แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 84 มู่เฉินฮ่าวถูกวางยา

สิ่งที่เจ้าบ้านมู่พูดนั้นเป็นความจริง มู่จื่อหมิงพูดกับมู่เฉินฮ่าวตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาทำสัญญาการแต่งงานกับตระกูลเซี่ยไว้ตั้งแต่เขายังหนุ่ม ทว่าต้องเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยที่หายตัวไปตั้งแต่เด็กเท่านั้น

 

ในตอนนั้นป้าเซวี่ยรัก และเอ็นดูมู่เฉินฮ่าวมาก และครั้งหนึ่งยังเคยช่วยชีวิตมู่เฉินฮ่าวไว้อีกด้วย

 

ดังนั้นมู่เฉินฮ่าวจึงตกลงใจที่จะไปเยี่ยมบ้านสกุลเซี่ย ก่อนที่จะตัดสินใจว่า จะตกลงตามสัญญาแต่งงานหรือไม่ ?

 

เดิมทีมู่เฉินฮ่าวก็คัดค้านเรื่องนี้อยู่มาก หากแต่หลังจากได้พบเซี่ยฉิงกง เขาก็ติดเนื้อต้องใจในตัวเธอ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นเช่นนี้มาก่อนเลย

 

ผู้หญิงที่สามารถทำให้เขาสำลักจนพูดไม่ออก ทั้งยังกล้าด่าว่าเขาเป็นคนสารเลว

 

เขาเคยเห็นผู้หญิงสวย ๆ มาก็มาก หากถามคนทั้งเมืองนี้ ทุกคนต่างรู้ว่า หากเอาผู้หญิงที่ต้องการปีนขึ้นเตียงมู่เฉินฮ่าวนายน้อยของตระกูลมู่มาต่อคิวรอก็อาจจะยาวจนทะลุไปถึงอวกาศ

 

ดังนั้นมู่เฉินฮ่าวจึงเปลี่ยนใจ แทนที่จะยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับเซี่ยฉิงกง เขากลับเลือกที่จะพาเซี่ยฉิงกงกลับมาที่คฤหาสน์มู่ของเขา

 

บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน ก่อนที่ฉีป๋อหยวนจะพูดขึ้นมาว่า

 

“จื่อหมิง ฉันไม่ได้เล่นหมากล้อมกับนายมานานมากแล้ว วันนี้เรามาเล่นกันสักเกมสองเกมเป็นไร ?”

 

มู่จื่อหมิงพยักหน้า จากนั้นเขากับฉีป๋อหยวนก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารไปที่ห้องหนังสือ

 

อย่างไรก็ตาม คืนนี้ครอบครัวฉีทั้งสามคนก็จะพักอยู่ที่บ้านสกุลมู่

 

“คุณแม่ นี่ก็ดึกมากแล้ว เซี่ยฉิงกงยังคงรอผมอยู่ที่บ้าน ผมต้องขอตัวกลับก่อน”

 

มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างสง่างาม จากนั้นก็ก้าวออกจากห้อง

 

คำพูดของเขาบ่งบอกทัศนคติของเขาอย่างชัดเจน เป็นเขาที่ยอมแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ย ไม่ได้เป็นเพราะการบังคับของมู่จื่อหมิง

 

จางหยูหลานหน้าเสียเล็กน้อย ขณะที่ซิงเหวินจิ้งก็รู้สึกอับอายเช่นกัน หากแต่ฉีเหยียนเอ๋อยังคงจ้องมองมู่เฉินฮ่าวไม่วางตา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรัก

 

“เฉินฮ่าว คืนนี้อย่ากลับเลย”

 

ซิงเหวินจิ้งมองตาเขาพลางขอให้อยู่ต่อ

 

มู่เฉินฮ่าวไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับไปมอง เขากำลังจะก้าวออกจากบ้านสกุลมู่

 

ทว่าก่อนที่เขาจะไปถึงประตู เขาก็รู้สึกมึนหัวราวถูกทุบ

 

“มีอะไรเหรอเฉินฮ่าว ?”

 

ซิงเหวินจิ้งผงะ เธอรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเข้าไปช่วยพยุงมู่เฉินฮ่าว

 

ฉีหยียนเอ๋อแอบใส่ยาบางอย่างให้กับมู่เฉินฮ่าว หากแต่ไม่ได้บอกซิงเหวินจิ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

คนเป็นแม่อย่างไรเสียก็ต้องรักลูกชาย

 

“แม่บุญธรรม พี่เฉินฮ่าวอาจจะเหนื่อยเกินไป และคงจะดื่มหนักเกินไป หนูจะช่วยพาเขากลับไปที่ห้องเอง คืนนี้อย่าให้เขากลับเลย”

 

ฉีเหยียนเอ๋อพูดอย่างน่าเอ็นดู

 

เดิมที ซิงเหวินจิ้งก็หมายจะจับคู่คนทั้งสองอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ให้แนบแน่น เธอจึงพยักหน้า จากนั้นก็ส่งมู่เฉินฮ่าวให้ฉีเหยียนเอ๋อ

 

“ตกลง”

 

เพราะเมื่อสองสามวันก่อน ฉีเหยียนเอ๋อเคยมาพักค้างคืนในบ้านสกุลมู่แล้ว ห้องเดียวกับที่มู่เฉินฮ่าวเคยพักอยู่ด้วย ดังนั้นฉีเหยียนเอ๋อย่อมรู้จักห้องนั้นเป็นอย่างดี

 

“ตกลงให้เหยียนเอ๋อดูแลเฉินฮ่าว นานมากแล้วที่เราสองคนไม่ได้คุยกัน ไปคุยกันที่สนามสักพักดีกว่า”

 

จางหยูหลานเข้าใจความคิดของลูกสาวเธอดี เธอเตรียมที่จะแยกซิงเหวินจิ้งออกมา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่เป็นก้างขวางคอ

 

ฉีเหยียนเอ๋อต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการพามู่เฉินฮ่าวกลับเข้าห้อง

 

มู่เฉินฮ่าวนอนราบลงกับเตียง ขณะที่ฉีเหยียนเอ๋อนั่งลงบนขอบเตียง เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

 

เธอยื่นมือออกมาค่อย ๆ ปัดปอยผมบนหน้าผากของเขา จากนั้นก็ไล่มาที่จมูกโด่งเป็นสัน แล้วเลื่อนนิ้วมาจรดริมฝีปากบาง ๆ ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวน

 

นิ้วของเธอสั่นเล็กน้อย มู่เฉินฮ่าวกำลังจะตื่นขึ้นในอีกสิบนาทีข้างหน้า

 

สำหรับมื้ออาหารค่ำ ฉีเหยียนเอ๋อใช้เงิน 10,000 หยวน ซื้อตัวคนรับใช้ของตระกูลมู่ที่คอยรับใช้ทั้งสองครอบครัวในค่ำคืนนี้ เธอขอให้เขาทาบางอย่างลงบนชาม และตะเกียบของมู่เฉินฮ่าว …

 

และมันคือยาปลุกอารมณ์ที่รุนแรงที่สุด ทว่ายาปลุกอารมณ์ชนิดนี้ค่อนข้างแตกต่างจากยาชนิดอื่น

 

ในช่วงเวลาที่ยาออกฤทธิ์ เขาจะตกอยู่ในอาการสลบไสลไม่ได้สติเป็นเวลาสองชั่วโมง และเมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาก็จะเห็นคนตรงหน้าเป็นคนที่เขาชอบ และจากนั้นก็ …

 

***จบตอน มู่เฉินฮ่าวถูกวางยา***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset