ตอนที่298 ไปจนสุดทาง
หยางโปเป็นผู้บริสุทธิ์ ” ทำไมถึงมาโทษฉันล่ะ ? “
” นายทำให้ฉันตกใจ นายบอกว่ามันเป็นของปลอมเลยทำให้ฉันตกใจ ” ลัวย่าวหัวพูดอย่างไร้ยางอาย
หยางโปจนใจ ” ดูเหมือนว่าฉันจะพูดเรื่องนี้หลังจากรถหยุดใช่มั้ย ? ” ” นั่นคือสิ่งที่นายพูดก่อนหน้านี้ ” ลัวย่าวหัวยืนยัน
ตาอ้วนหลิวยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ” เรื่องนี้มันเป็นความผิดของหยางโป ไป ก็ให้หยางโปเลี้ยงมื้อเย็นพวกเราแล้วกัน ! ” เก็บกวาดเล็กน้อยแล้วทั้งสามคนก็เดินออกไปข้างนอก
ลัวย่าวหัวมองดูหยางโป ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ” นั่นเป็นเครื่องลายครามของปลอมจริงรึเปล่า ? “
” จริงแท้แน่นอน เป็นฝีมือเฉียวโซ่วหลิวแห่งสาธารณรัฐจีน ” หยางโปอธิบาย
ตาอ้วนหลิวตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ลัวย่าวหัวยังมีความมึนงง ” เฉียวโซ่วหลิว ? “
” เฉียวโซ่วหลิวเป็นผู้มีอำนาจในการฉ้อโกง ในเวลานั้น สิ่งที่เขาทำเป็นของปลอมและแม้แต่ในช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเชี่ยวชาญในการลอกเลียนแบบเครื่องลายครามในสมัยจักรพรรดิคังซี ทำให้ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับเครื่องลายครามในยุคจักรพรรดิคังซี ในตลาดเลย ! ” ตาอ้วนหลิวอธิบาย
ลัวย่าวหัวก็ประหลาดใจเช่นกัน ” ฉันสงสัยมาตลอดว่าผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ ถ้าไปทำเครื่องเคลือบเอง ไม่ก็ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาเอง ทำไมต้องมาทำอะไรที่เสี่ยงอย่างนี้ด้วย ? ” ” เพราะถ้าทำแบบนี้จะทำเงินได้เร็วกว่าและง่ายกว่า ” หยางโปอธิบาย
ทั้งสามคนมาถึงที่โรงแรมและสั่งอาหารสองสามอย่างแล้วทานอาหาร
หลังจากทานไปได้ซักพักก็ได้ยินคนกระซิบกัน ” ได้ยินมาว่ามีคนขุดหลุมฝังศพโบราณทางทิศตะวันออกติดกับภูเขาตงชานมันเป็นสุสานขนาดใหญ่ซึ่งอาจเป็นของอ๋องแมนจูเรียองค์ใดองค์หนึ่ง ! ” พวกหยางโปมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
หยางโปยืนขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะถัดไป ซึ่งชายวัยกลางคนสองคนนั่งอยู่ ทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจ ต่างก็มองหน้ากัน เป็นอันว่าไม่มีใครรู้จัก หยางโป
หยางโปกล่าว ” พี่ชายท่านนี้ ผมขอโทษจริงๆ ขอโทษด้วย ผมได้ยินคุณพูดว่า ที่ตงซานขุดสุสานโบราณออกมาและมันก็ยังเป็นสุสานขนาดใหญ่
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนไหน ทำไมผมถึงไม่เห็นมันในข่าวเลย ? “
” ปิดข่าวมันจะเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ขุดมาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ฉันมีเพื่อนที่เป็นซัพพลายเออร์ในสถานที่ก่อสร้างตรงนั้น พวกคนงานส่งวัสดุไปที่สถานที่ก่อสร้างเรื่องนี้พึ่งจะเกิดขึ้นจากนั้นก็ถูกพาออกไป ตอนนี้ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นแล้ว ” ชายคนนั้นกล่าว
” สถานที่ก่อสร้างนั้นกล้ายักยอกเหรอ ? ” หยางโปยิ้มแล้วกล่าว
” จะไปกล้าได้ยังไง ทำแบบนี้มันติดคุกนะ ! ” ชายคนนั้นกล่าว
หยางโปยิ้ม ” งั้นคุณรู้ได้ยังไงว่านั้นเป็นสุสานอ๋องแมนจูเรีย ? “
” นี่คือสิ่งที่เพื่อนของฉันพูด เขาบอกว่าสุสานมีขนาดใหญ่มาก เกรงว่ามันไม่ใช่สุสานธรรมดาและนี่คือชานเมืองของปักกิ่งมันเป็นเรื่องปกติที่จะฝังศพอ๋อง ! ” ฝ่ายตรงข้ามกล่าว
หยางโปไม่ได้ถามอะไรมาก กล่าวขอบคุณแล้วเขาก็หันหลังกลับไปนั่ง
หยางโปเพิ่งจะนั่งลง ลัวย่าวหัวกลับยืนขึ้น
หยางโปรีบถาม ” นายกำลังจะทำอะไร ? “
” ไปดูความครึกครื้น ช่างเป็นเรื่องครึกครื้นอะไรแบบนี้ พวกนายยังเฉยกันอยู่ได้ยังไง ? ” ในมือของลัวย่าวหัวมีขนมเปี๊ยะทั้งกัดกินและทั้งพูดคลุมเครือไม่รู้ความ
หยางโปส่ายหน้าและลุกขึ้นยืน จริงๆ แล้ว เขาก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อคิดไปแล้วสถานที่นั้นอาจจะถูกปิดกั้น ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
ก่อนหน้านั้น ทุกครั้งที่ ลัวย่าวหัวขึ้นรถมักจะวิ่งไปที่นั่งคนขับ คราวนี้เขาเริ่มที่จะนั่งข้างหลัง หยางโปเลยต้องนั่งที่คนขับ
หยางโปมีทักษะในการขับรถมานานอยู่แล้ว เขาขับรถไปข้างหน้าตามเส้นทางที่เพิ่งถามมา
เมืองหลวงไม่ได้ใหญ่ ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงที่ตีนเขาตงชาน รถขับไปตามถนนบนภูเขาจนไปถึงไหล่เขา ในที่สุดพวกเขาก็เห็นสถานที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ที่นี่น่าจะเป็นที่ก่อสร้าง
ประตูถูกปิด เมื่อยืนอยู่ในที่สูง หยางโปสามารถมองเห็นเครื่องขุดอยู่ภายในกำลังก่อสร้าง ดูเหมือนจะไม่มีวี่แววมากมายในที่เกิดเหตุ แต่หยางโปเข้าใจดี หากมีสิ่งผิดปกติจะต้องมีคนร้าย คนในโรงแรมไม่น่าจะพูดไร้สาระและสถานที่ก่อสร้างมักจะไม่ปิดประตูแน่นหนาเกินไป แต่สถานที่ก่อสร้างที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาดูเหมือนจะปิดประตูโดยเจตนา
หยางโปจ้องมองระยะไกล การมองเห็นของเขาค่อยๆชัดเจนขึ้นเมื่อเครื่องขุดทำงาน หยางโปเห็นถ้ำเล็กๆ และหลายคนยืนอยู่รอบๆถ้ำพวกเขาสวมชุดป้องกันสารเคมีและเข้าไปทีละคน
หยางโปจ้องมองออกไปแล้วเห็นคนหนึ่งหันกลับมามอง ทันใดนั้นหยางโปก็แปลกใจเพราะคนคนนั้นหันกลับมามอง นั้นมันคือโฮชิโนะคุงที่ยืนอยู่ในทุ้งหญ้ายามเช้าตรู่ หยางโปกระโดดลงจากก้อนหินทันที แต่เมื่อเขากระโดดลงมาแล้วก็ยังคงจ้องมองไปที่ โฮชิโนะคุง !
” มีคนอยู่ข้างนอก ยามาโมโตะ นายรีบพาคนไปจับพวกมันมาให้ฉัน เราไม่สามารถให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปได้ ! ” โฮชิโนะคุงกล่าว
ยามาโมโตะโค้งคำนับ ” ไฮ้ ! “
พูดจบ ยามาโมโตะชี้สั่งไปที่คนรอบข้างหลายคน ” พวกแกมากับฉัน เร็วเข้า ! “
หยางโปกระโดดลงมาจากก้อนหินและดึง ลัวย่าวหัว ” รีบออกไปเร็ว ที่นี่มีพวกญี่ปุ่นอยู่ด้วย ! “
ลัวย่าวหัว รู้สึกประหลาดใจ เขาสะบัดมือของหยางโปที่ดึงอยู่ ” รีบออกไปจากที่นี่ ฉันจะไปเปิดประตูให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกมันกำลังปล้นสุสาน ! “
” รีบไปเร็ว นายตัวคนเดียวจะรับมือกับพวกมันได้เหรอ ? นายมีปืนรึไง ? ” หยางโปขยิบตาให้ตาอ้วนหลิว ทั้งสองคนดึงลัวย่าวหัวเข้าไปในรถ
เมื่อสตาร์ทรถ เห็นประตูสถานที่ก่อสร้างเปิดออกเมื่อมองที่กระจกมองหลัง หยางโปก็เลี้ยวโค้งแล้วขับรถลงจากภูเขาไป
ตลอดทางลงเขา หยางโปรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าไม่มีใครตามมา
ลัวย่าวหัวบ่น ” ตอนนี้ฉันจะต้องโทรหาตำรวจ ! “
หยางโปไม่ขัดขวาง เรื่องนี้จะต้องแจ้งตำรวจอย่างแน่นอน แต่พวกเขาสายเกินไปที่จะทำแบบนั้นแล้ว
” รถ ! รถบรรทุกดิน ! ” จู่ๆ ตาอ้วนหลิวก็อุทานออกมา
หยางโปมองไปที่กระจกมองหลังและเห็นว่ามีรถบรรทุกสูง ขับตามมาข้างหลังพวกเขา ไม่รู้ว่ามีดินอยู่บนรถไหม แต่รถกำลังเร่งความเร็วขึ้นมา ! หยางโปตกใจและเร่งคันเร่งอย่างรวดเร็ว หากรถบรรทุกมีดินอยู่เต็มคันมันมีน้ำหนักหลายสิบตัน ในเวลานี้หากชนเข้ากับรถยนต์คันเล็ก ไม่ต้องมีคำอธิบายเลยผลลัพธ์จะเป็นยังไง รถเล็กจะถูกชนยับอย่างแน่นอน
ทันทีที่หยางโปเหยียบคันเร่ง รถกำลังไหลลงหลังจากเร่งความเร็ว จนมีความรู้สึกว่ากำลังบินอยู่ในรถ รถเป็นรถออฟโรดทรงสูง แต่ศูนย์กลางมีความเสถียร รถเร่งความเร็วและค่อยๆทิ้งห่างจากรถบรรทุกดิน
หลังจากที่ ลัวย่าวหัว แจ้งความเสร็จ เขาก็วางหูโทรศัพท์แล้วหันไปมองหยางโป ” ฉันเกรงว่าเรื่องนี้จะจัดการไม่ได้ ! “
หยางโปตกตะลึง แล้วตอบสนองทันที ” ภูเขาต้องเป็นโครงการที่ชาวญี่ปุ่นทำแน่ๆ พวกเขามีเส้นสายที่ดี ถ้าหน่วยงานระดับล่างตรวจสอบ เกรงว่าจะไม่ได้ผลขนาดนั้น “
ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” นายก็รู้ว่าบางครั้งการโทรศัพท์ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวใต้ดินชะงักลงได้จริงๆ ” หยางโปขับรถอยู่คิดๆดูแล้วก็กล่าว ” ฉันจะโทรไปแจ้งสำนักมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ นายโทรไปหาพ่อของนาย พวกเราจะต้องจบเรื่องนี้ให้ได้ ! “