แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 103 นินทาท่านประธาน

“หืม แต่วันนี้งานในบริษัทของคุณไม่ยุ่งหรือ ? แค่ให้อาเจิ้งมารับฉันก็ได้”

 

“งานผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอผมที่นั่นแหละ”

 

หลังจากพูดจบ มู่เฉินฮ่าวก็วางสายโดยไม่ให้โอกาสเซี่ยฉิงกงได้พูดอะไรอีก

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกไม่พอใจ เพราะเธอได้ยินเสียงวุ่นวายลอดผ่านเข้ามาในโทรศัพท์ เธอทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย ท่าทางของเธอดูราวกับโดนมู่เฉินฮ่าวกลั่นแกล้ง

 

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบแกล้งเธอเสมอเลย !

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าววางสายโทรศัพท์ เขาก็หยิบเสื้อสูทขึ้นมาสวม และขณะที่กำลังจะก้าวออกจากห้อง เลขาจางเสี่ยวโหรวซึ่งทำหน้าที่บันทึกเนื้อหาการประชุมก็รีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย

 

“คุณชายมู่ นั่นคุณจะออกไปข้างนอกหรือคะ ?”

 

“ใช่”

 

“แต่จะมีการประชุมสำคัญในอีกสิบนาทีข้างหน้านี้แล้วนะคะ”

 

มู่เฉินฮ่าวเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็หยิบกุญแจรถ ผละออกจากห้องทำงาน พร้อมกล่าวว่า

 

“เลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้”

 

“ค่ะ”

 

จางเสี่ยวโหรวมองตามแผ่นหลังของมู่เฉินฮ่าว พลางครุ่นคิด

 

ใครโทรมาหาท่านประธานกันนี่ ? ถึงขนาดทำให้ท่านประธานยกเลิกการประชุมสำคัญในช่วงบ่ายนี้ได้เลยทีเดียว ?

 

จางเสี่ยวโหรวเป็นคนชอบนินทา ดังนั้นทันทีที่มู่เฉินฮ่าวก้าวเท้าออกจากห้องทำงาน เธอก็เริ่มจับกลุ่มซุบซิบนินทากับเพื่อนร่วมงานในบริษัท

 

“นี่ เธอไม่รู้อะไร เมื่อครู่หลังจากที่คุณชายมู่รับสาย เขาก็ยกเลิกการประชุมสำคัญในช่วงบ่าย จากนั้นก็คว้ากุญแจรถผละไปทันที”

 

จางเสี่ยวโหรวกระซิบเบา ๆ กับเพื่อนร่วมงานหญิงของเธอที่โต๊ะ

 

“แล้วไง ? บางทีอาจจะเป็นการนัดพบคู่ค้าทางธุรกิจที่สำคัญกว่าก็เป็นได้”

 

“จะเป็นไปได้ไง ฉันไม่เคยได้ยินท่านประธานรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างนั้นมาก่อนเลย ! ต้องเป็นโทรศัพท์จากผู้หญิงอย่างแน่นอน !”

 

จางเสี่ยวโหรวโต้กลับ

 

“จริงหรือ ? แฟนท่านประธานรึเปล่า ?”

 

มู่เฉินฮ่าวไม่ได้อยู่ในบริษัทแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงกระซิบกระซาบนินทากันอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร

 

“แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวแพร่ออกมาว่าประธานมู่ตกลงหมั้นหมายกับคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ย ก็ตระกูลเซี่ยตกอยู่ในวิกฤติทางธุรกิจมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นก็เลยต้องอาศัยการแต่งงานครั้งนี้เพื่อช่วยพยุงฐานะ”

 

“อี๋ ! ฉันรู้สึกไม่ดีเลย คุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยนั่น ฉันได้ยินมาว่าเธอหายตัวไปตั้งแต่เด็ก ใครจะรู้ เธออาจเป็นคนเสแสร้งมารยาเก่งก็เป็นได้ … ”

 

“ถูกที่สุด เธอไม่คู่ควรกับคุณชายมู่แม้แต่น้อย คุณชายมู่ทั้งหนุ่ม ทั้งหล่อ ฉันทำงานในบริษัทนี้มาสองปีแล้ว ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนสามารถปีนขึ้นเตียงของคุณชายมู่ได้เลย”

 

“นี่เธอ รู้ไว้ซะด้วยว่าผู้หญิงที่สามารถปีนขึ้นเตียงของคุณชายมู่ได้หรือไม่น่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่คนที่สามารถทำให้คุณชายมู่ตกหลุมรักได้ต่างหาก ที่จะกลายเป็นนายหญิงน้อยของตระกูลมู่”

 

สาว ๆ สองสามคนกำลังคุยกันอย่างออกรส ทว่าในขณะที่พวกเธอกำลังหัวเราะ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว

 

“ยังไง ว่างงานมากเกินไปใช่มั้ย ? หรือว่าพวกคุณไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว”

 

อาเจิ้งยืนอยู่ด้านหลังพวกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

 

สาว ๆ สองสามคนที่อยู่ ณ ที่นั้นตื่นตระหนก ในบริษัทนี้ มีใครบ้างที่ไม่รู้จักมู่เจิ้ง ? พวกเธอนึกในใจว่า เวรกรรม… พวกเธอกำลังซุบซิบนินทาเรื่องคุณชายมู่ ทำไมมู่เจิ้งต้องมาได้ยินด้วย …

 

มู่เจิ้งเป็นมือขวาของมู่เฉินฮ่าว เป็นคนที่เชื่อถือได้ ทั้งมีสิทธิที่จะเอ่ยปากได้ทุกเรื่องในบริษัท เขาเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดรองจากมู่เฉินฮ่าว และนายท่านตระกูลมู่

 

“ฉันขอโทษค่ะผู้จัดการ พวกเรารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว”

 

หลายคนกลับไปที่ตำแหน่งของตนโดยเร็วที่สุด ต่างก็เริ่มทำงานโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นอีกเลย

 

“ครั้งหน้า หากผมได้ยินเสียงซุบซิบเกี่ยวกับคุณชายมู่ในเวลาทำงานอีก ก็เชิญขึ้นไปรายงานตัวที่ชั้น 11 ได้เลย”

 

ชั้น 11 ของอาคารนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานฝ่ายบุคคล ของกลุ่มบริษัทตระกูลมู่ ความหมายของการไปรายงานตัวที่ชั้น 11 ก็คือการให้ไปเขียนใบลาออก

 

อาเจิ้งเหลือบมองสาว ๆ อย่างเย็นชา ทว่าก็ไม่ได้คาดคั้นพวกเธอต่อ

 

กระทั่งอาเจิ้งผละจากไปแล้ว แผ่นหลังของพวกสาว ๆ ก็ยังคงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็น พวกเธอต่างก็กลัวกันแทบตาย

 

***จบตอน นินทาท่านประธาน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset