บทที่ 133 ไม่ต้องไปมอบตัวจริงๆเหรอ
“ฉันฆ่าเจ้านายตาย ฉันฆ่าเจ้านายตายแล้ว” ในขณะนั้น อาส้วยเริ่มทำตัวไม่ถูก เขาเองก็ไม่เคยคิดเลย ว่าตัวเองจะฆ่าเหลียงฮุยได้
“ฟังฉันนะเสี่ยวฝาน”ฉินหลั่งยกสองมือจับไหล่ของอาส้วยที่กำลังตื่นกลัวไว้ แล้วมองเข้าไปในดวงตาของเขา “เขาตายไปแล้ว นายไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ปล่อยให้นายเป็นอะไรแน่นอน”
“แต่ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณของฉัน ถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีฉัน เขาให้อาหารฉันกินทุกวัน ทุกอย่างที่ฉันมีล้วนแต่ได้มาจากเขา แต่ฉันกลับฆ่าเขาตาย” อาส้วยเกิดความขัดแย้งในใจ และโทษตัวเองอย่างหนัก
“เขาไม่เคยทำเหมือนนายเป็นคน แค่คิดว่านายเป็นแค่สุนัขรับใช้ นายไม่ต้องโทษตัวเองขนาดนี้ นายลืมไปแล้วเหรอ ว่าเมื่อตะกี้เขาเตะเขาถีบนายยังไงบ้าง ถ้าหากนายไม่ทำตามคำสั่งของเขา ความชั่วร้ายของเขาก็จะถูกเปิดเผยออกมา…”ฉินหลั่งพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอาส้วย จนอาส้วยสงบสติอารมณ์ลงมาเล็กน้อย
“ตอนนี้เหลียงฮันตายไปแล้ว ต่อไปนายก็จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องฟังคำสั่งของใครอีกต่อไป…”ฉินหลั่งมองไปทางอาส้วยแล้วพูด “ฝันร้ายของนายได้จบลงไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นายเชื่อที่ฉันพูดไหม”
“ฉันเชื่อนาย เพร่ะนายเป็นเพื่อนของฉัน” อาส้วยค่อยๆยิ้มออกมา
“อืม ดีมากเพื่อนรัก” ฉินหลั่งตบบ่าของอาส้วย ในที่สุดความกังวลใจที่เก็บไว้ก็คลายลงสักที ทั้งสองคนลุกขึ้นยืน แล้วมองไปทางพวกคางตี๋ พวกคางตี๋ต่างพากันหวาดกลัวจนตัวสั่น
“คุณชายคางครับ เป็นอะไรไปครับ”ในขณะนั้นเอง ลูกน้องรูปร่างบึกบึนของคางตี๋ประมาณเจ็ดแปดคนก็เดินทางมาถึง
“จัดการพวกมันซะ” คางตี๋ชี้ไปทางพวกฉินหลั่ง บรรดาลูกน้องที่มาใหม่พุ่งตัวเข้าหาฉินหลั่ง ส่วนพวกคางตี๋ ที่เคยเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ จึงไม่กล้าอยู่ที่ร้านอาหารนี้ต่อ ทุกคนเริ่มหาโอกาสวิ่งหนีออกไปจากร้าน
“อาส้วย สู้ไปกับฉัน” ฉินหลั่งตะโกนเรียก ก่อนจะหยิบขวดเหล้าขึ้นมา แล้วพุ่งตัวเข้าไปสู้
“ฉินหลั่ง ฉันจะช่วยนายเอง”อาส้วยไม่มีทางปล่อยให้เพื่อนรักของตัวเองถูกทำร้ายแน่นอน เขารีบเข้าไปร่วมวงด้วยทันที
“บ้าเอ๊ย วันนี้มาสู้กันให้สะใจกัน”เหรินห้าวเองก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะพุ่งเข้าไปร่วมวงด้วย โดยที่เหรินซินห้ามไม่ทัน เหรินซินมองตามเหรินห้าวอย่างเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายอีก
“จะขาดฉันไปอีกคนได่ยังไงกัน ฉันเอาด้วย” ในเมื่อเพื่อนๆต่างก็สู้ ยินถิงจะยืนมองอยู่ข้างๆได้ยังไงกัน ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้จะไม่มีฝีมือเท่าไหร่ แต่เขาก็จะสู้เคียงข้างเพื่อนๆ
แค่พริบตาเดียว ฉินหลั่งและเพื่อนอีกสี่คนก็ทำการต่อสู้กับกลุ่มชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคน โดยมีเหรินซินกับหวางเหยายืนมองอยู่ด้านข้างอย่างกังวลใจ
ฝีมือการต่อสู้ของอาส้วยไม่ใช่แค่พูดเอาหน้า พอเขาแสดงฝีมือออกมา ชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดแปดคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แค่เขาคนเดียวก็สู้กับชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดแปดคนได้
“แค่นี้ก็คิดจะหนีแล้วเหรอ มานี่เลย”ฉินหลั่งวิ่งไปขวางประตู ปิดทางหนีของพวกคางตี๋ไว้ “ปัง”พอเสียงนี้ดังขึ้นมา ประตูก็ถูกปิดลง ทำให้พวกเขาหนีออกไปไม่ได้แล้ว
“โอ๊ย”
“แม่จ๋า”
“เฮ้ย”
อีกฝั่ง ถึงแม้อาส้วยจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ก็ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งเต็ดแปดคนล้มลงไปนอนทับซ้อนกันอยู่บนพื้นจนหมด อาส้วยยกขาข้างหนึ่งเหยียบบนเก้าอี้ ส่วนอีกข้างเหยียบบนหน้าท้องของที่อยู่บนสุด
เขาลงน้ำหนักที่ขา ทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดแปดคนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“คุกเข่าลงไป” ฉินหลั่งตะเบ็งเสียงสั่ง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ เหรินห้าวกับยินถิงเองก็นั่งลงเช่นกัน อีกทั้งพวกเขาสองคนยังสบายกว่า เพราะมีสาวสวยนั่งดูแลอยู่เคียงข้างสองคน
“ได้ ได้ คุกเข่าแล้ว พวกเรายอมคุกเข่าแล้ว”ในตอนนี้คางตี๋ไม่พะวงถึงตำแหน่งลูกชายหัวหน้าแก๊งฉีของตนเองแล้ว ถ้าไม่ฟังคำสั่งของฉินหลั่ง วันนี้เขาคงต้องตายอยู่ที่นี่แน่ๆเลย
“จะทำยังไงกับพวกเขาดี พวกนายสองคนว่ายังไง”ฉินหลั่งมองไปทางเหรินห้าวกับยินถิง คนที่คางตี๋หาเรื่องวันนี้คือพวกเขา
“นายยังคุณชายคางอีกไหม ยังวางตัวเป็นใหญ่อีกไหม” ในขณะที่พูดเหรินห้าวกับยินถิงก็กดหน้าคางตี๋ลงกับพื้น ตอนนี้ทั้งเหรินห้าวและยินถิงต่างก็อารมณ์ขึ้น ไม่มีท่าทางอ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เหรินห้าวพูดอย่างวางกล้าม
“พี่หลงอะไรกัน ยังจะกล้าตีตัวเป็นลูกพี่คนอื่นอีกไหม”ยินถิงเองก็ทำเหมือนกับเหรินห้าว “เพี๊ยะเพี๊ยะ”ทั้งสองคนทำการตบหน้าลูกน้องสองคนที่พูดแซวหวางเหยากับเหรินซินที่สนามบินคนละที
“ครับ คุณพูดถูกทุกอย่าง พวกเราสมควรโดนตบ…”ในเวลานี้ พวกคางตี๋ที่ถูกตบตีได้แต่พูดว่าพวกเขาสมควรโดนแล้ว
“เหรินซิน หวางเหยา พวกน้องอยาดให้จัดการเจ้าพวกนี้ยังไงดี”เหรินห้าวหันไปถามเหรินซินกับหวางเหยา
“ถูกต้อง หรือว่าพวกน้องจะตบหน้าพวกเขาสักสองสามทีเพื่อระบายอารมณ์ดี”ยินถิงเองก็พูด
“ช่างมันเถอะค่ะ พวกเขาเละเทะมากพอแล้ว”ถึงยังไงพวกเหรินซินก็เป็นเด็กผู้หญิง จึงใจอ่อนและขี้สงสารเป็นธรรมดา
“ไม่ได้ นี่ยังเบาเกินไปด้วยซ้ำ” เหรินห้าวรีบพูด พวกเขายังไม่หายโมโหเลย เหรินห้าวถลึงตามองไปทางคางตี๋อย่างแค้นเคือง “ตบหน้าตัวเอง ตบให้มีเสียงดังๆ เริ่มได้”
พวกคางตี๋ไม่กล้าไม่ทำตามคำสั่ง ทั้งกลุ่มเริ่มตบหน้าตัวเองอย่างแรงทันที พวกเขาไม่กล้าโกง เพราะกลัวว่าถ้าเหรินห้าวโมโหขึ้นมา จะฆ่าพวกเขา ศพที่นอนแผ่หราอยู่ด้านข้างทำให้พวกเขากลัวมากจริงๆ ดังนั้นทุกคนจึงตบหน้าตัวเองสุดแรง และเพราะตบสุดแรง ทำให้ใบหน้าของคางตี๋บวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บนหน้าผากนูนออกมา
เกาหยวนเองก็ทำตามด้วย เขาใช้แรงตบหนักกว่าคนอื่นมาก
“ใครสั่งให้นายตบหน้า” ในขณะนั้นเอง เสียงของเหรินห้าวก็ดังขึ้นมา เกาหยวนสะดุ้งตกใจ ก่อนจะมองไปทางเหรินห้าวอย่างหวาดกลัว พอเห็นสีหน้าดุร้ายของเหรินห้าวกับยินถิง เกาหยวนก็แทบจะหัวใจวาย
“พี่เหรินห้าวไว้ชีวิตผมด้วย พี่ยินถิงไว้ชีวิตผมด้วย ผมผิดไปแล้วครับ ผมผิดไปแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่ควรจะทำแบบนั้นกับพวกพี่ เห็นแก่ที่ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้น ยกโทษให้ผมเถอะ ขอร้องล่ะครับ”เกาหยวนคำนับโดยการโขกศีรษะกับพื้น แล้วพูดขอร้องอย่างหวาดกลัว
“ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน หะ” พอได้ยินเกาหยวนพูดว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน เหรินห้าวกับยินถิงยิ่งโมโห
ทั้งสองคนเตะเกาหยวนพร้อมกัน เกาหยวนล้มลงไปบนพื้น เหรินห้าวกับยินถิงเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเกาหยวน ทั้งสองคนไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นอะไรทั้งนั้น
เหรินห้าวตบด้านซ้าย ยินถิงตบด้านขวา ทั้งสองคนตบประมาณสิบกว่าครั้ง พอตบเสร็จ เกาหยวนก็แทบจะสลบเหมือด แต่เขาก็ไม่กล้าแสร้งเป็นสลบไป พอเหรินห้าวกับยินถิงตบเสร็จก็ลุกขึ้นยืน ส่วนเกาหยวนก็รีบลุกขึ้นนั่งโขกศีรษะตามเดิม
“พี่เหรินห้าว พี่ยินถิง ผมไม่กล้าอีกแล้วครับ ผมไม่คู่ควรจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับพวกพี่ เรื่องในวันนี้เป็นผมที่หาเรื่องใส่ตัวเองครับ”
จนสุดท้าย เหรินห้าวก็ให้เกาหยวนกับคนอื่นตบหน้าตัวเองต่อ จนทำให้ทั่วทั้งร้านอาหารต่างก็ได้ยินเสียงตบหน้าดังเพี๊ยะ พร้อมกับเสียงโขกศีรษะลงพื้นดังโป๊ก
ตอนที่ฉินหลั่งสั่งให้พวกเขาหยุด แต่ละคนก็หน้าบวมเหมือนหมูไปแล้ว
“ไปซะ” ฉินหลั่งพูดออกมา คางตี๋กับพวกลูกน้อง รวมถึงเกาหยวนต่างก็รีบวิ่งออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว
แล้วพวกฉินหลั่งก็ถอนหายใจออกมา
“ฉินหลั่ง นายกับอาส้วยจะทำยังไงต่อไป” เหรินห้าวถามออกมาอย่างกังวลใจ เมื่อตะกี้มีพวกคางตี๋อยู่ด้วย เขายังอยู่ในอารมณ์โมโห จึงลืมไปหมดเลย ว่าฉินหลั่งกับอาส้วยต่างก็ฆ่าคนตายไปหนึ่งคน
“จริงด้วย ไม่น่าปล่อยพวกนั้นไปเลย พวกเขาจะต้องไปแจ้งความแล้วแน่ๆเลย”ยินถิงเองก็พูดอย่างเจ็บใจ
“ถือโอกาสที่พวกตำรวจยังไม่มา พวกนายสองคนรีบหนีไปเถอะ หนีไปอยู่นอกด่าน ยังมีโอกาสรอด”หวางเหยารีบคิดแผนให้ฉินหลั่ง เธอไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับฉินหลั่งจริงๆ ถ้าไม่มีฉินหลั่งในวันนี้ พวกเธอคงจะตายไปแล้ว
“เหยาเหยา อย่าพูดบ้าๆ ถ้าหนีไปเรื่องนี้ก็ยิ่งร้ายแนงน่ะสิ” เหรินซินขมวดคิ้วพูด เธอมองไปทางฉินหลั่งด้วยแววตากังวลใจ ก่อนจะพูด “ฟังที่ฉันพูดนะ ตอนนี้เรารีบไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ จะต้องถือโอกาสไปถึงก่อนพวกนั้น แบบนี้ถึงจะถือว่ามอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา อีกอย่างก็เป็นพวกเขาที่ทำร้ายเราก่อน บทลงโทษอาจจะเบาขึ้นอีกก็ได้”
“ตอนนี้เราคงทำได้แค่นี้แล้วล่ะ”
“ไปกันเถอะ”
“ติดคุกยังดีกว่าต้องโทษประหารชีวิตนั่นแหละ”เหรินห้าวเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเหรินซิน จึงเตรียมตัวไปที่สถานีตำรวจพร้อมกับฉินหลั่งและอาส้วย
“ไม่ต้องหรอก”ฉินหลั่งไม่ขยับ เขามองไปทางคนอื่นที่กำลังทำสีหน้าสงสัย ก่อนจะพูด “ฉันกับอาส้วยไปต้องไปมอบตัวหรอก พวกเราสองคนไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็มีคนมาจัดการเรื่องนี้เอง”
“ไม่เป็นไรอย่างนั้นเหรอ ฉินหลั่ง อย่าพูดบ้าๆ ถ้าเราไม่ไปตอนนี้ แล้วคนพวกนั้นอาจจะไปแจ้งความก่อนก็ได้ พวกเรารีบไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นโทษมันจะหนักขึ้นนะ”
พวกเหรินห้าวไม่เชื่อในสิ่งที่ฉินหลัางพูดเลย นี่มันสองชีวิตเลยนะ ถึงจะเป็นประธานบริษัทเทียนซีกรุ๊ปอย่างคุณหม่าวั่นถังก็คงจะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ไม่ได้ ฉินหลั่งมีฐานะยังไงพวกเขารู้ดี เขาจะมีคนมาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ยังไงกัน
“ไม่ต้องจริงๆ ถ้าเราไปที่สถานีตำรวจตอนนี้สิ ถึงจะมีปัญหา” ฉินหลั่งรีบบอกปัดพวกเหรินห้าว เขาจะบอกให้พวกเขาเข้าใจก็ลำบาก “พวกนายรอเดี๋ยวนะ ฉันขอคุยโทรศัพท์ก่อน”
พอพูดจบ ฉินหลั่งก็เดินไปตรงมุมห้อง แล้วกดโทรหาเสิ่นวั่นเชียน
“ฟังที่ผมพูดก่อน ตอนนี้ที่หย่งเหอหยวนมีคนตายสองคน คนหนึ่งเป็นลูกน้องของคนที่ชื่อคุณชายคางแห่งแก๊งฉี ส่วนอีกคนมีชื่อว่าเหลียงฮุย เป็นคุณชายในเมืองจีนหลิง พวกคุณรีบส่งคนมาจัดการด้วย ที่นี่ยังมีพวกเพื่อนๆของผมอยู่ด้วย ต้องรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรมากแล้ว”
ฉินหลั่งเองก็รู้สึกผิด ที่ช่วงนี้ตนเองคอยแต่สร้างปัญหาให้เสิ่นวั่นเชียน แต่เขารู้ ว่าการจะจัดการคนสองคน สำหนับเสิ่นวั่นเชียนหรือตระกูลแล้วเป็นแค่เรื่องเล็กมาก
“คุณชายใหญ่ครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”เสิ่นวั่นเชียนรีบถามเข้าประเด็น พอได้ยินฉินหลั่งบอกว่าไม่เป็นอะไร เขาถึงได้วางใจ “ได้ครับ เดี๋ยวผมจะส่งคนไปจัดการ คุณชายกับเพื่อนจะต้องไม่มีปัญหาแน่นอนครับ”
“ดีมาก” ฉินหลั่งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “คู่แม่ลูกสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง รับพวกเธอไปอยู่ในที่ปลอดภัยหรือยัง”
“ผมกำลังจะโทรไปรายงานคุณชายพอดีเลยครับ” เสิ่นวั่นเชียนพูดเสียงเคร่งเครียด “ตอนที่คนของเราเดินทางไปถึงโรงแรม พวกเธอก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้วครับ”
“ไม่อยู่แล้ว แล้วพวกเธอจะไปไหนได้”พอฉินหลั่งได้ยินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมทันที
“พนักงานในโรงแรมบอกว่ามีกลุ่มผู้ชายพาตัวพวกเธอไป พวกเราตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว ถ้าเดาไว้ไม่ผิด คงจะเป็นคนของแก็งฉีจับตัวพวกเธอไป ตอนนี้พวกเรากำลังเตรียมคนไปขอรับพวกเธอมาจากแก๊งฉีครับ”เสิ่นวั่นเชียนรีบรายงานเรื่องทั้งหมดออกมา
“พวกนายรอก่อน ครั้งนี้ฉันจะไปขอคนคืนมาเอง”ฉินหลั่งพูดเสียงมั่นคง สองแม่ลูกอู๋ยี่หยวนตกอยู่ในมือของแก๊งฉี จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก ฉินหลั่งทนรอต่อไปไม่ไหว เขาจะไปด้วยตัวเอง แล้วรีบรับพวกเธอกลับมา
พอพูดจบ ฉินหลั่งก็กดวางสาย ส่วนคนอื่นพอได้ยินฉินหลั่งพูดถึง คุณเสิ่น แก๊งฉี แม่ลูก ก็พากันสงสัย ว่าฉินหลั่งคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ ในใจเป็นห่วงฉินหลั่งกับอาส้วยมาก
“พวกนายอยู่ที่นี่กันก่อนนะ อย่าไปไหนทั้งนั้น เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการที่นี่เอง พวกเขาจะส่งพวกนายไปอยู่ในที่ปลอดภัย”ฉินหลั่งพูดเน้นย้ำ ก่อนจะเดินออกไป ถึงแม้คนอื่นจะไม่เชื่อว่าฉินหลั่งจะหาคนมาจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้ ฉินหลั่งไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว
ฉินหลั่งรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังมา พอหันกลับไปมองจึงเห็นว่าเป็นอาส้วย
“นายมีปัญหา ฉันจะไปช่วยนายด้วย” อาส้วยไม่ค่อยสนใจเรื่องที่เขาฆ่าคนตาย ถึงแม้จะต้องถูกโทษประหารชีวิต เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจ เขาไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียใจ
“นายอยู่ที่นี่ ปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัย พวกเขาเป็นเพื่อนของฉัน และเป็นเพื่อนของนายด้วยเช่นกัน” ฉินหลั่งมองไปทางอาส้วยแล้วพูด อาส้วยพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินกลับไปยืนด้านข้างพวกเหรินห้าวตามเดิม
ในขณะนั้นเอง ฉินหลั่งก็รีบเดินออกจากร้านไป เขากลัวว่าถ้าช้าไปแม้แต่นิดเดียว จะเกิดเรื่องขึ้นกับอู๋ยี่หยวนสองแม่ลูกได้
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 133 ไม่ต้องไปมอบตัวจริงๆเหรอ
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment