ณ ลานคฤหาสน์มู่
เซี่ยฉิงกงและหมั่นโถวกลับมาถึงบ้านแล้ว
“เอ๋ ทำไมวันนี้นายน้อยยังไม่กลับมา นี่ก็เกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผิดปกตินะ กินข้าวก็ไม่น่านานขนาดนี้นี่”
ครั้นหมั่นโถวนำรถไปจอดที่โรงรถใต้ดิน ตำแหน่งของบูกัตติ เวย์รอนก็ยังคงว่างเปล่า ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามู่เฉินฮ่าวยังไม่กลับมา
“ไม่รู้สิ บางทีเขาอาจจะกำลังสนุกอยู่กับฉีเหยียนเอ๋อ จนลืมกลับมาที่นี่ ก็ตอนนี้มีสาวงามอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วนี่”
ครั้นหมั่นโถวได้ยินคำพูดของประชดประชันของเซี่ยฉิงกง เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“นายหญิงน้อย คุณไม่ต้องหึงหรอก นายน้อยไม่ชอบคุณหนูตระกูลฉีนั่นแน่ เพราะเธอหยาบคายเกินไป ..”
“ฉันไม่ได้หึงซะหน่อย ฉันก็แค่หวังว่าเขาจะไม่อยู่บ้าน ฉันจะได้อยู่อย่างสงบ ๆ”
เซี่ยฉิงกงหน้าแดง เธอพูดโดยไม่หันหน้ามา
“เอาล่ะ นายหญิงน้อยอย่าปากแข็งไปหน่อยเลย หากฉันเดาไม่ผิด เมื่อตอนกลางวันคุณทะเลาะกับนายน้อยใช่มั้ย ? เอ่อ… ฉันโทรหาพี่เจิ้งดีกว่า จะได้ถามเขาว่า วันนี้นายน้อยเป็นอย่างไรบ้าง ? แล้วจะกลับมานอนที่นี่มั้ย ? บางทีนายน้อยอาจมาช้าเพราะเหตุผลบางอย่างก็เป็นได้”
หมั่นโถวดึงมือของเซี่ยฉิงกง พลางพูดพร้อมรอยยิ้ม
แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะยังคงปากแข็ง หากแต่เธอก็พยักหน้า
“อืม เราทะเลาะกัน ฉันก็เลยกังวลเรื่องความคืบหน้าล่าสุดของคดีเฉินเหวินกัง ! แต่หากผู้ชายคนนั้นไม่กลับมา ! เราก็ไม่รู้เรื่องความคืบหน้านั่นพอดี”
ที่สำคัญที่สุดก็คือสำเนาข้อมูลของเฉินเหวินกังยังอยู่ในมือของมู่เฉินฮ่าว
เซี่ยฉิงกงยิ่งวิตกกังวลมากเป็นพิเศษ เพราะหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการตรวจสอบให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ
สัญชาตญาณบอกเซี่ยฉิงกงว่าการตายของเฉินเหวินกังไม่ใช่เรื่องธรรมดา
หมั่นโถวกำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาอาเจิ้ง หากแต่ไม่คาดคิดว่าอาเจิ้งจะโทรเข้ามาพอดี
หมั่นโถวยกโทรศัพท์ขึ้นดู เธอจับตัวเซี่ยฉิงกงเขย่าพลางพูดว่า
“นายหญิงน้อย บางทีพวกเขาอาจกำลังกลับมา พี่เจิ้งโทรมาหาฉันพอดีเลย”
หลังจากรับสายแล้ว น้ำเสียงกังวลของอาเจิ้งก็ดังมาจากปลายสาย
“นายหญิงน้อยอยู่บ้านหรือเปล่า? ให้เธอมาที่บ้านสกุลมู่เร็ว ๆ เลย อาจจะมีอะไรผิดปกติกับนายน้อย !”
“เกิดอะไรขึ้น สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
เซี่ยฉิงกงคว้าโทรศัพท์มือถือมาคุยเอง
เนื่องจากหมั่นโถวเปิดลำโพง เพื่อให้เซี่ยฉิงกงสามารถได้ยินชัด ๆ
ทันทีที่อาเจิ้งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น หัวใจของเซี่ยฉิงกงก็เต้นรัว เธอรีบคว้าโทรศัพท์มาจากหมั่นโถว ทุกอย่างเกิดจากปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณล้วน ๆ
“เอ่อ… นายน้อยไปที่สำนักสันติบาล เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกัง จากนั้นก็สั่งให้ผมไปรับเจ้าบ้าน คุณผู้หญิง และคุณหนูฉี หลังจากที่ผมไปรับมาแล้ว นายน้อยก็ให้ผมออกไปตรวจสอบบางเรื่อง ผมเพิ่งกลับมาตอนสี่ทุ่มกว่า ทว่าผมกลับไม่เห็นนายน้อย ผมจึงโทรหานายน้อย แต่นายน้อยก็ไม่รับสาย คุณผู้หญิงบอกผมว่าหลังจบมื้ออาหาร นายน้อยก็รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ดังนั้นคืนนี้จึงจำเป็นต้องนอนพักที่บ้านสกุลมู่ หากแต่ผมกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”
“มีอะไรงั้นเหรอ ?”
“เอ่อ หลังจากที่ผมไปถามคนรับใช้ที่รับใช้พวกเขาในวันนี้ พวกคนรับใช้ต่างก็บอกว่านายน้อยกำลังจะกลับ หากแต่ก่อนที่นายน้อยจะก้าวออกจากประตูบ้าน เขาก็เป็นลม แล้วคุณหนูฉีก็อาสาที่จะดูแลนายน้อย พานายน้อยกลับขึ้นไปบนห้อง … นอกจากนี้ผมยังได้ยินพวกเขาพูดกันว่า ห้องที่คุณหนูฉีพักเป็นห้องเดียวกับที่นายน้อยเคยพักอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ …”
แค่ฟังอาเจิ้งเล่าเรื่องราวทั้งหมด เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกได้กลิ่นคาวทะแม่ง ๆ บางอย่าง มู่เฉินฮ่าวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ทำไมเขาถึงเป็นลมหลังจากรับประทานอาหารได้ล่ะ ?
และที่สำคัญ ต้องเป็นวันที่ครอบครัวของฉีเหยียนเอ๋อมาปรากฏตัวในบ้านสกุลมู่ หนำซ้ำฉีเหยียนเอ๋อยังขอดูแลเขาเองอีก ?
เธอต้องการอะไรกันแน่ ?
เซี่ยฉิงกงวางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็หันกลับมาถามว่า
“หมั่นโถว ขับรถจากที่นี่ไปยังบ้านสกุลมู่ ใช้เวลาเร็วที่สุดแค่ไหน ?”
***จบตอน คุณไม่ต้องหึงหรอก***