แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 101 คนใช้อะไรจะมียศพันเอก ?

เสิ่นหรงเจียรู้สึกตกใจอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจความหมายที่หมั่นโถวพูด

 

“คุณหนูเสิ่นคงยังไม่รู้ ไม่เป็นไรฉันจะบอกให้ก็ได้ว่า หากคุณพูดคำหยาบกับผู้บังคับบัญชาของคุณ หรือแม้แต่พยายามจะทำร้ายผู้บังคับบัญชา คุณจะต้องถูกลงโทษตามระเบียบของกองทัพ หรือคุณหนูเสิ่นต้องการกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจใหม่ก็ได้นะ ?”

 

ภาพลักษณ์ของหมั่นโถวในสายตาของเซี่ยฉิงกงยิ่งดีขึ้นกว่าเดิมอีก

 

สีหน้าของเสิ่นหรงเจียแลดูตื่นตระหนก แต่แล้วเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนองบางทีคนตรงหน้าเธออาจเพียงพูดข่มขู่เท่านั้นก็เป็นได้ ? คนใช้อะไรจะมียศพันเอก ? ล้อเล่นน่า ?

 

หลังจากคิดได้เช่นนี้ เสิ่นหรงเจียก็หัวเราะเยาะ เธอพูดเยาะเย้ย

 

“คิดจะหลอกคน ก็ควรแต่งเรื่องมาดี ๆ ให้น่าเชื่อถือหน่อย กล้าที่จะหลอกว่าเป็นนายพัน หรือนายพล เธอรู้มั้ยว่า ฉันสามารถสั่งจับเธอไปขังคุกตอนนี้ได้เลยนะ”

 

“เอาสิ จับเลย”

 

ฉิงกงกล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

 

หากเสิ่นหรงเจียยังพอมีสมองอยู่บ้าง เธอจะต้องฉุกใจคิดได้ แต่หากไม่ และเธอยังคิดจะจับหมั่นโถวอีก ตามระเบียบวินัยของทหาร เสิ่นหรงเจียจะต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจอีกสองปี

 

“เซี่ยฉิงกง อย่าทระนงตนให้มากไปนัก เธอยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลมู่ อย่าคิดว่าหรงหรงไม่กล้าทำอะไรเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกน้องของเธอ เธอก็ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย”

 

ฉีเหยียนเอ๋อพูดด้วยความโกรธ

 

หมั่นโถวยื่นสองมือไปข้างหน้า พลางยักไหล่ เธอมองเสิ่นหรงเจียด้วยนัยน์ตากลมโตไร้เดียงสา

 

“มาจับฉันสิ ฉันสัญญาว่าจะไม่ขัดขืนเลย”

 

เสิ่นหรงเจียยังรู้สึกเป็นกังวล เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าแล้วโทรกลับไปที่สำนักสันติบาล

 

“นี่ ฉันเองนะ เสิ่นหรงเจีย ส่งคนของเรามาที่อาคาร ฮุ่ยเหลียน มีตำรวจถูกทำร้ายร่างกาย !”

 

ทันทีที่คนของสำนักสันติบาลได้ยินคำสั่งของรองผู้กำกับ เขาก็รีบส่งตำรวจกลุ่มหนึ่งเร่งรุดมาที่อาคารฮุ่ยเหลียนในทันที

 

“หมั่นโถว ชุดนี้ก็สวยนะ ฉันซื้อให้ แล้วก็มีกระโปรงสั้นสีเหลืองตรงนั้นด้วย ไปลองดูสิ”

 

“ได้ค่ะ นายหญิงน้อย”

 

ฉีเหยียนเอ๋อ และเสิ่นหรงเจียไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าอีกต่อไป ทว่าเซี่ยฉิงกงกับหมั่นโถวกลับยังลองเสื้อผ้าในร้านทีละชุดอย่างอารมณ์ดี

 

เมื่อทั้งสองเข้าใกล้กัน หมั่นโถวก็กระซิบว่า

 

“นายหญิงน้อย พอตำรวจมาคุณก็ปล่อยให้พวกเขาจับตัวฉันไปนะ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ไว้ฉันถูกจับตัวไปแล้ว คุณค่อยโทรหานายน้อย”

 

เซี่ยฉิงกงลังเล

 

“แล้วถ้าเสิ่นหรงเจียทำร้ายเธอหลังจากพาเธอไปแล้วล่ะ ที่สำนักสันติบาลนั่นก็มีแต่คนของเขา”

 

“ไม่ต้องห่วง ใครจะรังแกฉันได้ ตำรวจพวกนั้นก็เป็นแค่ข้าราชการธรรมดา ๆ ไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษ ฉันสามารถเอาชนะได้สบาย ๆ “

 

“เยี่ยมมาก”

 

พนักงานแนะนำสินค้าไม่กล้าแทรกแซงการทะเลาะเบาะแว้งครั้งนี้ ทั้งยังไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้สักคำด้วย  …

 

ประโยคที่ฉีเหยียนเอ๋อพูดโดยไม่ตั้งใจว่า ‘เธอยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลมู่’ ดึงดูดความสนใจของ พนักงานแนะนำสินค้าสาว หรือเป็นได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าว ประธานบริษัท..มู่เฉินฮ่าว ?

 

อย่างที่รู้กันว่า อาคารฮุ่ยเหลียนทั้งหมดเป็นสมบัติของตระกูลมู่ และเธอก็ทำงานให้กับตระกูลมู่ด้วย

 

เมื่อคิดได้ว่า เธอเพิ่งแสดงท่าดีไม่ดีใส่ว่าที่นายหญิงน้อยของตระกูลมู่  พนักงานแนะนำสินค้าก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที …

 

เธอกลัวว่าจะไม่สามารถทำงานนี้ได้อีกต่อไป

 

เซี่ยฉิงกงและหมั่นโถวลองเสื้อผ้ากันอย่างสนุกสนาน และเซี่ยฉิงกงก็ซื้อเสื้อผ้าให้หมั่นโถวถึงห้าชุดในครั้งเดียว

 

ยี่สิบนาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแปดนายก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูร้านค้าแบรนด์หรู Zzelat บนชั้น 5 ของอาคารฮุ่ยเหลียน

 

“รองผู้กำกับเสิ่น คนร้ายอยู่ที่ไหนครับ ?” หัวหน้าชุดเอ่ยถาม

 

“เธอคนนั้นไง เมื่อคืนนี้เธอไปที่สถานีตำรวจ แล้วก็ทำร้ายฉัน จับเธอกลับไปที่สถานีเรา !”

 

ครั้นเสิ่นหรงเจียเห็นคนมา เธอก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาทันที

 

***จบตอน คนใช้อะไรจะมียศพันเอก ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset