ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 928 เดินท่ามกลางหิมะ

ฉินสือโอวบอกได้เพียงว่าเขาอาจจะจำผิด ฟองน้ำทะเลชนิดนี้ไม่น่าใช่ฟองน้ำแก้วที่แซนเดอร์สพูดถึง
แต่ทว่า ก็มีข้อโต้แย้งประการหนึ่งที่จะละเลยไม่ได้ นั่นก็คือฟองน้ำแก้วต่างจากฟองน้ำทะเลชนิดอื่นๆ มันไม่มีใยฟองน้ำ เซลล์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างมีกระดูกที่ประกอบด้วยขวากซิลิกา เป็นฟองน้ำที่มีโครงร่างชนิดแข็ง
ฟองน้ำสีขาวรูปร่างเหมือนกระสวยชนิดนี้ ฉินสือโอวมองดูแล้วมีขวากซิลิกาอยู่จริงๆ
นอกจากนี้ยังมีหนอนที่มีลักษณะเหมือนท่อบางตัวเติบโตที่ด้านล่างของแนวหินปูน พวกนี้ดูน่าขยะแขยง เหมือนงูทะเลตัวเล็กๆ แต่ไม่มีตา มีแต่ปากกลวงและอ้าปากตลอดเวลาเพื่อกินแบคทีเรียซัลไฟด์
มีสิ่งขับถ่ายอยู่รอบๆ ตัวพวกหนอนท่อ ซึ่งบริเวณนี้จะมีปลาตัวเล็กๆ สีสดใสชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ พวกมันมีขนาดเหมือนนิ้วมือและปากที่แหลมคมก็กลืนกินสิ่งที่เป็นมูลของหนอนเข้าไป มองแล้วมีพลังมาก
บางครั้งหนอนท่อจะยื่นตัวยาวๆ ของพวกมันออกมา ซึ่งในเวลานี้จะมีปลาตัวเล็กๆ สองสามตัวว่ายไปอยู่ใกล้ๆ ตัวหนอนโดยใช้ปากแหลมจิกเข้าที่พวกมันเหมือนนกหัวขวานที่กำลังจิกหนอนที่อยู่ในไม้
ระบบนิเวศนี้เรียบง่ายมาก อาศัยสารประกอบกำมะถันเป็นพื้นฐาน สิ่งมีชีวิตบางอย่างก็อยู่อย่างเรียบง่าย แต่ว่ามีพลังมาก เนื่องจากปลาและกุ้งบางชนิดก็กำลังถูกดึงดูดเข้ามา
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ทุกอย่างจะขยายตัวเมื่อร้อนและหดตัวเมื่อเย็น อากาศร้อนก็จะเบากว่าอากาศเย็น ในทำนองเดียวกันน้ำร้อนก็เบากว่าน้ำเย็นเช่นกัน
ด้วยวิธีนี้เมื่อเกิดหินหนืด น้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นจะลอยตัวสูง ส่วนน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจะจมลง ด้วยเหตุนี้น้ำทะเลบนผิวน้ำและน้ำทะเลที่ข้างใต้ทะเลจะไหลมาบรรจบกัน ทำให้อาหารปลาเช่นแพลงก์ตอนที่จมอยู่ลอยขึ้นมา ซึ่งสามารถดึงดูดพวกปลาให้มารวมตัวกันได้
อุณหภูมิของน้ำทะเลรอบๆ เนินหินหนืดก็สูงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน และความร้อนใต้ดินจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นความร้อนจะถูกถ่ายเทระหว่างน้ำทะเล จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่สมดุลแบบไดนามิกในทะเลโดยรอบ
เพียงแค่น่านน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวก็สามารถดึงดูดสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่พวกที่ไปตามแสงสีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพวกที่ไปตามความร้อนด้วย ตัวอย่างเช่น พุ่มไม้ปะการังทะเลลึกที่อยู่ห่างไกลออกไปมีแนวโน้มที่จะไปเติบโตที่น่านน้ำของเนินหินหนืด
ฉินสือโอวแหวกว่ายไปถ่ายพลังโพไซดอนให้กับพุ่มไม้ปะการังทะเลลึก เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายปะการังแดงกลุ่มนี้ที่มีสีแดงสดงดงามไปเมื่อไร
ส่วนจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอีกส่วนก็วิ่งไปหางูเหลือมทะเล เจ้าหน้าตาน่าเกลียดพวกนี้ลอยตัวอยู่ในน้ำอุ่น ไร้ซึ่งพลังความแข็งแกร่งที่เคยมีเมื่อตอนฤดูร้อน ใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงไป ลักษณะตอนนี้เหมือนอยู่ไปวันๆ หนึ่ง
ฉินสือโอวนำพวกงูเหลือมทะเลมาที่บริเวณน่านน้ำหินหนืด ให้พวกมันเลื้อยไปมาตรงบนเนินเขา งูเหลือมทะเลเป็นสัตว์ทะเลน้ำตื้น เมื่อก่อนพวกมันเคยมาที่ท้องทะเลบริเวณหินหนืด อุณหภูมิน้ำพอเหมาะแต่แรงดันน้ำมากไป พวกมันจึงทนกันไม่ค่อยได้
ตอนนี้หินหนืดได้กลายเป็นหินปูนที่กองกันเป็นชั้นๆ มีความสูงถึง 500-600 เมตรเต็มๆ เหมือนกับน้ำลดตอผุด รวมเม็ดทรายกลายเป็นภูเขาจริงๆ!
เดิมทีความลึกของน้ำบริเวณนี้คือพันกว่าเมตร แต่พอมีเนินเขาหินปูนค้ำไว้ ความลึกของน้ำจึงลดลงมาครึ่งหนึ่ง จึงทำให้พวกงูเหลือมทะเลสามารถรับกับแรงดันน้ำแบบนี้ได้
งูเหลือมทะเลที่มีความยาวมากกว่าสิบเมตรทุกตัวบินว่ายอยู่รอบๆ เขาหินปูน มองดูน่ากลัวทีเดียว หากมีใครดำน้ำในเวลานี้และได้เห็นงูเหลือมทะเลจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาอาจคิดว่าพวกเขาย้อนเวลาเข้าสู่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
หลังจากที่ถ่ายพลังโพไซดอนให้งูเหลือมทะเลแล้ว ฉินสือโอวจึงเก็บจิตสำนึกแห่งโพไซดอนขึ้นมา
เวลาเก้าโมงกว่าเช้าวันรุ่งขึ้น อากาศอบอุ่นเล็กน้อย กลุ่มฉินสือโอวนั่งรถลากเลื่อนหิมะไปเล่นสกี พวกเขาไม่ได้เตรียมรถลากเลื่อนหิมะ เพราะที่ร้านของคาร์สันมีเต็มไปหมด ถึงเวลาก็ค่อยไปเลือกที่นั่นเอาก็โอเคแล้ว
พอเกาะปิด กิจกรรมจึงมีไม่มาก ดังนั้นคนที่มาร่วมงานจึงมีเยอะ ตีนเขาเคอร์บัลมีคนกว่า 100 คนมาอย่างเนืองแน่น พวกเด็กๆ มากันเกือบครบแล้ว ฉินสือโอวมองไปแล้วเหมือนไปตลาดเลย
เขานั่งรถลากเลื่อนหิมะแบบพ่นไอมา ทางที่มากองหิมะยังไม่ละลายมากนัก ด้วยความที่อากาศหนาว หิมะสูง ไม่มีรถวิ่งผ่านและคนงานมาตักหิมะทิ้ง กองหิมะพวกนี้จึงยังคงอยู่ได้นาน
พอเห็นฉินสือโอวนั่งรถลากเลื่อนหิมะแบบพ่นไอมา คนกลุ่มหนึ่งก็ผิวปากแซวเขา “ว้าว ฉิน หล่อโคตร พวกนายทุนนี่ช่างคัดสรรจริงๆ”
ฉินสือโอวยิ้มแล้วยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาพร้อมด่าขึ้นมาว่า “ใช่ ฉันเป็นนายทุน แต่พระเจ้าก็รู้ว่าฉันเคยถลุงเงินที่นายหามาอย่างยากลำบากที่ไหนกัน?”
เบิร์ดจอดรถลากเลื่อนหิมะ เขาโชว์หมัดของเขาไปมา “บอสครับ ใครกำลังดูถูกบอสอยู่บอกผมมา บอกผู้ช่วยมือฉกาจอันดับหนึ่งของบอสมา เดี๋ยวผมไปจัดการมันเอง!”
คาร์สันเอากำปั้นมาชนกันกับฉินสือโอว แล้วพูดว่า “นายไม่ได้เป็นแค่นายทุน แต่นายยังเป็นมาเฟียด้วย นายทุนปกติแล้วสู้กับใครไม่เป็น”
ทุกคนพูดไปหัวเราะไป คาร์สันเรียกเขาให้พาทุกคนไปเลือกไม้สกีก่อน ซึ่งก็เป็นของใช้ธรรมดา แค่เอาไว้ใช้ได้ ให้ทุกคนเล่นอย่างมีความสุขก็พอ เพราะจริงๆ แล้วที่แบบนี้ก็เล่นอะไรไม่ได้มาก
พวกชาวประมงเคยเล่นสกีมาบ้างไม่มากก็น้อย ฉินสือโอวถามว่าเล่นได้ประมาณไหน พวกชาร์คและคนอื่นๆ ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา บูลอยากจะแก้ตัวสักหน่อย ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือแล้วพูดขึ้น “ดูท่าแล้ว ฉันคงต้องหาครูคนใหม่แล้ว”
เบิร์ดตอบกลับ “ผมดีไหมครับ ผมเคยได้รับการฝึกฝนสกีแบบพิเศษมา ตอนนั้นที่เข้าฝึกอบรมที่สวิตเซอร์แลนด์การเล่นสกีเป็นจุดแข็งที่สุดของผมแล้ว”
ฉินสือโอวตบไหล่เบิร์ดอย่างพึงพอใจ “ดีมาก ทหาร ฉันก็ชอบคนแบบนายนี่แหละที่ทำได้หลายอย่าง”
ด้านหลังมีแซนเดอร์สตามมาพร้อมทิญาด้วยอีกคน ฉินสือโอวช่วยทั้งสองคนเลือกไม้สกี เห็นพวกเขาใส่เสื้อแจ็กเกตธรรมดามา จึงถามขึ้น “พวกคุณอยากจะเลือกชุดสกีกับรองเท้ากันลื่นสักชุดไหมครับ?”
เรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปที่มักพบเจอบ่อยที่สุดตอนเล่นสกีก็คือหกล้ม ถ้าไม่มีชุดสกีโดยเฉพาะ หลังจากที่หกล้ม หิมะจะเข้าไปในเสื้อผ้าด้านในผ่านข้อเท้า ข้อมือ ปกคอ ที่เหล่านี้ซึ่งทำให้คนรู้สึกไม่สบายตัวและเจ็บป่วยจากความหนาวเย็นได้
ทิญายิ้มแล้วยักไหล่ “ขอบคุณมากค่ะคุณฉิน แต่พวกเราไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหรอก พวกเราเตรียมของอย่างอื่นมา”
ขณะที่พูดไปเธอก็เปิดกระเป๋าไปด้วย ข้างในมีทั้งสนับเข่า แถบยางยืดและผ้าพันคอ เป็นต้น
สนับเข่าแบบยาวทอด้วยผ้าฝ้ายอะคริลิกและมีความยืดหยุ่นสูง ยาวประมาณ 40 เซนติเมตร สวมใส่จนมาถึงน่องเรียวยาว คลุมถึงข้อทับรองเท้ากันลื่น เพียงแค่นี้ก็สามารถป้องกันหิมะเข้าไปข้างในได้
แถบยางยืดเอาไว้ใช้สำหรับรัดแขนเสื้อ ส่วนผ้าพันคอพันเสร็จก็ยัดเข้าไปในปกคอเสื้อ ทิญาขยับตัวเล็กน้อยให้รู้สึกกระชับแล้วก็ยิ้มมาที่ฉินสือโอว “เห็นไหม แบบนี้ก็ได้แล้ว ถูกไหมคะ?”
พอเห็นแบบนี้ฉินสือโอวก็ลูบจมูกตัวเองแล้วไม่พูดอะไรอีก เพราะดูแล้วพวกเขาน่าจะเข้าใจอะไรมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก เขาควรเป็นห่วงตัวเองก่อน
เบิร์ดช่วยเขาเลือกแว่นตากันหมอก แล้วส่งครีมบำรุงให้เขาหนึ่งกล่อง เพื่อให้เขาทาที่หน้าและลำคอ “ใช้ทาป้องกันการได้รับบาดเจ็บจากความหนาวเย็นโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะเดี๋ยวตอนที่ร่อนสกีความเร็วจะไวมากจนผิวของคุณขาดน้ำ พอทาครีมแบบนี้จะช่วยป้องกันได้ครับ”
เมื่อฉินสือโอวเตรียมตัวเสร็จ เบิร์ดก็สอนเขาว่าจะล็อกอยู่บนไม้สกีอย่างไร บนไม้สกีจะมีไบดิ้ง ขอแค่รองเท้าล็อกเข้ากับตัวไม้สกีแน่นก็เรียบร้อย
พอเตรียมทุกอย่างเสร็จ เบิร์ดก็ถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างครับ?”
ฉินสือโอวพูดอย่างมั่นใจว่า “ดีมาก ไม่มีปัญหาอะไร”
เบิร์ดพยักหน้าแล้วยิ้ม “ดีครับ ไม่เป็นไรลองก้าวดูสักสองก้าว ลองก้าวดูครับ”
ฉินสือโอวมองไปที่ไอ้หนุ่มนี่ รู้สึกคุ้นกับคำพูดประโยคนี้เหลือเกิน ตอนที่จ้าวเปิ่นซานรังแกฟ่านเหว่ย ก็พูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset