แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 61 พอได้แล้ว

“พอได้แล้ว”

 

เสียงทุ้มเย็นชา ทว่าดึงดูดทุกคนได้ดังขึ้น

 

ซิงเหวินจิ้งรู้ทันทีว่าลูกชายของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว หากแต่วันนี้เธอต้องการทำให้เซี่ยฉิงกงอับอายต่อหน้าฉีเหยียนเอ๋อ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดจะรามือ

 

ในความคิดของเธอ ฉีเหยียนเอ๋อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นลูกสะใภ้ ทั้งในภายหน้าก็ยังจะสามารถช่วยตระกูลมู่ขยายธุรกิจในต่างประเทศได้อีกด้วย

 

“หมั่นโถว หยุดคุณแม่ไว้”

 

ครั้นเห็นซิงเหวินจิ้งยังไม่หยุด มู่เฉินฮ่าวก็พึมพำออกมาอีกครั้ง

 

หมั่นโถวรออยู่ที่ประตูนานแล้ว เพราะมู่เฉินฮ่าวมีคำสั่งให้เธอปกป้องความปลอดภัยของเซี่ยฉิงกงเป็นการส่วนตัว เช่นนั้นหากไม่มีคำสั่งของเขา เธอก็ไม่สามารถถอยไปไหนได้แม้ครึ่งก้าว

 

เธอกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นคุณนายเงื้อมือขึ้นหมายจะตบหน้าเซี่ยฉิงกง เธออยากจะพุ่งเข้าไปห้าม หากแต่ก็ต้องชะงักงัน เพราะสถานะของเธอนั้นต่ำต้อย

 

ทว่าตอนนี้หลังจากได้รับคำสั่งของมู่เฉินฮ่าว ร่างเล็ก ๆ และงดงามของหมั่นโถวก็วิ่งปราดออกมายืนขวางหน้าเซี่ยฉิงกง

 

“หมั่นโถว หลบไปซะ”

 

“คุณนาย นายน้อยประสงค์ให้ฉันห้ามคุณ”

 

หมั่นโถวยังคงยืนขวางอยู่หน้า เซี่ยฉิงกง เธอไม่มีทีท่าหวาดกลัว หากแต่ก็ไม่ได้ถือดี

 

ซิงเหวินจิ้งโกรธมาก มือที่ยกขึ้นสั่นเล็กน้อย

 

“น่าผิดหวังจริง ๆ ตระกูลมู่สงสารเธอ ให้ข้าวให้น้ำเธอ ทั้งช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้ หาไม่เธอคงจะอดตายอยู่ข้างถนน แทนที่เธอจะตอบแทนบุญคุณ กลับทำเช่นนี้กับฉันรึ ?”

 

ครั้นหมั่นโถวได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น แววตาที่เต็มไปด้วยประกายแสงเจิดจ้าของเธอพลันมืดหม่นลง เธอตอบว่า

 

“นายน้อยมู่มอบหมายหน้าที่ให้ฉันดุูแลนายหญิงน้อย ฉันเพียงแต่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายน้อย คุณนายโปรดยกโทษให้ฉันด้วย”

 

“ดี … ดีมาก … เธอมันดีจริง ๆ !”

 

ซิงเหวินจิ้งรู้สึกเป็นกังวล วันนี้แม้แต่สาวใช้ก็ยังกล้าที่จะไม่เชื่อฟังคำพูดของเธอ

 

พลันฝ่ามือของซิงเหวินจิ้งก็ตกกระทบใบหน้าของหมั่นโถว เสียงตบ ‘เพี้ยะ’ ดังอย่างชัดเจน

 

รอยตบปรากฏบนแก้มซ้ายของหมั่นโถว รอยนิ้วปรากฏเห็นอย่างเด่นชัด พลันในหัวของหมั่นโถวก็มีเสียงดังวิ้ง ดวงตาเห็นดาวระยิบระยับ หากแต่เธอก็ยังคงยืนขวางอยู่ตรงหน้าเซี่ยฉิงกงโดยไม่มีทีท่าจะยอมหลีกหลบแต่อย่างใด

 

 

ในความคิดของเธอคำสั่งของนายน้อยคือประกาศิตจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

 

ดูเหมือนซิงเหวินจิ้งจะยังไม่สะใจ เธอเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง หมายจะฟาดใส่แก้มขวาของหมั่นโถว

 

ถึงตอนนี้เซี่ยฉิงกงเริ่มทนไม่ไหวแล้ว จะตีหมาก็ควรต้องเกรงใจเจ้าของบ้าง หมั่นโถวดูแลความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเธออย่างดี และเธอก็ถือว่าหมั่นโถวเป็นคนของเธอ จะปล่อยให้คนอื่นมารังแกแบบนี้ได้ไง ?

 

ในขณะที่ฝ่ามือของซิงเหวินจิ้งกำลังจะฟาดลงมานั้น เซี่ยฉิงกงก็ดึงหมั่นโถวถอยมาด้านหลัง

 

“คุณนายมู่ หากต้องการที่จะตบ คุณก็ควรจะตบฉัน มันน่าจะทำให้คุณพอใจมากกว่า”

 

ซิงเหวินจิ้งทำเสียงฮึ่มฮั่มอย่างเย็นชา มือซ้ายของเธอสั่นเล็กน้อย เพราะตอนที่เธอตบหมั่นโถวเมื่อครู่ เธอลงมือหนักเกินไป มือของเธอจึงเริ่มรู้สึกชา

 

“คุณแม่ น่าที่จะพอได้แล้วนะ”

 

มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับพูดเบา ๆ ใบหน้าของเขายังคงซีด

 

ซิงเหวินจิ้งหันหน้าไปมองลูกชาย พร้อมกับลดมือลง

 

มู่เฉินฮ่าวหลุบตาลงเล็กน้อย เขาก้มศีรษะลง จนทำให้ยากที่จะเห็นการแสดงออกของเขา

 

“พี่เฉินฮ่าว พี่ตื่นแล้วหรือ ? พี่รู้สึกอย่างไรบ้าง ? ยังเจ็บปวดตรงไหนอีกหรือไม่ ?”

 

ครั้นเห็นมู่เฉินฮ่าวกล่าวเช่นนั้น ฉีเหยียนเอ๋อก็รีบหันกลับมาหา เธอรีบเดินไปหามู่เฉินฮ่าว พลางเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเขา

 

มู่เฉินฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเอียงหน้านิด ๆ เพื่อหลบเลี่ยงการกระทำของเธอ

 

มือของฉีเหยียนเอ๋อที่อยู่กลางอากาศนั้นเก้อไปเล็กน้อย หากแต่เธอก็ไม่โกรธ

 

สำหรับเธอแล้ว ท่าทีเช่นนี้ของมู่เฉินฮ่าวเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมู่เฉินฮ่าว ก็เย็นชาต่อเธอมาโดยตลอด

 

เมื่อครั้งที่เธอมีอายุได้เก้าขวบ ในงานเลี้ยงวันเกิดของแม่เธอ เธอได้พบมู่เฉินฮ่าวเป็นครั้งแรก นับแต่วันนั้นเธอก็ตกหลุมรักเขามานานกว่าสิบปี หากแต่เขากลับไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

 

***จบตอน พอได้แล้ว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset