หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 795 พลิกผัน!

ผืนดินสั่นไหวเมื่อผู้บัญชาการกองทหารสระน้ำทองคำร้องตะโกน แสงมากมายพุ่งออกมาจากใต้พิภพ แมลงปอขนาดยักษ์ที่อยู่ใต้ดินปรากฏตัวพลางกรีดร้องคำรามลั่น!

 แมลงปอยักษ์ขนาดตัวกว้างประมาณหมื่นเมตรแผ่พลังเกินบรรยายที่แข็งแกร่งกว่าเรือบินรบธรรมดา แต่ก็ด้อยกว่าเรือบินรบเวทออกมา พลังของมันเหมือนจะเทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นแสร้งอมตะที่กำลังจะบรรลุไปขั้นจุติวิญญาณ การปรากฏตัวของมันเรียกความสนใจจากทุกคนในสนามรบได้ในทันที

นี่คือไพ่ตายของกองทหารสระน้ำทองคำ เป็นอาวุธสุดยอดที่ทางกองทหารหลอมมาตลอดหลายปีด้วยความช่วยเหลือจากกองทหารปลาคุนสีเขียว มันมีพลังประมาณครึ่งหนึ่งของเรือบินรบเวท ความจริงแล้ว กองทหารสระน้ำทองคำนั้นขาดค่วัตถุดิบจำเป็นบางส่วนก็จะพัฒนาแมลงปอตัวนี้ไปเป็นเรือบินรบเวทเต็มขั้นได้ ถึงกระนั้น อสูรตนนี้และผู้ฝึกตนขั้นแสร้งอมตะจากกองทหารปลาคุนสีเขียวก็เพียงพอที่จะผสานพลังซึ่งเหนือชั้นกว่าผู้ฝึกตนขั้นแสร้งอมตะคนไหนๆ แล้ว!

อย่างไรเสีย เรือบินรบเวทก็เป็นของล้ำค่า ทั่วทั้งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์มีอยู่ไม่ถึงร้อยลำ แม้กระทั่งกองทหารมังกรหยดหมึกก็ยังไม่มีในครอบครอง แมลงปอของกองทหารสระน้ำทองคำจึงเป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจและความมั่งคั่งของกองทหาร

การปรากฏตัวของแมลงปอทำให้ทั่วทั้งสนามรบต้องสั่นคลอนไป ปีกของมันกระพือสร้างลมหมุนที่มองไม่เห็นพัดข้ามสนามรบไปถึงตัวหวังเป่าเล่อ ส่งผลให้เรือบินรบรอบๆ สั่นไหว ส่งสัญญาณเหมือนจะระเบิดทำลายตัวเองก่อนเวลา

นั่นแหละ! หวังเป่าเล่อใจเต้นแรง ความปรารถนาอันแรงกล้าพวยพุ่งขึ้นตามจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ เขาพยายามข่มความรู้สึกเอาไว้

ชายหนุ่มตระหนักว่ากองทหารปลาคุนสีเขียวได้เข้ามามีส่วนร่วมในศึกครั้งนี้จากกระบี่บินเมื่อครู่ หวังเป่าเล่อจำพลังที่แผ่ออกมาจากกระบี่มายาได้และมั่นใจว่าต้องเป็นอี้เหนียนจื่อแน่!

เป็นเหตุให้…เขาต้องวางแผนขั้นต่อไปอย่างระมัดระวัง ความพยายามทั้งหมดอาจสูญเปล่าหากมีอะไรผิดพลาด!

เขาปล่อยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทั้งยังไม่ได้พยายามหยุดการต่อสู้อย่างสมบูรณ์ หมายความว่าข้าเดาถูก เพราะคำเตือนของปรมาจารย์และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของข้า กองทหารปลาคุนสีเขียวจึงไม่สามารถโจมตีข้าได้อย่างเต็มกำลังโดยไม่ไตร่ตรองถึงผลลัพธ์จากการกระทำก่อน!

เขามาที่นี่เพื่อส่งสัญญาณและ…รอช่องว่างในการโจมตี!

อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นศึกระหว่างกองทหารสระน้ำทองคำกับข้า และเขาก็อยู่ในขั้นจิตวิญญาณอมตะ คงจะดูไม่ดีถ้าเขาเข้าร่วมศึกด้วย น่าจะอธิบายการกระทำของตนเองให้ผู้อื่นฟังได้ยาก… ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในหัวหวังเป่าเล่อ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดกองทหารสระน้ำทองคำจึงเลือกป้องกันในตอนแรก

พวกเขาตั้งใจจะทำเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำและให้ข้าสำแดงพลังโล่สวรรค์พิพากษาสะท้านโลกา ซึ่งจะเปิดช่องให้อี้เหนียนจื่อมีเหตุผลในการเข้าร่วมศึก! โชคไม่ดีที่พวกเขาประเมินพลังที่แท้จริงของเรือบินรบข้าต่ำไป… หวังเป่าเล่อหรี่ตาวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขามองแมลงปอที่ปล่อยเกราะป้องกันออกมาและคอยรักษาระยะห่างไว้ ชายหนุ่มคำนวณระยะห่างระหว่างตนและอีกฝ่าย จากนั้นก็กัดฟันแน่น ความขุ่นเคืองฉายขึ้นในแววตาขณะที่เขายกมือขวาสร้างผนึกฝ่ามือท่วงท่าต่างๆ

เรือบินรบรอบตัวหยุดมุ่งหน้าไปทางดาวเคราะห์สระน้ำทองคำและเริ่มถอยกลับไปทางรอยแยก

ใครๆ ก็คงคิดว่าเป็นการยอมจำนนเมื่อได้เห็นการปรากฏตัวของแมลงปอ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสภาพน่าเวทนาของชายหนุ่มหลังจากกองเรือบินรบได้รับความเสียหายและทำลายตัวเองลงไปบางส่วน การตัดสินใจถอยหนีของหวังเป่าเล่อจึงเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผล!

เขาไม่ได้เปิดใช้งานโล่สวรรค์พิพากษาสะท้านโลกาแม้แต่น้อย และเหล่าผู้บัญชาการกองทหารสระน้ำทองคำก็มองออกว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขารู้ว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่คิดมาอย่างดีแล้วของหลงหนานจื่อ ชายหนุ่มคิดหาทางไม่ให้กองทหารปลาคุนสีเขียวมีข้ออ้างในการเข้าร่วมศึก!

“เจ้าเล่ห์นัก!”

“คิดจะหนีหรือ”

“เจ้านั่นคิดว่าดาวเคราะห์สระน้ำทองคำเป็นที่ที่คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไปอย่างนั้นหรือ” เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อถอยหนี เหล่าผู้บัญชาการกองทหารสระน้ำทองคำก็กระหน่ำส่งข้อความเสียงหากันและรีบตัดสินใจทันที กองเรือบินรบของกองทหารสระน้ำทองคำและแมลงปอเปิดฉากพุ่งไล่ตามไป!

อี้เหนียนจื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ใจหนึ่งก็อยากจะหยุดกองทหารสระน้ำทองคำ แต่ความไม่สบายใจที่ผุดขึ้นมาก็คลายหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่ทราบต้นตอที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ อีกทั้งหวังเป่าเล่อยังถอยหนีไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด ถ้าหลุดรอดเงื้อมมือไปได้ละก็…เขาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีเด็ดขาด

กฎยอมให้มีคนตายในการท้าประลองได้ แต่ถ้าปล่อยให้หวังเป่าเล่อหนีไปได้ พวกเขาก็ต้องหาโอกาสอื่นในการจัดการชายหนุ่ม ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อโอกาสครั้งที่สองนั้นคงแพงไม่น้อยทีเดียว

นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่เอ่ยปากห้ามกองทหารสระน้ำทองคำ แม้จะลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง

การไล่ตามอย่างไม่ลดราวาศอกเปิดฉากขึ้นในห้วงอวกาศรอบดาวเคราะห์สระน้ำทองคำ เสียงระเบิดกัมปนาทดังกึกก้องไปทั่วเมื่อเรือบินรบรอบตัวหวังเป่าเล่อแตกพ่ายไปทีละลำ ใบหน้าของชายหนุมซีดลงกว่าเดิม ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและโกรธเคือง เขาโยนเรือบินรบออกไปด้านหลังเรื่อยๆ และปลดกลไกระเบิดตัวเองเพื่อชะลอพวกที่ไล่ตามมา

ดูเหมือนจะเป็นความพยายามที่ไม่เกิดผล ยุทธวิธีของเขาเริ่มอ่อนกำลังลงเมื่อโดนกองทหารสระน้ำทองคำไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ แมลงปอที่มีพลังกึ่งหนึ่งของเรือบินรบเวทออกตามล่า ลมกรรโชกรุนแรงพัดไปทั่ว เรือบินรบของหวังเป่าเล่อทนได้ประมาณห้าวินาทีก็แหลกเป็นเสี่ยงๆ

“กองทหารสระน้ำทองคำ พวกเจ้าทำเกินกว่าเหตุ ข้าถอยหนีแล้ว พวกเจ้ายังต้องทำถึงเพียงนี้เลยหรือ” ใบหน้าของหวังเป่าเล่อเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก สายตาเลื่อนกวาดมองทั่วสนามรบไปพบซากเรือบินรบนับไม่ถ้วน ในใจแอบยินดีเมื่อได้เห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มมองตำแหน่งของแมลงปออยู่ตลอด ที่ผ่านมาเขาใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้อสูรตนนั้นไล่ตามมา พร้อมๆ กับแอบควบคุมซากเรือบินรบที่อยู่รอบๆ อีกฝ่าย เศษซากเรือบินรบเคลื่อนที่ไปทางแมลงปอโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

หวังเป่าเล่อควบคุมทุกอย่างจนได้ที่ แมลงปอค่อยๆ เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่วางไว้ ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความสุขใจเมื่อเห็นอสูรร้ายเคลื่อนตัวไปถึงตำแหน่งเป้าหมาย เขายกมือขึ้นโบก ส่งเรือบินรบร้อยลำสุดท้ายจากกำไลคลังเวทออกมาพร้อมร้องคำราม

“อย่ากดดันข้า!”

เสียงร้องคำรามเป็นเหมือนน้ำหยดลงมหาสมุทร ไม่สามารถพัดกระจายไปทั่วสนามรบได้ เรือบินรบร้อยลำสุดท้ายที่ปล่อยออกมายุบตัวลงขณะที่แมลงปอกระพือปีก

ทันใดนั้น…อี้เหนียนจื่อก็เบิกตากว้าง เขาคอยจับตาดูสถานการณ์อยู่ตลอด ใบหน้าเปลี่ยนไปในทันที!

มีอะไรแปลกๆ เศษ…เศษซากเรือบินรบกำลังเคลื่อนไหว! หลงหนานจื่อเหมือนจะหลบหนี แต่แท้จริงแล้วกำลังล่อแมลงปอไปทางเรือบินรบที่เหลืออยู่ต่างหาก!

“กองทหารสระน้ำทองคำ หยุดไล่ตามเดี๋ยวนี้ นำแมลงปอออกห่างเศษซากเรือบินรบ!” อี้เหนียนจื่อหายใจถี่รัวขณะส่งเสียงตื่นตระหนกดังก้องไปทั่วสนามรบ เพียงก้าวเดียว เขาก็มาปรากฏตัวท่ามกลางหมู่ดวงดาราและมุ่งหน้าตรงไปยังสนามรบ!

แต่เขาก็รู้สึกตนช้าไป!

ขณะที่กองทหารสระน้ำทองคำหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำสั่ง หวังเป่าเล่อที่คอยหนีมาตลอดก็หันกลับมาทันใด ดวงตาส่องแสงเจิดจ้า เส้นผมปลิวไปมา เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นสร้างผนึกฝ่ามือ จากนั้นก็เปล่งเสียงร้องคำรามดังลั่น

“ปรสิต โจมตี!”

แสงสีม่วงปะทุขึ้นจากเศษชิ้นส่วนเรือบินรบที่หลงเหลืออยู่ มันคือเศษซากของเรือบินรบร้อยลำสุดท้ายที่แมลงปอทำลายไป ก่อนหน้านี้พวกมันเป็นเพียงซากไร้ชีวิต แต่หลังจากหวังเป่าเล่อร้องคำราม เหล่าเศษซากก็พลันมีชีวิตขึ้นมา ก่อนพุ่งตรงไปทางแมลงปออย่างรวดเร็วราวกับว่ามีสตินึกคิดเป็นของตัวเอง!

เหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเศษซากเรือบินรบนับไม่ถ้วนของหวังเป่าเล่อที่กระจายไปทั่ว เศษชิ้นส่วนกึ่งหนึ่งเปล่งแสงสีม่วงออกมา ราวกับเป็นอสูรกระหายเลือดมนุษย์ เศษซากทั้งหมดพุ่งไปทาง…แมลงปอ!

ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนจากเรือบินรบที่พังลงเปล่งแสงสีม่วงและออกเคลื่อนไหวในทันใด ไม่มีใครตอบโต้ได้ทัน แสงสีม่วงเหมือนจะมีพลังบางอย่างแฝงอยู่ เศษชิ้นส่วนเปล่งแสงทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ บนตัวแมลงปอ ก่อนจะหลอมรวมกับอสูรร้ายราวกับเป็นส่วนหนึ่งของมันมาตั้งแต่แรก เหล่าเศษซากรุกล้ำแมลงปอราวกับเป็นปรสิต!

เรือบินรบเวทเป็นสิ่งมีชีวิต เป็นที่มาของแหล่งพลังเกินบรรยาย แมลงปอกรีดร้องน่าเวทนา เหมือนว่ากำลังตื่นกลัวและเจ็บปวด เศษซากที่พุ่งเข้าใส่อสูรร้ายมีมากเกินไป เสียงกรีดร้องเงียบหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน…ฝังเข้าไปในตัวแมลงปอและแปรเปลี่ยนมันไปโดยสมบูรณ์!

มันไม่ใช่แมลงปออีกต่อไป แต่ดูเหมือนตั๊กแตนขนาดยักษ์แทน!

ดวงตาสีชาดเปี่ยมไปด้วยความคลั่งหันมองกองทหารสระน้ำทองคำที่นิ่งงันด้วยความตื่นตกใจ อี้เหนียนจื่อที่เพิ่งมาถึงสนามรบก็มีอาการไม่ต่างกัน อสูรร้องคำรามลั่น!

เสียงร้องดังก้องไปทั่วห้วงอวกาศ ส่งคลื่นรุนแรงถาโถมใส่สนามรบ พลังที่เอ่อล้นออกมาดูแข็งแกร่งกว่าก่อน หากมันระเบิดทำลายตัวเองลงตรงนี้ แรงระเบิดคงจะมีพลังสูสีกับผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะเลยทีเดียว!

กองทหารสระน้ำทองคำสั่นกลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดังกล่าว อี้เหนียนจื่อมีสีหน้าเคร่งเครียด หวังเป่าเล่อก้าวไปหยุดยืนบนหัวตั๊กแตน จากนั้นก็มองอี้เหนียนจื่อด้วยรอยยิ้ม

“ศิษย์พี่อี้เหนียนจื่อ เจอกันอีกแล้วนะ” หวังเป่าเล่อยกมือขวาสร้างผนึกฝ่ามืออย่างรวดเร็วขณะพูด ครึ่งหนึ่งของเรือบินรบกองทหารสระน้ำทองคำที่อยู่รอบตัวหันลำไปตั้งการโจมตีใส่อี้เหนียนจื่อและกองทหารสระน้ำทองคำที่เหลืออยู่แทน!

มีเศษชิ้นส่วนเรืองแสงสีม่วงปักอยู่บนเรือบินรบเหล่านี้ด้วยเช่นกัน!

……………………….

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset