แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 74 ฉันจะไปรับฉีเหยียนเอ๋อเอง

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก …”

 

จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดในห้อง

 

“เข้ามาได้”

 

มู่เฉินฮ่าวคืนกลับสู่ท่าทีเฉยเมยตามปกติ

 

อาเจิ้งผลักประตูเข้ามา ครั้นเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องแลดูผิดปกติ เขาก็ลดศีรษะลง เอ่ยกล่าวว่า

 

“นายน้อย การตายของเฉินเหวินกังมีประเด็นน่ากังขาเล็กน้อย นอกจากนี้คุณผู้ชาย และคุณนายจากบ้านสกุลฉี ยังมาร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลมู่ในค่ำคืนนี้ นายท่านและคุณผู้หญิงจึงโทรมาขอให้คุณกลับไปที่บ้านสกุลมู่สักครั้ง”

 

“เข้าใจแล้ว ไว้ฉันจะโทรกลับไปเอง แล้วจะกลับไปบ้านโน้นตอนหกโมงเย็น”

 

“เอ่อ… แฟ้มการสอบสวนคดีของเฉินเหวินกังยังอยู่ในสำนักสันติบาล เราควรจะไปรับไหมครับ ?”

 

“อย่าเพิ่ง ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง ไปกันเถอะ ไปที่บ้านสกุลฉีกันก่อน ฉันจะไปรับฉีเหยียนเอ๋อเอง”

 

อาเจิ้งเหลือบมองมู่เฉินฮ่าวกับเซี่ยฉิงกงอย่างประหลาดใจ ทำไมวันนี้นายน้อยถึงได้ดูแปลก ๆ หรือเป็นได้ว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน

 

ทว่าเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

 

“นี่ ! มู่เฉินฮ่าว หากคุณไม่ไปรับ ฉันจะไปรับเองนะ!”

 

เซี่ยฉิงกงโกรธเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของมู่เฉินฮ่าว นี่เขาปฏิเสธที่จะช่วยเธอสืบสวนเรื่องนี้แล้วเหรอ ?

 

มู่เฉินฮ่าวเพียงแค่เหลียวหน้ากลับไปมองเซี่ยฉิงกง เขาหยิบเสื้อขึ้นมาสวม จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

 

ห้านาทีต่อมา บูเก็ตติ เวย์รอนสีแดงรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นก็พุ่งออกมาจากโรงรถและแล่นออกจากคฤหาสน์มู่

 

ภายในห้อง เซี่ยฉิงกงเดินไปที่เตียง จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่

 

แววตาของเธอปรากฏร่องรอยปวดร้าวเล็ก ๆ เซี่ยฉิงกงกำลังรู้สึกเสียใจ

 

ครั้งนี้ มู่เฉินฮ่าวน่าที่จะโกรธเธอจริง ๆ

 

หากแต่เธอก็รู้สึกว่า เธอไม่ผิด…

 

ครั้งแรกของผู้หญิงมีความสำคัญมาก เธอจะมอบให้กับชายที่ไม่ได้รักได้อย่างไร ?

 

มู่เฉินฮ่าวทั้งหยิ่งยโส ทั้งอารมณ์แปรปรวน บางครั้งก็อ่อนโยน บางทีก็เย็นชา อีกทั้งบางคราก็ไม่อาจเข้าถึงได้ จนทำให้เซี่ยฉิงกงมองเขาไม่ออก

 

ทำไมนายน้อยของตระกูลมู่คนนี้ถึงยอมทำตามสัญญาการแต่งงานนี้นะ ?

 

อาจเป็นเพราะเขาเคยชินกับการพบปะบรรดาคุณหนูในสังคมไฮโซเลยอยากเปลี่ยนรสชาติมาลองของใหม่ ๆ

 

หมั่นโถวเดินเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เซี่ยฉิงกงได้แต่ส่ายหน้า เธอบอกว่าเธอเหนื่อยและต้องการพักผ่อน

 

หมั่นโถวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากดึงผ้าม่านลงให้เซี่ยฉิงกง เธอเดินออกจากห้องพร้อมกับปิดประตู จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องครัว สั่งให้พ่อครัวทำขนมให้เซี่ยฉิงกง และรอให้เซี่ยฉิงกงตื่นขึ้นมารับประทานอาหาร

 

หมั่นโถวได้ยินมาว่าการกินของหวาน ๆ จะสามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้

 

ในอีกด้านหนึ่ง อาเจิ้งก็กำลังขับรถอีกคันตามมู่เฉินฮ่าวด้วยอาการเหงื่อแตกพลั่ก

 

นายน้อยของเขาขับรถบูกัตติ เวย์รอน เหยียบขึ้นไปถึงสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเขาตามไม่ทันเลยจริง ๆ ยามนี้เขากำลังเป็นห่วงนายน้อยของเขาเป็นอย่างมาก

 

ความเร็วสูงขนาดนี้ อันตรายเกินไป

 

โชคดีที่ทักษะการขับรถของอาเจิ้งนั้นดีมาก เขาจึงพอจะเกาะติดตามรอยของมู่เฉินฮ่าวได้ไม่ห่างนัก

 

ครั้นเห็นบูกัตติ เวย์รอน มาจอดอยู่ที่ประตูสำนักสันติบาล อาเจิ้งก็ยิ้ม เขาได้ข้อสรุปในใจว่า มู่เฉินฮ่าวจะต้องทะเลาะกับเซี่ยฉิงกงแน่ ๆ เมื่อครู่นี้มู่เฉินฮ่าวบอกว่าจะไม่มารับแฟ้มการสอบสวนคดีของเฉินเหวินกัง หากแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม

 

***จบตอน ฉันจะไปรับฉีเหยียนเอ๋อเอง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset