บทที่ 135 แม้แต่เสิ่นวั่นเชียนก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ไหว
“ทำอะไรกัน”
“บ้าเอ๊ย”
“กล้าบุกเข้ามาถึงถิ่นของแก๊งฉีแบบนี้”
ลูกน้องทุกคนในแก๊งฉีลุกขึ้นยืน แล้วส่งเสียงตะโกนด่าเจี๊ยวจ๊าว
หลี่ฉีและบรรดาหัวหน้ากลุ่มเดินไปที่ประตู พวกเขาทั้งตกใจทั้งโมโห อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครมันใจกล้าถึงขนาดมาหาเรื่องแก๊งฉีถึงถิ่นแบบนี้ อู๋ยี่หยวนอุ้มเจียเจียเดินตามหลังออกมา
ลูกน้องแก๊งฉีแยกออกเป็นทางเดิน ให้หลี่ฉีและบรรดาหัวหน้ากลุ่มเดินไปทางประตู โดยมีลูกน้องทุกคนยืนอยู่ด้านหลังหลี่ฉี
พอเห็นว่าประตูถูกทำลาย บานกระจกแตกละเอียดอยู่บนพื้น มีลูกน้องในแก๊งสี่ห้าคนนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น รอบด้านอยู่ในสภาพเละเทะ คนที่ยืนอยู่ตรงประตูเป็นชายหนุ่มสี่คน สองคนที่อยู่ด้านข้างอยู่ในท่าทางป้องกัน พวกเขาเหมือนเป็นกองกำลังหน้า หัวหน้าใหญ่เหมือนจะยังไม่ออกมา
หลี่ฉีมถอนหายใจแรง ก่อนจะมองไปด้านนอกร้าน เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่ามันเป็นใคร ถึงได้กล้ามาหาเรื่องพวกเขาถึงถิ่นแบบนี้
ไม่นาน ก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามา สายตาของหลี่ฉีหรี่ตาคม คนที่เดินนำหน้าเข้ามาคือเจ้าของBerkeley Hotel เสิ่นวั่นเชียน
ด้านข้างเสิ่นวั่นเชียนมีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่อยู่สิบกว่าคน และคนด้านหลังเสิ่นวั่นเชียน ที่ถูกชายฉกรรจ์ทั้งสิบปกป้องไว้ตรงกลางกลับมีหน้าตาเหมือนเด็กวัยเรียนอยู่
หลี่ฉีมองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น ก่อนจะมีสีหน้าสงสัย ว่าคนที่ยืนตรงกลางคนนี้มาประวัติความเป็นมามาจากไหน ก่อนจะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เสิ่นวั่นเชียนถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลมากในเมืองจีนหลิง หรือว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะมีฐานะสูงกว่าอีก
หลี่ฉันหันกลับไปมองหน้าเสิ่นวั่นเชียน
และอู๋ยี่หยวนพอเห็นหน้าเด็กหนุ่ม ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา จนเกือบจะร้องไห้ออกมา เขามาช่วยเธอแล้วจริงๆด้วย
เด็กหนุ่มที่เหมือนเด็กนักเรียนคนนั้นก็คือฉินหลั่งนั่นเอง
“เป็นมัน พ่อ ไอ้นี่แหละที่เป็นคคนทำร้ายผม”คางตี๋ที่ถูกตบจนหน้าบวมเหมือนหัวหมู พอเห็นหน้าฉินหลั่งจะตะโกนพูด แต่พอสบตาเข้ากับสายตาของหลี่ฉี คางตี๋ก็รีบหุบปากลงทันที
“พี่ฉินหลั่งคะ” เจียเจียตะโกนเรียก อู๋ยี่หยวนรีบปิดปากเธอไว้ทันที
พอเห็นว่าอู๋ยี่หยวนสองแม่ลูกไม่เป็นอะไร ฉินหลั่งถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่พอเขาเห็นบาดแผลบนตัวของเจียเจีย ฉินหลั่งก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที
“ที่แท้ก็คุณเสิ่นนี่เอง รบกวนคุณเสิ่นอธิบายหน่อยได้ไหมครับ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แก๊งฉีไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจอย่างนั้นเหรอครับ” หลี่ฉีชี้ไปที่สภาพเละเทะตรงหน้า เพื่อขอคำอธิบายจากเสิ่นวั่นเชียน
“คำอธิบายอะไร ผมยังต้องอธิบายอะไรอีก แค่แก๊งเล็กๆอย่างนี้ คุณได้ใจอะไรกัน รีบปล่อยตัวคุณอู๋ออกมาเดี๋ยวนี้” เสิ่นวั่นเชียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เสิ่นวั่นเชียนไม่เห็นหลี่ฉีอยู่ในสายตา เขาทำธุรกิจอยู่ในเมืองจีนหลิงมาหลายปี ไม่ว่าจะด้านสว่างหรือด้านมืดเขาก็รู้จัก หัวหน้าแก๊งชิงหลงตอนที่เจอเขายังต้องก้มหน้าเคารพ หลี่ฉีคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ก็แค่หัวหน้าแก๊งเล็กๆเท่านั้นเอง
พอได้ยินคำพูดของเสิ่นวั่นเชียน หลี่ฉีก็ไม่ชอบใจทันที เขารู้ว่าเสิ่นวั่นเชียนทีอิทธิพลมากในเมืองจีนหลิง ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงต้องฟังคำของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้แก๊งฉียืนหนึ่งในเมืองจีนหลิง เขาก็ไม่ได้มีอิทธิพลน้อยไปกว่าเสิ่นวั่นเชียน แล้วทำไมเขาจะต้องไว้หน้าให้อีกฝ่ายด้วย
หลี่ฉีนิ่งคิด นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะได้ยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเสิ่นวั่นเชียนได้ หรือภายภาคหน้าอาจจะอยู่สูงกว่าเสิ่นวั่นเชียนก็ได้
“อืม ที่แท้คุณเสิ่นก็มาขอคนกลับไปนี่เอง เหอะ” หลี่ฉียกยิ้มเยาะ ก่อนจะพูดกดดัน “มาขอคนคืนเขาทำกันแบบนี้เหรอครับ วันนี้คุณเสิ่นทำลายประตูของร้านผม แล้วยังทำร้ายคนของผม ถ้าวันหลัง ผมไปหาคุณบ้าง ผมก็สามารถทำแบบนี้กับBerkeley Hotelได้ใช่ไหมครับ”
“นี่คุณ”เสิ่นวั่นเชียนโมโหมาก หลายปีมานี้ ไม่มีใครในเมืองจีนหลังกล้าพูดกับเขาแบบนี้
“คุณอะไรครับ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในร้านของผม ทางที่ดีคุณชดใช้ค่าเสียหายด้วย ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับBerkeley Hotelของคุณ ก็อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน”หลี่ฉีตอบกลับเสียงแข็ง ก่อนจะตะโกนเรียก “คางตี๋ ออกมานี่”
“หะ เอ่อครับ” คางตี๋เดินมาหยุดยืนด้านข้างหลี่ฉี คางหงฉวนผู้เป็นบิดาเดินตามออกมา แล้วหยุดยืนด้านข้างลูกชาย
“เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังคุณเสิ่นเป็นคนทำร้ายนายใช่ไหม” หลี่ฉีมองไปทางฉินหลั่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเสิ่นวั่นเชียน ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “ในเมื่อรังแกคนของแก๊งฉี ผมว่าพวกคุณคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว พวกนายสองพ่อลูกออกไปจัดการเด็กหนุ่มนั่นซะ วางใจได้ อยู่ในถิ่นของแก๊งฉี ไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกนาย”
“ผมคิดว่าคุณเองก็คิดเหมือนกัน จริงไหมครับคุณเสิ่น” หลี่ฉีพูดท้าทายเสิ่นวั่นเชียน ก่อนจะเอ่ยสั่ง “ยังยืนนิ่งอยู่อีกทำไม ไปสิ”
หลี่ฉีตั้งใจจะต่อต้านและท้าทายเสิ่นวั่นเชียน
“หลี่ฉี นายกล้า” เสิ่นวั่นเชียนคำรามออกมา เขาคิดไม่ถึงเลย ว่าฐานะของเขา จะเอาหลี่ฉีไว้ไม่อยู่
“เจ้าเด็กเวร ที่แท้มึงก็เป็นคนของเสิ่นวั่นเชียนนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้อวดเบ่งขนาดนี้ มึงกล้าทำร้ายจนกูเป็นแบบนี้ คราวนี้ถึงทีกูบ้างแล้ว” คางตี๋พูดอย่างได้ใจ
“เป็นมึงที่กล้าทำร้ายลูกชายกูเองสินะ ทำไม ลูกชายของกูจะทำร้ายได้ง่ายๆหรือไง วันนี้ถ้ากูไม่เอาจนหน้ามึงเละ กูจะไม่ใช่นามสกุลคางอีกต่อไป”คางหงฉวนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้น ขนท่อนแขนใหญ่ปรากฏออกมา
“ปกป้องคุณชายใหญ่”เสิ่นวั่นเชียนตะโกนสั่ง ทำให้ชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนทั้งสิบคนยินล้อมฉินหลั่งไว้ตรงกลาง
“ลูก ลุยเข้าไป อยู่ในถิ่นของแก๊งฉี พวกเขาไม่กล้าสู้กลับแน่นอน วันนี้พ่อจะให้แกได้เห็นฝีมือของพ่อเอง”คางหงฉวนตะโกนบอกลูกชาย ตอนนี้ทุกคนในแก๊งกำลังมองพวกเขาอยู่ เขาที่เป็นถึงหัวหน้ากลุ่ม จะต้องสร้างความเชื่อถือต่อหน้าทุกคนให้ได้
“อืม วันนี้เราสองพ่อลูกจะจัดการคนกลุ่มนี้ให้ราบ ให้แก๊งอื่นในเมืองจีนหลิงได้รู้ ว่าพ่อลูกแแก๊งฉีเราเก่งกาจแค่ไหน พวกเขาจะได้ไม่กล้ามาหาเรื่องแก๊งเราอีก”คางตี๋อยู่ในแก๊งฉี จึงพูดวางก้ามได้
พอพูดจบ สองพ่อลูกก็ยกหมัดขึ้นมา ก่อนจะคำรามออกมา แล้วพุ่งเข้าหาลูกน้องของเสิ่นวั่นเชียนทันที
“ปกป้องคุณชายใหญ่”เสิ่นวั่นเชียนตะโกนสั่ง ทำให้ลูกน้องทั้งสิบคนของเสิ่นวั่นเชียนเข้าล้อมคางหงฉวนสองพ่อลูกไว้ แล้วรุมทำร้ายทันที ตอนที่ทั้งสิบคนถอยห่าง คางหงฉวนสองพ่อลูกก็สิ้นท่าอยู่บนพื้นแล้วเรียบร้อย
พ่อเห็นสองพ่อลูกนอนสิ้นท่าอยู่บนพื้น หลี่ฉีก็ตากระตุก ก่อนที่สายตาของเขาจะเหมือนมีไฟแผดเผา
“ท่านฉี ให้พวกเราจัดการพวกมันเถอะครับ”
“กล้าทำร้ายคนของเราในถิ่นแบบนี้”
“ท่านฉี รีบออกคำสั่งเถอะครับ”
หลี่ฉียกมือห้าม ให้พวกเขาหยุดพูด เขามีแผนของตัวเอง
“เสิ่นวั่นเชียน ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย รีบพาคนของคุณไปจากที่นี่ซะ นี่เป็นความใจดีครั้งสุดท้ายของผม”หลี่ฉีกัดฟันพูด
“พูดบ้าบออะไร อย่างนายน่ะเหรอจะมีสิทธิ์ไล่ฉัน ฉันว่านายอยู่สบายในเมืองจีนหลิงมาสองปี คงจะลืมฐานะของตัวเองไปแล้วสินะ” ครั้งนี้เสิ่นวั่นเชียนรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้ไม่ดีเลย เขาจะไม่ใส่ใจหน้าตาของตัวเองได้ แต่เขาจะขายหน้าต่อหน้าคุณชายใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด เพร่ะมันจะหมายความว่าทำให้ตระกูลฉินขายหน้าไปด้วย เขาโทษตัวเองในใจ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกโมโห “ที่ฉันมาในครั้งนี้ ฉันเอาของขวัญชิ้นพิเศษมาให้นายด้วย”เสิ่นวั่นเชียนพูด ก่อนจะหยิบถุงพลาสติกสีฟ้าขึ้นมากล่องที่อยู่ในถุงตกพื้นจนแตกละเอียด ของที่อยู่ในกล่องกลิ้งกระเด็นออกมา
ทุกคนในแก๊งฉีต่างพากันตกใจ จนกรีดร้องออกมา
“อ๊าก”
นั่นเป็นศีรษะของคน และไม่ใช่ใครอื่น มันเป็นศีรษะของเหมาอี ที่หายตัวไปสามวันนั่นเอง
เดิมทีเสิ่นวั่นเชียนก็เตรียมมาเพื่อให้หลี่ฉีตกใจ แต่ไม่มีโอกาสเอาออกมาสักที ตอนนี้เขาโมโหมาก จึงเอามันออกมาโยนลงบนพื้น
“แย่แล้ว”ฉินหลั่งคิดในใจ เสิ่นวั่นเชียนทำเพื่อความสะใจ แต่อาจจะทำให้หลี่ฉีอาละวาดได้
“นี่นาย” หลี่ฉีเหมือนมีไฟพุ่งออกมาจากในร่างกาย ครั้งนี้เขาถูกรังแกถึงถิ่นแล้ว หลี่ฉีตะโกนสั่งลูกน้องในแก๊ง “จัดการพวกมันเดี๋ยวนี้”
ในขณะนั้นเอง ลูกน้องทั้งหมดของแก๊งฉีก็วิ่งเข้ามา ในมือพวกเขาถือมีดไว้ มีบางคนถือเก้าอี้ แล้วโยนมาทางพวกฉินหลั่ง นี่มันตั้งหนึ่งร้อยห้าสิบกว่าคนเลยนะ ส่วนทางฝั่งฉินหรั่งมีแค่ยี่สิบคน สถานการณ์ตกอยู่ในอันตรายซะแล้ว
“ปกป้องคุณชายใหญ่” เสิ่นวั่นเชียนตะโกนสั่ง จนถึงตอนนี้ สถานการณ์มันลามไปถึงจุดที่เขาคาดไม่ถึง ตอนนี้สิ่งที่เสิ่นวั่นเชียนทำได้ คือปกป้องฉินหลั่งไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว ไม่อย่างนั้นความผิดของเขาคงจะหนักหนาสาหัสมาก
ทั้งสิบคนยืนเรียงกระดานขวางตรงหน้าฉินหลั่ง กีดขวางไม่ใช่ทั้งหนึ่งร้อยห้าสิบคนเข้าใกล้ฉินหลั่งได้ แต่ถึงแม้คนที่เสิ่นวั่นเชียนพามาจะเก่งกาจมากแค่ไหน แต่คนเดียวต้องสู้กับสิบห้าคน มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
พอถูกจู่โจมติดต่อกัน ทั้งสิบคนจึงกีดขวางไว้ได้แค่ห้านาที ก็ล้มลงไปบนพื้นกันหมดและกำลังถูกคนของแก๊งฉีรุมทำร้าย
มีสี่ห้าคนที่ยืมล้อมป้องกันฉินหลั่งกับเสิ่นวั่นเชียนไว้ตรงกลาง พวกเขาใช้ร่างกายตัวเองเป็นโล่กำบัง ไม่ยอมให้ฉินหลั่งถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียว
ในที่สุดทั้งห้าคนก็ถูกทำร้ายจนวงแตก คนของแก๊งฉีจับเก้าอี้พุ่งเข้าหาฉินหลั่ง แต่เสิ่นวั่นเชียนเอาตัวเข้ามาบัง พอเก้าอี้พุ่งเข้าใส่ร่างของเสิ่นวั่นเชียนจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาก็ทรุดตัวลงบนพื้นทันที
“หยุด”ในขณะนั้นเอง หลี่ฉีตะโกนสั่งให้ลูกน้องหยุดมือ
เขาสงสัยมาก ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีฐานะยังไง ถึงทำให้คนที่มีอำนาจอย่างเสิ่นวั่นเชียนยอมเอาตัวเข้ามาบังอันตรายให้แบบนี้
“คุณเสิ่น คุณเป็นยังไงบ้าง”ฉินหลั่งพยุงเสิ่นวั่นเชียนขึ้นมา เขารู้สึกผิดมาก
“ไม่เป็นไรครับ คุณชายใหญ่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ” เสิ่นวั่นเชียนมีเลือดไหลออกจากปากเล็กน้อย เขารู้แค่ว่า หน้าที่ของเขาคือปกป้องฉินหลั่งให้ปลอดภัย
ฉินหลั่งรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ที่เสิ่นวั่นเชียนซื่อสัตย์กับตนเองถึงขนาดนี้
“คุณชายใหญ่อย่างนั้นเหรอ หึหึ”หลี่ฉียิ้มเยาะ ในเมื่อตอนนี้เขาแตกหักกับเสิ่นวั่นเชียนแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีก แต่เขากลับรู้สึกสนใจฉินหลั่งมากกว่า เสิ่นวัานเชียนทำไมถึงเรียกเขาว่าคุณชายใหญ่ “คุณเป็นคุณชายตระกูลไหน บอกให้พวกเราฟังทีสิ”
ฉินหลั่งพยุงเสิ่นวั่นเชียนไปนั่งที่เก้าอี้
“นายกล้าทำร้ายคุณเสิ่นกับคนของฉัน แก๊งฉีของนายคงไม่มีความจำเป็นต้องมีอยู่อีกต่อไปแล้ว ถ้านายอยากให้ฉันไว้ชีวิต รีบส่งอู๋ยี่หยวนสองแม่ลูกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”ฉินหลั่งมองไปทางหลี่ฉีอย้างเย็นชา ทำให้ความน่าเกรงขามของคนสูงศักดิ์แผ่ออกมาจากร่างกาย
หลี่ฉีเองก็เคยเจอคนที่มีการศึกษาสูงมาไม่น้อย ทำให้เขารู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ถึงแม้คนของทางฝั่งพวกเขาจะถูกทำร้ายจนหมด แต่เขายังกล้าต่อรองกับตนเอง ทำไมอีกฝ่ายถึงยังสงบนิ่งได้ถึงขนาดนี้ อีกทั้งยังกล้าพูดแบบนี้ได้อีก
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หลี่ฉีคาดเดาไม่ถูก และไม่อยากคาดเดาแล้ว อย่างมากก็เป็นคุณชายของตระกูลใดตระกูลหนึ่งในเมืองจีนหลิง ในเมื่อวันนี้เขากล้าแตกหักกับเสิ่นวั่นเชียน เขาไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว เพราะยังไงเขาก็ถือว่าเป็นนายใหญ่ของเมืองจีนหลิงแล้ว ถึงแม้จะเป็นลูกของผู้ว่าการของเมืองจีนหลิง เขาก็ไม่กลัว “ทุกคนได้ยินไอ้เด็กนี่พูดหรือยัง มันบอกว่าจะไม่ให้แก๊งฉีอยู่ต่ออีกต่อไปแล้ว มันกล้าพูดวางอำนาจในถิ่นของแก๊งเรา แล้วยังบอกว่าจะไว้ชีวิตของฉันด้วย โธ่โธ่ ฉันไม่รู้ว่าในสมองของมันมีแต่น้ำหรือเปล่า”
พวกลูกน้องในแก๊งพากันหัวเราะเยาะ
“ยังจะบอกว่าตัวเองเป็นคุณชายใหญ่ของเสิ่นวั่นเชียนอีก ฉันจะไว้หน้าให้ แค่นายคานไปรอบๆสามรอบ แล้วเห่าเสียงหมาออกมา ฉันจะปล่อยนายไป”หลี่ฉีพูดเย้ยหยัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ ให้เจ้านี่ทำท่าหมา”
“เสิ่นวั่นเชียนจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องของหมา”
หนึ่งในลูกน้องแก๊งฉีพูดออกมา บางคนกำลังสูบบุหรี่ บางคนก็ยืนกอดอกมองมา เหมือนกำลังดูเรื่องตลกอยู่
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 135 แม้แต่เสิ่นวั่นเชียนก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ไหว
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment