หัวหน้าหว่างเหลียงตะคอกเสียงดัง
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกแกสองคนจะมาทะเลาะกัน มีเวลาทะเลาะกันสู้เอาเวลาไปคิดหาวิธีจัดการถังเฉาให้ฉันดีกว่า”
ทั้งคู่ไม่พูดอะไรอีก
หลี่เล่อเพียงแต่มองดูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หงเหลียนโกรธจนแทบบ้า คิดอยากจะฆ่าหลี่เล่อทิ้งด้วยซ้ำ ทว่าฝีมือระดับหลี่เล่ออย่างหงเหลียนจะจัดการได้หรอ?
“จริงสิคะ เจ้านายมีสายสืบคนหนึ่งชื่อตาเฒ่าน้อยอยู่ที่ราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ใช่หรอคะ? ทำไมไม่สั่งให้เขาไปหานายพลที่ชื่อเฉินเหมิ่งแล้วฆ่าถังเฉาซะเลยล่ะคะ”
“แม้ว่าถังเฉาจะทรงพลังมาก แต่เฉินเหมิ่งก็เป็นนายพลของราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นสถานที่แบบไหน แบบที่ทุกคนเป็นยอดฝีมือกันหมด ฝีมือของเฉินเหมิ่งต้องอยู่เหนือถังเฉาอยู่แล้วค่ะ!”
หงเหลียนอดพูดขึ้นมาไม่ได้
หว่างเหลียงยิ้มอย่างเย็นชา
“เธอคิดว่าเราจะซื้อใครมาเป็นพวกก็ได้หรอ? ในราชวงศ์ต้าเซี่ย เฉินเหมิ่งเป็นกรณีพิเศษ เขาเป็นดอกบัวที่โผล่พ้นขึ้นมาโดยไม่เปื้อนโคลน พวกเราเคยให้เงินเขาเยอะมาก แต่เขาก็ไม่เอา ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในศัตรูที่น่าปวดหัวของเรา”
พูดมาถึงตรงนี้ หลี่เล่อก็หัวเราะด้วยท่าทีเรียบๆและพูด
“ช่างมันเถอะ ฉันว่าพวกคุณเลิกคิดได้เลย นายพลเฉินคนนี้สนิทกับถังเฉามาก ถ้าคุณต้องการขอยืมมือของเขาเพื่อฆ่าถังเฉา สู้ให้ถังเหยียนไปฆ่าถังเฉายังจะเป็นความจริงได้ง่ายกว่า”
แม้ว่าหลี่เล่อจะพูดเกินจริงไปหน่อย แต่เฉินเหมิ่งจะไม่ลงมือกับถังเฉาเป็นความจริงที่ไม่อาจถกเถียงได้
ถึงแม้เฉินเหมิ่งจะมีแผนของตัวเอง แต่ในเวลาอันสั้นนี้เฉินเหมิ่งไม่มีทางลงมือกับถังเฉาหรอก
หลังจากได้ยินประโยคนี้ หว่างเหลียงก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
“ดูเหมือนว่าถังเฉาคนนี้จะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีไม่ว่าจะไปที่ไหนนะ! ไม่เหมือนพวกแกสองคน จ่ายเงินไปตั้งมากมายเพื่อให้พวกแกได้จัดการทำงาน สรุปก็กลับมามือเปล่า รู้อย่างนี้ปล่อยให้พวกแกเร่ร่อนอยู่ข้างถนนต่อไปก็ดี”
หว่างเหลียงพูดจาไร้เยื่อใยขนาดนี้ ทว่าหลี่เล่อและหงเหลียนไม่กล้าเถียง
เพราะพวกเขารู้ดีว่ามีอะไรติดตั้งอยู่ในหัวของตัวเอง ขอเพียงหว่างเหลียงแตะเล็บเบาๆ กดปุ่มลงไป พวกเขาก็จะถูกฝังอยู่ที่นี่
“ขออภัยค่ะเจ้านาย แต่คราวก่อนไวโอเล็ตอยู่ที่ราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ใช่หรอคะ? ทำไมนานขนาดนี้แล้วยังไม่มีข่าวใดๆ จนกระทั่งพาหลี่เล่อกลับมาถึงได้ปรากฏตัว?”
แน่นอนว่าหลี่เล่อเข้าข้างไวโอเล็ตโดยไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว พอได้ยินหงเหลียนพูดอย่างนั้น เขาก็ยอกย้อนกลับไปทันที
“เธอคิดว่าการฆ่าถังเฉาเป็นเรื่องที่ง่ายมากหรอ? เธอดูสิ่งที่เธอทำก่อนหน้านี้ซิ ยุ่งเหยิงไปหมด ไวโอเล็ตยังรู้ว่าต้องหาโอกาส ไม่มีโอกาสก็จะไม่ลงมือ”
“ถ้าต้องลงมือเธอคิดว่าไวโอเล็ตเป็นคู่มือของถังเฉาหรอ? ถึงตอนนั้นไวโอเล็ตถูกฆ่า เราก็จะสูญเสียบุคลากรหลักไป”
หลังจากหัวหน้าหว่างเหลียงได้ฟังคำอธิบายเหล่านี้แล้ว ก็โบกมืออย่างเหนื่อยใจและพูดกับหงเหลียน
“ที่หลี่เล่อพูดนั้นมีเหตุผล เรื่องแบบนี้จะรีบไม่ได้ ให้เวลาที่เหมาะสมไปดีกว่า ถ้าไอ้เด็กเวรถังเฉาลากไวโอเล็ตไปเป็นพวกได้เราสิจะขาดทุนหนัก”
หลังจากหงเหลียนได้ยินคำพูดของหว่างเหลียง และเห็นท่าทีของหลี่เล่อ โทสะในใจก็บันดาลขึ้นมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
อีกด้าน เย่หรูอี้ได้มาถึงราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว
และเป็นไปตามคาด เย่หรูอี้เพิ่งมาถึงก็โดนสกัดที่ด่านตรวจคนเข้า
“ไม่มีใบอนุญาตเดินทางของพวกเราราชวงศ์ต้าเซี่ย ใครก็ห้ามเข้า”
เย่หรูอี้อยากเข้าไป แต่ไม่บอกตัวตนที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นเป็นไปได้มากว่าจะถูกทหารยามเฝ้าประตูผู้นี้จับไปฆ่าโดยตรงเลยก็ได้
พูดถึงการจับคนทรยศของราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นเรื่องที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าเจอคนทรยศก็คงกระตือรือร้นที่จะจับมาก อีกอย่างเย่หรูอี้ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ด้วย
โชคดีที่ถังเฉามาถึงอย่างรวดเร็ว เขาพาหลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้มาถึงหน้าประตูทางเข้าของราชวงศ์ต้าเซี่ย
ตอนนี้ทุกคนทราบฐานะของถังเฉากันหมด และทหารยามที่เฝ้าประตูก็ไม่กล้าขวาง ถึงยังไงนี่ก็เป็นผู้ชนะของการแข่งขันสมาคมบูโด ใครจะกล้าปะทะกับคนคนนี้ แกว่งเท้าหาเสี้ยนชัดๆ
“สหายทหารยามผู้นี้ คนคนนี้เป็นเพื่อนของฉัน ฉันจะพาเธอเข้าไป”
หลังจากทหารยามหน้าประตูได้ยินที่ถังเฉาพูดแล้วก็ตอบด้วยท่าทีเอาใจ
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ในเมื่อพี่ถังเฉาพูดแบบนี้แล้วผมจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่สบายใจอีก ปล่อยให้พวกเธอเข้าไป”
จากนั้น ประตูใหญ่ของราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ถูกเปิดออก คนทั้งหมดได้เดินตามถังเฉาเข้าไป
เย่หรูอี้อีกด้านไม่เข้าใจเลย
เธอพอได้ยินข่าวคราวของถังเฉาจากหงเหลียนมาบ้าง รู้ว่าสถานะของถังเฉาไม่ต่างจากตัวเองเท่าไหร่ แต่คิดไม่ถึงว่าถังเฉามาอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยแห่งนี้แล้วได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ต่างจากตัวเองอย่างสิ้นเชิง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณลูกหลานของผู้มีความผิดสำหรับพวกเขาไม่ใช่หรอ? ทำไมคุณถึงเดินเข้ามาได้อย่างเปิดเผยล่ะ แล้วพวกเขายังเคารพคุณขนาดนี้ด้วย”
ถังเฉาได้ยินแล้วอดขำไม่ได้ เขามองเย่หรูอี้อีกด้านพลางกล่าว
“แน่นอนว่าขอเพียงเธอมีความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีคนอยากให้อยู่ทั้งนั้น แต่ถ้าเธอเอาแต่สร้างเรื่องไปทั่ว อยู่ที่ไหนก็มีแต่ต้องถูกฆ่า”
ถังเฉาจงใจพูดประโยคนี้ ให้เย่หรูอี้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาบ้าง
เห็นหลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้อีกด้านที่มีความสุขกัน หัวใจของเย่หรูอี้เหมือนถูกมีดกรีด
เธอรู้ว่าจริงๆแล้วคนที่อยู่ตรงนั้นควรจะเป็นตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกหลินชิงเสว่แทนที่
“ไม่ได้ ฉันจะต้องแย่งที่ของตัวเองคืนมาให้ได้”
เห็นถังเฉาเดินเข้าไปหยอกเล่นกับภรรยาและลูกสาวของเขาแล้ว เย่หรูอี้ยิ่งเจ็บแค้นใจ
ไม่นานนัก คนทั้งหมดก็มาถึงตระกูลถัง
ถังเยว่หวาและถังเหยียนไม่เจอถังเฉามาหนึ่งวันเต็มจึงไปสอบถามกับคนตระกูลถัง และตั้งแต่ที่พวกเขาบอกทั้งสองว่าถังเฉาออกจากราชวงศ์ต้าเซี่ยไปแล้ว ทั้งสองก็ยังไม่ได้นอนเลยหนึ่งวันเต็ม กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับถังเฉา
พอตอนนี้เห็นถังเฉาพาคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ถังเหยียนและถังเยว่หวาก็รีบวิ่งเข้ามา
“ลูก ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ทำไมอยู่ๆถึงออกจากราชวงศ์ต้าเซี่ยไปล่ะ ลูกไม่รู้หรอว่าข้างนอกนั่นอันตรายขนาดไหน? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?”
อยู่ต่อหน้าคนนอก ถังเยว่หวามีภาพลักษณ์เป็นพระอริยามารดรใหญ่ ไม่แตกตื่นแม้จะเจอกับเรื่องอันตราย แต่พออยู่ต่อหน้าถังเฉากลับกลายเป็นแม่ที่บ่นพิรี้พิไร้ไปอย่างสิ้นเชิง
“แม่ สบายใจเถอะครับ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว ผมออกไปทำธุระ”
“แนะนำให้รู้จักนะครับ นี่แหละลูกสะใภ้ของแม่ หลินชิงเสว่”