ศัตรูในโลกเทพเท็จแต่ละคน ค่อยๆหายไปจากฉินหลั่ง เหล่าลูกศิษย์ของวังเทพหิมะ มองฉินหลั่งราวกับเป็นศัตรูตัวฉกาจ ถ้าไม่ใช่ผวากับความเกรงขามของฉินหลั่ง คงรวมพลทหารไปฆ่าเขาตั้งนานแล้ว
สุดท้าย เหลือเพียงนางฟ้าจื่อเถาอยู่ข้างกายเขา
“ทำไมผมรู้สึกเหมือนเป็นโรคติดต่อเลย”
ฉินหลั่งหัวเราะ
“แต่ฉันกลับชอบช่วงเวลานี้มากกว่า ทั้งโลกเป็นศัตรูกับคุณ ทุกคนๆจากไป มีเพียงฉันที่อยู่ข้างกายคุณ ในปฐพีมีเพียงแค่สองเรา ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
นางฟ้าจื่อเถากล่าวเบาๆ
“คุณต้องรู้ไว้นะ ว่าตอนนี้ผู้คนทั้งโลกเทพเท็จเป็นศัตรูของผม อยู่กับผมอันตรายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพียงแค่ผมออกจากประตูสำนักไป ลอบฆ่า ล้อมโจมตี ขโมยข้าวของ รุมต่อสู้ ทั้งหมดจะเกิดขึ้น เทียบกับเมื่อก่อน ผมเป็นคนนอกโลก สำหรับศัตรูนอกโลกแล้ว จะใช้ทุกกลยุทธ์ที่มี” ฉินหลั่งหน้าถอดสี
“ฉันยินดี”
นางฟ้าจื่อเถากล่าวอย่างหนักแน่น
สายตาของเธอ เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว นัยน์ตามีเพียงฉินหลั่งเท่านั้น ราวกับฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย ก็ไม่มีทางสั่นคลอนได้
“โอเค!”
ฉินหลั่งกล้าหาญชาญชัย มองไปบนฟ้ากล่าว “ต่อให้เป็นศัตรูกับทั้งโลกแล้วไง? ผมคนเดียว ฝ่ามือเดียวทำลายปฐพี ทำลายทุกอย่าง! ”
……
เจ้าสำนักไท่กู่่!
เจ้าสำนักไท่กู่่ ผู้แข็งแกร่งอันดับสามของโลกเทพเท็จ
“นักพรตก็ว่าไป ฉินหนานจงทำผิดกับสำนักใหญ่ของฉัน รังแกคนของโลกเทพเท็จ แล้วฉันจะไม่ลงมือได้ไงกัน” เซียนดินเหิ่นอ้าวกล่าว เสียงของเขาราวกับสายฟ้า สั่งสะเทือนไปทั้งตำหนัก
“ไม่เลวเลยๆ ถ้าพวกเราไม่ร่วมมือกัน เกรงว่าจะถูกฉินหนานจงไล่โจมตีแต่ละสำนักได้” เซียนดินท่านหนึ่งของวังอู๋ซ่างกล่าว
เหล่าเซียนพะเน้าพะนอต่างพากันดูแคลน
เซียนดินกว่าร้อยคนรวมตัวกัน แม้แต่สำนักใหญ่ยังจัดการได้ แล้วฉินหลั่งล่ะ? เพียงแค่ไม่เป็นเซียนฟ้า ฉินหลั่งก็ยังเป็นคน สองหมัดรึจะชนะสี่หมัด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากอยู่อีกด้วย
เหล่าเซียนโลกเทพเท็จ ไม่เคยเป็นเหมือนอย่างวันนี้มาก่อน มั่นใจในพลังของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม
“ฉินหนานจง แกไม่คาดคิดล่ะสิ ว่าตัวเองจะปลุกเร้าความแค้นมามากขนาดนี้ พลังของทุกคนในโลกเทพเท็จ กับพลังของคนๆเดียว ไม่เท่าไหร่หรอก” เจ้าสำนักไท่กู่่ดูแคลน เต็มไปด้วยความสะใจ
นักพรตฝูจูนั่งตรงนั้น ดื่มเหล้า เขายิ่งดื่มยิ่งกระปรี้กระเปร่า นั่ยน์ตาเคลิบเคลิ้ม นางฟ้าป๋ายเสียนที่อยู่ข้างๆสีหน้าเด็ดเดี่ยว ราวกับน้ำแข็ง เต็มไปด้วยความอาฆาต
แค้นฝังลึกไม่สามารถอยู่ร่วมฟ้ากันได้อีกแล้ว!
ทุกคนในวังกำลังปรึกษากันอยู่
จู่ๆได้ยินเสียงภูเขาคำรามขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น สนั่นทั่วสารทิศ ราวกับคนนับหมื่นตะโกนพร้อมๆกัน พวกเขาใจสั่น รู้ว่าฉินหนานจงมาถึงแล้ว
ฉินหลั่งมาแล้ว
เขาเหยียบบนมังกรยาวกว่าร้อยเมตร ลอยมาบนฟ้า เกิดเป็นแสงสีขาวยาวทอดอยู่บนฟ้า มากับนางฟ้าจื่อเถา ทางทิศใต้ สุดท้ายก็มาถึงด้านหน้าสำนักไท่กู่่
สำนักไท่กู่่สูงตระหง่าน ยาวกว่าพันเมตร
วังนี้ ลอยอยู่ในอากาศ ราวกับตำหนักเทพโบราณ ตำหนักเทพรวมเข้าด้วยกัน ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน ถูกแสงและหมอกห้อมล้อมไว้ ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ ก็รับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัว
และด้านล่างของตำหนักเทพ เป็นเมืองที่สูงตระหง่านเมืองหนึ่ง เนื้อที่สิบลี้ เทียบกับกว่าเมืองโบราณที่ตระหง่านที่สุด ยังใหญ่กว่าเป็นสิบๆเท่า
เมื่อมังกรปรากฏกาย ดึงดูดคนด้านล่างจำนวนมาก เสียงคลื่นที่ดัง สะเทือนฟ้าดิน ฉินหลั่งไม่สนใจ เงยหน้ามองฟ้า
“ฉินหนานจง มาเข้าเยี่ยมคารวะเจ้าสำนักไท่กู่่!”
ทุกครั้งที่เขาพูดออกมา จะเหมือนเสียงกระหึ่ม ราวกับระเบิด สะเทือนไปทั่วระยะร้อยลี้
คลื่นเสียงที่เหมือนจริง ออกมาจากปากของฉินหลั่ง ระเบิดไปที่สำนักไท่กู่่ ทันใดนั้นวิชาฝูลู่ ค่ายกลปกป้องสำนักไท่กู่่ได้ถูกใช้อย่างรวดเร็ว รวมกันเป็นเมฆหมอก เกิดเป็นเสียงคลื่นขวางไว้ด้านนอก แต่คนที่อยู่ที่พื้นดิน ไม่โชคดีแบบนั้น ผู้ที่อ่อนแอ โดนการสั่นสะเทือนจนหูอื้อ แล้วสลบไป
พื้นดินถึงขั้นแตกออก ราวกับไต้ฝุ่นพัดเคยพัดผ่านเข้ามา
คนจำนวนมากประหลาดใจ
นี่คือความน่ากลัวของฉินหลั่ง! ไม่ได้ใช้วิชาเวทย์ใดๆ เพียงแค่ใช้เสียง สะเทือนปฐพี
เสี้ยวเสี้ยว ยินยิน เหอฉิง ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือ มองขึ้นไป เห็นวัยรุ่นยืนอยู่ที่หัวมังกร สวมชุดสีดำ ด้วยความรู้สึกซับซ้อน
“สหายฉิน กรุณาเข้ามาข้างใน”
เสียงที่เงียบสงบดั่งสายน้ำ ดังสนั่นมาจากตำหนักเทพ เสียงเหมือนน้ำนี้ เข้าไปในโสตประสาทของทุกคน ทำให้การปวดหัวของพวกเขาลดน้อยลง ค่ายกลของสำนักไท่กู่่ เกิดเป็นรอยร้าวขึ้น
เจ้าสำนักไท่กู่่ออกโรงแล้ว
เขาใช้พลังผึ่งผายนี้ ไม่ด้อยไปกว่านักพรตฝูจูสักเท่าไหร่
ฉินหลั่งไม่หวาดกลัวใดๆ พานางฟ้าจื่อเถา เหยียบมังกร ลงไปยังสนามประลองของสำนักไท่กู่่ ในสนามอันกว้างใหญ่ เซียนดินกว่าร้อยคน รวมตัวกัน ผู้ที่อยู่ด้านหน้าสุดสิบคน เป็นดั่งเทพดั่งมาร พลังสะท้านพิภพ
เผชิญหน้ากับกองทัพแบบนี้
นางฟ้าจื่อเถารู้สึกเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลางมือจับที่ที่แขนของฉินหลั่งอย่างแน่น มังกรตกใจหดไปสองเมตร หลบอยู่ในมุมอย่างตัวสั่น
ทุกๆคนมองไปอย่างไม่เชื่อ เหมือนกำลังมองคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น สำหรับฉินหลั่งแล้ว เทพเท็จคือภัยเงียบ
ถ้าเขาเข้าไปในทางสวรรค์ กลับไปไม่กลับมา เหล่าเซียนดินเทพเท็จอาจจะเริ่มล้างแค้น เผชิญหน้ากับระยะพรสวรรค์กว่าร้อยคน เหล่าผู้ยิ่งใหญ่มากมาย ต่อให้เป็นห้าประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกก็ต้านทานไม่อยู่ ดังนั้นฉินหลั่งต้องชนะ ปรามโลกเทพเท็จให้ถึงที่สุด ให้พวกเขาไม่กล้าดูถูกโลกมนุษย์อีก
“ฉินหนานจง ตั้งแต่ฉันเปิดโลกมา ก็เป็นนักพรตโบราณ ก็ยังไม่กล้าพูดให้ปรมาจารย์ เซียนดินทุกๆคนยอมศิโรราบเลย แล้วแกมีอะไรดี กล้ามาถึงที่นี่?”
เจ้าสำนักเชียนเหมิงดูแคลน
เขามีมังกรฟ้าสีทองเก้าตัวห้อมล้อมไว้ ลอยบนฟ้า ราวกับเซียนนั่งมังกรจุติลงมา
“บ้าคลั่งขนาดนี้ ฆ่าเดี๋ยวก็รู้ คิดว่าโลกเทพเท็จไม่มีคนหรอ?” เซียนดินเหิ่นอ้าวดูแคลน มองอย่างเหยียดหยาม “ก็แค่พวกป่าเถื่อนบนโลกมนุษย์คนหนึ่ง แค่มีวิชานิดหน่อย จึงกล้าดูหมิ่นโลกเทพเท็จ? ป่าเถื่อนยังไงก็ป่าเถื่อนอยู่วันยังค่ำ ไม่กลัวฟ้าดินอะไรทั้งนั้น!”
การดูถูกโลกของเขา ออกมาจากจิตใจ ราวกับพื้นที่แห่งนั้น เป็นเพียงที่ๆไร้ประโยชน์
“พวกแกก็มาจากโลกเหมือนกัน พูดถึงบ้านเกิดแบบนี้ดีแล้วหรือไง?” นางฟ้าจื่อเถาโมโหอย่างมาก ออกโรงต่อต้าน
วังเทพหิมะในช่วงหลายปีมานี้ เพราะกำพืด นางฟ้าจื่อเถาจึงถูกเหล่าศิษย์ของวังเทพหิมะจำนวนมากรังแกหยามเหยียด เก็บความโมโหไว้ในใจมานานแสนนาน
“เหอะๆ”
เซียนดินเหิ่นอ้าวขี้เกียจจะคัดค้าน
ในสายตาของเขานางฟ้าจื่อเถา ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่ง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด นี่คือความหยิ่งยโสของเซียนดิน
“แกว่าฉันว่าเป็นคนป่าเถื่อน งั้นก็ดูคนป่าเถื่อนคนนี้ฆ่าแกก็แล้วกัน”
ฉินหลั่งก้าวไปข้างหน้า ผมดำสยาย นัยน์ตาเป็นเปลวไฟ แผดเผา สวมใส่จิ้งจวงสีดำปลิวไสว เต็มไปด้วยพลังความน่าเกรงขาม
“ทำได้ดี”
เผชิญหน้ากับศัตรูที่เก่งกาจ ฉินหลั่งไม่หวาดหวั่น แต่กลับหัวเราะ ผมยาวพริ้วไสว
สายฟ้าสายหนึ่ง ดังขึ้นมาจากในมือของฉินหลั่ง
ฟ้าผ่าหาห้าธาตุ!
ฉินหลั่งใช้มือเปล่า ปล่อยพลังสายฟ้า ฟ้าผ่าหาห้าธาตุ ทำลายล้างปฐพี เป็นฟ้าผ่า ทำลายล้างโลก
ปังๆ
โลกลวงตาเล็กๆเหล่านั้น เมื่อเจอเข้ากับสายฟ้า แตกกระจาย ต่างระเบิดกระจายไปหมด ทุกๆการทำลายโลกครั้งหนึ่ง จะมีไข่มุกปรากฏขึ้น จนสุดท้าย โลกทั้ง24ใบแตกออกพร้อมกัน จากนั้นฉินหลั่งก็หนีออกไป ราวกับเทพพระเจ้า
“เหอะ”
เจ้าสำนักเชียนเหมิงส่งเสียงเหอะออกมา เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ในการโจมตีครั้งนี้ของฉินหลั่ง ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจคือ โลก24ใบที่สร้างขึ้นมา ได้เสียหายไปหมดแล้ว เมื่อสมบัติวิเศษนี้ถูกทำลาย ไม่รู้ว่าจะฟื้นฟูได้เมื่อไหร่
“ฉินหนานจง ระหว่างสำนักต้าซื่ออย่างฉันหรือไม่ก็แกที่ต้องตาย”
เจ้าสำนักเชียนเหมิงเคียดแค้นชิงชัง
และขณะนี้ ฉินหลั่งเองก็กำลังต่อสู้กับคนอื่นอยู่
“ตึง!”
หมัดเทพเจ้าบู๊ทอดยาวไปในอากาศ หมัดนี้ชนเข้ากับอากาศ ทำให้อากาศสั่นไหว เจ้าสำนักอู๋ซ่างถอยหลังไป จากนั้น ฉินหลั่งใช้สองมือวาด นัยน์ตาปล่อยเปลวไฟออกมา เป็นอาวุธวิเศษสามด้าม กระทบเข้ากับห้ามังกรไฟ
ห้ามังกรไฟส่งเสียงครวญคราง
สุดท้ายฉินหลั่ง สองมือรวมเป็นหนึ่ง โจมตีไปยังกระบี่ที่ลอยมาของนักพรตฝูจู
“ซือๆ”
ความคมของกระบี่ไร้เทียมทาน แม้นักพรตฝูจูจะสูญเสียดวงจิตไปแล้ว แต่สมบัติวิเศษอยู่ในมือ พลังการโจมตี เทียบกับยอดฮูเหยียน แข็งแกร่งกว่ามาก
กระบี่ว่างสวนสมกับที่เป็นกระบี่ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งโลกเทพเท็จ
สีแดงเป็นสายๆ ทำลายแสงสีทองที่ป้องกันตัวไว้ ชนเข้ากับหมัดของฉินหลั่ง เกิดเป็นเสียงโลหะกระทบกัน
“ทำลาย!”
ฉินหลั่งพลิกมือ ก่อนจะหักกระบี่ทิ้ง พลางบีบให้นักพรตฝูจูต้องถอยไป กระบี่ว่างสวน ก็เป็นแค่กระบี่เท่านั้น หลังจากที่ลำแสงกระบี่ถูกทำลายลง มันก็ยังคงรวมตัวกันใหม่ได้
เพียงแว็บเดียว ฉินหลั่งทำให้ศัตรูฉกาจทั้งสี่ถอยไป ถึงแม้ฝีมือเขาดี ตอนนี้พลัง ลดลงมาก แต่ฉวยโอกาสตอนที่กำลังเอาพลังกลับไป เจ้าสำนักไท่กู่่ก็ได้จู่โจมเข้ามาอีกครั้ง
“ตูม!”
ปราณที่ปะทุ กลายเป็นมังกรไฟขาวที่สว่างไสว เพียงพอที่จะสะท้านฟ้าดินได้
ฝีมือของเจ้าสำนักไท่กู่่น่ากลัว ไม่ด้อยไปกว่านักพรตฝูจูเลย โดยเฉพาะพลังรวมตันของเขา เขาจะฉวยโอกาสตอนที่ฉินหลั่งกำลังอ่อนแอที่สุด ก่อนจะฆ่า
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 882 ล้อมโจมตี
Posted by ? Views, Released on October 22, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment