แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 32 เฉินเหวินกังตายแล้ว

คนรับใช้สกุลมู่คุณภาพสูงมากขนาดนี้เลยเหรอ ? พวกเขาดูดีมาก ทั้งยังทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเหมือนตนเองสง่างามราวกับไข่มุกที่กลิ้งอยู่บนจานหยก ทั้งผ่อนคลาย สบายและราบรื่น

 

เพียงไม่ช้าสาวใช้ก็นำชุดกระโปรงผ้าไหมมาให้เซี่ยฉิงกง ตระกูลเซี่ยได้ส่งเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อเซี่ยฉิงกงโดยเฉพาะจำนวนหลายชุดมาไว้ที่นี่แล้ว

 

หลังจากที่เซี่ยฉิงกงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก หากแต่เธอกลับไม่เห็นมู่เฉินฮ่าวเลย ทำไมเขาถึงหายตัวไปทันทีหลังจากพาเธอมาที่นี่ ?

 

เธอยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะถามเขา !

 

เซี่ยฉิงกงไม่มีทางเลือก เธอจึงไปถามเอากับอาเจิ้ง เพราะยังมีอะไรหลายอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจ เซี่ยฉิงกงยังไม่กระจ่างอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเฉินเหวินกัง

 

เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่เห็น

 

ตกลงว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ? เป็นแม่เลี้ยงของเธอหรือเปล่า ?

 

“อาเจิ้ง นายน้อยอยู่ที่ไหน !” เซี่ยฉิงกงถาม

 

“ตอนนี้นายน้อย น่าจะอยู่ในห้องหนังสือครับ แต่เดิมวันนี้ บริษัทของท่านมีเรื่องต้องทำมากมาย แต่ช่วงบ่ายคุณถูกลักพาตัว นายน้อยเป็นกังวลมาก ด้วยความรีบร้อน ท่านจึงทิ้งงานการทุกอย่าง เพื่อรีบไปช่วยชีวิตคุณ” อาเจิ้งตอบอย่างนอบน้อม

 

ริมฝีปากของเซี่ยฉิงกงยกโค้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของอาเจิ้ง

 

“โอเค ขอบคุณ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะไปหามู่เฉินฮ่าว หากแต่ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาถามว่า “ว่าแต่อาเจิ้ง เธอชื่ออะไร ? ชื่ออาเจิ้งแค่นี้จริง ๆ เหรอ ?”

 

อาเจิ้ง ยิ้ม “ผมชื่อมู่เจิ้ง แต่ผมไม่ใช่คนตระกูลมู่โดยตรง ผมเป็นเด็กกำพร้า ตอนที่ผมอายุ 10 ขวบ ผมก็ได้พบกับนายท่านของตระกูลมู่ นายท่านมู่พาผมกลับมาที่ตระกูลมู่ และให้ผมใช้แซ่ของท่าน”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้า เธอไม่คิดอะไรมากนัก เธอหันหลังกลับเดินไปหามู่เฉินฮ่าว

 

ครั้นผลักประตูเข้าไป มู่เฉินฮ่าวก็ปิดโน้ตบุ๊คลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาเคร่งขรึม

 

“ไม่มีใครสอนคุณหรือว่า คุณควรต้องเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องผู้อื่น ?”

 

ใบหน้าของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา นัยน์ตาที่เขาจับจ้องมองเซี่ยฉิงกงราวกับนกอินทรี เธอรู้สึกหนาวสันหลังวาบ

 

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้อารมณ์แปรปรวนนักนะ ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกหวั่นเขาอยู่นิด ๆ แต่เธอก็ยังพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า

 

“ถ้าสั่งให้ฉันเคาะประตู แล้วฉันเคาะ ก็เหมือนฉันกลัวคุณล่ะสิ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวผงะไปชั่วขณะ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มักจะหงายไพ่ที่ทำเขาพูดไม่ออกเสมอ

 

สามวินาทีต่อมา

 

“ไปให้พ้น”

 

แล้วริมฝีปากบาง ๆ ของมู่เฉินฮ่าวก็เอ่ยออกมาอย่างดุ ๆ

 

“ก็ได้ ฉันออกไปก็ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขนะ !”

 

เซี่ยฉิงกงพูดพลางก้าวตรงไปที่โซฟาในห้องหนังสือ

 

หลังจากจัดการกับงานสุดท้ายของบริษัทแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็ปิดโน้ตบุ๊ค เขาหันไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยความสนใจ

 

“มีอะไรก็ว่ามา ตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดี บางทีผมอาจจะยอมรับปากคุณ”

 

“ฉันอยากพบเฉินเหวินกัง !”

 

เงื่อนไขของเซี่ยฉิงกงนั้นไม่ผิดจากที่มู่เฉินฮ่าวคาดเดาไว้ในใจ

 

แต่…

 

“คุณไม่มีวันได้พบเขาแล้ว” มู่เฉินฮ่าวกล่าว

 

“ทำไม ?”

 

“เพราะเขาตายแล้ว”

 

เซี่ยฉิงกงตกใจแค่วันเดียวเอง ทำไมเฉินเหวินกังถึงตายได้

 

“ทำไมเขาถึงตายได้ล่ะ ? บ้าไปแล้ว มู่เฉินฮ่าว นี่คุณคงไม่ได้ส่งอาเจิ้งไปฆ่าเขาใช่มั้ย ? ในประเทศนี้ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิตนะ คุณผลักอาเจิ้งไปลงนรกได้อย่างไร ?”

 

มู่เฉินฮ่าวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาทั้งไม่รู้จะหัวเราะ หรือร้องไห้ให้กับผู้หญิงตรงหน้าเขาดี ?

 

เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ …

 

บางครั้งก็ฉลาดเป็นกรดจนมู่เฉินฮ่าวรู้สึกทึ่ง

 

แต่บางครา … ก็ดูเหมือนว่าเธอสมองค้างจำเป็นต้องรีสตาร์ทใหม่

 

“คุณยังไม่คู่ควรกับการส่งคนสนิทของผมไปลงนรกเพื่อคุณหรอก”

 

นัยน์ตาของมู่เฉินฮ่าวเผยให้เห็นประกายอันตราย ดวงตาของเขากึ่งเล่นกึ่งจริง

 

“เขาตายที่ไหน ? เมื่อตอนบ่ายเป็นคุณที่พาเขาไป  ? แล้วคุณพาเขาไปพบใคร ?”

 

***จบตอน เฉินเหวินกังตายแล้ว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset