หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 971 รายชื่อดาวตก!

เก้าดาวเคราะห์บรรพกาลหวนเป็นหนึ่ง ดาวเคราะห์เต๋าที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ข้างในประกอบด้วยกฎสิบประการ!

ในจำนวนนั้นมีเก้าข้อที่เป็นกฎดั้งเดิมของดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้า ที่ตอนนี้ได้แข็งค้างไปแล้ว อีกทั้งด้วยพลังเสริมจากอันดับดาวเคราะห์เต๋า กฎทั้งเก้านี้ก็ยังไม่สอดคล้องกับก่อนหน้าที่ดาวเคราะห์เต๋าจะปรากฏขึ้น ซึ่งอันดับของมันขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว และต่อให้สอดคล้องกันจริง พลังขัดขวางของมันก็ขึ้นไปถึงระดับสูงแล้วเช่นกัน

กฎเก้าข้อนี้คือ…เต๋าโลหิตแดงฉาน เต๋าดนตรีส้ม เต๋าเปลวไฟเหลือง เต๋าพืชเขียว เต๋าเมฆาฟ้า เต๋าลมคราม เต๋ากลืนกินม่วง!

ส่วนสีดำและสีขาว สีดำเป็นเต๋าแห่งความตาย และสีขาวเป็นเต๋าแห่งรุ่งอรุณ!

นอกจากนี้ดาวเคราะห์เต๋าดวงนี้ยังมีกฎข้อเดียวที่แทนที่กฎทั้งหมด กฎนั้น…ก็คือเต๋าสลัก!!”

สิ่งที่เรียกว่าการแกะสลัก ในความเข้าใจของหวังเป่าเล่อตอนนี้ เขาตระหนักอย่างชัดเจนว่ากฎข้อเดียวนี้สามารถแกะสลักเต๋านับหมื่นทั่วทั้งใต้หล้าและเต๋าอันไร้ขอบเขตของจักรวาลได้ และจะกลายเป็นสิ่งในครอบครองของพวกเขาเอง

เช่นเดียวกับเต๋าให้กำเนิดหนึ่ง หนึ่งให้กำเนิดทุกสิ่ง กฎและกฎเกณฑ์ทั้งหมดขอเพียงมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ก็สามารถถูกเขาแกะสลักได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด หากอิงตามอันดับกฎและกฎเกณฑ์ของอีกฝ่าย ก็ย่อมเป็นไปได้ที่จะล้มเหลว แต่จุดที่น่ากลัวของมันอยู่ที่การไร้ข้อจำกัด!

“หรือก็คือ…แม้จะพบกับกฎที่ไม่สามารถสลักได้สำเร็จในครั้งเดียว ตราบใดที่มีเวลามากพอ ข้าก็สามารถสลักมันซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ หากเป็นเช่นนั้น…อย่างไรก็ทำสำเร็จได้!” เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว หวังเป่าเล่อก็ตื่นเต้นมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เขาได้มาในครั้งนี้อยู่เหนือจินตนาการของเขาไปแล้ว

เต๋าสาบานด้วยปณิธานยิ่งใหญ่ ได้รับการยอมรับให้รวบรวมดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้า และบรรลุตำแหน่งเต๋าได้ด้วยการพิสูจน์ตนเอง แม้ครั้งนี้ในบรรดาผู้ที่มาจากนอกพิภพอย่างพวกเขาจะไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ได้รับดาวเคราะห์เต๋า ยังมีแม่นางกระพรวนที่ต่อกรยากคนนั้นด้วย แต่ดาวเคราะห์เต๋าของนางนั้น ทั้งอันดับและกฎของมันล้วนด้อยกว่าดาวเคราะห์เต๋าของหวังเป่าเล่อมาก

แม้แต่กฎของกระดาษยังถูกดาวเคราะห์เต๋าของหวังเป่าเล่อสลักลงไปแล้ว และที่สำคัญคือ…เพื่อที่จะได้รับดาวเคราะห์เต๋า แม่นางกระพรวนจึงยินดีที่จะเป็นรอง ทำให้ดาวเคราะห์เต๋าของนางกลายเป็นผู้นำ การฝึกตนในภายภาคหน้าดูเหมือนจะราบรื่น แต่หากวิเคราะห์ให้ลึกลงไป นางก็ได้สูญเสียอิสรภาพไปแล้ว

ส่วนหวังเป่าเล่อนั้นไม่เหมือนกัน เพราะการผสานและเสริมพลังของดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าเสร็จสมบูรณ์ภายใต้เต๋าปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเขา ดังนั้นระหว่างทั้งสองฝ่าย หวังเป่าเล่อถือเป็นผู้นำนิรันดร์!

มีสถานะต่างจากแม่นางกระพรวน!

ความคิดเหล่านี้ปรากฏขึ้นในหัวหวังเป่าเล่อ ขณะเดียวกันดวงตาทั้งสองของเขาก็ปิดลงช้าๆ แม้ว่าระดับการฝึกตนของเขาจะไปถึงระดับดาวพระเคราะห์แล้ว แต่หลังจากนี้ยังมีอีกหนึ่งขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือสั่งสมพลังชีวิต!

สิ่งที่เรียกว่าสั่งสมพลังชีวิตก็คือกระบวนการเก็บวิญญาณ พลังและสสารในร่างกายทุกอย่างให้สั่งสมอยู่ในร่างกายอย่างสมบูรณ์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์แนบแน่นกับดวงดาวในร่าง และให้มันปรับตัวเข้ากับร่างกายของตน

ในกระบวนการนี้ต่อให้หวังเป่าเล่อจะได้พลังเสริมจากดาวเคราะห์เต๋าก็ไม่มีข้อยกเว้น ขณะที่หลับตาลง ร่างที่อยู่ใจกลางของเขาก็พร่าเลือน และดาวเคราะห์เต๋าที่อยู่นอกร่างกายก็แทรกซึมเข้าไปภายใน ในท้ายที่สุดท่ามกลางสายตาของทุกคนบนพื้น ร่างของหวังเป่าเล่อก็หายไปและแทนที่ด้วยดวงดาวพราวระยับหาใดเปรียบดวงหนึ่ง!

ขณะเดียวกัน หลังจากที่ผู้ฝึกตนทุกคนบนพื้นเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เงียบไป ในใจต่างคิดไปต่างๆ นานา บ้างก็อิจฉา บ้างก็สลดใจ บ้างก็ไม่พอใจ บ้างก็มีความหวัง

ท่ามกลางความคิดเหล่านั้น ดาวเคราะห์เต๋าที่เลือกแม่นางกระพรวนดวงนั้น หลังจากสั่นไหวอยู่ในร่างของนางไม่กี่ครั้งก็ระเบิดแสงดาวออกมา แรกเริ่มแสงดาวนั้นไม่ได้มีความสง่างาม แต่ก็เหมือนกับดาวเคราะห์บรรพกาลทั้งเก้าในตอนแรก ที่ประกอบไปด้วยความไม่พอใจแรงกล้า แสงดาวสาดส่องลงมาปกคลุมแม่นางกระพรวนที่หมดสติไปและม้วนร่างของนางขึ้นไปยังจักรวาล

ตรงนั้นคือจุดตรงข้ามกับจุดที่หวังเป่าเล่อกำลังสั่งสมพลังชีวิตอยู่ และเริ่มการทะลุระดับการฝึกตนของแม่นางกระพรวนภายใต้การนำของดาวดวงนี้ แต่ทันทีที่ความตั้งใจที่จะทะลุระดับหายไป จู่ๆ จักรพรรดิดาวตกที่ยืนอยู่นอกห้องโถงก็เอ่ยขึ้น

“โปรดจำไว้ว่า… ข้อตกลงระหว่างเจ้ากับจักรวรรดิดาวตกของข้า พวกข้ารับรองเจ้าว่าจะเลื่อนระดับเป็นดาวเคราะห์เต๋า รับรองกฎเพียงข้อเดียวของเจ้า เจ้าก็ต้องทำตามสัญญาด้วย กฎของเจ้า พวกข้าสามารถใช้ได้ตลอดไป จะไม่ถูกรบกวนและไม่ล่วงล้ำซึ่งกันและกัน!”ไอรีนโนเวล

แสงดาวบนร่างแม่นางกระพรวนที่ถูกมันม้วนขึ้นไปบนท้องฟ้าเปล่งแสงจ้าราวกับยอมรับคำพูดนั้น จากนั้นก็มีพลังปราณแห่งการเลื่อนระดับแผ่ซ่านออกมาจากตัวนาง

เห็นได้ชัดว่าด้วยการเลื่อนระดับดาวเคราะห์เต๋า วิธีการจึงแตกต่างกัน ร่างของแม่นางกระพรวนในขณะนี้เริ่มกลายเป็นกระดาษอยู่ในแสงดาวสว่างจ้า ส่วนกระบวนการเฉพาะนั้น คนนอกก็ค่อยๆ มองเห็นไม่ชัด ทุกส่วนของแม่นางคนนี้ล้วนถูกแสงดาวปกคลุมอย่างสมบูรณ์

ขณะเดียวกันผู้ฝึกตนผู้สง่างามและชายหนุ่มชุดดำต่างก็แหงนหน้าขึ้นมองจักรวาลอย่างเงียบๆ พวกเขาจ้องมองดาวเคราะห์เต๋าทั้งสองอยู่นาน…ผู้ฝึกตนผู้สง่างามถอนหายใจเบาๆ ผู้ที่ฐานการฝึกฝนฟื้นฟูแล้วอย่างเขาลุกขึ้นยืนและเลือกดาวเคราะห์พิเศษระดับสูงจากจักรพิภพมาดวงหนึ่งและเริ่มเลื่อนระดับ

ชายหนุ่มชุดดำก็เช่นกัน เขาเลือกดาวเคราะห์ระดับสูงดวงหนึ่งมาเป็นดาวพระเคราะห์ของตน ถึงแม้ในใจจะเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่เขาเข้าใจดีว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว

เวลานี้ทั้งสิบคนที่มีสิทธิ์ตีกลองสู่สวรรค์ นอกจากแม่นางน้อย คนอื่นล้วนเลือกดาวของตนแล้ว แต่หลังจากใคร่ครวญดูแล้ว แม่นางน้อยก็ยังคงละทิ้งโอกาสในครั้งนี้ไป

ดังนั้นยามที่ทุกคนในจักรวรรดิดาวตกเงยหน้ามอง ท่ามกลางหมู่ดาวจึงมีดาวเก้าดวงที่กำลังสั่งสมพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว และยังมีเจตจำนงของสุสานดวงดาราลอยมา ราวกับสายลมอันอ่อนโยนพัดผ่านดวงดาวทั้งเก้าของพวกเขา ช่วยเร่งการสั่งสมพลังชีวิต ขณะเดียวกันก็มอบพรจากสุสานดวงดาราให้ด้วย

นี่ไม่ใช่เพราะความเมตตาที่มีต่อหวังเป่าเล่อ แต่เพราะทุกครั้งที่เปิดประตูสุสานดวงดารา ผู้ที่ได้รับดาวดวงทุกคนล้วนได้รับพรทั้งสิ้น

ภายใต้พรนี้ การหลอมรวมของพวกเขาจะสมบูรณ์และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ระหว่างการสั่งสมพลังชีวิตของทั้งเก้าคน พิธีบูชาฟ้าของจักรวรรดิดาวตกก็มาถึงช่วงสุดท้าย ในขณะที่พิธีอันยิ่งใหญ่กำลังจะสิ้นสุดลง จักรพรรดิดาวตกที่ยืนอยู่หน้าห้องโถงก็แสดงสีหน้าเศร้าสร้อย

