แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 127 พูดแล้วคันไม้คันมือ

“ทำไม ? บอกหนูหน่อยว่าทำไม ?”

 

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกฉิงกง ขอเพียงหนูเป็นอยู่สุขสบายดี แม่ก็มีความสุขแล้ว”

 

เซี่ยฉิวเจินยื่นมือเหี่ยว ๆ ของเธอออกมา เวลานี้มือของเธอทั้งเหี่ยว ทั้งหยาบกร้าน เส้นผมของเธอก็หงอกขาว เพราะที่ผ่านมาเธอต้องตรากตรำทำงานหนัก

 

นิ้วของเธอสั่นระริก แววตาของเธอ ยามที่มองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู

 

เซี่ยฉิงกงระลึกขึ้นได้ทันทีว่า ครั้งแรกที่เธอกลับบ้านสกุลเซี่ยนั้น เซี่ยเจิ้งหัว บังเอิญหลุดปากออกมาว่า เขาต้องการขอบคุณเซี่ยฉิวเจินที่เลี้ยงดูเธอมานานหลายปี ทว่าเซี่ยฉิวเจินปฏิเสธ ทั้งไม่เต็มใจที่จะพบเขา แค่ยินดียอมเข้ารับการรักษาเท่านั้น

 

แท้จริงคืออะไรแน่ ?

 

เซี่ยฉิวเจินไม่เต็มใจที่จะพบคนตระกูลเซี่ยใช่หรือไม่ ? ทำไมเธอไม่อยากพบคนตระกูลเซี่ย ?

 

คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในใจของเซี่ยฉิงกง เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ในเมื่อแม่ไม่ต้องการ หนูก็จะไม่บังคับแม่”

 

“เอาล่ะ ลูกรัก ฝนข้างนอกก็หยุดตกแล้ว หนูรีบกลับบ้านเถอะ แม่ง่วงนอนแล้ว แม่อยากจะนอนสักพัก ฝนหยุดตกแค่ไม่นาน ประเดี๋ยวก็คงเทลงมาใหม่ แล้วหนูก็จะเปียกปอน กลับถึงบ้านก็อาบน้ำร้อนซะนะจะได้ไม่เป็นไข้”

 

“ค่ะ งั้นแม่ก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ”

 

เซี่ยฉิวเจินอาจเหนื่อยเพราะสุขภาพไม่ดี หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น เธอเอนกายลงบนเตียง และหลับตาทันที หลังจากนั้นไม่นาน ลมหายใจของเธอก็เป็นจังหวะราบรื่น

 

ครั้นเห็นว่า เซี่ยฉิวเจินหลับแล้ว เซี่ยฉิงกงก็ห่มผ้าให้เธอ ก่อนจะออกจากห้องพักคนไข้

 

ส่วนหมั่นโถวก็คอยติดตามเซี่ยฉิงกงอย่างรู้งาน

 

ด้านนอกห้องพักคนไข้ สายฝนที่เพิ่งหยุดกลับเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง สายลมเย็น ๆ พัดผ่าน ทำให้เซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสะท้าน เสื้อผ้าที่เธอสวมก็ยังไม่แห้งดี

 

“ฮัดเช้ย”

 

เซี่ยฉิงกงยกมือขึ้นขยี้จมูกตนเอง ในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้ เธอมีแนวโน้มที่จะเป็นหวัดอย่างมาก

 

“นายหญิงน้อย ให้ฉันกลับไปขอร่มจากหมอซูดีมั้ย ? ข้างนอกฝนยังตกอยู่เลย !” หมั่นโถวเอ่ยถามขณะมองเซี่ยฉิงกง

 

แม้ว่าฝนจะตกไม่หนักนัก ทว่าปริมาณน้ำฝนก็หนาแน่นพอควร สมรรถภาพทางกายของหมั่นโถวซึ่งได้รับการฝึกฝนจากกองทัพย่อมไม่สะเทือนกับการตากฝนแค่เพียงครั้งหรือสองครั้ง หากแต่สำหรับเซี่ยฉิงกงแล้ว เธออาจจะล้มป่วยได้

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นว่าฝนตกไม่หนักนัก เธอก็ส่ายหน้า

 

“ช่างเถิด รีบไปที่รถกันก่อนดีกว่า รถจอดอยู่หน้าประตูมิใช่หรือ ? รีบวิ่งขึ้นรถแล้วก็บึ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุดจะดีกว่า”

 

เซี่ยฉิงกงรวบเสื้อของเธอ และกำลังจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปที่รถพร้อมกับหมั่นโถว

 

ทว่าชั่วขณะนั้นเธอก็เห็นร่างที่คุ้นตา สองคนกำลังเดินผ่านประตูเข้ามา

 

ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ ชายหนุ่มถือร่มก้าวผ่านประตูเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาของเขา ไม่ว่าใครได้เห็นก็อาจจะหายใจไม่ออก เขาเกิดมาพร้อมด้วยบุคลิกท่วงท่าของราชาผู้น่าเกรงขาม

 

อาเจิ้งเดินติดตามมาอย่างใกล้ชิดพร้อมด้วยถุงสองใบในมือ

 

แววตาของชายหนุ่มแลดูอ่อนโยน

 

ทั้งสองค่อย ๆ เดินใกล้เข้ามา

 

“ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะ คุณไม่เข้าบริษัทหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงแปลกใจเล็กน้อย

 

มู่เฉินฮ่าววางร่ม จากนั้นก็รับถุงมาจากมือของอาเจิ้ง เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคว้าเอวของเซี่ยฉิงกงพาเดินเข้าไปด้านใน

 

“อะไรกัน นี่คุณคิดจะกลับบ้านทั้งชุดเปียก ๆ นี่น่ะหรือ ?”

 

“ไว้ฉันกลับถึงบ้านแล้วค่อยเปลี่ยนไม่ได้หรือไง ?”

 

“โรงพยาบาลนี้มีห้องส่วนตัวของผม มีห้องน้ำอยู่ด้านใน ไปอาบน้ำร้อนแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกโชกออกก่อนจะดีกว่า”

 

เสียงของชายหนุ่มนุ่มทุ้ม แฝงความอ่อนโยน เขามองเซี่ยฉิงกง แววตาของเขาเต็มไปอายรัศมีที่ไม่อาจต้านทานได้

 

“คุณนี่น่ารำคาญจริง ๆ ”

 

ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกอบอุ่น ทว่าปากของเธอกลับไม่ตรงกับใจ เธอคว้าถุงซึ่งมีเสื้อผ้าสะอาดของเธอมาจากมือของมู่เฉินฮ่าว

 

“รีบไปถอดเสื้อผ้าเปียก ๆ นี่ออกซะ ไม่งั้นผมจะช่วยถอดให้”

 

“กล้าเหรอ ? ฉันจะทุบให้”

 

ใบหูของเซี่ยฉิงกงเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะคำพูดของชายหนุ่ม

 

มู่เฉินฮ่าวคิ้วขมวด “ผมรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาแล้วสิ !”

 

***จบตอน พูดแล้วคันไม้คันมือ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset