพเจ้าเข้ากับฝักกระบี่เท่านั้น เพื่อทำให้กลายเป็นวัตถุเวทระดับเจ็ดที่แท้จริง

ข้าทำอะไรผิดไปกันนะ… หวังเป่าเล่อมองฝักกระบี่ที่แตะจุดสูงสุดของวัตถุเวทระดับเจ็ด จนปรับปรุงต่อไปไม่ได้อีก และเห็นว่าวัตถุเวทระดับเจ็ดแบบครึ่งๆ กลางๆ ของเขาอันนี้ เริ่มส่งสัญญาณว่ากำลังจะแตก!

ความรู้เรื่องวัตถุเวทของหวังเป่าเล่อบอกเขาว่า หากเขาไม่แก้ไขตั้งแต่ตอนนี้ โอกาสที่ฝักกระบี่จะแตกสลายในอนาคตนั้นมีมาก ฝักกระบี่จะเริ่มกลืนกินตัวเองราวกับโดนไฟเผาอยู่ตลอดเวลา เมื่อวัตถุดิบในฝักเผาไหม้จนหมดสิ้น ฝักกระบี่จะสลายไปอย่างสมบูรณ์

รอยแตกนี้… เกิดขึ้นเพราะข้าหลอมวัตถุดิบเข้าไปไม่สมบูรณ์หรือ ชายหนุ่มตัวสั่นในสถานการณ์คับขัน แม่นางน้อยเริ่มสร้างผนึกมือ แผ่นศิลาลอยขึ้นในอากาศพุ่งเข้าหาฝักกระบี่ในทันที แผ่นศิลาลอยอยู่เหนือฝักกระบี่ก่อนเคลื่อนที่ลงด้านล่าง!

ฝักกระบี่สั่นสะเทือนโดยฉับพลัน พลังรายรอบกดสัญญาณการแตกของฝักกระบี่เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้!

“รีบซ่อมเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฝักกระบี่ของเจ้าอันนี้… ไม่ใช่อันเดิมจากสูตรการหลอมที่ข้าจำได้อีกต่อไปแล้ว… ข้าทำได้เพียงช่วยเจ้าซ่อมให้มันไม่สลายไปเท่านั้น…” แม่นางน้อยพูดอย่างยากลำบาก หวังเป่าเล่อรีบสร้างผนึกมือและหยิบเอาวัตถุดิบจำนวนมากออกมาทันที ชายหนุ่มเริ่มคิดถึงปัญหาเรื่องการรวมวัตถุดิบเข้ากับฝักกระบี่ที่ไม่สมบูรณ์ เขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดในน้ำเสียงของแม่นางน้อย แต่ก็ยังไม่ยอมรับล้มเหลวตรงหน้าอยู่ดี

หากการหลอมล้มเหลวในครั้งนี้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองจะไม่มีโอกาสได้ปรับปรุงฝักกระบี่ของตนเอง ให้กลายเป็นวัตถุเวทระดับเจ็ดได้อีกต่อแล้ว

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ข้าก็ต้องพยายามใช้โอกาสครั้งสุดท้ายนี้ให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะล้มเหลวก็ตามที หรือเป็นเพราะข้าตัดวัตถุดิบไม่ดีกันนะ ใช้ไปเกือบหมดแล้วเสียด้วยสิ แต่… เหมือนตรงนั้นจะมีอะไรที่พอใช้ได้อยู่นะ ดวงตาของหวังเป่าเล่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะมองลำแสงที่แม่นางน้อยดึงกลับไปเมื่อก่อนหน้า!

“แม่นางน้อย ปล่อยลำแสงออกมาอีกครั้งเร็ว!” ชายหนุ่มตะโกน ความตกใจวาบเข้ามาในใบหน้าของแม่นางน้อย นางรู้แล้วว่าหวังเป่าเล่อกำลังจะทำสิ่งใด

“เจ้าคิดว่ามันคุ้มที่จะทำหรือ” นางอดถามไม่ได้

“ถึงอย่างไรเราก็มาถึงจุดนี้กันแล้ว ต้องลองให้ครบหมดทุกทางก่อน จึงจะพูดได้ว่าทำไม่สำเร็จจริงๆ !” หวังเป่าเล่อขบกรามแน่น ประกายวาวโรจน์ในดวงตา แม่นางน้อยมองเขาด้วยสีหน้าอ่านยากอยู่นาน ก่อนล้มเลิกความคิดที่จะห้ามปรามและสร้างผนึกมือทันที ลำแสงที่นางดึงไปเมื่อก่อนหน้าได้รับอิสรภาพในที่สุด และกำลังพุ่งเข้ามาหาหวังเป่าเล่อ

ทันทีที่ลำแสงเคลื่อนเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็ทุ่มเทกำลังกายและใจทั้งหมดที่มีเข้าไปกับภารกิจนี้ เขาตะโกนก้อง สร้างผนึกมือมากมายเพื่อบังคับให้ฝักกระบี่พุ่งเข้าหาลำแสง ไม่ใช่เพื่อเข้าปะทะ แต่เพื่อให้… ฝักกระบี่กลืนกินและหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งกับลำแสง!

หวังเป่าเล่อตั้งใจจะรวมลำแสงคำสาปเข้ากับฝักกระบี่!

ลำแสงหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับฝักกระบี่ในทันที กระนั้นลำแสงคำสาปก็ยังมีพลังในการตัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า จนดูเหมือนฝักกระบี่จะต้านทานพลังรุนแรงของมันเอาไว้ไม่ไหว ราวกับเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่กำลังพยายามกลืนดาบคมเข้าท้อง ดาบแหลมนั้นแทงทะลุท้องเขาได้ทุกเมื่อ แต่พลังของแผ่นศิลาที่ห่อหุ้มฝักกระบี่อยู่ก็รุนแรงมากเช่นกัน เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว ลำแสงเบ้ออกจากฝักกระบี่ในทันที โดยที่ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อวัตถุเวท!

ดวงตาของหวังเป่าเล่อเจือด้วยความคุ้มคลั่ง เมื่อเห็นผลลัพธ์ดังนั้นเขาก็รีบตะโกนออกมาทันที

“เอามาอีกอัน!”

แม่นางน้อยตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เช่นกัน นางรีบสร้างผนึกมือเพื่อส่งลำแสงเส้นที่สองไปหาหวังเป่าเล่อทันที ลำแสงพุ่งแหวกอากาศไป และถูกฝักกระบี่กลืนกินเข้าไปเช่นกัน ตามมาด้วยเส้นที่สาม สี่ และห้า…

ภายในเวลาสามสิบลมหายใจ หวังเป่าเล่อก็รวมเอาลำแสงเข้าไปในฝักกระบี่แล้วกว่าร้อยเส้น ฝักกระบี่ของเขาเต็มไปด้วยรูพรุนมากมาย หากไม่ใช่เพราะอำนาจของแผ่นศิลาที่ประคับประคองเอาไว้ ก็คงแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และกลายเป็นฝุ่นธุลีไปนานแล้ว

แต่ว่าในตอนนี้… ฝักกระบี่ยังคงรูปทรงอยู่ได้ ก็แปลว่ายังมีความหวังอยู่ เขายังคงเดินหน้าสร้างผนึกมืออย่างต่อเนื่องเพื่อหลอมและซ่อมแซมวัตถุเวท เมื่อใช้วัตถุดิบไปหมดสิ้นแล้ว ชายหนุ่มก็หยิบเอาชิ้นส่วนต้นกำเนิดดวงดาวออกมา โยนเข้าไปในฝักกระบี่เพื่อหลอมรวม

ชายหนุ่มไม่ได้คิดถึงสูตรการหลอมฝักกระบี่อีกต่อไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขานึกคือการซ่อม!

เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจทราบได้ จิตใจของแม่นางน้อยปั่นป่วนไปหมด ลำแสงทั้งหมดในห้องลับถูกฝักกระบี่กลืนกินไปต้นหมดสิ้น ส่วนหวังเป่าเล่อก็ใช้ชิ้นส่วนต้นกำเนิดดวงดาวไปเกือบหมดเช่นกัน ฝักกระบี่ยังคงต้องการการซ่อมแซมโดยไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้ ในตอนนั้นเอง ที่ตัวฝัก… ระเบิดพลังรุนแรงออกมา!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset