แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 99 ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ

ฉีเหยียนเอ๋อจับมือของเสิ่นหรงเจีย ครั้นเห็นใบหน้าที่ยังคงบวมเป่งของเสิ่นหรงเจียแล้ว เธอก็โมโหจนแทบหายใจไม่ออก

 

เซี่ยฉิงกงคนนี้จะกล้าดีเกินไปแล้ว สั่งให้คนของตัวเองทำร้ายรองผู้กำกับสำนักสันติบาลเลยงั้นรึ ?

 

“ฉีเหยียนเอ๋อ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่โทษเธอ แต่ฉันสาบานไว้เลยว่า ฉันจะตายไม่ได้ หากไม่ได้คิดบัญชีกับเซี่ยฉิงกง !”

 

เสิ่นหรงเจียยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา

 

สิ่งที่น่าหงุดหงิดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอก็ร้องไห้ฟูมฟายไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อ เธอขอให้พ่อของเธอส่งคนไปควบคุมตัวเซี่ยฉิงกงข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา ทั้งยังเป็นการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ทว่าพ่อของเธอกลับไม่ช่วยเธอ เขารู้ว่าคนที่ทำร้ายเธอคือคนของตระกูลมู่ซึ่งเป็นคนที่ไม่อาจแตะต้องได้ เขายังกล่าวตำหนิเธออย่างรุนแรงที่เธอไปทำให้อารมณ์ของนายหญิงน้อยขุ่นมัว ทั้งยังบอกให้เธอหลีกเลี่ยงอย่าสร้างความรำคาญใจให้แก่ตระกูลมู่อีก

 

เมื่อหวนนึกถึงเรื่องนี้ เสิ่นหรงเจียก็กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เธออยากจะใช้มีดแล่เซี่ยฉิงกงออกเป็นพันชิ้น

 

นับว่าหมั่นโถวยังมีความเมตตา เมื่อคิดได้ว่า เสิ่นหรงเจียเป็นถึงคุณหนูของตระกูลเสิ่น อีกทั้งยังเป็นถึงรองผู้กำกับสำนักสันติบาล หมั่นโถวก็เลยยั้งมือไว้บ้าง หาไม่ใบหน้าของเสิ่นหรงเจียคงจะไม่ใช่แค่บวม

 

“คุณหนูเสิ่น ใบหน้าของคุณมีอะไรผิดปกติหรือไม่คะ”

 

จู่ ๆ พนักงานแนะนำสินค้าสาวที่ไม่รู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูดก็โพล่งคำถามออกมา

 

ไฟโทสะของเสิ่นหรงเจียปะทุขึ้นอีกครั้งทันที

 

เธอตวาดแหวใส่หูพนักงานสาว

 

“หน้าของฉัน ธุระกงการอะไรของเธอ ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อมองพนักงานแนะนำสินค้าสาวด้วยความรังเกียจ

 

“ถามอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ ?”

 

เสิ่นหรงเจียตบหน้าพนักงานแนะนำสินค้าเต็มแรง เมื่อวานนี้เป็นเธอที่โดนเซี่ยฉิงกงทำร้าย และนั่นทำให้เสิ่นหรงเจียเสียใจเป็นอย่างมาก เธอต้องการหาที่ระบายอารมณ์ แล้วพนักงานแนะนำสินค้าคนนี้ก็เข้ามาถูกจังหวะพอดี

 

หลังจากถูกตบหน้า พนักงานแนะนำสินค้าสาวก็น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด หากแต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไร ตระกูลเสิ่นนั้นร่ำรวย และมีอำนาจมาก เธอไม่อาจมีปัญหาด้วยได้ ดังนั้นเธอจึงก้มศีรษะลงกล่าวคำขอโทษ

 

“ขอโทษค่ะ คุณหนูเสิ่น เป็นฉันที่พูดมากเกินไป”

 

“เอาละ ไปนำคอลเลคชั่นใหม่ทั้งหมดในฤดูกาลนี้ของร้านเธอมา”

 

เสิ่นหรงเจียพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เธอยกมือขึ้นโบก พร้อมกับกล่าวอย่างภาคภูมิ

 

ภายในห้องลองเสื้อ หมั่นโถวเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสีขาวที่เซี่ยฉิงกงเลือกให้เรียบร้อยแล้ว หากแต่ในห้องลองไม่มีกระจก เธอเลยต้องเดินออกมาดู หมั่นโถวไม่เคยใส่ชุดสวยขนาดนี้มาก่อน เธอจึงรู้สึกไม่มั่นใจเล็ก ๆ เธอเปิดประตูห้องลองเสื้อออกมาพลางเอ่ยถามว่า

 

“นายหญิงน้อย เป็นยังไงบ้างคะ ? ดูดีมั้ย ?”

 

ชั่วขณะนั้นคนที่เธอเห็นไม่ใช่เซี่ยฉิงกงที่เธออยากเห็น หากแต่กลายเป็นคนสองคนที่เธอไม่อยากเห็นไปเสียนี่

 

ฉีเหยียนเอ๋อและเสิ่นหรงเจียยังคงยืนอยู่ที่เดิม ทันทีที่พวกเธอเห็นหมั่นโถวก้าวออกมาจากห้องลอง พวกเธอก็มีทีท่าตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของพวกเธอแสดงออกถึงความประหลาดใจ

 

อย่างไรก็ตาม เพียงชั่วครู่อาการตกตะลึงนั้นก็มลายหายไป เสิ่นหรงเจียเปลี่ยนมายิ้มเยาะพร้อมกับเอ่ยวาจาถากถาง

 

“ร้าน Zzalet ตกต่ำถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม้แต่คนใช้ก็สามารถเข้ามาลองเสื้อได้งั้นรึ ?”

 

ครั้นพนักงานแนะนำสินค้าสาวได้ยินคำว่าคนใช้ เธอก็เหลือบไปมองหมั่นโถวด้วยท่าทางรังเกียจพร้อมกับพูดขึ้นว่า

 

“ฉันว่าแล้ว ท่าทางของเธอดูไม่เหมือนคนร่ำรวยเลย”

 

จากนั้นพนักงานสาวก็หันหน้าไปทางเสิ่นหรงเจีย และฉีเหยียนเอ๋อ พลางผงกศีรษะโค้งคำนับไม่ต่างกับสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก

 

“ฉันขอโทษ คุณหนูเสิ่น ฉันจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

 

พนักงานแนะนำสินค้าสาวคงหลงลืมไปแล้วว่า เสิ่นหรงเจียเพิ่งจะตบหน้าเธอไปเมื่อครู่นี้เอง

 

***จบตอน ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset