ตอนที่ 1417: ทำลายล้าง
ชายชราหน้าซีด ไม่มีเลือดหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเขา ตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมากที่นูบิสแสดงตนเป็นสัตว์อสูรระดับ 9 เพราะเขาเองก็เป็นอสรพิษทองริ้วเงิน เขารู้ดีว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเมื่ออสรพิษสองตัวพบกัน
ชายชราหันกลับมาทันทีแล้วก็หนีไปในระยะห่างอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่ลังเล ในเวลาเดียวกัน เขาใช้ทักษะลับ เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขายอมทำร้ายตัวเองเพื่อแลกกับความเร็วสูงสุดที่จะหนีออกไป เขาต้องการที่จะหายตัวไปก่อนที่นูบิสจะสามารถโต้ตอบได้
เขาไม่ได้ใช้ประตูมิติเพราะการสร้างมันจะต้องใช้เวลาพอสมควร เขาอาจต้องตายถ้าเขาพยายามใช้ประตูมิติเพื่อหนีจากสัตว์อสูรระดับ 9
นูบิสเยาะเย้ย “ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ อดทนต่อความอับอายครั้งใหญ่นี้ ข้าอดทนต่อการไล่ล่าของสัตว์อสูรระดับ 8 เหล่านี้ข้ามครึ่งทวีปเพื่อดึงเจ้าให้ออกจากรังด้วยความยากลำบาก ถ้าเจ้าหนีไปได้ มันก็หมายความว่าความพยายามของข้าทั้งหมดก็สูญเปล่า”
นูบิสไม่ได้ติดตามชายชราที่สวมเสื้อคลุทสีทอง เขาแค่เยาะเย้ย เมื่อขยายนิ้ว เขาก็ยิงลำแสงสีทองพุ่งออกมาทันทีซึ่งมันมุ่งหน้าไปยังชายชราผู้ซึ่งหายไปในเส้นขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว
แสงสีทองนั้นหนาหนึ่งนิ้ว ใกล้เข้าไป ผ่านแสงสีทองสลัว ด้ายสีทองก็มองเห็นได้ภายใน มันหนาเท่าตะเกียบเท่านั้น แต่ซ่อนพลังงานที่น่าตกใจไว้
ด้ายสีทองแทงทะลุมิติและหายไป ดูเหมือนว่ามันจะสามารถทำลายข้อจำกัดของมิติและข้ามผ่านเวลาไปทันกับชายชราในช่วงเวลาเดียว หลังจากนั้นมันก็ขยายตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ห่อหุ้มชายชราเอาไว้
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนไป เขาคำรามบนท้องฟ้าและเริ่มเปล่งแสงสีทองในทันใด มีชั้นเลือดสีแดงจาง ๆ อยู่ภายใน ระลอกคลื่นอันน่าสะพรึงกลัวของพลังงานสั่นสะเทือนรอบ ๆ ทำให้มิติรอบตัวเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาเหวี่ยงหมัดขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำลายมิติในขณะที่พลังงานจำนวนมหาศาลรวมตัวกันเป็นหมัดขนาดใหญ่ กระทบกับตาข่ายทองขนาดใหญ่ เขาต้องการที่จะต่อยผ่านตาข่าย
ชายชราหน้าซีดมากขึ้นหลังจากปล่อยหมัดออกไป เขารู้ดีอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์ที่รอเขาคืออะไรทันทีที่เขาถูกนูบิสจับ เขาจึงระเบิดพลังทั้งหมดของเขาในฐานะเซียนราชาขั้นสูงสุด เขายังใช้ทักษะลับที่ยอดเยี่ยมโดยการเผาแกนเลือดของตัวเอง หมัดที่เขาเพิ่งเหวี่ยงออกไปก็ต้องแลกกับแกนเลือดของตัวเขาเองเช่นกัน
ชายชราไม่สนใจว่าหมัดทำอะไร เขายังคงเผาแกนเลือดของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาอดทนไม่แยแสอาการบาดเจ็บสาหัสเพื่อหนีอย่างดุเดือด เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ระดับสมบูรณ์แบบของเขาจะเร็วกว่าเซียนจักรพรรดิ มีเพียงการเผาแกนเลือดเพื่อให้ตัวเขาเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าที่ตัวเองมีเท่านั้นที่ช่วยให้เขามีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
หมัดสีทองแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มิติเคลื่อนผ่านรอยแตก มันกระทบกับตาข่ายที่ล้มลงด้วย พลังแห่งการมีอยู่ ทำลายล้าง
การชนของตาข่ายและหมัดไม่ได้ส่งผลให้เกิดการระเบิด อย่างไรก็ตามตาข่ายก็โป่งเนื่องจากแรงหมัด การโจมตีที่น่าตกใจของชายชราที่ต้องแลกมาด้วยแกนเลือดก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
“เจ้ากล้าต่อต้าน นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงสัตว์อสูรระดับ 8 อย่างนั้นรึ ? ” นูบิสเย้ยหยันจากไกล ด้ายสีทองบนนิ้วของเขาเชื่อมต่อกับตาข่าย และเพียงเขาใช้ความคิดเพียงครั้งเดียว ตาข่ายก็เริ่มหดตัว ห่อกำปั้นและดึงพลังงานที่อยู่ภายในออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ด้ายสีทองอีกเส้นก็แยกออกจากตาข่าย มันแทงเข้าไปในมิติที่ว่างเปล่าและหายไปโดยมีตาข่ายเป็นต้นกำเนิด มันเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างโดยไม่สนใจระยะห่างระหว่างมันกับชายชรา และมันก็จับเขาไว้ในชั่วขณะเดียว
ชายชราสัมผัสได้ถึงด้ายสีทองอย่างชัดเจนว่ามันกำลังตามเขามาติด ๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาหวาดกลัวอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ด้ายสีทองก็พุ่งเข้าใส่เขาเหมือนลูกศรและไม่ได้ให้เวลาตอบโต้แก่ชายชรา มันแทงเข้าไปที่หลังของเขาด้วยแสงสีทองจาง ๆ แทงเขาไปผ่านอกของเขา หลังจากนั้นมันก็เริ่มพันรอบตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยผูกเขาไว้เหมือนของขวัญที่ถูกห่ออย่างหยาบ ๆ
ในขณะนี้ ด้ายสีทองเส้นบางได้ขยายออกไปอีกหลายสิบกิโลเมตร มันข้ามมิติทั้งหมดไปถึงขอบฟ้าด้านตะวันออกไปทางทิศตะวันตก หากมีคนยืนอยู่ตรงกลาง มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะเห็นว่าปลายทั้งสองนั้นเชื่อมโยงกับอะไร
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ชายเสื้อคลุมสีทองก็หนีไปหลายสิบกิโลเมตร ในขณะที่ด้ายสีทองไม่ได้ผ่านช่องว่างของมิติจริง ๆ แต่มันก็เคลื่อนตัวเร็วมาก
นูบิสดึงนิ้วของเขาและมัดตัวชายชราไว้แน่น ชายชราถูกดึงเข้าหาเขาจากขอบฟ้าทันที นูบิสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ ขณะที่เขาจ้องมองชายชราที่มีสีหน้าซีดเซียวว่า “ไอ้แก่ ตอนนี้เจ้ายังคงหยิ่งจองหองอยู่อีกหรือไม่ ? ข้าไม่อยากคิดเลยว่าเจ้าต้องการกลืนกินแก่นของข้าเพื่อที่จะได้เข้าถึงระดับ 9”
“จ – เจ้าเป็นอสรพิษทองริ้วเงินที่เพิ่งมาถึงระดับ 9 จอมยุทธ์ที่เพิ่งมาถึงระดับ 9 อาจมีพลังมากกว่าข้า แต่ข้าก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว ข้าจะสามารถป้องกันการโจมตีได้บ้างอย่างน้อยที่สุด เจ้าเพิ่งตัดผ่านมาถึงระดับ 9 เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่หรือไม่ ? เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เคยได้ว่ามีจอมยุทธ์ระดับ 9 ตัดผ่านเพิ่มนอกเหนือจากจอมยุทธ์ทั้งสามแห่งทวีปสัตว์เทวะ”
นูบิสหัวเราะดังลั่น “ข้าเพิ่งมาถึงระดับ 9 แต่ใครจะคิดบ้างว่าข้ามีน้องชายที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความช่วยเหลือของน้องชาย ข้าจึงไม่ได้เป็นสัตว์อสูรระดับ 9 ทั่วไป แม้ว่าข้าเพิ่งตัดผ่านก็ตาม เจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าด้วยความแข็งแกร่งระดับ 8 ของเจ้าได้อย่างไร ? “