หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 73.2 ครอบครัวพร้อมหน้า (2)

บทที่ 73 ครอบครัวพร้อมหน้า (2)

Ink Stone_Romance

เยี่ยนไหวจิ่งเข้าไปช่วยจวินฉางอันซึ่งได้รับบาดเจ็บ แล้วใช้วิชาตัวเบาข้ามไปยังเรือของตน แต่ยังไม่ทันได้ยืนเต็มเท้า ก้อนหินของเยี่ยนจิ่วเฉาก็ไล่ตามหลังพวกเขามา
หากเยี่ยนไหวจิ่งมิได้หลบได้อย่างรวดเร็ว ก็คงถูกหินก้อนนั้นอัดจนเละเป็นเนื้อบดไปแล้ว เขามองไปยังโพรงใหญ่บนเรือ ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว “เยี่ยนจิ่วเฉา! นี่มันเรือของทางการ!”
เยี่ยนจิ่วเฉา “อ้าว”
ขณะที่เยี่ยนไหวจิ่งกำลังคิดว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็ริษยาขึ้นมา เยี่ยนจิ่วเฉาก็วางอวี๋หวั่นลงบนเก้าอี้ แล้วโบกมือให้อิ่งสือซัน อิ่งสือซันก็ดันเครื่องยิงหินเข้ามา
เยี่ยนจิ่วเฉานำหินก้อนใหญ่ที่สุดใส่ลงบนเครื่องด้วยตนเอง เล็งไปยัง…ศีรษะของเยี่ยนไหวจิ่ง จากนั้นก็ทุบเครื่องนั้นอย่างแรง
“เยี่ยนจิ่วเฉา!!!” เยี่ยนไหวจิ่งกระโดดหลบอย่างทุลักทุเล พื้นดาดฟ้าเรือด้านหลังเขาหักออกเป็นสองซีก
เรือของทางการซึ่งประดับประดาสวยสดและพรั่งพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ไม่อาจทนรับการโจมตีของกองทัพเรือเยี่ยนจิ่วเฉาได้ ภายในเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว ทั้งเรือของทางการและเรือหรูของเหยียนหรูอวี้ก็ถูกกองทัพเรือโจมตีเสียจนยับเยิน
บัดนี้เยี่ยนไหวจิ่งกลายเป็นลูกหมาตกน้ำต่อหน้าต่อตาผู้คน
“คุณชาย เหยียนหรูอวี้หนีไปแล้ว” อิ่งสือซันมองลงไปบนผิวน้ำ “จะให้ข้าน้อยไปจับนางหรือไม่ขอรับ?”
เยี่ยนจิ่วเฉาพูดค่อนแคะ “จับนางแล้วอย่างไร? ให้นางหนีไป”
หากไม่ให้นางหนี นางก็จะไม่รู้ซึ้งถึงความสิ้นหวัง
อิ่งสือซันเหลือบมองเหยียนหรูอวี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาคิดในในว่าสตรีผู้นี้ช่างน่าเวทนายิ่งนัก เป็นหมากในกระดานอยู่ดีๆ กลับออกไปรนหาที่ตาย ครั้งนี้เป็นอย่างไรเล่า? ลักพาตัวคุณชายน้อย จับแม่นางอวี๋ไป ทั้งยังหลบหนีไปต่อหน้าต่อตาคุณชาย ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องตายอย่างไร
อวี๋หวั่นเผชิญกับเรื่องชวนอกสั่นขวัญแขวนมาตลอดทั้งคืน หลังจากที่เยี่ยนจิ่วเฉาปรากฏตัว เธอก็รู้สึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก เมื่อสมองปลอดโปร่ง ก็เริ่มง่วงนอนขึ้นมา เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้เพียงครู่เดียวก็ผล็อยหลับไป
ไม่รู้ว่าเธอเริ่มเชื่อใจผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มเธอเข้าไปในห้องพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสาม แล้ววางพวกเขาลงบนเตียงนุ่ม
เด็กน้อยทั้งสามคนกลิ้งเข้าไปซุกในอ้อมกอดของอวี๋หวั่นทันทีราวกับรู้สึกตัวอยู่
แม่ลูกกำลังหลับสบาย
เยี่ยนจิ่วเฉาใช้ปลายนิ้วจิ้มไปบนท้องของลูกชาย เด็กทั้งสามถูกท่านพ่อปลุกให้ตื่น พวกเขาลืมตาขึ้นมองท่านพ่อด้วยสีหน้างุนงง
เยี่ยนจิ่วเฉาบอกว่า “ข้าอยากนอนด้วย”
เด็กทั้งสามคนเข้ามากอดอวี๋หวั่นทันที แล้วหันมาจ้องท่านพ่อเขม็ง
เยี่ยนจิ่วเฉาพูดว่า “ข้าช่วยนางกลับมา ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าก็คงไม่ได้พบนางอีก”
เด็กทั้งสามครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ขยับก้น แล้วแบ่งที่ว่างให้เยี่ยนจิ่วเฉาครึ่งเตียง
แน่นอนว่าเยี่ยนจิ่วเฉามิได้อยากนอนจริงๆ เขาเพียงล้มตัวลงนอนข้างๆ มองไปยังสี่คนแม่ลูกเงียบๆ เด็กน้อยทั้งสามนอนหงายกรนเบาๆ อวี๋หวั่นนอนตะแคงข้าง หันหน้าเข้าหาเด็กๆ เธอกำลังหลับสบาย ลมหายใจสม่ำเสมอ
ต่อให้ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน แต่ในเมื่อพึ่งพากันถึงเพียงนี้ จะเรียกว่าเลือดข้นกว่าน้ำได้หรือไม่?
เยี่ยนจิ่วเฉาใช้มือดันตัวเองขึ้น เอนกายเข้าไปใกล้ใบหูของอวี๋หวั่น กระซิบว่า “ลูกของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าแล้ว”
ในความฝัน อวี๋หวั่นรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน
……
หลังจากที่เรือถูกโจมตี เหยียนหรูอวี้ก็ตกลงในน้ำ โชคดีที่นางว่ายน้ำเป็น นางดำลงใปใต้น้ำเพื่อช่วยแม่หลินที่ตกลงไปในน้ำเช่นเดียวกัน ในขณะที่มือของนางกำลังจะยื่นไปคว้าแม่หลินนั้นเอง ก็มีหินก้อนหนึ่งพุ่งตรงมากระแทก กระโหลกศีรษะแตกต่อหน้าต่อตา เหยียนหรูอวี้กลัวจนเกือบลมจับ
นางว่ายน้ำไปสุดกำลัง ไม่รู้ว่าว่ายมานานเท่าไร ในที่สุดก็ถึงฝั่ง
นางตรงเข้าเมืองหลวง เดิมทีคิดว่าจะไปหาสวี่ส้าว แต่กลับพบว่าเรือนของสกุลสวี่ถูกทหารจากทางการล้อมเอาไว้หมดแล้ว
นางทำได้เพียงแอบกลับไปจวนสกุลเหยียน
…………………..
“นายท่าน นายท่านแย่แล้วขอรับ!” พ่อบ้านของจวนสกุลเหยียนคนหนึ่งวิ่งหัวหกก้นขวิดเข้ามาในห้องของเหยียนฉงหมิง
เหยียนฉงหมิงกำลังนอนกลางวัน แต่กลับถูกพ่อบ้านทำเสียงดังโหวกเหวกจนตื่น เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “มีอะไร? เอะอะโวยวายอะไร?”
พ่อบ้านใบหน้าซีดเผือด “คะ…คุณชายเยี่ยนกลับเมืองหลวงมาแล้วขอรับ”
เรื่องที่ก่อนหน้านี้คุณชายเยี่ยนกลับเมืองเยี่ยนไปไหว้หลุมศพเยี่ยนอ๋องนั้นแพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวง เขากลับมาก็กลับมาสิ มีอันใดน่าแปลกใจ?
เหยียนฉงหมิงกล่าวโทษพ่อบ้านที่ร้องแร่แห่กระเฌอ พ่อบ้านกลับพูดว่า “ไม่ใช่ขอรับ นายท่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! คุณชายเยี่ยนบอกกับคนอื่นๆ ว่า…ว่า…”
“ว่าอย่างไรก็พูดมา อย่ามัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ!” เหยียนฉงหมิงเริ่มหมดความอดทน
พ่อบ้านทำใจดีสู้เสือ “คุณชายเยี่ยนบอกว่า คุณหนูไม่ใช่แม่ของลูกเขาขอรับ!”
เหยียนฉงหมิงตกใจกลัวจนตกลงมาจากเตียง!
พ่อบ้านรีบเข้าไปพยุงเขา “นายท่าน ทีนี้จะทำอย่างไรดีขอรับ?”
เหยียนฉงหมิงยกมือขึ้นปาดเหงื่อ พูดด้วยความโกรธว่า “นางหาเรื่องให้ข้าแล้ว…นางหาเรื่องให้ข้าแล้ว!”
‘ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง จะไม่ปล่อยให้สกุลเหยียนตกที่นั่งลำบาก ท่านพ่อจะได้เป็นท่านโหวของท่านต่อไปได้ พุ่งทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง!’
นางบอกเองมิใช่หรือว่าจะไม่ทำให้สกุลเหยียนต้องตกที่นั่งลำบาก? นางสัญญาไว้ไม่ใช่หรือว่าจะทำให้เขารุ่งโรจน์กว่าแต่ก่อน?
ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน คุณชายเยี่ยนก็ประกาศก้องให้ใต้หล้ารู้กันทั่วเสียแล้ว!
“ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าไม่ควรเชื่อเด็กนั่น! จับนางไปไว้ที่จวนคุณชายเยี่ยนก็จบแล้ว!” เหยียนฉงหมิงมีโทสะ “เหยียนหรูอวี้เล่า?”
พ่อบ้านตอบว่า “คุณหนูออกไปจากจวนตั้งแต่เมื่อวานขอรับ”
เหยียนฉงหมิงหน้าดำคร่ำเครียด “คงไม่ได้หนีไปหรอกกระมัง? เหมือนกับเมื่อสี่ปีที่แล้ว?!”
พ่อบ้านไม่กล้าพูดต่อ
เหยียนฉงหมิงโมโหดังไฟสุมอก “นำคำสั่งข้าไป ถ้านางกลับมา ให้จับนางมาหาข้า!”
ฮูหยินเหยียนซึ่งถือชามไก่ตุ๋นโสมมาถึงหน้าประตูได้ยินคำพูดนี้เข้าพอดี นางตื่นตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง
ฮูหยินเหยียนเดินกลับห้องด้วยใบหน้าขาวซีด ไม่ว่าเหยียนหรูอวี้จะทำผิดอันใด แต่นางก็เป็นบุตรสาวที่ฮูหยินเหยียนอุ้มท้องมาเกือบสิบเดือน สกุลเหยียนอาจจะทอดทิ้งนาง แต่นางจะทอดทิ้งเหยียนหรูอวี้ไม่ได้
“ชุ่ยเอ๋อร์” นางเปิดประตู ส่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิท ทันใดนั้นเองก็มีเงาปราดเข้ามา ปิดปากของนางไว้ นางร้องเสียงแหลม!
เหยียนหรูอวี้เอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ข้าเอง!”
ฮูหยินเหนียนนัยน์ตาเบิกกว้าง “อึกๆ?”
อวี้เอ๋อร์?
เหยียนหรูอวี้เห็นความวิตกกังวลในสายตาของมารดา นางปล่อยมือ เดินไปปิดประตูพร้อมกับลงกลอน
ฮูหยินเหยียนเหลือบไปเห็นชุ่ยเอ๋อร์ซึ่งนอนอยู่ที่พื้น “นาง…นางเป็นอย่างไรบ้าง?”
เหยียนหรูอวี้ตอบว่า “ข้าแค่ทำให้นางสลบไป ฟื้นมาก็คงไม่เป็นไรแล้ว ท่านแม่อย่าได้กังวลใจ”
แต่ไหนแต่ไรมาบุตรสาวของนางไม่กล้าฆ่าแม้แต่มด บัดนี้พูดว่าตนตีสาวใช้จนสลบโดยที่สีหน้าปราศจากความหวาดกลัวแต่อย่างใด ในใจของฮูหยินเหยียนพลันรู้สึกถึงความไม่คุ้นเคย
แต่ไม่ว่าอย่างไรเหยียนหรูอวี้ก็เป็นลูกในไส้ของนาง ฮูหยินเหยียนจับมือของเหยียนหรูอวี้ “อวี้เอ๋อร์ สรุปแล้วระหว่างเจ้ากับคุณชายเยี่ยนเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เหตุใดคุณชายเยี่ยนจึงบอกว่าเจ้าไม่ใช่แม่แท้ๆ ของคุณชายน้อย? เขาเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”
เหยียนหรูอวี้ส่ายหน้า “ท่านแม่ เรื่องเหล่านี้ไว้ลูกจะกลับมาอธิบายให้ฟัง…”
“เป็นเรื่องจริงหรือ?” ฮูหยินเหยียนหายใจเข้าด้วยความตื่นตะลึง!
เหยียนหรูอวี้สีหน้าเศร้าสร้อย “ลูกล้วนทำเพื่อสกุลเหยียน!”
“…” ฮูหยินเหยียนไม่มีสิ่งใดจะโต้แย้ง อย่างไรเสียหากไม่มีคำโป้ปดนี้ ไม่ว่าอย่างไรสกุลเหยียนก็ไม่มีทางกลับมามีสถานะดังเช่นทุกวันนี้ได้ แต่โทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง บัดนี้ได้ถูกเปิดเผยออกไปแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรกันดี?
“เจ้าไม่ควรกลับมาที่นี่ เจ้ารีบหนีไปซะ พ่อเจ้าจะจับเจ้า!” ฮูหยินเหยียนกล่าวพลางร่ำไห้
เหยียนหรูอวี้รู้ดีว่าในตอนนี้จวนสกุลเหยียนเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย นางไม่ควรกลับมา แต่ก็มีของที่นางทิ้งเอาไว้ไม่ได้ จำต้องไปนำกลับมา “ท่านแม่ ข้ากลับเข้าเรือนไม่ได้ ท่านช่วยข้าหยิบของชิ้นหนึ่งได้หรือไม่?”
……
ราตรีเงียบสงัด
ฮูหยินเหยียนพาเหยียนหรูอวี้ซึ่งแต่งกายเป็นสตรีชาวนาไปส่งยังประตูหลังของจวนสกุลเหยียน พูดอย่างระทมทุกข์ว่า “เอาละ นี่เป็นของที่เจ้าต้องการ แม่หยิบมาให้เจ้าแล้ว นี่เป็นเงินทองที่แม่เตรียมให้เจ้า เพียงพอให้เจ้าใช้ไปครึ่งค่อนชีวิต…เจ้ารีบไปเถิด ออกจากเมืองหลวงไป ยิ่งไปไกลได้ยิ่งดี อย่าได้กลับมาที่นี่อีก!”
เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น อย่าว่าแต่เยี่ยนจิ่วเฉาจะทำอะไรบุตรสาวนางเลย เพียงแค่เหยียนฉงหมิงก็ไม่มีทางปล่อยเหยียนหรูอวี้เอาไว้
“ท่านแม่” เหยียนหรูอวี้ขอบตาแดงก่ำ
ฮูหยินเหยียนน้ำตาไหลพราก “รีบไปเร็ว! หากยังไม่ไปอีกก็จะไม่ทันแล้ว!”
……………………………

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน… ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?! สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป… วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย? ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้… “ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง “เรียกแม่สิ” เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

Options

not work with dark mode
Reset