เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 454 ไร้ผู้ต้าน

ตอนที่ 454 ไร้ผู้ต้าน

“เจ้ากล้า!” ราชันปีศาจเผ่าวานรคำรามออกมาด้วยความโกรธ ตอนนี้มันก็เข้าใจขึ้นมา เมื่อครู่เยี่ยจงจงใจที่จะยั่วยุโทสะของมัน จนทำให้มันสูญเสียพลังเทวะ ตอนนี้มันคิดที่จะสวนกลับก็ไม่ทันกาลแล้ว

“ผัวะ——”

พริบตานั้นเอง เยี่ยจงก็ได้พุ่งหมัดเข้าไปยังบนศีรษะของราชันปีศาจเผ่าวานรจนแตกระเบิดออก แล้วก็ได้ยินเสียงดัง “กร๊อบ” ดังขึ้นมา กะโหลกโดนส่วนมากของมันก็ได้แหลกลาญ เผยให้เห็นไอร้อนที่ระอุอยู่ภายในหัว

“ให้ตายเถอะ ซุปหัวลิงของข้า!” เยี่ยจงมีโทสะขึ้นมา เขาเดิมทีคิดที่จะใช้หัวลิงชิ้นนี้มาเพียงที่จะทำเป็นซุปบำรุงร่างกาย ตอนนี้กลับถูกตนเองฟาดจนแหลก เมื่อมองเข้าไปก็รู้สึกเจ็บปวดใจ มีอย่างที่ไหนที่มีความสนใจต่อไปได้กัน

“เจ้า!”

ราชันปีศาจเผ่าวานรมีโทสะขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย คิดไม่ถึงว่าตนเองในวันนี้จะมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ในขณะนี้เอง มันก็ได้ร้องโหยหวนออกมา จนเกิดความร้อนขึ้นมาทั่วทั้งผืนฟ้าผืนดิน จากนั้นก็ได้พบเห็นตาข่ายสีม่วงผืนหนึ่งปรากฏขึ้นมาราวกับหลุดจากแหล่ง มุ่งหน้าเข้ามาจัดการกับสิ่งที่อยู่บริเวณทางด้านหน้า

“ตาข่ายมารฟ้าสยบดิน!” เยี่ยจงตกใจขึ้นมา นี้แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นสมบัติเซียนระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งยังมีพลังทำลายที่ไม่ธรรมดา อย่างน้อยวัตถุชิ้นนี้ก็เพียงพอที่จะกุมขังตนเองเอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจที่จะออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“เสี่ยวหลุน นำสิ่งของเก็บเอาไว้ แต่ว่าอย่าพึ่งกินเข้าไปละ ของพวกนี้ยังมีประโยชน์อย่างมากอยู่!” เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา หยุดการลงมือของเสี่ยวหลุน

“ชิ——”

ประกายแสงสีขาวสายหนึ่งก็ได้พวยพุ่งออกมายังใจกลางหน้าอกของเยี่ยจง ทอดลงไปยังด้านบนของตาข่ายมารฟ้าสยบดินนั้น วินาทีนั้น สมบัติเซียนระดับสูงชิ้นนี้ก็คล้ายกับกำลังสั่นไหวเล็กน้อย จนกลับกลายเป็นตาข่ายเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง ร่วงหล่นลงไปบนฝ่ามือของเยี่ยจง

เสี่ยวหลุนย่อมต้องทราบถึงความหนักเบาในช่วงเวลานี้เอง ตอนนี้เยี่ยจงถือได้ว่าอยู่ในช่วงวิกฤต หากว่ามันกลืนกินตาข่ายมารฟ้าสยบดินนั้นไปแล้วละก็ เช่นนั้นเยี่ยจงก็เปรียบเหมือนดั่งลดข้อได้เปรียบไปข้อหนึ่ง

ราชันปีศาจเผ่าวานรอ้าปากตาค้าง หลงเหลือเอาไว้แต่เพียงแววตาอันแตกตื่นตกใจปรากฏขึ้นมาบนดวงตา ฉากเบื้องหน้านี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของมันไปแทบทั้งสิ้น มันไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย จากนั้นก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะพยุงศีรษะของมัน ทะยานขึ้นไปยังท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

“มาจนถึงเวลานี้แล้ว เจ้ายังคิดหนีอีกงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา กรีดนิ้วออกมาคราหนึ่ง สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าก็ได้พวยพุ่งออกมา มุ่งหน้าซัดไปยังร่างกายของราชันปีศาจเผ่าวานรจนลอยกระเด็นไป

“กร๊อบ——”

ราชันปีศาจเผ่าวานรก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งใบหน้าเอาไว้ คิดที่จะต้านทานสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าของเยี่ยจง แต่ว่าในขณะนี้เอง มันก็ได้หนุนส่งพลังเทวะออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่แคล้วต้องแตกกระจายออก

เมื่อสูญเสียกายเนื้อไปแล้ว รอคอยจนสลายพลังแห่งสภาวะดั่งดวงจันทร์ทอแสงไปแล้ว ต่อให้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะในตอนนี้ ก็ย่อมไม่มีพลังที่เพียงพอ ไม่มีแม้แต่พลังปราณค่อยเกื้อหนุน ดังนั้น ตอนนี้ราชาปีศาจที่ถือได้ว่าเป็นเหมือนเครื่องมือสังหารแห่งยุค พลังเทวะ ก็ได้ถูกทำลายลงไปอย่างง่ายดายเช่นนี้

สีหน้าของราชันปีศาจเผ่าวานรเกิดอาการหวาดผวาขึ้นมา ไม่อาจที่จะใช้พลังออกมาเพื่อที่จะหลบหนีรักษาชีวิตนี้เอาไว้ มันไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่อาจที่จะเข้าใจได้ ตนเองจะอย่างไรก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้สูงส่งที่ไล่สังหารผู้คนมาโดยตลอด แต่ต้องกลายมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้

ตอนนี้ เมื่อไม่มีพลังของตาข่ายมารฟ้าสยบดินค่อยปกคลุมฟ้าดินเอาไว้ เยี่ยจงเมื่อได้ก้าวเท้าออกไป ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบขึ้นมาอีกครั้ง ความเร็วก็ได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุด เขาทราบได้อย่างกระจ่างว่า ตอนนี้จำเป็นที่จะต้องสังหารราชันปีศาจเผ่าวานรตนนี้ลง ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ คงจะต้องเปิดเผยสิ่งที่ตนเองมีอยู่มากมายออกไป

“เจ้าลิงที่น่าตาย เมื่อไม่มีพลังเทวะแล้ว、ไม่มีสมบัติเซียน ข้าก็อยากจะดูสักหน่อยว่า ต่อไปเจ้าจะเตรียมหลบหนีอย่างไร ? ” เยี่ยจงก้าวเข้ามาจากทางด้านหลังของราชันปีศาจเผ่าวานรอย่างไม่เร่งไม่ร้อน กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา

เขาจดจ้องไปยังศีรษะของราชันปีศาจเผ่าวานรอย่างระมัดระวัง เกรงว่าเขาจะยังมีการลงมือภายหลังอันใดอีก ในที่สุดเยี่ยจงเดิมทีที่มีพลังฝีมือไม่อาจที่จะเทียบเท่าราชันปีศาจเผ่าวานรตนนี้ เขาทว่าก็เพียงแค่หยิบยืมพลังเพียงเสี้ยวหนึ่ง จากช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดใช้ออกมาด้วยพลังแห่งกายาทองไม่สูญสลายเพื่อสังหารอีกฝ่ายเท่านั้นเอง ตลอดมานี้ถึงแม้เขาจะมีความนึกคิดอย่างกระจ่างอยู่แล้ว แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าเป็นโชคที่มีอยู่หลายส่วน ดังนั้นตอนนี้เยี่ยจงถึงแม้จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ก็ยังคงความสุขุมเอาไว้เป็นอย่างดี

หลังจากนั้น เมื่อเยี่ยจงแน่ใจแล้วว่าราชันปีศาจเผ่าวานรเองก็มิได้มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งอันใดอีก ต่อมาเขาก็ได้โบกฝ่ามือออกไป สะบัดมือฟาดออกไป

“ผัวะ——”

ประกายแสงสีม่วงก็ได้แผ่กระจายออกมา แผ่นป้ายสีม่วงชิ้นหนึ่งก็ได้ลอยออกมาจากบริเวณหน้าอกของราชันปีศาจเผ่าวานร ซึ่งเป็นการโจมตีของเยี่ยจง วินาทีนั้นก็ได้เข้ารักษาศีรษะของมันเอาไว้

“เศษขยะ!” เยี่ยจงกวาดมือฟาดออกไปจนสมบัติเซียนระดับกลางลอยออกไปชิ้นหนึ่ง แล้วกล่าวกับเสี่ยวหลุนว่า “ของสิ่งนี้เจ้ากินมันไปก่อน ข้าอยากที่จะดูว่า ราชาปีศาจตนนี้ในมือยังจะมีสิ่งของใดกันอีก”

“ผัวะ——”

เยี่ยจงก็ได้สะบัดหมัดออกไปอีกครั้ง ในครั้งนี้ก็ได้พบว่าราชันปีศาจเผ่าวานรได้ทอสีหน้าดุร้ายเหมือนจนพ่นกริชด้ามหนึ่งออกมา

“ยังไงก็ยังเป็นแค่เศษขยะ” เยี่ยจงก็ได้ใช้กางมือออกไป โยนไปให้เสี่ยวหลุน

ต่อมา ราชันปีศาจเผ่าวานรก็ได้พ่นสมบัติออกมากว่าสิบชิ้นเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ สิ่งของเหล่านี้อย่างแย่สุดยังอยู่ในขั้นเซียนระดับล่าง แข็งแกร่งกว่าน้อยก็เป็นขั้นเซียนระดับล่าง ถึงแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับตาข่ายมารฟ้าสยบดินก่อนหน้านี้ แต่ว่าก็เป็นการบอกได้ว่า สมบัติของราชันปีศาจเผ่าวานรตนนี้ถือได้ว่ามั่งคั่งอยู่ไม่น้อย

น่าเสียดายที่สมบัติเซียนถึงแม้จะแข็งแกร่ง ก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีคนคอยใช้ ไม่เช่นนั้นก็เป็นได้เพียงแค่วัตถุธรรมดาเท่านั้น ตอนนี้ราชันปีศาจเผ่าวานรประดุจดั่งส่งมอบสมบัติล้ำค่าออกมาก็มิปาน ไม่อาจที่จะไม่นำออกมาทีละชิ้นได้ เพื่อที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ จากนั้นก็ได้ลืมตากว้างมองไปยังเยี่ยจงที่ทำเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของมันเหล่านี้เป็นเพียงแค่ขยะ จากนั้นก็โยนไปให้แก่เสี่ยวหลุน ในขณะที่เสี่ยวหลุนทอประกายแสงสีขาวออกมา ก็ได้กลืนกินเข้าไปเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

“เปรี้ยง——”

เยี่ยจงก็ได้กวาดมือออกไปอีกครา ในครั้งนี้ในครั้งนี้ราชันปีศาจเผ่าวานรก็มิได้พ่นสิ่งของอันใดออกมาอีก มันทอสีหน้าแตกตื่น อารมณ์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เชอะ ยังคิดว่าสมบัติที่หวงแหนของลิงจะมีดีอันใด ตอนที่จากที่ดูแล้ว ก็เป็นได้เพียงแค่ขยะเท่านั้นเอง” เยี่ยจงแสยะยิ้มขึ้นที่มุมปาก ท้ายที่สุดก็ยังคงลงมืออย่างไม่ยั้งมือ ประกายแสงสีทองบนนิ้วมือของเขาก็ได้พวยพุ่งออกมา จากนั้นก็ได้ใช้ฝ่ามือตบเข้าไปฉาดหนึ่งจนศีรษะของราชันปีศาจเผ่าวานรลอยกระเด็นจนไม่หลงเหลือแม้แต่เศษเนื้อ

“เป็นไรไป ในครั้งนี้เจ้ากินจนอิ่มหนำสำราญแล้วกระมั่ง ? ” เยี่ยจงโบกมือจับไปยังตาข่ายมารฟ้าสยบดิน หัวเราะออกมาเสียงแผ่วเบา

“คิดไม่ถึงว่าเป็นเพียงแค่เจ้าลิงที่น่าตายตัวหนึ่งบนร่างกายถึงกับมีสิ่งของมากมายถึงเพียงนี้ ไม่เลว เสี่ยวเยี่ยจื่อ หรือไม่พวกเราก็เปลี่ยนแผน พวกเราไปดักรอเหล่ากลุ่มราชาปีศาจที่มาจากหุบเขาหมื่นปีศาจสังหารไปให้หมด คิดว่าคงจะได้สิ่งของเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแค่ตัวเดียวยังมีสมบัติมากมายได้ถึงเพียงนี้เลยนะ!” เสี่ยวหลุนสภาพจิตแจ่มใสอย่างยิ่ง มิได้มีอารมณ์โกรธเคืองที่เยี่ยจงนำสิ่งของที่เปรียบเสมือนดั่งขยะเหล่านั้นมาให้เลยแม้แต่น้อย ในสายตามัน เยี่ยจงหากว่านำตาข่ายมารฟ้าสยบดินในมือนี้เป็นเหมือนดั่งขยะแล้วละก็ มันเองก็ย่อมไม่เกรงใจเช่นเดียวกัน

“ดักฆ่าราชาปีศาจงั้นหรือ” เยี่ยจงกรอกนัยน์ตาไปมา เด็กน้อยผู้นี้ก็ช่างโลภมากไม่เปลี่ยนแปลง ในครั้งนี้สามารถที่จะสังหารราชันปีศาจที่แท้จริงตนหนึ่งไปได้ก็ถือได้ว่าเป็นโชคดีไม่น้อยแล้ว ต่อจากนั้นหากว่าตนเองนอกเสียจากจะต้องรักษาชีวิตให้ยาวนานขึ้นแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ กล่าวไปก่อนหน้านี้ ยังคงอย่าได้ไปหาเรื่องวุ่นวายกับเหล่าราชันปีศาจจะดีเสียกว่า

หลังจากที่จัดการเก็บกวาดสิ่งที่เป็นร่องรอยต่างๆ นานา อย่างรวดเร็วแล้ว เยี่ยจงก็มิได้กล่าววาจาไร้สาระอีกต่อไป เพียงแต่ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ เลือกเฟ้นทิศทางตามสายลมที่ไหลผ่านเข้าไป สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ก็คือต้องเร่งรีบเสาะหาที่ซ่อนตัวเอาไว้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ หุบเขาหมื่นปีศาจเกิดมีความโกรธแค้นขึ้นมา จนมีกลุ่มปีศาจออกมามากมาย ไล่ล่าสังหารเขาเพียงคนเดียวแล้วละก็ เช่นนั้นต่อให้พลิกฟ้าหาที่ซ่อนก็คงจะไร้หนทางแล้ว

หุบเขาหมื่นปีศาจ ภายในดินแดนซีฮวงที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยแดนลับแลไม่เป็นสองรองใคร ควรทราบว่า ท่ามกลางหมื่นเผ่าพันธุ์ภายในสี่ดินแดน เผ่ามนุษย์ถึงแม้จะจัดได้ว่าควบคุมอาณาเขตเอาไว้มากที่สุด จำนวนคนมากมาย แต่ว่าเมื่อเทียบกันแล้วก็ยังถือได้ว่าอ่อนแอกว่า แต่ว่าเผ่าปีศาจกลับไม่เหมือนกัน พวกมันถึงแม้โดยส่วนมากแล้วจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ก็ตาม อีกทั้งยังมีความนึกคิด ซึ่งไม่เหมือนกับปีศาจตามแดนรกร้างแม้แต่น้อย แต่ว่า พลังความแข็งแกร่งของเผ่าปีศาจนั้นถือได้ว่ามีมากมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเผ่าปีศาจที่อยู่ในหุบเขาหมื่นปีศาจถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงล้ำอย่างยิ่ง เพียงมองเข้าไปยังหมู่สุดยอดเก้าผู้ยิ่งใหญ่บรรพกาลแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ ก็เพียงพอที่จะพบได้ว่าขุมกำลังนี้มีความตื้นลึกหนาบางถึงเพียงไหน

เยี่ยจงถึงแม้ในครั้งนี้จะแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ การสังหารราชาปีศาจตนหนึ่ง แต่ว่าก็ยังคงทำให้เขาทราบได้อย่างกระจ่างว่า นี้แม้จะมิใช่การขัดขวางการก้าวเข้ามาหาของหุบเขาหมื่นปีศาจได้ จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน หุบเขาหมื่นปีศาจกลับจะยิ่งทวีความน่ากลัวและโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม นั้นก็เพราะว่าเยี่ยจงเปรียบเสมือนได้ตบเข้าไปที่ใบหน้าของพวกเขาฉากใหญ่แล้ว

และในส่วนที่ยิ่งยุ่งยากยิ่งกว่าก็คือ วิชาเจ็ดสิบสองลักษณ์ที่เยี่ยจงใช้ออกมาก่อนหน้านี้ ต่อให้เปลี่ยนแปลงไปจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงลักษณะได้ แต่ก็ยังไม่อาจที่จะปิดบังมหาราชันปีศาจลิ๋วเอ่อได้อยู่ดี ดังนั้น เขาถึงแม้ตอนนี้จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไป แต่ว่าก็ยังคงต้องหลบซ่อนต่อไปอยู่ดี

นี้มิใช่เป็นความหวาดกลัว แต่เป็นเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ อย่างน้อยก่อนหน้านี้เยี่ยจงยังไม่อาจที่จะต่อกรต้านทานกับชนชั้นระดับตำนานที่อยู่อย่างห่างไกลออกของแดนลับแลแต่ละฝ่ายได้

ต่อจากนั้นอีกหลายวันต่อมา เยี่ยจงเดินทางอยู่ทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ได้ออกมาจากเขตเมืองของรัฐเหยียนได้ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ระยะห่างจากรัฐเหร่ยก็ยังถือได้ว่าอยู่ห่างไกลออกไปนับแสนลี้ ระยะทางเช่นนี้ห่างมองในมุมมองของคนธรรมดา ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ต่อให้เดินทางจนเกิดอีกหลายชาติก็ยังไม่อาจที่จะเสาะหาได้พบ ต่อให้เยี่ยจงตอนนี้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ถ้าไม่ใช้เวลาซักหลายเดือน อย่างน้อยก็คงไม่อาจที่จะไปถึงได้

หลังจากที่ได้ออกมาจากอาณาเขตของรัฐเหยียนแล้ว เยี่ยจงก็ได้เข้าไปใกล้ยังส่วนกลางของดินแดนซีฮวง พื้นที่เขตนี้ถือได้ว่าเป็นของสำนักหลินยี่ ถือได้ว่ามีตำนานเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานไม่ทราบกี่รุ่นต่อกี่รุ่น ความจริงก็ถือได้ว่าเป็นขุมกำลังที่เทียบเคียงได้กับคนของรัฐกู่กว๋อเลยทีเดียว และพลังของเหล่าสำนักโบราณเหล่านี้ก็ถือได้ว่าลึกซึ้งเหลือคนาอย่างยิ่ง

ดังนั้น ส่วนกลางของดินแดนซีฮวงสายนี้แม้จะมิได้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นรัฐหนึ่ง แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังคงมีประชากรอยู่เป็นจำนวนมาก ประดุจดั่งหัวเมืองใหญ่ที่สว่างไสว

หลังจากที่ได้มาถึงยังพื้นที่แห่งนี้แล้ว เยี่ยจงก็ไม่อาจที่จะกระทำดั่งเช่นก่อนหน้านี้ก็มิปาน ที่เดินทางแรมวันแรมคืนไม่หยุด นั้นก็เพราะว่าหากกระทำเช่นนั้นก็จะเป็นเหมือนการเปิดเผยตัวตน เมื่อเขาเดินทางไม่หยุดหย่อนมาหลายคืน จึงมิได้ออกไปจากที่แห่งนี้ในทันที เพียงแต่เสาะหาข่าวสารข้อมูลในสถานที่แห่งนี้เอาไว้ก่อน

หลายวันมานี้ ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นที่ศิลาตะวันบริสุทธิ์ ก็ได้ถูกกระจายออกมาไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวงแล้ว

ก่อนอื่น ได้เล่าขานกันว่าตำนานของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกแห่งหนึ่งในจักรพรรดิทั้งห้า ถึงกับมีการคงอยู่จริง และต้นมรกตถึงกลับได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางดินแดนขนาดเล็ก ข่าวลือนี้ได้ทำให้มหาราชันไม่น้อยเกือบจะต้องกระอักโลหิตออกมา หากว่าทราบเช่นนี้ตั้งแต่แรก ต่อให้ต้องปิดกั้นพลังฝีมือเอาไว้ พวกเขายังไงเสียก็คงจะต้องเข้าไปเสาะหาวาสนาดูสักครา

จากนั้น ยังมีคนที่สืบเชื้อสายของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกอีกด้วย มีความเป็นไปได้ว่าถ้าเกิดออกท่องมายังดินแดนแห่งนี้คงจะกลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจของผู้คนมากมายได้ ควรทราบว่า ตำนานแห่งขุมพลังของจักรพรรดิฟ้าที่เล่าขานสืบต่อกันมา ถือได้ว่าอยู่ในระดับความแข็งแกร่งเช่นไร สิ่งนี้หากมองในมุมมองของผู้คนหมู่มากแล้ว ต่างก็ถือได้ว่ายากที่จะคาดเดา อีกทั้งสายโลหิตนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะปรากฏขึ้นมาสู่ดินแดนแล้ว ก็เป็นเหมือนข่าวสารใหม่ที่ปะทุขึ้นมาอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุได้

ท้ายที่สุด ก็คือเรื่องราวของทางฝั่งเยี่ยจง ซิงก็คือเยี่ยจง เยี่ยจงก็คือซิงในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ความเกี่ยวข้องตลอดมานี้ของเขา โดยส่วนมากแล้วจะถูกผู้คนขุดคุ้ยออกมาอยู่ดี ถกเถียงกันต่างๆ นานา และเรื่องที่เขาได้ครอบครองคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์จากสมรภูมิฮวงกู่ก็ไม่อาจที่จะปิดบังต่อไปได้ ถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์ จากนั้น เรื่องที่ว่าเขาได้รับตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ก็ไม่ทราบว่าได้ถูกผู้ใดเปิดเผยออกมา อีกทั้งยังถูกเล่าออกมาโดยละเอียด โดยส่วนมากแล้วก็ได้กลายเป็นเรื่องที่ถูกยกประเด็นขึ้นมามากที่สุด

และสุดท้ายที่ที่ทำให้ผู้คนตกอกตกใจมากที่สุดก็คือ เล่าขานกันว่าเขาก็คือหนึ่งในร่างตำนาน ที่ตกทอดมาจากดินแดนเทพอย่างร่างเทวะ ยังถูกป่าวประกาศออกมา

เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกถกยกเป็นประเด็นออกมานับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้เกิดเสียงครหาไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวงว่า ขุมกำลังใหญ่นับไม่ถ้วนจากทั้งสี่แดนต่างก็คิดที่จะออกมา เพื่อที่จะเสาะหาอะไรบางอย่าง

ข่าวสารเหล่านี้ได้ทำให้เยี่ยจงไม่อาจจะกล่าวอันใดออกมาได้แม้แต่น้อย ตอนนี้ตนเองที่ประดุจเป็นผู้ที่ไร้ผู้ต้านอย่างแท้จริง ราวกับว่าไม่ทราบว่ามีผู้คนไม่น้อยได้เพ่งเล็งสมบัติที่อยู่กับเขาอยู่ คิดที่จะจับกุมตนเอง คงจะต้องพลิกฟ้าแล้วละ

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset