แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 97 ผล็อยหลับในอ้อมแขน

มู่เฉินฮ่าวกอดเซี่ยฉิงกงแนบแน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคลายอ้อมกอดทั้งที่ไม่เต็มใจ

 

หมั่นโถวผู้ซึ่งนั่งเบาะหน้าคู่คนขับ และอาเจิ้งผู้ซึ่งขับรถ ต่างก็นั่งหลังตรง ทั้งคู่ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ทั้งไม่กล้าที่จะเหลือบตามองกระจกหลังด้วยซ้ำ

 

เซี่ยฉิงกงเองก็ทำตัวเหมือนแมวน้อยซุกกายอยู่ในอ้อมแขนของมู่เฉินฮ่าว

 

หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้ว ที่สุดเธอก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของมู่เฉินฮ่าว

 

ครั้นเซียฉิงกงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทั่วทั้งห้อง เซี่ยฉิงกงเผลอยกมือขึ้นตบที่นอนเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว

 

ว่างเปล่า..

 

มู่เฉินฮ่าวหายตัวไปอีกแล้ว

 

เพราะต้องจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ในบริษัท เขาจึงยุ่งมากทุกวัน

 

หากแต่วันนี้เซี่ยฉิงกงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอลุกขึ้นอย่างสดใสร่าเริง

 

เซี่ยฉิงกงตะโกนเรียกเบา ๆ

 

“หมั่นโถว”

 

มีเสียงเคาะประตูสามครั้ง จากนั้นหมั่นโถวก็ผลักประตูเข้ามา

 

“นายหญิงน้อย ตื่นแล้วก็แปรงฟันล้างหน้าเถอะค่ะจะได้ลงไปรับประทานอาหารเช้า”

 

ทุกเช้าหมั่นโถวจะยืนรอเธอที่หน้าประตู แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะไม่คุ้นเคยกับการที่มีคนยืนรอเธอทุกวัน หากแต่เธอก็เคยชินกับการมีหมั่นโถวอยู่เคียงข้าง

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พลางเหลือบมองหมั่นโถว

 

“นี่ หมั่นโถว ทำไมไม่ซื้อเสื้อผ้าดี ๆ ใส่บ้างล่ะ ?”

 

หมั่นโถวยิ้มเอ่ยตอบว่า

 

“ฉันไม่ได้ชอบเสื้อผ้าแบบไหนเป็นพิเศษ นอกจากเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ”

 

เซี่ยฉิงกงอยู่กับหมั่นโถวมาระยะหนึ่งแล้ว เธอพบว่า ยามอยู่บ้านหมั่นโถวจะสวมชุดแม่บ้าน

 

หากแต่เวลาที่ต้องออกไปนอกบ้าน หมั่นโถวก็จะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์

 

เซี่ยฉิงกงไม่เคยเห็นหมั่นโถวสวมใส่กระโปรง

 

จากประสบการณ์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เซี่ยฉิงกงรู้ว่า ปกติแล้วมู่เฉินฮ่าวมักจะกลับบ้านช่วงบ่าย

 

เซี่ยฉิงกงมองใบหน้าอันบอบบางของหมั่นโถวพลางคิดว่า แม่สาวสวยคนนี้จะใส่เสื้อผ้าธรรมดา ๆ เดิม ๆ แบบนี้ทุกวันได้ไง ?

 

หลังจากแปรงฟันล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว เซี่ยฉิงกงก็เดินลงไปชั้นล่างพร้อมกับหมั่นโถว

 

“หมั่นโถว วันนี้ให้ฉันพาเธอออกไปซื้อเสื้อผ้าสักหน่อยจะดีมั้ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงกินอาหารเช้าไปพลาง ก็มองหมั่นโถวไปพลาง

 

นัยน์ตาชุ่มฉ่ำของเซี่ยฉิงกงส่องประกายแวววาว เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

 

เมื่อครั้งที่เธอยังเด็ก เธอชอบเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้า ชอบแต่งหน้าทาตาให้กับตุ๊กตาบาร์บี้ และเมื่อเธอเติบใหญ่ เธอก็ต้องพบเจอปัญหามากมาย ทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ และเรื่องหยุมหยิม ซึ่งนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงไม่มีเวลาสนใจเรื่องแต่งตัวตุ๊กตาอีกเลย

 

หากแต่วันนี้เซี่ยฉิงกงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอจึงคิดจะพาหมั่นโถวไปเดินห้าง

 

“อย่าเลยค่ะ นายหญิงน้อย คุณซื้อเสื้อผ้าสำหรับตัวคุณเองเถอะค่ะ นายน้อยส่งแบล็คการ์ดมาให้ พร้อมกับบอกว่าแบล็คการ์ดนี่สำหรับคุณ”

 

หมั่นโถวยิ้ม เธอปฏิเสธความใจดีของเซี่ยฉิงกง

 

“ไม่ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”

 

เซี่ยฉิงกงกินอาหารเช้าคำสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เธอใช้กระดาษทิชชู่เช็ดริมฝีปาก จากนั้นก็วิ่งออกจากห้องอาหารพร้อมกับดึงหมั่นโถวไปด้วย

 

หมั่นโถวไปรับรถที่โรงจอดรถใต้ดิน หลังจากเซี่ยฉิงกงขึ้นรถแล้ว หมั่นโถวก็ค่อย ๆ ขับรถไปบนทางด่วน ประมาณ 30 นาทีก็มาถึงย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้

 

เซี่ยฉิงกงมองออกไปนอกหน้าต่างรถเงียบ ๆ เธอมองดูสภาพแวดล้อมที่เจริญรุ่งเรืองและแสนวุ่นวาย

 

ตอนที่เธอเรียน เธอเคยทำงานอยู่ในร้านหรูหราภายในศูนย์การค้าฮุ่ยเหลียน

 

เธอได้เห็นแง่มุมที่น่าเกลียดของบรรดาเศรษฐีที่นั่น

 

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสลดอย่างไม่อาจบรรยายได้

 

“นายหญิงน้อย คุณจะไปซื้อของที่ห้างไหนดีคะ ?”

 

หมั่นโถวมองหาโรงจอดรถใต้ดินที่อยู่ใกล้ ๆ ไปตลอดทาง

 

“เอ่อ … ไปที่ศูนย์การค้าฮุ่ยเหลียนก็แล้วกัน”

 

“ค่ะ”

 

ระหว่างทางไปยังที่จอดรถชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าฮุ่ยเหลียน เซี่ยฉิงกงมองเห็นหลากหลายศูนย์การค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่ละแวกนั้น ผ่านไปนานหลายปีทุกอย่างก็ยังคงเดิม หากแต่เป็นเซี่ยฉิงกงที่ชีวิตพลิกผันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว เซี่ยฉิงกงกับหมั่นโถวก็เดินไปขึ้นลิฟต์

 

***จบตอน ผล็อยหลับในอ้อมแขน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset