แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 145 และแล้วก็ถึงที่หมาย

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 145 และแล้วก็ถึงที่หมาย

“อย่ามัวพูดเรื่องไร้สาระอยู่เลย บอกให้ไปก็ไปเถอะ”

คุณหนูเซี่ยชิงฉวนเกิดฉุนขึ้นมาอีกครั้ง เธอจําได้แม่นยําว่าชายคนนั้นสั่งเธอไว้ว่า ห้ามเธอบอกอะไรไม่ว่ากับใคร คนขับรถถามคําถามนี้ขึ้นมาทําให้เธอรู้สึกรําคาญมาก

คนขับรถหุบปากทันทีทั้งที่เขาถามอย่างมีน้ําใจ

เท่าที่เขารู้ เลขที่ 48 ถนนจุนชิงเคยเป็นไนท์คลับเขาเคยผ่านตอนไปส่งลูกค้า และถูกสาว ๆ เรียกเชิญชวน

 

ทว่าสาวน้อยคนนี้ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงที่นั่น …

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ คนขับรถก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้เขามองเซี่ยชิงฉวนด้วยความเห็นใจ เด็กสาวที่น่ารักคนนี้ เธอคงจะ ….

รถแท็กซี่เริ่มเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆและขับไปตามทิศทางของถนนจุนชิง

 

ระหว่างทาง คนขับรถไม่รู้ว่าต้องตอบคําถามของเซี่ยชิงฉวนกี่ครั้งต่อกี่ครั้งกับคําถามที่ว่า “อีกนานมั้ย ?? หากเขาไม่ ใช่คนขับรถระดับมืออาชีพเขาก็คงจะหยุดรถ และเชิญเธอลงจากรถไปนานแล้ว

สามสิบนาทีต่อมา เขาก็หยุดรถลงที่เลขที่ 48 ถนนจุนชิง

 

คนขับรถเหลือบมองมิเตอร์ ก่อนจะกล่าวอย่างสุภาพว่า

“คุณหนู ค่าโดยสารทั้งหมด 54 หยวน คุณจะจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรดีครับ ?”

เซี่ยชิงฉวนหยิบบัตรเครดิตของเธอออกจากกระเป๋าสตางค์ พลางกล่าวว่า

 

“บัตรเครดิต

คนขับรถรับบัตรเครดิตไปด้วยสีหน้างง ๆ เขายกมือขึ้นลูบศีรษะ

ตนเอง

 

” คุณ นี่..คุณล้อผมเล่นใช่ไหม ! คุณใช้บัตรเครดิตได้ไง ?”

 

เซี่ยชิงฉวนกล่าวด้วยความโกรธ

“ก็นายไม่ได้ถามฉันหรือว่าใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต ฉันก็ใช้บัตรเครดิตไง ไม่ได้งั้นหรือ ?”

 

“ผมกําลังพูดถึงบัตรขนส่งมวลชนครับ คุณหนู !”

 

คนขับรถมืออาชีพกล่าวอย่างสุภาพ

อยากได้เงินนักใช่มั้ย ? เธอหยิบเงินอีกหนึ่งร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋าสตางค์ จากนั้นก็โยนไปให้เขา

 

“เอ้าน..ไม่ต้องทอน”

เซี่ยชิงฉวนมีนิสัยไม่ชอบใช้เงินสด ที่เธอพกเงินสดไว้ในกระเป๋าก็เพียงเพราะเงินเมี่ยวหยูบอกให้เธอนําติดตัวมาด้วยเผื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่ไม่คาดฝัน

หลังจากพูดจบ เธอก็ก้าวลงจากรถ จากนั้นก็ปิดประตูดังปัง

คนขับส่ายหน้าอย่างระอา

“ผู้หญิงสมัยนี้มีเงินแล้วทําตัวไร้มารยาทแบบนี้เรอะ ? ฉันจะรอดูสิว่าผ่านไปอีกสักสองสามปี เธอยังจะกล้าโยน 100 หยวนใส่หน้าฉันแบบนี้มั้ย!ในเมื่อมันเป็นเงินที่แลกมาจากเรือนร่างตนเอง ยังจะมีดีอะไรนักหนาเล่านี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูร่ํารวยมาจาก ไหนรึไง ?”

 

หลังจากบ่นจบแล้ว คนขับรถก็พุ่งรถออกไปด้วยความรวดเร็วควันเสียจากรถพ่นใส่กระโปรงสีขาวของเซี่ยชิงฉวนราวกับแกล้งทําให้เซี่ยชิงฉวนกระทืบเท้าเรา ๆ ด้วยความโกรธ

ดวงอาทิตย์กําลังแผดแสงจ้า เซี่ยชิงฉวนยกมือขึ้นบังแสงจากดวงอาทิตย์เมื่อนั้นเธอจึงสามารถมองเห็นบ้านเลขที่หลายหลังได้อย่างชัดเจนจากริมถนน

แล้วเลขที่ 48 อยู่ที่ไหน ?

ที่สุดหลังจากเดินไปได้ 100 กว่าเมตร เธอก็เห็นบ้านเลขที่ 48

 

มีป้ายขนาดใหญ่บนเลขที่ 48 ไนท์คลับวิซาร์ดออฟออซ” ทว่าป้ายดังกล่าวแตกหักไปแล้ว แม้แต่ไฟก็น่าที่จะเปิดไม่ได้

 

เป็นดังที่คนขับได้กล่าวไว้ สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานแล้ว “กําลังรอการรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

สถานที่ที่ชายคนนั้นบอก เขาอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ ?

เซี่ยชิงฉวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเธอโทรหาคน ๆ นั้นอีกครั้ง ตั้งแต่ได้รับยาในงานเลี้ยงวันคล้ายวัน เกิดของเซี่ยเจิ้งหัวกระทั่งถึงตอนนี้ร่างกายของเธอก็ยังไม่ฟื้นตัว เพราะฤทธิ์ยาที่เธอได้รับนั้นรุนแรงมาก

นอกจากนี้เธอกําลังตั้งครรภ์ ร่างกายเธอจึงอ่อนแอมากและนั่นทําให้เธอรู้สึกเหนื่อยมากในขณะนี้

 

ครั้งนี้ปลายสายรับสายอย่างรวดเร็ว

 

” มาถึงแล้วรึ ?”

าะมากก

ไม่ต่างจากครั้งแรก น้ําเสียงของเขาอ่อนโยน และไพเราะมาก กระทั่งทําให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้ม

 

“ฉันมาถึงแล้ว แต่ประตูบ้านเลขที่ 48 ปิด ฉันจะเข้าไปพบคุณได้อย่างไร ?”

 

บนห้องใต้หลังคาของไนท์คลับ ผ้าม่านผืนเล็ก ๆ คู่หนึ่งแง้มออกน้อย ๆ

 

” จากตําแหน่งปัจจุบันของคุณเดินไปทางซ้าย 50 เมตรจากนั้นเลี้ยวขวาจะมีประตูเล็ก ๆ เปิดอยู่ เดินผ่านประตูเล็ก ๆ นั่นเข้ามาผมอยู่ในห้องที่สามบนชั้นสี่อย่าเข้าผิดห้องล่ะ มีชื่อของคุณติดอยู่หน้าห้อง…”

ชายคนนั้นวางสายหลังจากพูดจบ

เซี่ยชิงฉวนรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย แต่เธอก็ไม่มัวคิดมากแม่ของเธอขอให้เธอมาพบชายคนนี้ นั่นย่อมหมายความว่าเขาจะต้องช่วยเธอได้อย่างแน่นอนดังนั้นเธอจึงทําตามคําสั่งของชายคนนั้นที่ละขั้นตอน

 

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset