“พวกแกมานี่ ไล่เธอไปซะ !”
ใบหน้าของโจวหยุนเซินเต็มไปด้วยความเย็นชา
ผู้คนในชุดดำโอบล้อมพวกเขาทันที
ชั่วขณะนั้น หมั่นโถวและอาเจิ้งก็เตะบอดี้การ์ดเหล่านั้นทีละคน ๆ ส่งผลให้คนเหล่านั้นต้องล่าถอยกลับไปตั้งหลัก
หมั่นโถวปรบมือ พร้อมกับตะคอกอย่างภาคภูมิใจ
“มีฝีมือแค่นี้เองหรือ ? มาเป็นบอดี้การ์ดได้อย่างไรกันเนี่ย ?”
“ฉันเดาว่า มันขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนของใครมากกว่า”
อาเจิ้งหันไปมองหมั่นโถวพร้อมรอยยิ้มขบขัน
ครั้นโจวหยุนเซินเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เขาก็คิดจะชิ่งหนี เซี่ยฉิงกงยกนิ้วขึ้นชี้ทันที
“หมั่นโถวอย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้นะ”
“ได้เลย นายหญิงน้อย”
หมั่นโถวตอบ เธอรีบรวบจับตัวโจวหยุนเซินไว้ทันที เธอขยุ้มเสื้อของโจวหยุนเซินจากด้านหลัง จากนั้นก็ยกขึ้นพาดไหล่ก่อนจะทุ่มลงบนพื้นด้วยท่วงท่าที่แสนสวยงาม
“หนีอีกสิ” เธอเหยียบแผ่นหลังของเขาไว้
“ฉันจะไปดูคุณพ่อของฉันก่อน”
เซี่ยฉิงกงหันกลับมาพูดกับมู่เฉินฮ่าว จากนั้นก็ยกกระโปรงขึ้นรีบวิ่งไปที่ห้องของเซี่ยเจิ้งหัว
ตระกูลเซี่ยในวันนี้ดูเต็มไปด้วยบรรยากาศแปลก ๆ
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงเข้าไปถึงด้านใน เธอก็เห็นเจินเมี่ยวหยูเดินสวนออกมา
เจินเมี่ยวหยูเองก็ตกใจเมื่อเห็นท่าทีของเซี่ยฉิงกง ชามในมือของเจินเมี่ยวหยูตกลงบนพื้นแตกกระจาย
ทำไมเซี่ยฉิงกงถึงมาที่นี่ได้ ?
ไม่มีคนนอกอยู่ในบริเวณนั้น และเซี่ยฉิงกงเองก็ไม่ได้แสร้งทำเป็นสุภาพกับแม่เลี้ยงคนนี้อีกต่อไป เธอไม่เสียเวลาพูดกับเจินเมี่ยวหยู เธอรีบเดินผ่านผู้หญิงคนนั้น เพราะต้องการไปดูอาการของเซี่ยเจิ้งหัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ?
หากแต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกเจินเมี่ยวหยูขวางทางไว้
“เจิ้งหัว..เพิ่งกินยา ตอนนี้เขาหลับไปแล้ว ดังนั้นเธอไม่ควรเข้าไปรบกวนเขา”
“ไปให้พ้นนะ”
เซี่ยฉิงกงมองเจินเมี่ยวหยูอย่างเย็นชา
“นั่นเป็นวิธีที่เธอใช้พูดกับญาติผู้ใหญ่ของเธองั้นหรือ ? เซี่ยฉิงกง เธอนี่สมกับเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอนจริง ๆ”
ปากของเจินเมี่ยวหยูงอเล็กน้อย เธอลงนั่งยอง ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ เก็บเศษกระเบื้องบนพื้น รอยยิ้มสงบบนใบหน้าของเธอกลับคืนมาแล้ว
หากแต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเซี่ยฉิงกงเห็นเจินเมี่ยวหยู เธอก็หวนนึกถึงคลิปเสียงที่มู่เฉินฮ่าวเอามาให้ฟังเมื่อครู่ เธอนึกถึงเสียงครวญครางเร่าร้อนของเจินเมี่ยวหยูที่มีต่อผู้ที่เธอเรียกว่าเจ้านาย รวมทั้งเสียงครางกระเส่าลามกเหล่านั้น
ขนทั่วตัวของเธอลุกชันขึ้นทันที
“ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ก็ไม่มีลูกสิ ? คุณไม่มีสมองรึไง ? หรือว่าคุณเกิดจากกระบอกไม้ไผ่”
ครั้นหมั่นโถวจัดการโจวหยุนเซินเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบส่งตัวโจวหยุนเซินให้กับอาเจิ้ง เธอกังวลว่า เซี่ยฉิงกงเข้าไปในบ้านแล้วจะพบกับอันตราย เธอรู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศในตระกูลเซี่ยผิดปกติ
ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในบ้าน เธอก็ได้ยินคำพูดของเจินเมี่ยวหยู ว่าพูดอะไรน่ะ ตอบก็ไม่ตรงคำถาม
เซี่ยฉิงกงมองเจินเมี่ยวหยู แม้ว่ามุมปากของเจินเมี่ยวหยูจะยกยิ้ม แต่หากสังเกตอย่างรอบคอบก็จะพบว่ากล้ามเนื้อของเธอสั่น
เธอกำลังตื่นตระหนกใช่หรือไม่ ? เธอกำลังคิดจะทำอะไร ?
“หมั่นโถว อย่าเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับเธอเลย”
เซี่ยฉิงกงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยเจิ้งหัวที่อยู่ในห้องบ้าง และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวล
หมั่นโถวเข้าใจความหมายของเซี่ยฉิงกงทันที เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อกันตัวเจินเมี่ยวหยู่ออกมา หากแต่ไม่คาดคิดว่าเจินเมี่ยวหยูกลับรีบยื่นมือออกมาดึงตัวเซี่ยฉิงกง พร้อมกันนั้นก็ใช้เศษชามที่แตกในมือของเธอกดเข้ากับหลอดเลือดแดงบริเวณลำคอของเซี่ยฉิงกง
“อย่าเข้ามานะ”
เจินเมี่ยวหยูได้เห็นทักษะของหมั่นโถวมาแล้ว ดังนั้นนับแต่วินาทีที่เธอเห็น เซี่ยฉิงกงเมื่อครู่ เจินเมี่ยวหยูก็รู้แล้วว่าถ้าวันนี้เธอต้องการหนีไปจากที่นี่ เธอจำเป็นที่จะต้องอาศัยโอกาสสุดท้ายนี้เท่านั้น
หมั่นโถวตื่นตระหนก เธอยืนนิ่งไม่รู้จะทำอย่างไร
“ปล่อยนายหญิงน้อยเถอะ”
ชั่วขณะนั้นมู่เฉินฮ่าว และอาเจิ้งก็ตามเข้ามาสมทบ
เจินเมี่ยวหยูยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเซี่ยฉิงกง แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความโหดร้าย
“มู่เฉินฮ่าว คุณต้องการให้คู่หมั้นของคุณมีชีวิตรอดมั้ย ?”
“คุณรู้ดีว่าผมต้องการอะไร ? และไม่ต้องการอะไร ?”
มู่เฉินฮ่าวยกมือขึ้นช้า ๆ แหวนหัวมังกรส่องประกายภายใต้แสงแดดอันแรงกล้า
เซี่ยฉิงกงส่ายหน้าให้มู่เฉินฮ่าวทันที มู่เฉินฮ่าวขมวดคิ้ว ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอามือลง
***จบตอน ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่***