แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 9 ช่วยพี่แต่งตัว

เซี่ยเจิ้งหัวบอกให้ห้องครัวจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำสำรับใหญ่แสนอร่อยเพื่อต้อนรับเซี่ยฉิงกง และเขาได้กล่าวยืนยันตัวตนของเซี่ยฉิงกงบนโต๊ะอาหารค่ำ

 

“จากนี้ไป เซี่ยฉิงกง..คนนี้จะเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยเรา”

 

เซี่ยฉิงกงฉีกยิ้มสดใส เธอสังเกตการแสดงออกของผู้คนบนโต๊ะอาหารที่แตกต่างหลากหลายกันไป ทั้งพยายามจดจำพวกเขาไว้ในใจของเธอทีละคน ๆ

 

หลังจากปล่อยเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จู่ ๆ บ้านสกุลเซี่ยก็ส่งคนออกตามหาเธอ ขณะที่เซี่ยชิงฉวนเองก็ส่งคนมาเย้ยหยันดูถูกเธอ ว่าอย่าได้ฝันหวานไปนักเลย ส่วนเจินเมี่ยวหยูก็ส่งคนไปลอบฆ่าเธอ

 

วันนี้ฉันเพิ่งมาเหยียบบ้านสกุลเซี่ย หากแต่ก่อนที่ฉันจะเข้ามาในบ้านหลังนี้ ฉันกลับถูกคนพวกนี้รังแกจนแทบไม่มีที่ยืนเสียด้วยซ้ำ

 

ฉันจะให้คนพวกนี้ได้รับโทษอย่างสาสม นอกจากนี้สาเหตุการตายของแม่ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่เช่นกัน

 

ฉันกลับมา..ในฐานะลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ย ก็เพื่อที่จะผลักคนที่สมควรได้รับโทษไปลงนรก

 

เซี่ยฉิงกงเพิ่งมาถึงบ้านสกุลเซี่ย เธอยังไม่คุ้นชินกับชีวิตแบบเจ้าหญิงมาก่อน ด้วยเหตุนี้เมื่อตื่นนอนตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น เธอจึงรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

 

“เมื่อคืนคุณหนูนอนไม่หลับหรือคะ ?”

 

สาวใช้ที่กำลังเลือกเสื้อผ้าให้เธออยู่ด้านข้างเอ่ยถามอย่างมีน้ำใจ

 

“ก็ไม่เชิง”

 

“วันนี้เราจะทำความสะอาดห้อง เพื่อที่คุณหนูใหญ่จะได้นอนหลับสบาย”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้า จากนั้นเธอก็เห็นสาวใช้กำลังเลือกเลื้อผ้าในตู้ขนาดใหญ่ เธอจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

 

“ทำไมเธอถึงต้องเข้ามาเลือกเสื้อผ้าให้ฉันล่ะ ?”

 

“วันนี้..ตระกูลมู่จะมาเยือนที่นี่ นายท่านบอกให้พวกเรามาช่วยแต่งตัวให้คุณหนูใหญ่ค่ะ”

 

ตระกูลมู่ ?

 

เซี่ยฉิงกงคลึงหว่างคิ้วของเธอ ช่างเถอะ ตอนนี้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอแลดูยุ่งเหยิงไปหมด จะตระกูลมู่ หรือตระกูลซู่อะไรนั่นก็ช่างมัน

 

“พี่ฉิงกง ฉันเข้าไปได้ไหม ?”

 

ในขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังลองเสื้อผ้าอยู่นั้น จู่ ๆ เซี่ยชิงฉวนก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มเยาะ

 

“เธอก็เข้ามาแล้วนี่ ทำไมยังต้องถามอีก ?”

 

เซี่ยฉิงกงไม่ได้ไว้หน้าเซี่ยชิงฉวนเลย นั่นส่งผลให้ใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนแข็งค้าง หากแต่เธอก็ยังฉีกยิ้ม พร้อมกับก้าวเข้าไปหาพี่สาว

 

“ให้ฉันช่วยพี่นะ”

 

เซี่ยชิงฉวนเอื้อมมือไปหยิบผ้าคาดเอวจากมือของสาวใช้ แล้วค่อย ๆ ผูกเป็นโบว์ด้านหลังให้เซี่ยฉิงกง

 

“เธอช่างใจดีจริง ๆ ทั้งที่ฉันมาแย่งพ่อของเธอ แล้วยังฆ่าสุนัขของเธออีก”

 

เซี่ยชิงฉวนผู้ซึ่งกำลังผูกผ้าคาดเอวชะงักงัน หากแต่เพียงไม่ช้าก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ

 

“ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว อย่างไรเสียพวกเราก็เป็นคนตระกูลเซี่ย เราไม่ควรเกลียดชังกัน” เซี่ยชิงฉวนปรบมือ “เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว”

 

ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะใจดีขนาดนี้ !

 

เซี่ยฉิงกงหมุนตัวไปมาสองสามครั้ง เพื่อดูชุดที่เธอสวมอยู่ ครั้นเห็นว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เธอจึงเดินลงไปชั้นล่างพร้อมเซี่ยชิงฉวน

 

ครั้นสองสาวเดินไปถึงบันได เซี่ยชิงฉวนก็เร่งเดินนำหน้าไปสองสามก้าว พร้อมกับเรียกพ่อของเธอ

 

ส่วนเซี่ยฉิงกงก็มัวแต่ก้มลงยกกระโปรงตนเองขึ้น ครั้นเธอเงยหน้าขึ้นมอง

 

เธอก็เห็นผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่เธอพบเมื่อคืนก่อน …

 

เป็นเขาอีกแล้ว !

 

เซี่ยฉิงกงยกมุมกระโปรงขึ้น ขณะก้าวลงไปชั้นล่างพร้อมด้วยท่าทางโกรธเคือง ส่วนเซี่ยเจิ้งหัวก็พามู่เฉินฮ่าวเดินสวนขึ้นมาชั้นบน

 

“คุณหนู เราเจอกันอีกแล้วนะ”

 

มู่เฉินฮ่าวยิ้ม พร้อมกับกล่าวทักทาย มุมปากของเซี่ยฉิงกงกระตุก เธอทำเสียงฮึดฮัดออกจากจมูก เพื่อแสดงให้เขารับรู้ว่าเธอไม่สบอารมณ์

 

“ฉิงกงอย่าหยาบคายกับคุณชายมู่อย่างนั้นสิ”

 

มุมปากของเซี่ยฉิงกงกระตุกอีกครั้ง เธอเปลี่ยนเป็นเหยียดปากฉีกยิ้มให้

 

“สวัสดียามเช้าค่ะ คุณชายมู่”

 

“ผมชอบที่คุณเรียกแบบเมื่อคืนนี้มากกว่า”

 

ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของเซี่ยฉิงกงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เธอจ้องมองเขาอย่างดุดัน

 

ในขณะที่ทุกคนเดินขึ้นไปบนชั้นสองนั้น เซี่ยชิงฉวนก็ลอบมองมู่เฉินฮ่าวด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ม่านตาของเธอแทบจะเป็นรูปหัวใจสีแดง เธอกอดแขนพ่อของเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าเธอกำลังจะจมฟองหัวใจสีแดงตาย เธอจึงรีบก้าวไปข้างหน้ากระแทกเข้ากับมู่เฉินฮ่าว พลางดันตัวเขาไปข้างหลัง

 

“คุณชายมู่อุตส่าห์มาเป็นแขกของเรา เอ่อ … ”

 

 

***จบตอน ช่วยพี่แต่งตัว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset