แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 57 ต้องกินสปาร์เก็ตตี้ให้หมดนะ

ชั่วขณะนั้น บรรยากาศที่กำลังคุกรุ่นก็ถูกทำลายลง มู่เฉินฮ่าวมองเซี่ยฉิงกงอย่างหมดหวัง

 

“เธอนี่ช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำลายบรรยากาศเสียจริง ๆ”

 

“คุณนั่นแหละที่ทำลายบรรยากาศ เอาอุ้งเท้าของคุณออกไปจากตัวฉันนะ”

 

เซี่ยฉิงกงแสดงท่าทางหงุดหงิด ทำไมชายตรงหน้าเธอจึงชอบลวนลามทุกครั้งทุกคราที่มีโอกาส ?

 

“ถ้าผมไม่ขยับออกล่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวไม่มีแผนจะเอาอุ้งเท้าของเขาออก มือใหญ่ ๆ ยังคงไต่ไล่ไปรอบ ๆ ร่างของเซี่ยฉิงกง

 

“ปล่อยนะ คนไร้ยางอาย ! นี่คุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครอื่นนอกจากเรา ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นรักฉันนักหรอก !”

 

ใบหน้าสวย ๆ ของเธอดูเหมือนคนกำลังจะหมดความอดทน อาจเป็นเพราะเรื่องของเซี่ยชิงฉวนในวันนี้ ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด

 

แววตาที่อ่อนโยนแต่เดิมของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนไป มือใหญ่โอบรอบเอวของเธอแน่น เขากอดเซี่ยฉิงกงไว้ในอ้อมแขนแนบแน่นยิ่งขึ้น

 

เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ

 

แววตาของมู่เฉินฮ่าวเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงสั่นสะท้านเมื่อสบตาเขา

 

เขาขมวดคิ้วแน่น นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

 

“พูดอีกครั้งสิ !”

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อย หากแต่เธอก็ยังคงดื้อดึง

 

“ฉันบอกว่า ให้คุณปล่อยฉัน”

 

ชั่วขณะนั้นเธอรู้สึกเหมือนตัวเบาหวิว เซี่ยฉิงกงถูกยกเอวอุ้มขึ้นไม่ต่างจากเด็กน้อย ความรู้สึกไร้น้ำหนักนี้ทำให้เธอกรีดร้องเบา ๆ มือของเธอพลันกอดคอของมู่เฉินฮ่าวโดยไม่รู้ตัว

 

เซี่ยฉิงกงอ้าปากจะพูดบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นจึงสบเข้ากับนัยน์ตาสีเข้มของมู่เฉินฮ่าว ส่งผลให้เธอลืมไปชั่วขณะว่าเธอต้องการจะพูดอะไร

 

“ฮืออออออออ”

 

เสียงร้องไห้

 

เซี่ยฉิงกงกำลังร้องไห้

 

นัยน์ตาของเธอหรี่ลงทั้งที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ซึ่งนั่นทำให้มู่เฉินฮ่าวยอมรามือในทันที

 

ครั้นเห็นใบหน้าที่มีเลือดฝาดของเธอ ซึ่งยามนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา มู่เฉินฮ่าวก็ยอมวางเธอลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ

 

“เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย นายหญิงน้อยของผม เอาเป็นว่าผมทำผิดไป แต่คุณก็ไม่ควรเลย ?”

 

เซี่ยฉิงกงพูดสะอึกสะอื้น

 

“คุณหมายความว่ายังไง ? ฉันทำอะไรผิด ? คุณต่างหากเป็นคนผิด ต่อไปอย่าแตะต้องตัวฉันโดยที่ฉันไม่ยินยอมอีกนะ”

 

“ได้ ได้ ผมจะไม่แตะต้องคุณอีก”

 

มู่เฉินฮ่าวไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกทุกข์ใจ เมื่อได้เห็นน้ำตาของผู้หญิงตรงหน้าเขา

 

เขารู้สึกราวกับว่าก้อนน้ำแข็ง ที่เคยอยู่ในใจของเขาละลายหายไป ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้เลย

 

เซี่ยฉิงกงยังคงสะอื้นเบา ๆ นัยน์ตาฉลาดเฉลียวของเธอมองไปที่มู่เฉินฮ่าว

 

มู่เฉินฮ่าวกุมหน้าผาก

 

“ทำไมคุณยังร้องไห้ไม่หยุดอีก ผมก็ปล่อยคุณแล้วนี่”

 

“คุณไม่อยากกินสปาเก็ตตี้แล้วเหรอ ? ฉันอุตส่าห์ทำให้กินแล้วก็ไม่กิน เห็นไหมเย็นชืดหมดแล้ว”

 

เซี่ยฉิงกงชี้ไปที่สปาเก็ตตี้ข้างเตาแก๊ส

 

“กินสิ ใครบอกว่าจะไม่กินล่ะ”

 

เซี่ยฉิงกงลุกขึ้นหยิบตะเกียบอีกครั้งแล้วตักสปาเก็ตตี้ทั้งหมดในหม้อใส่จานสองใบ ใบใหญ่หนึ่ง ใบเล็กหนึ่ง

 

จานใบเล็กเป็นของเธอ ส่วนใบใหญ่สำหรับมู่เฉินฮ่าว และใบใหญ่นั้นใหญ่มากเป็นพิเศษ และมีสปาเก็ตตี้เต็มแทบล้นชาม

 

“เอาล่ะ ฉันไม่สนใจเรื่องเมื่อกี้ก็ได้ แต่คุณต้องกินให้หมดนะ”

 

เซี่ยฉิงกงผลักจานไปต่อหน้ามู่เฉินฮ่าว พร้อมกับพูดอย่างไม่เกรงใจ

 

มู่เฉินฮ่าวเลิกคิ้วหยิบตะเกียบขึ้นมา และเริ่มกินโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

เซี่ยฉิงกงนั่งเท้าคางอยู่ข้าง ๆ มองดูมู่เฉินฮ่าวกินสปาเก็ตตี้ในจาน น้ำตาที่มุมตาของเธอค่อย ๆ แห้งเหือดไป บางครั้งเธอก็คีบสปาเก็ตตี้หนึ่งหรือสองเส้นเข้าปาก

 

เซี่ยฉิงกงจ้องมองด้วยความประหลาดใจ มู่เฉินฮ่าวกินสปาเก็ตตี้จนหมดจริง ๆ และรูปลักษณ์ของเขาก็ยังดูสง่างามมาก

 

นั่นมันสปาเก็ตตี้ทั้งกิโลเลยนะ…

 

***จบตอน ต้องกินสปาร์เก็ตตี้ให้หมดนะ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset