เสิ่นหรงเจียรู้สึกตกใจอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจความหมายที่หมั่นโถวพูด
“คุณหนูเสิ่นคงยังไม่รู้ ไม่เป็นไรฉันจะบอกให้ก็ได้ว่า หากคุณพูดคำหยาบกับผู้บังคับบัญชาของคุณ หรือแม้แต่พยายามจะทำร้ายผู้บังคับบัญชา คุณจะต้องถูกลงโทษตามระเบียบของกองทัพ หรือคุณหนูเสิ่นต้องการกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจใหม่ก็ได้นะ ?”
ภาพลักษณ์ของหมั่นโถวในสายตาของเซี่ยฉิงกงยิ่งดีขึ้นกว่าเดิมอีก
สีหน้าของเสิ่นหรงเจียแลดูตื่นตระหนก แต่แล้วเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนองบางทีคนตรงหน้าเธออาจเพียงพูดข่มขู่เท่านั้นก็เป็นได้ ? คนใช้อะไรจะมียศพันเอก ? ล้อเล่นน่า ?
หลังจากคิดได้เช่นนี้ เสิ่นหรงเจียก็หัวเราะเยาะ เธอพูดเยาะเย้ย
“คิดจะหลอกคน ก็ควรแต่งเรื่องมาดี ๆ ให้น่าเชื่อถือหน่อย กล้าที่จะหลอกว่าเป็นนายพัน หรือนายพล เธอรู้มั้ยว่า ฉันสามารถสั่งจับเธอไปขังคุกตอนนี้ได้เลยนะ”
“เอาสิ จับเลย”
ฉิงกงกล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
หากเสิ่นหรงเจียยังพอมีสมองอยู่บ้าง เธอจะต้องฉุกใจคิดได้ แต่หากไม่ และเธอยังคิดจะจับหมั่นโถวอีก ตามระเบียบวินัยของทหาร เสิ่นหรงเจียจะต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจอีกสองปี
“เซี่ยฉิงกง อย่าทระนงตนให้มากไปนัก เธอยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลมู่ อย่าคิดว่าหรงหรงไม่กล้าทำอะไรเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกน้องของเธอ เธอก็ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย”
ฉีเหยียนเอ๋อพูดด้วยความโกรธ
หมั่นโถวยื่นสองมือไปข้างหน้า พลางยักไหล่ เธอมองเสิ่นหรงเจียด้วยนัยน์ตากลมโตไร้เดียงสา
“มาจับฉันสิ ฉันสัญญาว่าจะไม่ขัดขืนเลย”
เสิ่นหรงเจียยังรู้สึกเป็นกังวล เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าแล้วโทรกลับไปที่สำนักสันติบาล
“นี่ ฉันเองนะ เสิ่นหรงเจีย ส่งคนของเรามาที่อาคาร ฮุ่ยเหลียน มีตำรวจถูกทำร้ายร่างกาย !”
ทันทีที่คนของสำนักสันติบาลได้ยินคำสั่งของรองผู้กำกับ เขาก็รีบส่งตำรวจกลุ่มหนึ่งเร่งรุดมาที่อาคารฮุ่ยเหลียนในทันที
“หมั่นโถว ชุดนี้ก็สวยนะ ฉันซื้อให้ แล้วก็มีกระโปรงสั้นสีเหลืองตรงนั้นด้วย ไปลองดูสิ”
“ได้ค่ะ นายหญิงน้อย”
ฉีเหยียนเอ๋อ และเสิ่นหรงเจียไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าอีกต่อไป ทว่าเซี่ยฉิงกงกับหมั่นโถวกลับยังลองเสื้อผ้าในร้านทีละชุดอย่างอารมณ์ดี
เมื่อทั้งสองเข้าใกล้กัน หมั่นโถวก็กระซิบว่า
“นายหญิงน้อย พอตำรวจมาคุณก็ปล่อยให้พวกเขาจับตัวฉันไปนะ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ไว้ฉันถูกจับตัวไปแล้ว คุณค่อยโทรหานายน้อย”
เซี่ยฉิงกงลังเล
“แล้วถ้าเสิ่นหรงเจียทำร้ายเธอหลังจากพาเธอไปแล้วล่ะ ที่สำนักสันติบาลนั่นก็มีแต่คนของเขา”
“ไม่ต้องห่วง ใครจะรังแกฉันได้ ตำรวจพวกนั้นก็เป็นแค่ข้าราชการธรรมดา ๆ ไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษ ฉันสามารถเอาชนะได้สบาย ๆ “
“เยี่ยมมาก”
พนักงานแนะนำสินค้าไม่กล้าแทรกแซงการทะเลาะเบาะแว้งครั้งนี้ ทั้งยังไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้สักคำด้วย …
ประโยคที่ฉีเหยียนเอ๋อพูดโดยไม่ตั้งใจว่า ‘เธอยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลมู่’ ดึงดูดความสนใจของ พนักงานแนะนำสินค้าสาว หรือเป็นได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าว ประธานบริษัท..มู่เฉินฮ่าว ?
อย่างที่รู้กันว่า อาคารฮุ่ยเหลียนทั้งหมดเป็นสมบัติของตระกูลมู่ และเธอก็ทำงานให้กับตระกูลมู่ด้วย
เมื่อคิดได้ว่า เธอเพิ่งแสดงท่าดีไม่ดีใส่ว่าที่นายหญิงน้อยของตระกูลมู่ พนักงานแนะนำสินค้าก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที …
เธอกลัวว่าจะไม่สามารถทำงานนี้ได้อีกต่อไป
เซี่ยฉิงกงและหมั่นโถวลองเสื้อผ้ากันอย่างสนุกสนาน และเซี่ยฉิงกงก็ซื้อเสื้อผ้าให้หมั่นโถวถึงห้าชุดในครั้งเดียว
ยี่สิบนาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแปดนายก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูร้านค้าแบรนด์หรู Zzelat บนชั้น 5 ของอาคารฮุ่ยเหลียน
“รองผู้กำกับเสิ่น คนร้ายอยู่ที่ไหนครับ ?” หัวหน้าชุดเอ่ยถาม
“เธอคนนั้นไง เมื่อคืนนี้เธอไปที่สถานีตำรวจ แล้วก็ทำร้ายฉัน จับเธอกลับไปที่สถานีเรา !”
ครั้นเสิ่นหรงเจียเห็นคนมา เธอก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาทันที
***จบตอน คนใช้อะไรจะมียศพันเอก ?***