เห็นได้ชัดว่าการบูชาฟ้าในครั้งนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่และพลิกผันที่สุดในรอบหลายปีของจักรวรรดิดาวตก แม้แต่เขาก็จินตนาการได้ว่าในอนาคตแทบจะไม่มีโอกาสเกิดเรื่องเช่นนี้อีกแล้ว

ด้านหนึ่งวิกฤตการณ์ในจักรวรรดิดาวตกได้คลี่คลายลงแล้ว และไม่จำเป็นต้องให้บุคคลภายนอกเข้ามาตีกลองสู่สวรรค์เพื่อระงับพลังปราณสีดำอีก แต่เพราะข้อตกลงกับจักกรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น ถึงแม้จะยังต้องเปิดประตูอยู่ แต่ก็คงไม่บ่อยเท่าเดิมอีกแล้ว

อีกด้านหนึ่ง…เกรงว่าคงจะไม่มีใครที่เหมือนกับเซี่ยต้าลู่ผู้นั้นอีกแล้ว ผู้ที่สาบานปณิธานแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่จนสามารถทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์และคนจากต่างพิภพยอมรับได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถึงแม้ในใจจักรพรรดิดาวตกจะเสียใจ แต่หลังจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำทุกครั้งหลังการบ่มเพาะโชควาสนาของสุสานดวงดาราสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นกับสุสานดวงดารา และครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

นั่นก็คือ…การประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมดให้ทั่วทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น!

หากหวังเป่าเล่อมีสติอยู่ในขณะนี้เขาต้องเลือกที่จะขัดขวางหรือซ่อนตัวเป็นแน่ แต่เพราะอยู่ในระหว่างการสั่งสมพลังชีวิต เขาจึงไม่รับรู้ หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป รายชื่อที่แท้จริงของผู้ที่ได้รับโชควาสนาจากจักรวรรดิดาวตก รวมถึงเจตจำนงแห่งสุสานดวงดาราก็ถูกประกาศออกมา ฉับพลันก็แพร่ไปไกลเหมือนระลอกคลื่นไม่รู้จบ ทำให้กองกำลังทั้งหมดในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นพุ่งความสนใจมาที่นี่ทันที!

ในรายชื่อพวกนี้ ชื่อของหวังเป่าเล่ออยู่อันดับหนึ่งอย่างน่าประทับใจ!

ไม่ใช่ชื่อเซี่ยต้าลู่ แต่เป็นชื่อจริง เพราะภายใต้กฎของดาวตก ทุกสิ่งไม่สามารถปิดบังได้ เมื่อทุกชีวิตเลื่อนระดับขึ้นเป็นดาวพระเคราะห์ ชื่อจริงก็เหมือนกับชื่อของดวงวิญญาณที่แท้จริงของจักรวาล และจะถูกตีตราไว้ในกฎแห่งจักรวาล

ดังนั้นทันทีที่ชื่อของหวังเป่าเล่อปรากฏขึ้น ก็ดึงดูดสายตาเพ่งเล็งจากผู้แข็งแกร่งในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นทันที อีกทั้งด้านหลังชื่อของเขายังเขียนคำว่าดาวเคราะห์เต๋าไว้ด้วย พายุนี้ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปทั่วทุกสารทิศ

นอกจากนี้ด้านหลังชื่อของแม่นางกระพรวนเองก็มีคำว่าดาวเคราะห์เต๋า พายุจึงรุนแรงจนน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกันด้านหลังดวงดาวของทั้งเก้าคนต่างก็ระบุที่มาที่ไปของทุกคนไว้ อย่างเช่นด้านหลังคำว่าดาวเคราะห์เต๋าของหวังเป่าเล่อ ก็มีเครื่องหมายอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์อยู่!

ซึ่งหมายความว่าเขาใช้สิทธิ์ของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์เพื่อเข้ามายังสถานที่แห่งนี้!

ดังนั้นในชั่วพริบตา ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้เยี่ยมยุทธ์และกองกำลังทุกคน อารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ก็ถูกเพ่งเล็งในทันที

…………………………………….

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset