หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 431 ระวัง ลาบุก!

บทที่ 431 ระวัง ลาบุก!

ก่อนหน้านี้หวังเป่าเล่อกำลังง่วนอยู่กับการผนึกวงแหวนปราณใหม่อีกรอบทำให้มาช้าเนื่องจากอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่น้อย ทว่าเขาก็รีบขับเรือบินด้วยความเร็วเต็มพิกัด ในใจคุกรุ่นไปด้วยความกังวล เมื่อเริ่มเข้าไปใกล้ขึ้น ชายหนุ่มก็ปลดปล่อยพลังกายทั้งหมดที่มีเพื่อพุ่งทะยานไปข้างหน้า

ด้วยความเร็วของเรือบินผสานกับพลังกายทำให้หวังเป่าเล่อทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วจนทิ้งภาพติดตาไว้เบื้องหลัง จนเกิดเป็นเสียงสนั่นฟ้าดินดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ พลังกายของชายหนุ่มที่ผสานเข้ากับกระบี่ทำให้จระเข้สีดำปรากฏเด่นชัดในพายุ เขาพุ่งผ่านฝูงชนที่ถูกบีบให้ถอยหนีเข้าไปใกล้งูเหลือม

เสียงคำรามของงูเหลือมส่งผลกระทบกับคนอื่นๆ แต่หวังเป่าเล่อสามารถต้านทานพลังวิชาแห่งศาสตร์มืดที่แฝงอยู่ในเสียงคำรามด้วยเปลวไฟสีดำภายในร่าง ทว่าเสียงคำรามของมันไม่ได้มีเพียงพลังจากวิชาแห่งศาสตร์มืดเท่านั้น แต่ยังเสริมด้วยระดับพลังปราณของมัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้น

ทันใดนั้น ดอกบัวสีเขียวในกายก็เผยอิทธิฤทธิ์เต็มขั้น ร่างกายของหวังเป่าเล่อฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อบาดแผลปรากฏขึ้นก็ได้รับการรักษาในทันที จึงมั่นใจได้ว่าร่างกายของตนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดเกินจะทานทนอยู่ดี ทว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลามามัวกังวลเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้น หวังเป่าเล่อร้องคำรามขึ้นเสียงดัง ก่อนจะฟาดกระบี่ลงไปบนศีรษะของงูเหลือมที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อน ท่ามกลางความตื่นตะลึงของฝูงชนโดยรอบ

ฟ้าดินพลันเปลี่ยนสี เหล่าเมฆหมุนวนตามกระแสลม คมกระบี่ที่หวังเป่าเล่อฟาดลงไปด้วยพลังทั้งหมดที่มีเข้ากระทบกับแผลเดิมบนศีรษะของงูเหลือม หากมองจากไกลๆ จะเห็นภาพจระเข้สีดำพุ่งเข้ากัดกะโหลกงูเหลือมอย่างรุนแรงราวกับจะฉีกหัวมันให้ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

หากงูเหลือมมีเลือดเนื้อจริงๆ คงจะต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่มันเป็นเพียงหุ่นเชิดที่สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดตามสัญชาตญาณแต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดจริงๆ เมื่อมันสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายเนื่องจากโดนโจมตีเข้าที่ศีรษะอีกครั้ง ความคลุ้มคลั่งที่ปรากฏในดวงตาของเฉินมู่ก็ฉาบวาบบนแววตาของมัน

“ตายเสียเถอะ หวังเป่าเล่อ!” เฉินมู่ร้องคำรามลั่นห้องลับ งูเหลือมที่เขาควบคุมอยู่กรีดร้องเสียงดัง มันตวัดหางที่บาดเจ็บใส่หวังเป่าเล่อ มุ่งหมายจะสังหารอีกฝ่ายแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก็ตาม!

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พริบตาที่งูเหลือมพุ่งเข้ามา ดวงตาของหวังเป่าเล่อก็ฉายแววแข็งกร้าว ก่อนที่เขาจะเอ่ยคาถาเสียงดัง

“ยับยั้ง!”

ทันทีที่กล่าวถ้อยคำออกไป วงแหวนปราณของนครแห่งใหม่ก็พลันทำงานแม้จะได้รับความเสียหายหนักก็ตาม วงแหวนปราณปลดปล่อยพลังมหาศาลที่ราวกับจะสามารถยับยั้งเจ้างูได้ออกมาใส่มัน

ในความเป็นจริง หากวงแหวนปราณไม่ได้รับความเสียหาย หรือไม่ต้องต้านทานการกัดกร่อนจากหมอกสีโลหิตรวมถึงการโจมตีของงูเหลือม แค่ส่วนเล็กๆ ของมันก็เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์วุ่นวายในปัจจุบันได้

ทว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในสามส่วน วงแหวนปราณจึงไม่สามารถแสดงพลังได้เต็มที่ อีกทั้งหวังเป่าเล่อยังไม่อาจฝืนใช้วงแหวนปราณจนเกิดขีดจำกัด เพราะหากวงแหวนปราณได้รับความเสียหายจนทลายลง หมอกสีโลหิตก็จะเข้ามาในตัวนคร และสร้างความเสียหายรุนแรงหนักกว่าเก่า

ดังนั้นชายหนุ่มจึงทำเพียงยืมพลังของมันมาช่วยเพิ่มพลังยับยั้งเท่านั้น งูเหลือมที่กำลังฟาดหางมาชักกระตุกไป ขณะที่ศัตรูหยุดชะงักไป หวังเป่าเล่อก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาฝืนทนความเจ็บปวดในใจ ดวงตาพลันฉายแววมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ชายหนุ่มปล่อยอาวุธเวทในมือและถอยหลังไป ก่อนจะร้องคำรามขึ้นเสียงดัง

“จงระเบิด!”

ทันทีที่หวังเป่าเล่อพูดจบ กระบี่อาวุธเวทที่ฝังอยู่บนหัวของงูเหลือมก็ปลดปล่อยคลื่นความร้อนรุนแรงออกมา อักขระที่อยู่บนกระบี่หมุนวนปั่นป่วน แสดงให้เห็นสัญญาณการระเบิดทำลายตัวเองจากภายใน พริบตาต่อมา เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วพื้นที่ และอาวุธเวทก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยง!

พลังทำลายล้างของมันเหมือนดังพายุหมุนที่ถาโถมเข้าใส่งูเหลือม เศษชิ้นส่วนของอาวุธเวทพุ่งไปทั่วทุกทิศทางด้วยความเร็วสูง เศษชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดพุ่งทะลุหัวงูเหลือมส่งผลให้ร่างของมันเหมือนจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปราณโลหิตจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากร่างราวกับเป็นเลือดจริงๆ

มองจากไกลๆ จะเห็นภาพจระเข้สีดำกำลังประกาศศักดาครั้งสุดท้ายขณะอาวุธเวทระเบิดทำลายตัวเอง ราวกับว่าจระเข้จุติใหม่ แผ่พลังไร้ขอบเขตเข้ากลืนกินงูเหลือม ทันใดนั้นเมฆหมอกก็เริ่มหมุนวนปั่นป่วนทำให้คนภายนอกไม่สามารถเห็นภาพข้างในได้ชัดเจน เห็นเพียงรางๆ ว่าจระเข้สีดำและงูเหลือมกำลังปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง!

เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดินยิ่งกว่าเก่าไปทั่วพื้นที่ขณะจระเข้กำลังกลืนกินงูเหลือม ฟากฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ เมฆหมอกหมุนวนปั่นป่วน พลังมหาศาลแผ่พุ่งไปทั่วทุกทิศทาง

โชคดีที่หวังเป่าเล่อเป็นคนสั่งระเบิดอาวุธเวท ด้วยพลังกายอันแข็งแกร่งทำให้ชายหนุ่มสามารถหลบแรงปะทะของระเบิดได้ทันท่วงทีขณะเปิดใช้งานพลังป้องกันจากวงแหวนปราณไปด้วย ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากแรงปะทะ เลือดสดๆ กระอักออกมาจากปากขณะที่กำลังถอยหนีในสภาพสะบักสะบอม

หวังเป่าเล่อถอยหนีออกมาทันทีที่อาวุธเวทระเบิดส่งเสียงดังก้องปฐพี เสียงปริแตกดังออกมาจากตัวงูเหลือม แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก งูเหลือมก็กรีดร้องเสียงดังลั่นผ่าหมอกควันจากแรงระเบิดของอาวุธเวทที่ปิดบังมันอยู่!

เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วทุกสารทิศ ฟังดูแตกต่างจากเสียงร้องของอสูร เหมือนเป็นเสียงกรีดร้องจากความบ้าคลั่ง ขณะที่มันกำลังกรีดร้อง หมอกสีโลหิตก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของงูเหลือมที่บาดเจ็บรุนแรงหนาแน่นขึ้น หมอกไม่ได้แผ่กระจายออกไปรอบๆ หากแต่รวมตัวกันกลายเป็นภาพมายาของศีรษะงูเหลือมขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้ากลืนกินจระเข้สีดำ!

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทุกคนตื่นตกใจ การโจมตีหลายชุดก่อนหน้านี้อยู่เหนือจินตนาการของทุกคน เพราะทุกคนได้ดึงไพ่ตายมาใช้จนหมดแล้ว หนำซ้ำหวังเป่าเล่อถึงกับต้องสละและระเบิดอาวุธเวทของตนทิ้ง ทว่างูเหลือมกลับยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้

ระดับพลังปราณระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นเทียบกันไม่ติด ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตกใจกันอยู่นั้น ปราณโลหิตปริมาณมหาศาลก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างของงูเหลือมหลังจากกลืนกินจระเข้เข้าไป ปราณโลหิตแผ่พลังน่าครั่นคร้าม ดวงตาของงูเหลือมแดงก่ำไปด้วยไฟแค้น มันพุ่งฝ่าหมอกสีโลหิต มุ่งเป้าไปยัง…หวังเป่าเล่อ!

มันไม่ได้ส่งเสียงแม้แต่นิด แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารรุนแรงที่แผ่ออกมาจากงูเหลือม!

มันรวดเร็วมากเสียจนสามารถตามความเร็วของหวังเป่าเล่อได้ทัน แม้ว่าเขาจะถอยหนีออกมาก่อนก็ตาม ระดับพลังปราณของงูเหลือมทวีคูณขึ้นหลายเท่า มองจากไกลๆ คล้ายว่างูเหลือมได้กลายเป็นดวงอาทิตย์สีเลือดที่แผดเผาทุกสิ่งที่ขวางหน้าอยู่!

หวังเป่าเล่อหัวตื้อไปหมด เริ่มหายใจถี่รัว แต่ก็ไม่มีเวลาให้ได้คิดอะไร เขาพุ่งเป้าความสนใจทั้งหมดไปที่งูเหลือมขณะมันกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ร่างของมันปรากฏใหญ่ขึ้นในสายตาภายในชั่ววินาที!

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นความตายที่กำลังเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็คุมวงแหวนปราณเพื่อใช้ป้องกันตัวโดยสัญชาตญาณ แม้ว่านครใหม่จะยังไม่ได้แปลงรูปโดยสมบูรณ์ เขาก็ยังสั่งการให้เปิดใช้งานปราการนิรันดร์โดยไม่รู้ตัว!

คนอื่นๆ ไม่สามารถล่วงรู้ถึงการป้องกันตัวนี้ ในสายตาของพวกเขา หวังเป่าเล่อที่ตกเป็นเป้านั้นไม่มีโอกาสรอดแม้แต่นิดเดียว ทั้งจินตั้วหมิง กงเต๋า หลินเทียนหาว และผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในที่อยู่รอบๆ ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้เลย…

ราวกับว่าครั้งนี้ หวังเป่าเล่อจะต้องสิ้นชีวีอย่างแน่นอน!

ด้วยเหตุนี้ ชายในชุดคลุมสีดำที่จับตาดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ไกลๆ จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ เขาปรากฏตัวบนดาดฟ้าของตึกแถวๆ จุดที่เกิดเหตุการณ์ คอยเฝ้ามองหวังเป่าเล่อที่กำลังจะโดนสังหาร รอยยิ้มพลันผุดขึ้นบนใบหน้าซึ่งถูกปิดบังไว้ด้วยชุดคลุม

ขณะเดียวกัน นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววหิวกระหาย รอบกายแผ่บรรยากาศเย็นยะเยือก ชายในชุดคลุมสีดำตัดสินใจเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่าหวังเป่าเล่อกำลังจะโดนจัดการ เพราะตั้งใจจะดูดกลืนเปลวไฟสีดำจากร่างของหวังเป่าเล่อหลังจากอีกฝ่ายตายลง!

ชายในชุดคลุมสีดำรู้ดีว่าเปลวไฟสีดำเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงสถานะและคุณสมบัติของบุตรแห่งความมืด คุณสมบัตินั้นไม่สามารถส่งมอบได้ แต่เมื่อบุตรแห่งความมืดตายลง ยังมีโอกาสที่ผู้อื่นจะดูดกลืนเปลวไฟสีดำมาเป็นของตนได้

ถ้าข้าทำได้สำเร็จ… ความตั้งมั่นฉายชัดในแววตาชายในชุดคลุมสีดำ เขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทว่าขณะที่กำลังเดินเข้าไปใกล้นั้นก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น!

เหตุการณ์ตรงหน้าไม่ใช้การป้องกันจากวงแหวนปราณหรือปราการนิรันดร์ ทว่าขณะที่ทั้งสองสิ่งกำลังจะสำแดงฤทธิ์เดชนั้นเอง งูเหลือมที่พุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อพร้อมรังสีสังหารรุนแรงก็หยุดชะงักห่างจากชายหนุ่มไปเล็กน้อย ศีรษะยักษ์พลันหันมองไปทางชายในชุดคลุมสีดำที่คนอื่นมองไม่เห็น!

ทันใดที่หันมอง มันก็แลบลิ้นออกมาเลียรอบปาก ดวงตาไร้ชีวิตชีวาของมันฉายแววดิ้นรนราวกับว่าสัญชาตญาณบางอย่างได้ตื่นขึ้น!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset