แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 82 ตบอีกสักสองสามนาทีพอมั้ย ?

“3”

 

“2”

 

เสียงของเซี่ยฉิงกงกำลังนับถอยหลัง ยิ่งเสมือนส่งเสิ่นหรงเจียไปสู่ฝันร้าย และสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าก็คือนัยน์ตาพระจันทร์เสี้ยวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั่น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกนัยน์ตาพร่ามัวไปหมด

 

เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้จะไม่ต้องการประนีประนอมใด ๆ กับเซี่ยฉิงกง

 

อย่างไรก็ตาม หากเธอไม่ยอมตามผู้หญิงคนนี้ เธอก็อาจถูกตบอีกจริง ๆ

 

เสิ่นหรงเจียมีลางสังหรณ์ว่าผู้หญิงที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนที่อยู่เบื้องหน้าเธอผู้นี้สามารถทำได้จริง ๆ

 

ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ในสำนักงานจึงเหลือเพียงเธอ และตำรวจชั้นผู้น้อยเว่ยต้าฉี ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทุกวันนี้เขาก็ทำงานเช้าชามเย็นชามเท่านั้น ต่อให้เรียกขึ้นมาก็ไร้ค่า

 

เสิ่นหรงเจียเป็นคนฉลาดพอตัว หลังจากคิดถึงข้อดีข้อเสียแล้ว เธอก็ถามขึ้นว่า

 

“เรามาคุยกัน คุณต้องการข้อมูลของใคร ?”

 

“คนที่ชื่อเฉินเหวินกัง ตระกูลมู่กำลังตรวจสอบเรื่องของเขา คุณน่าที่จะมีบันทึกไว้ อ้อ..รีบหน่อยนะ ความอดทนของฉันมีจำกัด !”

 

เสิ่นหรงเจียตะเกียกตะกายวิ่งไปที่ด้านข้างของโต๊ะทำงาน ขณะที่เซี่ยฉิงกงก็จับจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา

 

เสิ่นหรงเจียกดหมายเลขต่อสายไปที่ชั้นล่างทันที

 

“ฮัลโหล เว่ยต้าฉี นายช่วยตรวจสอบให้หน่อยสิว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีแฟ้มคดีของบุคคลที่ชื่อเฉินเหวินกังหรือไม่ ? คัดลอกเนื้อหาทั้งหมดของคดีนี้มาให้นายหญิงน้อยมู่หน่อย”

 

วีรบุรุษต้องรู้จักถอยเพื่อก้าว หากแต่คำว่า ‘นายหญิงน้อย’ ของเสิ่นหรงเจียก็ยังเจือเสียงกัดฟันติดมาด้วย

 

ในใจของเธอ มีเพียงเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่คู่ควรจะเรียกว่านายหญิงน้อยมู่ได้ !

 

“ได้ครับ”

 

ครั้นเว่ยต้าฉีที่อยู่ชั้นล่างรับสาย เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไหนตอนแรกเสิ่นหรงเจียบอกว่าจะไม่ให้ข้อมูลแก่พวกเธออย่างไรเล่า ทำไมตอนนี้ถึงยอมผ่อนปรนได้ !

 

หากแต่เขาก็ไม่มัวคิดมาก เขาเริ่มค้นหาข้อมูล เนื่องจากมู่เฉินฮ่าวเข้ามารับไฟล์ไปช่วงบ่าย และปรากฏว่าหัวหน้าของเขาก็เพิ่งเอาข้อมูลไปส่งให้มู่เฉินฮ่าวประมาณบ่ายโมงกว่า ส่วนเว่ยต้าฉีเองก็เพิ่งมาทำงานตอนบ่ายสองโมง เขาก็เลยไม่รู้เรื่องนี้

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสำนักสันติบาลจะส่งมอบข้อมูลให้ผู้ใดก็จะมีการจดบันทึกไว้ เว่ยต้าฉีจึงตรวจสอบการส่งมอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกัง  และพบว่าข้อมูลดังกล่าวถูกมู่เฉินฮ่าว นายน้อยของตระกูลมู่รับไปแล้ว

 

ดังนั้น เว่ยต้าฉีจึงรีบโทรไปที่ชั้นบน

 

“ฮัลโหล ท่านรองเสิ่น ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีเฉินเหวินกัง วันนี้ตอนบ่ายนายน้อยของตระกูลมู่มาที่นี่ และรับข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว ทางเราเองก็ไม่ได้บันทึกข้อมูลพวกนั้นเก็บไว้เลยครับ”

 

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เสิ่นหรงเจียยังคงมองเซี่ยฉิงกงด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย

 

เซี่ยฉิงกงเดินไปหยุดยืนหน้าเสิ่นหรงเจียพร้อมรอยยิ้ม เธอมองเสิ่นหรงเจีย พลางถามว่า

 

“ว่าไง ?”

 

“เมื่อช่วงบ่าย นายน้อยมู่มารับข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว”

 

ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกง ทว่าเพียงวูบเดียวก็จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

เซี่ยฉิงกงนึกก่นด่าอยู่ในใจ มู่เฉินฮ่าวคนผีทะเล ไหนว่าจะไม่มารับไงล่ะ ? ทำไมถึงมาที่นี่อีก ? สับปลับจริง ๆ !

 

ภายในไม่กี่วินาที เซี่ยฉิงกงก็นึกด่ามู่เฉินฮ่าวไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

 

แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้มู่เฉินฮ่าวต้องกลับไปบ้านสกุลมู่ เพื่อร่วมงานเลี้ยงกับตระกูลฉี ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหงุดหงิดใจเล็ก ๆ …

 

เซี่ยฉิงกงย่อตัวลงเท้าคาง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปยามมองเสิ่นหรงเจียเธอยิ้ม

 

“เอาล่ะ แปลว่าคุณเอาข้อมูลมาให้ฉันไม่ได้ใช่มั้ย ?”

 

นัยน์ตาเสิ่นหรงเจียเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

“คุณพูดบ้าอะไรน่ะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้ข้อมูลกับคุณ หากแต่คู่หมั้นของคุณเอาข้อมูลทั้งหมดไปแล้วไงล่ะ เราก็เลยไม่มีให้คุณ”

 

“ก็เมื่อครู่ฉันบอกไปแล้วไงให้คุณเลือก ว่าจะมอบข้อมูลให้ฉันดี ๆ หรือว่า… แต่ตอนนี้คุณไม่สามารถเอาข้อมูลมาให้ฉันได้แล้ว …”

 

น้ำเสียงของเซี่ยฉิงกงเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ

 

หมั่นโถวเข้าใจความหมายของเซี่ยฉิงกงทันที เธอกล่าวว่า

 

“นายหญิงน้อย ตบอีกสักสองสามนาทีพอมั้ย ?”

 

***จบตอน ตบอีกสักสองสามนาทีพอมั้ย ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset